รัสเซียประกาศอีกครั้งในการถอนกำลังทหารบางส่วนออกจากคาบสมุทรไครเมียในวันพฤหัสบดี (17/2/2022) การถอนตัวครั้งนี้ถือเป็นครั้งล่าสุดของวิกฤตความสัมพันธ์ยูเครน-รัสเซีย

“หน่วยต่างๆ ของเขตทหารทางตอนใต้ที่เสร็จสิ้นการฝึกปฏิบัติทางยุทธวิธีที่สนามฝึกบนคาบสมุทรไครเมียจะกลับมาที่ฐานทัพถาวรโดยรถไฟ” กระทรวงกลาโหมรัสเซียระบุในถ้อยแถลงอย่างเป็นทางการ

โดยระบุว่า ยุทโธปกรณ์และบุคลากรทางทหารได้ข้ามสะพานใหม่ซึ่งเชื่อมกับแผ่นดินใหญ่ของรัสเซีย ยังยากที่จะประเมินจำนวนทหารเหล่านี้

ก่อนหน้านี้ รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมของรัสเซียประกาศเมื่อวันอังคาร (15/2/2022) ทหารจำนวนหนึ่งในเขตทหารของรัสเซีย ที่ อยู่ติดกับยูเครน ได้กลับไปยังฐานทัพหลังจากเสร็จสิ้นการฝึกซ้อม หลายคนมองว่าการกระทำนี้เป็นการลดความขัดแย้งที่รุนแรงระหว่างมอสโกวกับตะวันตก

อย่างไรก็ตาม โฆษกกระทรวงกลาโหมรัสเซียกล่าวว่า การซ้อมรบขนาดใหญ่ทั่วประเทศยังคงดำเนินต่อไป แม้ว่า หลายหน่วยของเขตทหารทางใต้และตะวันตกได้เสร็จสิ้นการฝึกและเริ่มเดินทางกลับฐานทัพแล้ว

เป็นที่ทราบกันดีว่ามอสโกปฏิเสธเสมอว่าไม่เคยวางแผนที่จะโจมตีเคียฟ แทนที่จะโจมตี รัสเซียได้ขอให้ยูเครนไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าร่วมกลุ่มทหารของ NATO จนถึงตอนนี้ Parallel, Washington และ Brussels ปฏิเสธที่จะให้คำมั่นสัญญาดังกล่าว

ในขณะเดียวกัน มีรายงานว่า รองประธานาธิบดี กมลา แฮร์ริส ของสหรัฐฯ เดินทางไปมิวนิกในวันพฤหัสบดี (17/2) ซึ่งอ้างว่าเป็นความพยายามที่จะปรึกษาวิกฤตรัสเซีย-ยูเครน ระหว่างการเดินทาง แฮร์ริสอ้างว่าเป็นผู้นำคณะผู้แทนสหรัฐในการประชุมความมั่นคงมิวนิก และพบกับประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกีแห่งยูเครน, เยนส์ สโตลเทนเบิร์ก เลขาธิการ NATO และผู้นำของลัตเวีย ลิทัวเนีย และเอสโตเนีย

“รองประธานาธิบดีจะเน้นย้ำว่าความสามัคคีนั้นเป็นแหล่งของความแข็งแกร่งที่จะช่วยให้เราตอบสนองต่อการรุกรานของรัสเซียได้อย่างรวดเร็วและจริงจัง” เจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐฯ กล่าว