Handsome Devil
เป็นหนังเล็กๆ ที่สะท้อนความเจ็บปวดของคนกลุ่มน้อยในสังคมได้อย่างมีความหวังและสร้างแรงบันดาลใจซะเหลือเกิน ชอบ เสน่ห์อย่างหนึ่งของหนังไอริชคือความเล็กน้อยหยุมหยิมน่ารัก แต่ถ้ามองให้ลึก read between the lines ก็จะเจอสารที่ยิ่งใหญ่และสำคัญต่อความเป็นมนุษย์นี่แหละ
อย่างเรื่องนี้พูดถึง "ตัวตน"
หนังเล่าเรื่องราวของ เน็ด เด็กหนุ่มที่ไม่อยากไปโรงเรียนเพราะทุกวันเขาต้องทนกับการถูกเหยียด เพราะเป็นเกย์ และโรงเรียนนี้ก็คลั่งรักบี้กันสุดๆ ในขณะที่เขาไม่ชอบรักบี้เอาซะเลย (ก็ไม่ใช่ผู้ชายทุกคนจะอินกับกีฬาปะวะ) จนกระทั่ง คอเนอร์ เด็กใหม่เข้ามาเป็นรูมเมทกับเขา และทายสิ ตานี่เป็นนักรักบี้ไง
ฟังเผินๆ จะคิดว่าเดี๋ยวมันได้กันล่ะสิ ม่ายยย
นี่ไม่ใช่หนังโรแมนซ์ ไม่ใช่หนังทุกเรื่องที่มีเกย์เป็นตัวละครหลักจะเป็นหนังเกย์ หรือเป็นหนังรัก Star Trek ซูลูเป็นเกย์, Alien: Covenant มีคู่แต่งงานเกย์ และสองเรื่องนี้เป็นหนังไซไฟ!
เอาละ กลับมาที่ Handsome Devil
หนังพูดถึงการยอมรับตัวตน พูดถึงสิ่งที่คนซึ่งแตกต่างจากคนส่วนใหญ่ต้องเผชิญอยู่ทุกวัน เราชอบที่หนังเล่าเรื่องเด็กๆ ในโรงเรียนอย่างง่ายๆ แต่กลับสะท้อนอะไรบางอย่างที่ใหญ่กว่านั้นมากมากระแทกหน้า "สังคม"
เพราะ "สังคม" เป็นที่ที่พวกมากลากไป
"สังคม" สร้างกำแพงกั้นคนที่แตกต่าง
"สังคม" ปิดตายทางเลือกสำหรับคนนอกคอกเสมอ
การที่เน็ดเป็นเกย์และถูกเพื่อนล้อเลียนอยู่ตลอดเวลาที่ทำได้ มันเป็นสัญลักษณ์ว่าสังคมกลัวความแตกต่าง และการที่โรงเรียนนี้บังคับเด็กเข้าห้องเชียร์(อุ๊ย ฟังคุ้นๆ อะแกร) ทุกคนต้องอินกับทีมรักบี้โรงเรียน มันยิ่งสะท้อนให้เห็นว่าคนเราถูกสังคมยัดเยียดให้ทำอะไรที่เราไม่ต้องการและไม่ใช่เราเสมอ ก็อย่างที่บอก ไม่ใช่เด็กผู้ชายทุกคนจะชอบรักบี้ ไม่ใช่เด็กผู้หญิงทุกคนจะชอบเล่นตุ๊กตา
แต่ "สังคม" ก็ยัดเยียดค่านิยม ตีกรอบ สร้างบรรทัดฐานขึ้นมาจำกัดเราอยู่เป็นประจำ
เอาง่ายๆ เป็นผู้ชายไม่เก่งกีฬาก็ได้ปะวะ เป็นผู้หญิงไม่แต่งหน้าก็ได้ปะวะ ก็ตรรกะเดียวกัน บางทีงงสังคมมากทำไมตำรวจเป็นเกย์ต้องถูกสอบ ถูกสื่อขุดคุ้ยพาดหัวข่าวว่าแต่งผัวล่ำบึ้ก ทำไมต้องถูกคาดหวังให้เป็นในสิ่งที่สังคมเห็นว่าถูกว่าควร(ซึ่งหลายอย่างเป็นแนวคิดโบราณมาก)ตลอด เห้ย นี่ปี 2017 ?
โลกกด "ตัวตน" เราไว้ เหมือนมดใต้ฝ่าเท้า
แล้วถ้าเราทำตัวให้แตกต่างล่ะ?
เราก็โดนมองเหยียดแบบเน็ดไง
ความเป็นเกย์ของตัวละครในเรื่องนี้ จึงไม่ใช่แค่นัยแฝงถึงมิติทางเพศ แต่รวมถึง "ตัวตน" ของเราทุกคน การเป็นตัวเองมันไม่ใช่เรื่องผิด และไม่ใช่เรื่องที่สังคมต้องมาประณามหยามเหยียด (แน่นอนถ้าไม่ละเมิดกฎหมายหรือขัดศีลธรรมอันดี--) ในความเป็นมนุษย์ที่เธอฉันมีเท่าๆ กัน มันไม่มีใครสมควรถูกปฏิบัติแบบนั้น
แต่การจะทำให้สังคมยอมรับ
เราต้องยอมรับตัวเองให้ได้ก่อนด้วย
เราจะหนีก็ได้ หลบซ่อนก็ได้
แต่เราจะไม่มีวันรู้เลยว่าการได้เป็นตัวเองต่อหน้าคนอื่นมันรู้สึกดียังไง เป็นชีวิตที่ดีแค่ไหน
รายละเอียดเล็กๆ จุดหนึ่งที่น่าสนใจคือ ตัวละครหนึ่งที่ไม่ชอบเกย์ในเรื่อง ไม่พูดคำว่าเรื่องที่ตัวเอกเป็นเกย์ออกมาตรงๆ แต่เลี่ยงด้วยการใช้คำว่า "เรื่องนั้น" ซ้ำๆ มันสะท้อนนะ ว่าเขาพยายามลบตัวตนของคนที่เขาคิดว่าผิดแผกไปจากขนบสังคม ทำให้มันเหมือนเป็นสิ่งไม่ดีที่ถ้าพูดออกมาตรงๆ แล้วจะแขยงปาก
และนั่นยิ่งเป็นเหตุผลให้เราต้องพูด
แต่อย่าลืมว่าเราไม่จำเป็นต้องขอโทษในสิ่งที่เราเป็น เราไม่ได้ติดค้างคำอธิบายกับใคร ถ้าสังคมยังใจแคบไม่ยอมรับ มันปัญหาของเขาแล้ว ไม่ใช่ของคุณ
เป็นสิ่งที่คุณเป็น
รักคนที่คุณอยากรัก
เผยตัวตนของคุณออกมา
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in