ในคืนที่หิมะตกหนักเมืองแห่งนี้ก็ดูจะเงียบเหงาเข้าไปอีก แน่นอนว่าถ้าอยู่ในเมืองคงยังครึกครื้นกันอยู่แต่เขาดันอยู่ไกลออกมาจากมหาวิทยาลัยมากโขด้วยเหตุผลที่ว่าแถบชานเมืองค่าห้องมันถูกกว่า จากที่ปกติตอนดึก ๆ แถวนี้แทบไม่มีใครอยู่แล้วบรรยากาศก็ยิ่งเปลี่ยวขึ้นไปอีก
เขารีบสาวเท้าผ่านกองหิมะที่สูงขึ้นมาจนถึงหน้าแข้งเร็ว ๆ
“บ้าจริงปกติเซคนี้ก็เลิกดึกอยู่แล้วอาจารย์ยังจะปล่อยเลทอีก หิวจะตายแล้ว”
เสียงเล็กกัดฟันบ่นกับตัวเอง สองแขนยกขึ้นมากอดตัวเองเอาไว้ตัวสั่นงันงก หนาวจนไม่สามารถควบคุมขากรรไกรไม่ให้สั่นได้ ได้แต่ปล่อยให้ฟันกระทบกันเสียงดังกึก ๆ
“นี่ถ้าเจออะไรแปลกๆ จะทำไงวะ บ้าเอ๊ย”
พูดยังไม่ทันขาดคำหางตาก็เหลือบไปเห็นเงาใหญ่ทะมึนอยู่ในหลืบซอยเล็ก ๆ ที่กำลังเดินผ่าน ชั่วอึดใจก่อนที่สมองจะได้สั่งการอะไรเขาก็หันขวับจ้องเข้าไปในซอยนั่นทันที ดวงตาที่สบกลับมาสีแดงฉานวาววับยามต้องกับไฟจากริมถนน เส้นผมหยักศกสีดำขลับชุ่มไปด้วยเลือดสีเดียวกับดวงตาคู่นั้น และถ้ามองไม่ผิดข้างหลังนั่นมัน ปีก...รึเปล่า
บ้าแล้วววว ผีเวอร์ชั่นอัพเกรดหรอวะ!
ไวเท่าความคิด สองขาเล็กใส่เกียร์หมาวิ่งหน้าตั้งออกมาจากตรงนั้นทันที วิ่งออกมาไกลจนมาเจอเข้ากับร้านขนมปังที่ยังมีคนอยู่บ้างนิดหน่อย ก็ยังดีพอให้หยุดพักหายใจ
ถือคติคนเยอะผีไม่ออกมาหรือถ้ายังไงก็ยังมีเพื่อนร่วมชะตากรรมโดนผีหลอกล่ะวะ
เขาทิ้งตัวลงนั่งพักหอบหายใจที่ม้านั่งหน้าร้าน
เย็นก้นชะมัด
ในหัวยังคงนึกถึงภาพผู้ชายในซอยคนนั้นไม่หยุด ใบหน้าชุ่มไปด้วยเลือดเสื้อผ้าสีดำขาดวิ่นไปหมด กำลังยืนหอบหายใจพิงกำแพง สภาพนั้นผีแหง ๆ
แต่เดี๋ยวก่อน ถ้าเกิดไม่ใช่ผีแต่เป็นคนโดนทำร้ายล่ะ? เขาดันวิ่งหนีมาก่อนโดยลืมคิดซะงั้น
แล้วคนบ้าที่ไหนจะใส่เชิ้ตตัวเดียวออกจากบ้านในวันที่หนาวขนาดนี้? ผีแหง ๆ ตายตอนฤดูร้อนล่ะมั้ง
แต่ถ้าเกิดเค้าโดนทำร้ายแล้วปล้นชิงทรัพย์งี้ล่ะ ก็เลยไม่มีเสื้อโค้ท…
แล้วไอ้ที่อยู่ข้างหลังที่มันคล้าย ๆ ปีกใหญ่ ๆ นั่นคืออะไร?
หรือจะเป็นเงาอะไรซักอย่างจากข้างหลัง ผีมันจะไปมีปีกได้ไง
เออ คนก็ไม่มีปีก...
บ้าเอ๊ยยยยย เกลียดตัวเองที่เกิดมาเห็นผีชะมัดเลยแยกไม่ออกว่าไอ้นั่นมันคนหรือผีกันแน่ เอาไงดี กลับไปดูดีมั้ย แล้วถ้าเกิดเป็นผีขึ้นมาทำไง ก็ต้องวิ่งอีกรอบ แล้วถ้าเป็นคนบาดเจ็บจริง ๆ ถ้าไม่มีใครผ่านไปเจอก็เท่ากับว่าเขาเป็นปล่อยให้หมอนั่นตายไม่ใช่หรอ
เอาไงดีล่ะ ดันไปสบตาด้วยซะแล้วถ้าเกิดตายขึ้นมาไอ้ผีนั่นมีหวังได้มาตามจองล้างจองผลาญเขาแน่ ซวยชะมัด
ใช่! ซวย ถ้าหมอนั่นเป็นคนจริง ๆ ก็ถือว่ามันซวยเองที่โดนทำร้ายโดนชิงทรัพย์หรืออะไรก็แล้วแต่ เขาไม่เกี่ยวซักหน่อย แค่บังเอิญผ่านไปเจอเฉย ๆ
เอาน่า ก็น่าจะมีคนผ่านไปช่วยบ้างแหละ...มั้ง กลับบ้านไปกินข้าวดีกว่าอย่าหาเรื่องใส่ตัวเลย
ตัดสินใจได้แล้วก็ลุกขึ้นปัดเศษหิมะที่ติดตามขากางเกงออกพอเป็นพิธี เดี๋ยวเดินไปก็เปื้อนอีก ปัดทำไม
.
.
.
.
เขาล่ะเกลียดนิสัยอยากรู้อยากเห็นของตัวเองจริง ๆ แทนที่จะรีบกลับห้องไปกินข้าวแล้วซุกตัวกับเตียงอุ่นๆ แต่ขาเจ้ากรรมมันดันพาเขากลับมาที่เดิมอีกครั้ง ไอ้ซอยผีนั่น
เดินเลียบ ๆ เคียง ๆ ไปตามกำแพง ค่อย ๆ ย่องเข้าไปที่มุมกำแพง แต่ดูเหมือนไอ้หิมะนี่จะไม่เป็นใจให้เขาย่องเท่าไหร่ ก็ดันส่งเสียงสวบสาบตามทุกก้าวที่เขาย่ำลงขนาดนี้ แต่ถ้าใจเราเชื่อว่าเงียบมันก็น่าจะเงียบแหละ...
ยืนทำใจกล้า ๆ กลัว ๆ อยู่ซักพักก่อนจะค่อย ๆยื่นหน้าส่องพ้นมุมกำแพง
แต่เดี๋ยว!
เขารีบชักตัวกลับ ถ้าจำไม่ผิดไอ้ผีนั่นมันยืนอยู่ใกล้กำแพงน่าดูเลยนี่หว่า ถ้าเกิดมันยังอยู่ตรงนั้นจริงๆ แล้วเขาเสนอหน้าออกไปไม่ต้องจ๊ะเอ๋กันระยะประชิดเลยรึไง
ควรจะข้ามถนนไปอีกฝั่งแล้วมองจากฝั่งนั้นดีมั้ยนะ เผื่อโดนพุ่งมาใส่ก็ยังพอมีระยะให้เขาตั้งตัวได้ทัน เห็นขาสั้น ๆ นี่วิ่งเร็วนะบอกไว้ก่อน นอกจากว่าผีมันจะวาร์ปไปดักหน้าได้
เขาผละตัวออกจากกำแพงมายืนอยู่ริมถนนไกลออกมาหน่อยแต่ไม่ไปอีกฝั่งถนนหรอก ถ้ามันจะหลอกไกลแค่ไหนมันคงตามไปจนได้นั่นแหละ เพราะฉะนั้นก็ยืนอยู่ตรงนี้ เอียงตัวไปข้าง ๆ เขย่งยื้อสุดตัวมองเข้าไปในซอยมืด ๆ
ไม่มี...
ในซอยว่างเปล่าไม่มีใครเลย คิดได้สองทางคือมีคนช่วยไปแล้วหรือไม่ก็เป็นผีจริง ๆ จะอย่างไหนก็ช่าง ได้แต่ถอนหายใจอย่างโล่งอก ยกมือขึ้นลูบอกตัวเองป้อย ๆ สบายใจแล้ว คราวนี้คงได้กลับห้องจริง ๆ ซักที แต่พอหมุนตัวกลับมาจะเดินต่อดันต้องตกใจแทบสิ้นสติ
ก็ไอ้หน้าผีนั่นดันมายืนจ้องเขาซะชิดขนาดนี้น่ะสิ! เลือดแทบจะหยดลงบนหน้าเขาอยู่แล้ว! ได้แต่อ้าปากพะงาบ ๆ พูดอะไรไม่ออกไม่ได้เตรียมใจมาพบสถานการณ์แบบนี้นะเฮ้ย!
แล้วไอ้ตะเกียบสองข้างที่เคยเป็นขาของเขาตอนนี้ดันกลายเป็นขาของใครก็ไม่รู้ ทำไมถึงสั่งให้มันวิ่งไม่ได้เลยล่ะ ได้แต่ยืนนิ่งให้ผีมันจ้องอยู่เนี่ยยย จ้องไม่พอ ไอ้ผียักษ์ที่ยืนค้ำหัวเขาอยู่มันยังค่อย ๆ โน้มตัวลงมาใกล้เรื่อย ๆ อีก
กรี๊ดดดดด มันจะกินหัวเขาอยู่แล้ววว!!!! วิ่งสิวะไอ้ขาเวร!!!!
แต่ยังไม่ทันที่ขาจะได้ก้าวไปไหนก็โดนไอ้ผีตรงหน้ารวบเข้าไปกอดซะเต็มรัก
ตาย! ตาย กูตายแน่ โดนแดกแน่ ๆ
“ชะ...ช่วย.....”
ไอ้ผีบ้ามันกระซิบอะไรซักอย่างด้วยเสียงแหบแห้งน่าขนลุก แต่เชื่อเถอะว่าเขาไม่ได้ยินอะไรอีกต่อแล้ว เพราะสติสัมปัชชัญญะของเขาได้ลอยหายไปตั้งแต่โดนผีกอดแล้ว
...ลาก่อนทุกคน พระเอกของเรื่องได้ตายเพราะโดนผีหลอกไปแล้ว...
TBC.
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in