Q: เคยตกงานไหม?
A: ไม่เคย
Q: เคยทำงานที่อื่นไหม?
A: ก็ไม่เคยเหมือนกัน!
อะไรแบบนี้มันควรจะไปตั้งในพันทิปไม่ใช่เหรอไง?
ไม่อ่ะ ถ้าตัวเราเข้าไปตั้งในพันทิป สิ่งที่จะตามมาคือคอมเมนท์มากมายที่หลั่งไหลมา บ้างคงเข้าข้างเรา บ้างคงบอกว่าเราโง่งั้นงี้ที่ปล่อยให้ตัวเองมีช่องโหว่ เราแค่อยากเล่า ไม่ได้ต้องการความคิดเห็น แล้วก็ไม่คิดจะแหกใครด้วย Minimore เพื่อนรักเรา คงเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดในยามที่เราต้องการถ่ายทอดอะไรแบบนี้
เช้าวันที่ 5 ธ.ค. ได้รับโทรศัพท์ประมาณ สิบโมงเช้า ตอนนั้นยังไม่ตื่นเลย เพราะเมื่อคืนดูหนังดึกมาก ( ดูหนังเรื่อง The Man Who Fell The Earth หนังยุค 70 ที่ David Bowie เป็นพระเอก )
พี่ (หรือต่อไปนี้จะเรียกว่าอี) ที่เป็น Senior มันโทรมา บอกว่า ขอรหัสไอจี _ __ หน่อยสิ จะเข้าไปโพสต์อาร์ตเวิร์คใหม่โดนสั่งแก้
อ่ะ โอเค กูให้ไป ตื๊ดๆๆๆ
ไม่ถึง 5 นาทีโทรกลับมาใหม่ เฮ้ย เข้าไม่ได้ว่ะ ฝากโพสต์หน่อย
อ่ะ โอเคลงให้ ... แต่ด้วยร่างกายยังไม่ตื่นดีอ่ะนะ คร่อกกก ZZzzz
วันต่อมา เป็นวันทำงาน เมื่อวานทั้งวันก็ซึมกระทือเมาฤทธิ์ยา ปรากฎว่าโดนเรียกพบที่ทำงาน
ในห้องเรียกพบมีบุคคล 3 คน ไม่นับรวมตัวเรา มีพี่1 , พี่2 และอีด*กที่โทรมาสั่งให้โพสต์งานเมื่อวาน สำหรับโปรเจ็คนี้ โปรเจ็คที่เรารับตำแหน่งเป็น Digital Content Specialist ดูแลมันโดยตรง
เพราะคอนเทนต์ที่แก้มันดันลั่นลงไป 2 คอนเทนต์ แล้วไม่มีใครลบเลยเป็นเวลาหนึ่งวันเต็มๆ คุณพี่1. เนี่ยเขาแจ้งเราว่า "ลูกค้าขู่จะเลิกจ้างเราเพราะเราละหลวมงาน"
เชี่ย ... ตกใจสัด คือมึงจะเลิกจ้างกูเพราะเรื่องนี้เลยเรอะ
แต่จริงๆไม่ใช่หรอก
ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาทุกคนก็รู้ว่าเจ้านี้มีลูกค้า 2 คน คนนึงน่ารักมาก แต่อีกคนก็ชอบกดดันชอบทำอะไรคนเดียว เหมือนจะชอบบอกว่าเราคิดตังค์แพงด้วยซ้ำ
เขามีในใจอยู่แล้วหรือเปล่า?
เขาเลยเอาเรื่องแบบนี้มาเป็นข้ออ้างในการยกเลิกสัญญา?
ถามว่าต้องจ้างราคาแพงแค่ไหน คนดูแลกี่คน งานมันถึงจะไม่ลั่นเลย?
ใช่ เรายอมรับว่าเราลั่นจริง และค่อนข้างลั่นบ่อยสำหรับเจ้านี้ แต่ก็มีเราดูอยู่คนเดียว ทำอยู่คนเดียว แต่ที่ผ่านมาถามว่าเราลั่นไหม ก็ลั่นแหละ แต่มีคนช่วยดูหลายคน แล้วลูกค้าก็ไม่ค่อยจะอะไร ค่อนข้างเข้าใจว่าเรื่องแบบนี้มันผิดพลาดกันได้ แถมเป็นระบบแบบเก่าหมดเลย ระบบใหม่ๆ ถึงจะผ่านมาหลายเดือนแล้ว แต่เราคนเดียวก็สู้ไม่ไหวหรอกบางครั้ง
โอเค ณ จุดนี้เรายอมรับผิด ที่ไม่ยอมเข้าไปเช็ค
แต่เราผิดคนเดียวเหรอ นี่คือคำถาม?
ตอนแรกที่สั่งแก้งานกัน สั่งโพสต์แก้กัน ไม่มีเราอยู่ในลูปด้วยซ้ำ แต่ไหงเป็นเราที่อยู่ในขั้นจบต้องรับผิดชอบคนเดียวล่ะ
TEAMWORK เหี้ยไร มึงไม่ได้อยู่ในทีมกูแต่แรก
ทำงานกันอยู่ 3 คน มีเรา มีกราฟฟิก มีโปรเจ็คโค แต่คนที่ใส่ไฟกูยับ ดันเป็นคนที่ไม่เคยลงมาจริงด้วยซ้ำ มึงได้รับหน้าที่โพสต์แทนกูวันเดียว มึงตัดสินกูทั้งหมดเลยเหรอ (อีด*ก นั่นแหละ)
เฮ้ย ... แล้วทำไมมึงไม่พูดในห้องประชุมที่มึงโดนยำล่ะวะ?
กูพยายามแล้วโว๊ย แต่เขาก็สวนด้วยเรื่องไม่เป็นเรื่อง เรื่องอื่นมา คือเอาง่ายๆ มึงไม่มีวันถูกอ่ะ เพราะมึงเด็กกว่าเขา มึงไม่มีวันถูกอ่ะ แล้วกูจะไปสู้ให้มันได้อะไร?
เข้าใจมะ เถียงแล้ว สู้แล้ว แต่มันฟังไม่ขึ้น เพราะอายุ เพราะเหี้ยห่าอะไรก็ตาม แต่คนในนั้นไม่ฟังเรา
สรุปก็เจอคำว่า "พรุ่งนี้ไม่ต้องมาทำงานแล้วนะ"
จริงๆก็มีมากกว่านี้แหละดีเทลในห้องนั้น แต่ให้เขียนละเอียดหมดเลยก็ดูแบบมีแต่น้ำอ่ะไม่ใช่เนื้อ มีแต่เรื่องคำด่า คำปรามาทซ้ำๆซากๆ ว่าเราควรจะรอบคอบกว่านี้ ทุกคนคงเดาได้ใช่มะ?
ยอมรับได้ เรื่องที่เราผิดจริงอ่ะ เราก็ต้องโดนเขี่ยออกไปตามสภาพ แต่มานั่งคิดเล่นๆ ว่าแม่งง่ายเนอะ
รายได้ และงานทั้งหมดที่เราทำมาสำหรับที่นี่ เอามากองรวมๆกัน ยังสูงกว่างานนี้งานเดียว แต่มันวัดค่าอะไรไม่ได้หรอก เพราะในปัจจุบันเขาจะแคร์ลูกค้าคนนี้ เขาจะเอาคนนี้ คนแบบเราก็ต้องโดนตัดไป
ทำไงได้ โลกใบนี้ก็แบบนี้แหละ เราพลาดไม่ได้หรอก เราก้าวผิดแค่ก้าวเดียว ก็พร้อมจะมีคนวิ่งมาชนคุณล้มตั้งมากมาย เราคิดแบบนี้ ทำใจได้ เก็บข้าวเก็บของบอกลาเพื่อน กลับมาเลี้ยงแมวอยู่บ้าน
แต่เรื่องบางเรื่องก็ไม่ควรยอมนะ
วันนี้วันที่ 14 ธ.ค. โดนตัดขาดจากที่นั่นมา 8 วัน ก็อาทิตย์นึงแล้วเนาะ
เพื่อน1 : "เขาบ่นว่างานมึงยากมากนาว งานมึงหนักมาก หลังจากมึงออกไป"
( ตอนกูบ่นว่างานกูยาก มึงบอกกูต่อหน้าเพื่อนกูในโต๊ะอาหารว่างานกูดูง่ายดูสนุกมึงอยากทำ?)
เพื่อน2 : "เขาจะโยนงานเธอมาให้ฉันแล้วอ่ะ เขาบอกเขาทำคนเดียวไม่ไหว" (หมายถึงอีด*ก)
เพื่อน3 : "แม่งน่ารำคาญมาก ทวงงานกูยิกๆๆ แถมยังตะโกนแหกปากร้องเพลงลั่นในบริษัทยังไม่รู้ตัวอีกว่าคนอื่นเขารำคาญ" (อันนี้ก็หมายถึงอีด*ก)
เพื่อน4: "เขา (หมายถึง อีด*ก) บอกว่าเรื่องที่เธอต้องออกเพราะเธอไม่ยอมก๊อปคำพูดตามที่เขาได้ให้แพทเทิร์นไว้ไปงานเลยผิด"
เอ๊ะ.. ใช่เหรอ ใช่เหรอ หนังคนละม้วนเลยนะเนี่ย!!!
เรา พิมพ์หาเพื่อนที่ทำงานเป็นกราฟฟิก(คู่บุญ) : "เฮ้ยมึงจำงานวันนั้นได้ป่ะ ที่มึงต้องแก้อ่ะ ก่อนกูออกอ่ะ สรุปกูผิดเหรอวะ? กูไม่ได้พิมพ์บรีฟมึงผิดนี่ กูให้มึงดูจากอาร์ตเวิร์คเก่าที่มันถูก"
กราฟฟิก(คู่บุญ) : "บ้า กูพิมพ์ผิดเอง กูเบลอเอง แล้วลูกค้าก็อยากเพิ่มชื่อบริษัทตัวเองด้วยนี่ กูว่ากูอาจจะพิมพ์ตก แต่ดูกันแล้วตั้งหลายตาก็ไม่มีใครเห็น ถ้าผิดพลาดก็ผิดพลาดกันหมดเพราะตรวจไม่ดี"
แต่กูโดนไล่ออกมาแล้วไงครับ!5555
รวมๆเราก็คิดว่าเราผิดจริงแหละ ก็อาจจะทำตัวหละหลวมจริงๆ เพราะจริงๆเราลาออกก่อนที่เขาจะไล่เราออกไม่กี่วันนี่เอง ได้งานที่ใหม่แล้ว (แอบไปสัมภาษณ์) เราก็เลยทำตัวป้ำๆเป๋อๆ ก็สมควรที่เขาจะบอกให้ออก ความตั้งใจในการทำงานเรามันก็ลดน้อยลงไปเป็นธรรมดา เพราะใจแม่งเหมือนไม่อยากทำงานเดิมเท่าไหร่แล้ว เราเข้าใจเขาในระดับนึง ว่าเราเองก็ผิดในส่วนที่เราผิดจริงๆ แต่ที่ไม่เข้าใจอ่ะ ก็ไม่เข้าใจอีคนนี้แหละ ที่เราจะพูดทิ้งท้ายไว้ดังต่อไปนี้.....
Dear My Ex-Office และ อีด*ก :
เลี้ยงงูลิ้นสองแฉกไว้ เรื่องแค่นี้ มันยังโกหกเป็นตุเป็นตะได้ เชื่อเขาต่อไปเถ๊อะ ไม่มีผลอะไรกับคนที่ออกมาแล้วหรอก คนที่รับผลไปก็คงเป็นคุณเองนั่นแหละ
ปล. คนที่คุณไว้ใจโคตรๆ เป็นคนเดียวกับที่พูดกับเราบ่อยๆนะ ว่าอยากฟ้องบริษัทนี้จัง ให้กระทรวงเขามาตรวจเรื่องภาษีหน่อยดีไหม
ปล2. ไม่ได้โม้นะ พยานหลักฐานเยอะแยะ อยู่ที่คุณ กล้าเปิดหูเปิดตาไปถามเขาหรือเปล่า
ปล3. คุณให้คนที่ไม่รู้จักแม้กระทั่งคุมะมง คุมงานเป็นหัวหน้าฝ่ายก้าวหน้าทางด้านกระแสโซเชียล คิดอะไรอยู่คะ ?
ปลสุดท้าย. คุณเคยถามกราฟฟิกสักคำไหม ว่าเขาชอบการทำงานของอีด*กนี่หรือเปล่า?
"มีอะไรก็บอกพวกพี่ได้ ปรึกษาได้นะคะ"
"ค่ะ"
เออ แต่เราได้งานใหม่นานแล้วนะ คือจริงๆเราลาออกก่อนโดนไล่ออกอ่ะ แต่แค่โดนไล่ในวันที่ยังไม่ครบกำหนดให้ออกนั่นแหละ ก็ไม่รู้สินะ
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in