เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
รีวิว Computer-Delivered IELTS/การเตรียมตัวAnotherme
รีวิวการเตรียมสอบ IELTS + เล่าประสบการณ์การสอบแบบ Computer-delivered
  • #รีวิวการเตรียมตัวสอบ IELTS + ประสบการณ์การสอบ IELTS Computer-delivered

    สวัสดีค่ะทุกคน ก่อนอื่นต้องขอออกตัวก่อนว่าทำไมถึงเลือกเขียนรีวิวการสอบ IELTS ทั้งๆที่มีคนเขียนถึงมากพออยู่แล้วเป็นทุนเดิม สาเหตุเพราะในวันสอบได้บนพระที่บ้านไว้ว่าถ้าคะแนนออกมาเป็นที่พึงพอใจจะทำการเขียนรีวิวที่ "คิดว่า" อาจเป็นประโยชน์กับคนอื่นๆ ผลสอบเราได้ overall band 7.5 ค่ะ ที่สำคัญคือต้องขอขอบคุณกระทู้หนึ่งในพันทิปที่เป็นแรงบันดาลใจให้เรามาเขียนรีวิวแบบในวันนี้ 

    เอาล่ะ ได้เวลาแก้บนแล้วค่ะ!

    ตอนนั้นเราเลือกสอบแบบ Computer-delivered กับ IDP เพราะวันสอบของ BRITISH COUNCIL ที่เราต้องการเต็มหมด ไม่ว่าจะเป็น Paper-based หรือ คอม เราเลยต้องเร่ร่อนมาหา IDP ค่ะ ฉะนั้นถ้าใครตั้งใจจะสอบ อย่านิ่งนอนใจ รีบสมัคร รีบเลือกวัน มิฉะนั้นอาจจะนกสิ่งที่ต้องการได้ เราสอบไปเมื่อต้นปีก่อนโควิด ฉะนั้นข้อมูลการสอบในบางส่วนอาจจะไม่อัพเดท แนะนำให้ผู้ที่ต้องการสอบเช็คจากเว็บของ British Council หรือ IDP อีกครั้งเพื่อความชัวร์ค่ะ

    วิธีการเตรียมตัว

    1. Listening

    สิ่งสำคัญอย่างยิ่งคือต้องฝึกทำและฝึกฟังข้อสอบจริงให้มากที่สุดค่ะ แรกๆทำอาจจะฟังไม่ทัน จดไม่ทัน เขียนตอบไม่ถูก ไม่แปลกค่ะ ไม่ต้องเสียกำลังใจ เป็นเรื่องปกติ 

    จุดไหนฟังไม่ออกให้หาอ่าน Transcript แล้วกลับไปลองทำใหม่ สำหรับคนที่จะสอบกับกระดาษ ตอนท้ายอย่าลืมจับเวลาเผื่อ Transfer คำตอบจากโจทย์ลงกระดาษคำตอบด้วยนะคะ ตามระบบการสอบจะให้เวลา 10 นาทีสำหรับ Paper-based และ 5 นาที สำหรับ Computer-delivered ค่ะ 

    TIP: ตอนอยู่ในห้องสอบจริงช่วงพาร์ทท้ายๆมันจะต้องอ่านเยอะค่ะ เพราะว่าข้อสอบจะมาในรูปแบบของ Lecture ให้เราจดตาม ฉะนั้นคำแนะนำของเราคือ ช่วงแรกพยายามมีสติให้มากที่สุด ฟังคำสั่งจากเทป ถ้าเกิดคำสั่งเปิดข้อสอบมาเมื่อไร ให้เราพลิกไปอ่านหน้าท้ายๆก่อนแล้วพยายามทำความเข้าใจว่า Lecture นั้นเกี่ยวกับอะไร ช่องที่เราต้องเติมน่าจะเป็นคำอะไร เพราะช่วงตอนที่เทปอ่านคำสั่งและทำตัวอย่างข้อสอบให้ดูจะเป็นช่วงที่เรามีเวลามากที่สุด ถ้าคุ้นเคยกับบทความแล้วตอนท้ายเราจะไม่ลนลานค่ะ 

    แบบฝึก Listening ที่แนะนำคือ ของ Cambridge IELTS พยายามฝึกเล่มท้ายๆ เพราะจะคล้ายคลึงกับข้อสอบปัจจุบันมากที่สุด อย่างของเราฝึกทำตั้งแต่เล่ม 8 เป็นต้นไปค่ะ นอกจากนั้นสิ่งที่เราทำคือพยายามเอาตัวเองเข้าไปอยู่ในบรรยากาศหรือสถานการณ์ที่ใช้ภาษาอังกฤษบ่อยๆ อาทิ ดูหนัง ดูซีรีส์ ฟังเพลง ดู Vlog ดูข่าว ฯลฯ แต่ที่สำคัญแนะนำให้ฟัง BBC โดยเฉพาะ BBC Global News Podcast ยิ่งฟังบ่อยได้ยิ่งดีเพราะสำเนียงจะคล้ายๆกับ part listening ที่เราจะต้องไปเจอในข้อสอบจริงค่ะ นอกจากนั้นยังได้ความรู้เรื่องข่าวรอบโลกอีกด้วย ถ้าช่วงแรกๆฟังไม่ออก ก็ไม่ต้องเครียดนะคะ ฟังไปเรื่อยๆ เน้นความสม่ำเสมอ ท้อได้เสียกำลังใจได้ แต่ห้ามถอยค่ะ

    นอกจากฟังเป็นภาษาอังกฤษแล้วขอส่งเสริมให้เปิดซับเป็นอังกฤษด้วยค่ะ หากคำไหนแปลไม่ออกให้ขยันเปิดdictionary เอาค่ะ ถือเป็นการเพิ่มคลังคำศัพท์ไปในตัว 

            2. Reading

    สิ่งที่เราทำคือทำแบบฝึกในเล่ม Cambridge IELTS เลยค่ะ เพราะคล้ายของจริงและจะทำให้เรารู้ความยาก-ง่าย พร้อมจับเวลาตอนทำ อย่าให้เกิน 1 ชั่วโมง ถ้าเราทำเสร็จทันในเวลานี้ ในห้องสอบจริงมีเปอร์เซ็นต์สูงมากที่จะทำเสร็จทันทั้งหมด 3 passages ในเวลาที่กำหนด ตาม Instruction ของ IELTS จะแนะนำว่าให้ทำ เรื่องละ 20 นาทีค่ะ  มีหลายรีวิวแนะนำให้จับเวลาเรื่องละ 20 นาทีก่อน ค่อยมัดรวมคิดเป็นชั่วโมง แต่อย่างเรา เรารู้สึกว่าทำรวมเลยดีกว่าเพราะบางเรื่องเราใช้เวลาน้อยกว่า บางเรื่องมากกว่า (แต่แอบบอกว่าวันจริงเราทำเสร็จไม่ทันจ้าเหลือประมาณ5ข้อ มั่วรัวมาก TT ตอนนั้นใจเสียสุดแต่สิ่งสำคัญคือ อย่าเน้นแต่ความเร็วให้เน้นความถูกต้องด้วย ทำช้าแต่ทำถูก ดีกว่าทำเร็วแต่ไม่ถูก ที่สำคัญต้องมีสติ+รอบคอบด้วยเด้อ ฝึกเยอะๆเข้าไว้ค่ะ ความถึกเท่านั้นที่จะเอาชนะทุกสิ่ง เวลาอยู่ในห้องสอบจริงจะเน้นความถึก ทำพาร์ทฟังเสร็จ ทำอ่านต่อเลย จะไม่ได้พักเหมือนเวลาเราฝึกเองฉะนั้นพยายามฝึกทำเยอะๆ รับมือเยอะๆให้ได้ไว้ก่อน ตอนอยู่ในห้องจริงจะได้ไม่เบลอค่ะ

    นอกจากนั้นถ้าถามว่ามีอะไรแนะนำให้อ่านเสริมมั้ย ส่วนตัวขอแนะนำให้อ่านอะไรที่ตัวเองชอบเลยค่ะเพราะนี่คิดว่าถ้าเราเริ่มจากความชอบเราจะมีแรงบันดาลใจให้ทำต่อไปค่ะ แต่ถ้าถามว่าอ่านอะไรจะเอื้อประโยชน์ต่อการสอบมากที่สุด ก็หนังสือพิมพ์ค่ะ อาทิ the Guardian หรือ BBC news 

    TIP: ข้อสอบIELTS เนื้อเรื่องค่อนข้างยาวแต่คำถามจะเรียงตามลำดับของเนื้อเรื่อง ไม่กระโดด ดังนั้นสามารถอ่านเนื้อเรื่องพร้อมกับหาคำตอบไปในทีเดียวกันได้ คำตอบค่อนข้างชัดเจนอยู่ในเนื้อเรื่องค่ะ

            3. Writing

    พาร์ทนี้เป็นพาร์ทที่เราหนักใจสุดเพราะแนะนำยาก การเขียนคือพาร์ทที่เราว่ายากที่สุดในการทำคะแนน ทุกอย่างขึ้นอยู่กับบุญกรรมเก่าที่ทำมาตั้งแต่สมัยเรียน เพราะการเขียนนั้นเน้นการถ่ายทอดประสบการณ์ผสมกับความรู้และคลังคำศัพท์ที่เรามี เอามายำรวมกันเป็น 1 บทความ ในข้อสอบ IELTS จะแบ่งข้อเขียนออกเป็น 2 บทความ ซึ่งเน้นความถึกและความมือไวล้วนๆ วิธีฝึกของเราคือ พาร์ทแรกเราหา Verbs of changes มาจำ + อ่านเยอะๆ ฝึกเขียนบ่อยๆ แบ่งสัดส่วน Paragraph ให้ชัดเจนอย่างของเราจะใช้วิธีแบ่งเป็น

    1. Report นี้พูดถึงอะไร + Main Idea

    2. เขียนเปรียบเทียบกราฟ/ตาราง/ชาร์ตตามต้องการ

    ที่สำคัญพยายามหาดูตัวอย่างบทความ IELTS ที่ได้คะแนนเยอะไว้เป็น reference ในเว็บ Ieltsbuddy จะมีตัวอย่างให้ดู+มีvocabulary ให้จำอีกด้วย ทำแรกๆยังไม่ต้องจับเวลาก็ได้ค่ะ เพราะมันจะใช้เวลาเยอะมาก ทำจนกว่าเราจะจับจุดได้ เราเขียนเสร็จแล้วให้รุ่นพี่ที่เคยสอบมาก่อนช่วย proof read ให้เพราะพาร์ทเขียนเป็นอะไรที่ไม่สามารถตรวจเองได้จริงๆค่ะ ต้องหาคนอ่าน+ประเมินให้ว่าความสามารถเราประมาณไหนแล้ว เขียนรู้เรื่องไหม แกรมม่าเป็นอย่างไร  ฉะนั้นถ้าหาคนตรวจส่วนตัวได้จะดีมากค่ะ

    ส่วนพาร์ทสองจะเป็นคำถามปลายเปิด ให้เขียนแสดงความเห็น ส่วนนี้เราว่าเตรียมอะไรไม่ค่อยได้ ต้องไปคิดคำตอบเอาข้างหน้าเลย สิ่งที่เขาจะถามเป็นไปได้ร้อยแปด สิ่งที่ทำได้คือล็อคประเภทมันค่ะ แล้วเขียนเตรียมไว้ว่าจะเริ่มคำตอบและแบ่ง paragraph แบบไหน ที่เหลือคือไปสดเอาหน้างานเลยจ้า แต่สิ่งสำคัญคือจำไว้ว่าเราไม่ได้กำลังจะส่ง research อาจารย์ สิ่งที่เราเขียนเป็นแค่ essay เล็กๆที่ผู้ตรวจต้องการจะเช็ค grammar เพราะฉะนั้นเหตุผลประกอบ Main Idea ไม่จำเป็นต้องเลิศหรู ขอให้ grammar ถูก เข้าใจง่าย มีเหตุผลเป็นพอค่ะ พาร์ทนี้ถ้าใครจะฝึกก็เป็นเน้นจับเวลาค่ะ

          4. Speaking

    พาร์ทนี้เป็นพาร์ทที่เรากลัวที่สุดเลยค่ะตอนไปสอบเพราะว่ากลัวจะเจอคำถามนางงามแล้วตอบไม่ได้5555 วิธีเตรียมตัวที่เราอยากแนะนำคือควรหาเพื่อนต่างชาติคุยด้วยค่ะ เพื่อให้เค้าช่วยฟังว่าคำตอบของเราเป็นอย่างไรและเพื่อช่วยเพิ่มความมั่นใจในการพูดของเราด้วย หรือถ้าเกิดหาคนคุยด้วยไม่ได้จริงๆเราใช้วิธีคุยกับตัวเองเลยค่ะ คือข้อเสียมันคืออาจจะไม่มีคนนั่งแก้ grammar ให้แต่อย่างน้อยเราจะพอมีคำตอบในหัวว่าถ้าถามแนวนี้มาคำตอบของเราจะเป็นแบบไหนและเราจะมั่นใจในการพูดของเรามากขึ้นค่ะ

    TIP: ในการฝึกพูดคือลองเสิร์ชหาโจทย์ IELTS Speaking ในเน็ตเลยค่ะ เราใช้ของ ieltsbuddy กับ ielts simon ค่ะ รวมถึงถ้าใครมีเล่ม Cambridge ที่เป็นเล่มข้อสอบเก่าก็สามารถใช้ได้เลยค่ะ พาร์ทสองที่ต้องพูดประมาณ 2 นาทีก็ให้จับเวลาดูตัวเองว่าเราเป็นคนพูดเยอะพูดน้อยประมาณไหน

         5. รีวิวการสอบ

    ตอนนั้นเราสมัครแบบ Computer-delivered IDP จะสอบที่ตึก FYI ฝั่งตรงข้ามศูนย์สิริกิติ์ ใต้ตึกมีร้านอาหาร 711 สะดวกสำหรับผู้ไปสอบค่ะ ส่วนตัวเราไม่แนะนำให้เอารถไปเพราะค่าจอดแพงมาก ถ้าจำไม่ผิดคือ 100 บาท/ชั่วโมง ตอนนั้นเราสมัครผ่านเว็บไซต์ https://my.ieltsessentials.com/  พอสมัครและจ่ายเงินเสร็จจะมีอีเมลส่งมาคอนเฟิร์ม วัน/เวลาสอบ/สอบspeaking จากสถาบันอีกทีค่ะ ค่าสอบแบบ Computer ตอนเรา 7,500 จ่ายทีกระเป๋าบางเลย TT ตอนนั้นเลยตั้งใจว่ายังไงต้องรอบเดียวผ่านให้ได้

    Update (2021): ของ IDP ตอนนี้ค่าสอบอยู่ที่ประมาณ 6,900 แล้วค่ะ

    ข้อดีของการสอบกับคอมคือ

    1.  รอบเยอะ และเลือกได้ว่าจะสอบสัมภาษณ์/ข้อเขียนตอนไหน เหมือนตอนเราจะมีให้เลือก เช้า/บ่าย ตอนนั้นเราเลือก speaking เช้า 10 โมงค่ะ ข้อเขียนเป็นตอนบ่าย สอบวันเดียวกัน

    2.  ตอนสอบ speaking ไม่ต้องเจอคนเยอะค่ะ พอไปถึงตอนเช้าวันสอบก็จะมีการถ่ายรูป ขอบัตรประชาชนเราเพื่อไปแปะเลขประจำตัวสอบ รอสักพักก็จะมีพนักงานเรียกไปนั่งรอหน้าห้องสอบของเราตอนนั้นมีคนก่อนหน้าแค่คนเดียวเองค่ะ รอไม่นานอาจารย์ที่เป็นคนสอบ speaking ก็ออกมาเรียก ตอนนั้นเราได้อาจารย์ผู้หญิงวัยรุ่น ท่าทางใจดี เลยโล่งใจไปเปราะหนึ่ง บรรยากาศตอนสอบ speaking ไม่ตึงเครียดอย่างที่เตรียมใจมา ส่วนคำถามตอนนั้นได้คำถามที่พอแถได้เลยไม่กดดันมากค่ะ

    3.  ส่วนตัวคิดว่าการสอบกับคอมทำให้เวลาเราทำ listening สามารถทำและฟังไปพร้อมกันโดยไม่เสียสมาธิได้ คือเราเองพิมพ์ไวกว่าเขียนด้วย เลยชอบมากกว่า

    4.  Writing มี Word Counting ให้เราค่ะอันนี้คือดีมาก เพราะเราจะได้ไม่ต้องเสียเวลามานั่งนับคำ พิมพ์ไปได้เรื่อยๆเลยแล้วค่อยทดเวลามานั่งเช็ค Grammar และเนื้อหาอีกทีค่ะ

    5.  ห้องสอบค่อนข้างเป็นส่วนตัวเพราะมีฉากกั้นโต๊ะ มองไม่เห็นหน้าคนข้างๆค่ะ จำนวนคนสอบรอบละไม่เกิน 15 คน

    6.  ผลออกเร็วมากค่ะ ประมาณ 5-7 วันรู้ผลเลย ของเราตอนไปลงชื่อวันสอบระบุให้ส่ง sms แจ้งเตือน ตอนผลออกเลยมี sms แจ้งเตือนมาด้วยค่ะ

    ข้อเสีย

    1.  ถ้าเป็นคนสติแตกกับเสียงคีย์บอร์ดง่ายก็อาจจะทำให้เสียสมาธิในการทำข้อสอบอยู่ค่ะเพราะบางคนพิมพ์ดัง มากกกก ขอย้ำว่าโคตรดัง ทำให้บางทีเราสติแตกเหมือนกันค่ะ ต้องมีสมาธิมากๆ

    2.  Listening โน้ตได้ไม่สะใจเท่าในกระดาษค่ะ คือทางกรรมการคุมสอบจะมีกระดาษทดกับดินสอให้แต่ว่าจะก้มๆเงยๆอ่านโจทย์แล้วก้มจดมันก็กระไรอยู่ เราเลยพิมทิ้งๆไว้ในช่องเลยค่ะแล้วค่อยมาแก้ตอนท้ายเพราะแต่ละ section เหมือนจะให้เวลาประมาณ 1-2 นาทีในการ recheck คำตอบค่ะ

    การเข้าห้องน้ำ

    ถ้าจำไม่ผิดเหมือนตอน Listening ห้ามเข้าในระหว่างที่เทปเปิดอยู่และ 10 นาทีสุดท้ายของแต่ละ section ห้ามลุกออกจากห้องค่ะ ดังนั้นจึงขอเข้าห้องน้ำได้แค่ section reading กับ writing เท่านั้น แต่ห้องน้ำคือค่อนข้างใกล้ค่ะ อยู่ตรงข้ามกับ IDP เลย ถ้าออกไปเสียเวลาไม่มากค่ะ

     หนังสือและสื่อแนะนำ

    - Cambridge IELTS 8-14

    - PODCAST BBC NEWS 

    - IELTSBUDDY/ IELTSSIMON

    - BBC NEWS/PRACHATHAI ENGLISH/KHAOSOD ENGLISH/THAI ENQUIRER 

    หมายเหตุถ้าเกิดว่าใครต้องการสอบกับคอมแต่กังวลว่าจะงงกับระบบ หรือกลัวว่าจะใช้ไม่เป็น สามารถลงชื่อไปทดลองใช้ระบบก่อนได้นะคะ ตอนนั้นเราก็ไปลองก่อนให้ตัวเองคุ้นชินกับคอมกับระบบเพื่อว่าวันจริงจะได้ไม่ตื่นเต้นค่ะ

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in