เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
เชียงใหม่ again and again...Benjaruck Imsawang
Session 01 - Travelogue เชียงใหม่ again and again ...

  • PROLOGUE
    ...เชียงใหม่ครั้งที่เท่าไรแล้วก็ไม่รู้...

    ไปเชียงใหม่อีกแล้วหรอ? เป็นคำถามที่ฉันมักถูกถามเสมอ จนหลายครั้งก็ต้องตอบแบบทีเล่นทีจริงไปว่า "ก็ต้องกลับบ้านอ่ะ" 

    การเดินทางครั้งนี้ไม่มีแผน มีเวลาจัดกระเป๋า 15 นาทีเท่านั้นแหละ ฉันรู้แค่ว่าจะออกจากบ้านเพื่อตามไปเจอแม่ที่เชียงใหม่เพียงเท่านี้

    ฉันเริ่มต้นออกเดินทางจากบ้านที่จังหวัดชลบุรีโดยตีตั๋วรถทัวร์ขึ้นมากรุงเทพฯก่อน จากนั้นก็ตรงดิ่งมาหัวลำโพงทันทีเพื่อซื้อตั๋วรถไฟ(รถนอน) ซื้อเลย ณ ตอนนั้นแหละ ไม่มีการจองล่วงหน้า แล้วก็รอเวลาขึ้นรถตอนเย็น 

    PART 1 
    - 18.10 น. รถออกจากสถานีหัวลำโพง นี่เป็นการนั่งรถไฟที่เป็นรถนอนครั้งแรก(ตู้รวม)และฉันมาคนเดียว... 
    - ขึ้นรถมายังไม่ทันไรก็โดนฝรั่งขอสลับที่เลย ฉันทำหน้างงอยู่สักพักเพราะไม่รู้จะแลกได้ไหม จนเจ้าหน้าที่มาเจรจาให้ ฉันไม่ถืออะไร แลกก็แลก มาคนเดียวสนุกๆ
    - ฉันงัวเงียจากการงีบหลับไปบนเก้าอี้ที่ยังไม่กางเป็นเตียงนอน ตอนนี้ 3 ทุ่มกว่าแล้ว เจ้าหน้าที่เริ่มเดินมาบอกว่าจะกางเตียงแล้วนะ 
    - โห้ววว!!! เตียงล่างที่ฉันจองมากว้างสุดๆ ดูนุ่มสบาย ฉันเข้าไปนอนเล่น เปิดไปหัวเตียงอ่านหนังสือไปเพลินๆ จนเผลอหลับไป...
    - ตื่นมาอีกทีก็ตี 3 เข้าห้องน้ำห้องท่าซะหน่อยแล้วกัน อืมมม ห้องน้ำรถไฟ... เล็กขนาดหมุนตัวลำบาก แถมบางจังหวะขณะที่รถไฟวิ่งนั้นโคลงเคลงมากเสียจนเกือบหัวทิ่มในห้องน้ำ เสร็จภารกิจก็ไปนอนต่อดีกว่า
    - 5.30 น. ใกล้ถึงลำปางแล้ว ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมนอนไม่ค่อยหลับ ทั้งๆที่ก็นอนสบายนะ สงสัยอยากดูพระอาทิตย์ขึ้นแน่ๆ แล้วก็เป็นไปดังหวัง พระอาทิตย์ขึ้นลับเหลี่ยมเขาอยู่ในระยะที่แสงแดดส่องพอให้รู้สึกอบอุ่น เสียงหวูดรถไฟดังก้องสะท้อนกลับมา วิวสองข้างทางเป็นภูเขาสูงใหญ่ เรากำลังแล่นผ่านหุบเขากัน... รอยยิ้มเล็กๆปรากฏขึ้นที่ใบหน้าฉันตอนนั้น ฉันหลงรักแสงอาทิตย์ยามเช้าพอๆกับแสงสุดท้ายของดวงตะวันยามเย็น 
    - 8.10 น. สถานีรถไฟเชียงใหม่ ฉันเหมารถจากสถานีรถไฟไปหาเพื่อนที่หลัง มช. เพื่อจะเดินทางต่อไปยัง Nana jungle
    - ฝ้าย เพื่อนสาวใต้ใจดีของฉันมารอรับที่หน้าปากซอย ฉันจึงขอแวะเก็บของนิดหน่อยก่อนออกเดินทางไปตลาดนัดขนมปังที่ว่า
    - Nana jungle ฟาร์มขนมปังสุดฮิปที่ใครๆก็ต้องมา ตั้งอยู่ในบริเวณหมู่บ้านเล็กๆที่รายล้อมไปด้วยต้นไผ่ 'บ้านสวนไผ่ล้อม' พูดแค่นี้คงจะพอคุ้นหูกันบ้าง 
    - ฉันมาถึงที่นี่ 9 โมงนิดๆ ขนมปังเกือบหมดแล้ว พระเจ้า!!! ทำไมหมดเร็วอย่างนี้นะ แต่ก็ยังดีที่เหลือของโปรดอย่างเจ้า Croissant ไว้ให้ได้ลิ้มลอง 
    - หลังจากได้ลองของขึ้นชื่ออย่าง Croissant ก็ไม่ผิดหวัง เนื้อขนมที่เหนียวนุ่มหอมกรุ่นจากเตาทุกเช้าคือเดอะเบสท์ของวันเลยทีเดียว 
    - กินขนมไปพลางเดินดูรอบๆไปด้วยก็เห็นร้านค้ามากมายต่างนำของโฮมเมดมาขาย ไม่ว่าจะเป็นไส้กรอกเยอรมันรสชาติดี หรือนมอัลมอนด์เพื่อสุขภาพ ทุกอย่างถูกทำขึ้นด้วยความใส่ใจ
    - ฉันคิดว่าที่นี่เป็นคอมมูนที่แน่นแฟ้นมาก เห็นได้จากความสนิทสนมกันของพ่อค้าแม่ค้าหรือบางทีลูกค้าก็มาพบปะพูดคุยกันประหนึ่งที่แห่งนี้เป็นจุดนัดพบยามเช้าเลยก็ว่าได้
    - หลังจากกลับจาก Nana jungle ก็ไม่รู้จะไปไหน เลยขอตัวไปงีบสักพัก เดี๋ยวค่อยคิดละกันว่าจะไปไหนต่อดี
    - ตื่นมาก็ทันมื้อเที่ยงพอดี ไหนๆก็ไหนๆแล้วไปหาของกินที่นิมมานเลยดีกว่า
    - ติ๊ก เพื่อนสาวผิวเข้มตาคมอีกคนว่างพอดี เราเลยชวนกันไปกินอาหารเช้า(ที่ไม่ใช่ตอนเช้าเสียแล้ว) 
    - เราตกลงกันได้ที่ร้าน 'Smoothie Blues' - all day breakfast ที่ตั้งอยู่บนถนนนิมมานเหมินทร์ ปากซอย 6 ร้านเล็กๆที่เน้นคุณภาพ อาหารส่วนใหญ่ของร้านเป็นอาหารเช้าสไตล์ยุโรป ทำให้มักจะมีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติแวะเวียนมามากกว่าคนไทย อาหารของร้านนี้จานใหญ่มาก มา3คนเราสั่ง2จานก็อิ่มกันจนจุก
    - อิ่มแล้วไปไหนต่อดี... 
    - "ไปตลาดกัน" ฉันเอ่ยปากชวนเพื่อน ตลาด - เป็นสถานที่ๆเราจะได้เรียนรู้วิถีชีวิตของผู้คน ถ้าอยากรู้ว่าคนที่นี่เป็นยังไง ก็ต้องมาเดินดูที่ตลาดนี่แหละ
    - กาดหลวงหรือเรียกอีกชื่อว่า 'ตลาดวโรรส' คือตลาดที่เราเลือกมาเยือน...
    - กาดหลวงถือเป็นตลาดที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองเชียงใหม่เลยก็ว่าได้ แม้สิ่งปลูกสร้างในยุคแรกของการก่อตั้งตลาดจะถูกทำลายในเหตุการณ์ไฟไหม้ครั้งใหญ่ในปี พ.ศ. 2511 ไปหมด แต่ก็ยังคงมีบางสิ่งหลงเหลือทิ้งไว้มาจนปัจจุบัน 'อุดมการณ์' ของตลาดแห่งนี้ยังคงเด่นชัดเสมอมา 
    - ตลาดแห่งนี้เป็นศูนย์รวมของคนชาวเมืองเชียงใหม่ ใครต้องการหาซื้อของอะไร มาที่นี่ก็หาได้เกือบทุกอย่าง นอกจากของฝากทั่วไปอย่าง ไส้อั่ว แคบหมู น้ำพริกหนุ่ม ฯลฯ ก็ยังมีของพื้นเมืองอีกหลายอย่างให้เลือกซื้อเลือกหากันด้วย เดินตลาดอยู่นาน พระอาทิตย์เริ่มเคลื่อนตัวไปยังอีกฟากฝั่ง 
    - กลับจากการสำรวจตลาด เพื่อนขอตัวกลับไปพัก แต่ฉันผู้กระหายการเดินทาง(ตอนนั้น)ก็ออกไปเดินเล่นในมหาวิทยาลัยต่อ 
    - เที่ยวใน มช. มีอะไรให้เที่ยวหรอ? พูดอย่างนี้แสดงว่าไม่รู้ว่า มช.มีของดีเสียแล้ว ป่ะ ไปดูกันว่า มช. มีอะไร?
    - อ่างแก้วของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ - แลนด์มาร์กของนักท่องเที่ยวทั้งไทยและจีน สถานที่แห่งนี้เป็นทั้งอ่างเก็บน้ำที่เอาไว้ใช้ภายในมหาวิทยาลัย และยังเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจของนักศึกษาช่วงเย็นๆอีกด้วย
    ไม่ว่าจะมานั่งเล่น ถ่ายรูป เล่นดนตรี หรือมาออกกำลังกาย ฉันเห็นภาพนี้จนชินสายตา 
    - ฉันใช้เวลาอยู่ที่นี่จนพระอาทิตย์เริ่มโบกมือลา แสงยามเย็นของภาพตรงหน้าช่างอบอุ่นเสียจริง 
    PART 2 
    - เช้าแล้ว... หลังจากมาเจอแม่เมื่อวานตอนกลางคืนที่นิมมาน เราก็ตกลงกันว่าวันนี้จะไปเที่ยวแม่กำปองกัน
    - หมู่บ้านแม่กำปอง ตั้งอยู่ในบริเวณกิ่งอำเภอแม่ออน จังหวัดเชียงใหม่ หมู่บ้านแห่งนี้ถือกำเนิดมาเกือบ 10 ปีแล้ว แต่เพิ่งจะมาดังเมื่อไม่นานมานี้เอง
    - หมู่บ้านท่ามกลางหุบเขาอันเงียบสงบแห่งนี้มีบรรยากาศที่ร่มรื่นและมีอากาศหนาวเย็นตลอดทั้งปี
    - ชาวบ้านที่นี่ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเป็นชาวสวน ไม่ว่าจะปลูกชาใบเมี่ยง ทำไร่ หรือจะเป็นของขึ้นชื่ออย่างกาแฟ 
    - เราเดินสำรวจหมู่บ้านไปเรื่อยๆจนมาพบกับร้านกาแฟชื่อดังอย่าง 'ชมนก ชมไม้' ร้านกาแฟที่อยู่ด้านบนสุดของหมู่บ้าน
    - เนื่องจากที่นี่ปลูกกาแฟเอง ฉันเลยอยากลองชิมสักหน่อย แต่จากการชิมครั้งนี้ก็ตอบไม่ได้ว่าอร่อยเป็นยังไงเพราะฉันไม่ใช่คอกาแฟ แค่กินพอรู้รสชาติเท่านั้น 
    - พักผ่อนหย่อนก้นนั่งชิวไปสักพัก ก็ออกมาเดินเล่นต่อ- เราเดินมาจนถึงโฮมสเตย์แห่งหนึ่ง เห็นท่าว่าน่าสนใจเลยลองเข้าไปสอบถามดูเผื่อครั้งหน้าจะได้มาพัก
    - 'สำราญชนโฮมสเตย์' เป็นหนึ่งในโฮมสเตย์ที่ขึ้นชื่อของที่นี่ ถ้าดูจากการตกแต่งภายในทั้งหมดแล้ว ฉันว่าที่นี่คู่ควรกับคำว่าโฮมสเตย์ที่สุด
    - หลังบ้านมีลำธารขนาดเล็ก เสียงน้ำไหลที่แผ่วเบาสร้างความผ่อนคลายให้การเดินทางครั้งนี้มากเลยทีเดียว
    - หลังจากพูดคุยกับพี่เจ้าของบ้านพอหอมปากหอมคอ เราก็เดินออกมาเพื่อจะไปยังจุดที่นัดกับพวกผู้ใหญ่ไว้ 
    - ระหว่างทางได้พบเจออะไรก็กดถ่ายเก็บไว้ดูเล่น
    - เดินไปเดินมา ไม่รู้ว่าทำไมไม่ถึงจุดนัดพบสักที ต่างคนต่างเริ่มเหนื่อย ฉันจึงออกความเห็นว่าเราโบกรถลงไปเจอกันข้างล่างเถอะ หลังจากโทรศัพท์บอกผู้ใหญ่แล้ว ภารกิจของเราก็เริ่มต้น
    - ด้วยความที่รถส่วนใหญ่ที่ขึ้นมาเป็นรถเก๋ง เราจึงไม่กล้าโบก หนึ่งกลัวอันตราย และสอง กลัวว่าเขาจะตกใจ (ฮา) 
    - เรายืนรอริมถนนจนเห็นรถกระบะผ่านมาคันแรก ฉันยกนิ้วโป้งซ้ายพร้อมก้าวขาซ้ายออกไปทำการโบกรถ รถขับเลยไป แล้วก็จอด... คนที่นั่งข้างคนขับเปิดกระจกถาม ฉันบอกไปว่าจะขอติดรถลงไปข้างล่างหน่อยค่ะ พี่เขาก็บอกว่าขึ้นมาเลย เย้! เราปีนขึ้นรถแล้วก็ปล่อยให้เวลานำทางเราไป
    - เราเดินทางมาถึงศูนย์พัฒนาโครงการหลวงตีนตก ที่นี่มีทั้งร้านอาหาร ร้านกาแฟ และบ้านพักคอยให้บริการนักท่องเที่ยว
    - พวกเราเลือกที่จะสั่งอาหารรอ เพราะยังไม่ได้กินข้าวกันเลย ไม่นานนักพวกผู้ใหญ่ก็มาถึง หลังจากกินเสร็จเราก็เดินทางกลับเข้าเมือง 
    - วันนี้เหนื่อยมาก กลับมาถึงก็สลบยาวถึงเช้า

    EPILOGUE
    วันนี้เป็นวันสุดท้ายแล้วที่ฉันจะอยู่เชียงใหม่ ทริปนี้เป็นทริปที่สั้นและกระทันหันที่สุดเท่าที่เคยเดินทางมา ด้วยความที่ฉันเดินทางมาเชียงใหม่บ่อยมาก บ่อยจนเพื่อนทัก แต่ถ้าจะให้บอกตามความจริงก็คือ 'ฉันหลงเชียงใหม่' ซึ่งบางครั้งฉันก็หาเหตุผลมาอธิบายไม่ได้ว่า 'ทำไม' เพราะทุกครั้งที่เดินทางมาหาคำตอบของคำถามนี้ ฉันมักได้รับคำตอบที่ต่างกันทุกครั้ง ฉันจึงไม่เบื่อเลยที่จะเดินทางมาอีกครั้งแล้วครั้งเล่า จนพูดได้เลยว่า "เชียงใหม่คือบ้านหลังที่สองของฉัน"


เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in