- ได้ขึ้นรถไฟASO Boy!กับA-Trainตามที่แพลนไว้

- ไปชิมหมูทอดเทพที่คุมาโมโตะ ถนนซันชายน์โร้ด จานใหญ่ ให้เยอะ ราคาออกไปทางสูง ผักดองอร่อยมาก!

- ห้างที่ฟุกุโอกะปิดเร็วมาก สอง-สามทุ่มนี่คือปิดทั้งหมดแล้ว ถ้าจะไปช็อปต้องไปบ่าย-เย็น

- แต่ร้านอาหารเปิดถึงดึกๆเลย ช็อปก่อนแล้วค่อยมากินก็ได้นะ :)

_______________________________________________________________________________

แผนของเช้าวันถัดมาคือไปขึ้น Aso Boy! ตอน10โมงเช้า และต่อด้วย A-train  คือเริ่มต้นวันเลทมากๆๆ ต่างจากวันอื่นๆที่ออกไม่เกิน8โมงทุกวัน แต่ดีใจมากที่เราวางแผนมาแบบนี้ ขอบคุณตัวเองในอดีตจริงๆ เลยได้อยู่โรงแรมป้าเพิ่มขึ้นอีกนิดหน่อย เดิน2นาทีก็ถึงสถานีแล้ว ชิลโคตร!

Aso Boy!เป็นรถไฟที่จองยากอันดับสองของภูมิภาคนี้(รองจาก7star ที่เป็นรถไฟแต่งหรูไฮโซทั้งขบวน นั่งโต๊ะเปิดแชมเปญกิน… นั่นแหละ! นางวิ่งอยู่แถวคิวชู แต่ก็ไม่มีบุญได้เจอเลย) การออกแบบจะเน้นไปที่ “การเดินทางของครอบครัว” มีกิมมิคคือจะมีโบกี้สำหรับเด็กโดยเฉพาะ มีบ้านลูกบอลให้เล่น มีที่นั่งสำหรับพ่อแม่ลูก มุมขายของที่ระลึกที่ล่อลวงเด็กได้ดีมาก(ฮะ!?) เราชื่นชมคอนเซ็ปต์ของรถไฟขบวนนี้มากเลยอยากมาเห็นด้วยตาตัวเองสักครั้ง…

อันนี้คือเจ้าคุโระ หมาตัวสีดำหน้านิ่ง คาแร็กเตอร์โปรโมตรถไฟของคิวชู จะไปเจอตามสถานีJRสะส่วนใหญ่ แต่ไม่ใช่มาสค็อตเมืองแบบคุมะมงนะ

พอได้ขึ้นไปบนรถ แน่นอนว่าผู้โดยสารแต่ละคนจะไม่ได้นั่งฮะ วิ่งถ่ายรูปกันทุกโบกี้55555555555 มุมน่ารักๆมันเยอะมาก ถ่ายตรงนู้นก็น่ารัก ตรงนี้ก็สวย เด็กๆไม่ต้องพูดถึง แทบจะวิ่งกรี้ดๆๆๆๆ จูงพ่อแม่ขึ้นรถ พอได้เห็นของเล่นก็ตาลุกเป็นไฟ

ตาที่ลุกเป็นไฟคือเรานะ….ไม่ใช่เด็ก แฮร่(อายุเกินแล้วง่ะ….)

เราใช้เวลานั่งไม่นานก็ถึงสถานีOitaแล้ว(แค่อยากจะหาเรื่องนั่งขบวนนี้เฉยๆ เลยต้องยอมเสียเวลานั่งย้อนกลับมาสถานีหนึ่ง) ใช้เวลาประมาณ20นาที ก็ต้องโบกมือบ๊ายบายคุโระแล้วT-T

จากoita เรานั่งรถไฟอีกขบวนกลับมาHakata แล้วต่อรถไฟไปKumamotoเพื่อนั่งอีกขบวนหนึ่ง เอาจริงๆเราขี้เกียจมากเลยนะ เสียเวลานั่งไปมาด้วย ตอนแรกเกือบจะทิ้งตั๋วแล้ว แต่กลัวว่ามันจะไม่คอมพลีทจุดมุ่งหมายที่มาที่นี่ เลยต้องสู้กับจิตใจของตัวเองTvT กัดฟันนั่งมาถึงkumamotoจนได้ 

รถไฟที่เราตั้งใจจะมานั่งก็คือA-Trainนั่นเอง!

ตอนแรกก็ทำหน้าเหนื่อยๆ แต่พอเจอกับตัวเท่านั้นแหละ โอ้โห้!!!! รถไฟอะไรวะ หรูสัส! คือถ้ามันพรีเมียมกว่านี้เราว่ามันก็คือ7Starที่จองกันหลักแสนอ่ะ! แต่นี่คือฟรี!!(จองจากKyushu rail passได้) นั่งเพื่อรับบรรยากาศความลักซูรี่ล้วนๆ(สำหรับเราว่าคุ้มนะ)

ว่าบาป! มีเบียร์สดในรถไฟด้วย เอาซี่….

ขบวนที่แล้วคือของล่อลวงเด็กใช่ไหม มาที่นี่คือล่อลวงผู้ใหญ่ค่ะ! มีแม้กระทั่งอัลบั้มTheme songขายอ่ะคิดดู ส่วนเราโดนเข็มกลัดมาอันนึง ...ห...ห้าร้อยกว่าเยนเอ๊งงงงงT-T

ขอบคุณนะที่พาเรามาส่ง :)

วันนี้เคลียร์มิชชั่นรถไฟlimited expressได้เรียบร้อย! กลับมาkumamotoเลยขอหาอะไรอร่อยๆกินดีกว่า เสิร์ชไปเสิร์ชมาเจอคนไทยรีวิว ข้าวหมูทอดเทพ! หรือว่าคือทงคัตสึเซ็ตนั่นแหละ… สายแดกต้องลองสิ รออะไรล่ะ:P

ร้านพรีเมียมมาก…. ถ้าเป็นปกติไม่กล้าเข้านะ แต่ตอนนี้เริ่มชินชาไปกับภาษาญี่ปุ่นแล้ว…(พูดอะไรมาพยักหน้าพอ) เลยเข้าไปอย่างรวดเร็ว เขาก็รู้เลยยื่นเมนูภาษาอังกฤษมาให้เลือก มีแต่ชื่อกับรูปเล็กๆ เลยเอาอันที่รวมๆมาดีกว่าเพราะอยากลองทุกอย่าง มีทั้งกุ้งหมูไก่ อ่ะสั่งไป…. นั่งรอสักพักใหญ่ก็เริ่มมีงากับครกมาเสิร์ฟ….

พนักงานพยายามพูดภาษาอังกฤษเป็นคำๆสอนเรากิน ...ก….ก็เข้าใจได้แหละ (ชี้ๆมาที่ครก ซีเซมๆ ทำท่าใช้สากบดๆ แล้วก็ชี้ไปที่น้ำจิ้มบนโต๊ะ ทำท่าเทๆ) ถามว่าโอะเค๊ะ? พอเราพยักหน้าก็เดินหายไปทันที...เอ่อ เอาเป็นว่าเข้าใจแหละ….

พออาหารยกมาเสิร์ฟที่โต๊ะ ถึงกับทำตาโต….. บร้าาาาาาาาาาาาาาาาาาา ทำไมมันเยอะขนาดนี้!!! ดูในภาพอาจจะไม่เห็นสักเท่าไหร่ แต่มีกุ้ง2ชิ้น ไก่2ชิ้น หมู2ชิ้น...ไอ้เราก็นึกว่า2ที่ว่ามันหมายถึงชิ้นคัตสึที่ทอดมาแล้วหั่น แล้วค่อยหยิบมาแค่สองชิ้น… ที่ไหนได้!! ...2ชิ้นเต็มๆคำครับ…-O-;

อ...เอาวะ! ไหนๆก็มาแล้ว ข้าวกะหล่ำก็เติมฟรี(ไม่ใช่ประเด็นสิเห้ย!) คือเผื่อใจแล้วว่างานนี้มีห่อแน่ๆ เอ………………...แต่จะพูดว่ายังไงดีนะที่ทำให้เขาเข้าใจ……..-_-

ด้วยความที่เขินตอนที่ห่อกลับบ้านมากกว่า เลยยัดห่าไปหมดจนได้ครับ….

...แทบจะกลิ้งออกไปจ่ายเงินที่หน้าร้าน…. มื้อนี้โดนไป1782เยน แพงเป็นอันดับสองของทริปนี้(แพงสุดอยู่ที่ตลาดโยบุโกะพรุ่งนี้ อิอิ)….แต่รสชาติเราว่าไม่ได้เทพขนาดแสงออกปากนะ รสชาติมาตรฐาน-_____-; แต่ของเขาพรีเมียมจริง ที่อร่อยประทับใจจริงๆคือผักดองอ่ะ5555 มันอร่อยโดดเด่นจริงๆนะ รสชาติเค็มๆกลมกล่อมแบบนี้ไม่เคยเจอที่ไหน

ต้องบอกว่า โชคดีสุดๆที่คุมาโมโตะมีถนนช็อปปิ้งซันชายน์โร้ดที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคนี้…. เลยได้เดินย่อยอาหารได้ไม่ต้องพึ่งอีโน ไม่งั้นนะ..กระเพาะครากกลางทริปนี้จบไม่สวยแน่ๆ เฮือกกกกกกกก

เย็นวันนั้นก็ต้องถ่อสังขารกลับไปนอนที่Hakata เพราะตัวเราในอดีตได้จองโฮสเทลมาให้เรียบร้อยแล้ว…(ถ้าได้นอนคุมาโมโตะสักคืนคงดีT-T) แต่ก็ถือว่าดีที่ได้กลับมานอนที่hakata เพราะคืนนั้นใกล้ๆโรงแรมมีงานเล็กๆตอนกลางคืนพอดี คล้ายๆไนท์มาร์เก็ตที่ไทย แบบแนวๆจัตุจักร ตลาดรถไฟ มีโซนให้พนักงานออฟฟิศเมาได้ กับมีฝรั่งตาน้ำข้าวมาเดินให้แช่มชื่นหัวใจ<3 แต่ทุกอย่างตั้งอยู่ริมแม่น้ำ ได้อิ่มบรรยากาศไปอีกแบบหนึ่ง

ชิบะอินุสุดคิ้วท์! มีชาวญี่ปุ่นล้อมถ่ายกันเต็มเลย555 เสียงคาวาอิ๊ คิเระะะะะ ดังสนั่นอยู่ตลอด

พอหลุดจากโซนไนต์มาร์เก็ตนั้นก็จะมียาไต...เป็นร้านแผงลอยขายอาหารที่เป็นเอกลักษณ์ของฟุกุโอกะ เรียงกันริมน้ำเป็นตับๆเลย แข่งขันกันอย่างสมบูรณ์555555 แต่เราไม่ได้เข้าไปลองชิมเพราะมันแพงอยู่ แล้วก็ต้องใช้สกิลภาษาเยอะด้วย(ดีลที่นั่ง สั่งอาหาร เมนูญี่ปุ่นล้วน คนขายพูดด้วยอีก ยอมมมมมม) เลยเดินผ่านเฉยๆ

แล้วก็หลุดไปถึงห้างคาแนลซิตี้ ห้างช็อปปิ้งของฟุกุโอกะแห่งหนึ่ง ซึ่งห้างที่คิวชูทุกที่มันปิดเร็วมากกกก5555(สามทุ่มคือเขาเดินมาบอกว่าร้านปิดแล้วค่ะ เชิญออก55555 บางที่ปิดทุ่มนึงก็มี) แต่มันจะมีโซนน้ำพุให้คนที่ผ่านไปผ่านมาดูเว้ย! แล้วตอนที่เราไปมันถึงเวลาที่ฉายพอดี เป็นเกี่ยวกับก็อตซิล่าบุกเมือง

แล้วเขาจะมีอีเว้นต์ให้คนที่ยืนดูอยู่ ใช้โทรศัพท์โหลดหน้าเว็บของห้างขึ้นมาร่วมกันปราบก็อตซิล่าอ่ะ!!!5555555555 คนญี่ปุ่นทุกคนที่ฟังเสียงพากย์รู้เรื่องจะหยิบมือถือของตัวเองขึ้นมาเตรียมเล่นทุกคนอ่ะ(เราพึ่งมารู้ที่หลังเสร็จจากเขาเล่นกันไปแล้ว) แล้วพอสัญญาณเริ่มปุ๊บ ทุกคนสไลด์มือถือกันตู้มๆๆๆๆๆๆๆๆ ส่งพลังไปที่อนิเมชั่นที่ฉายบนห้าง(ใช้ห้างแทนฉากรับโปรเจ็คเตอร์ยักษ์) ทุกคนดูสนุกมากที่ได้ร่วมกันปราบก็อตซิล่า ถึงสุดท้ายจะขึ้นว่าYOU LOSEก็เถอะ….เสียงโห่เสียดายดังขึ้นมาเลย55555 ไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่เขาก็ดูสนุกสนานกันนะ เราก็ได้แค่ยืนมองวัฒนธรรมนี้แล้วก็เก็บกลับมาเล่านี่แหละ:)

ด่วน! รีบดูก่อนโดนลบ...ภาพถ่ายหางก็อตซิล่า ยังคงรอให้ผู้กล้ามาปราบมันให้สำเร็จ :)