- based on a true story -
"เท่าไหร่ครับป้า" น้อตรับก๊วยเตี๋ยวไก่น้ำข้นชามนั้น แล้ววางลงเพื่อควักเงินมาจ่ายค่าอาหารเช้า"45 บาทจ๊ะ""ครับ" ธนบัตรใบย่อยๆ ที่ถูกยัดเข้ากระเป๋าสตางค์อย่างลวกๆ มักประสบปัญหางอแงเสมอราวกับมันไม่อยากออกมาเผชิญโลกอีกครั้ง น้อตคลี่แบ๊งค์ก้อนเขียวๆ นั้นออกมา มันมีแค่ใบเดียว .... ยี่สิบบาท... เขายื่นให้แม่ค้า "แป๊บนะครับ ขอล้วงเหรียญก่อน" มือซ้ายพลางจกเข้ากระเป๋ากางเกง นิ้วทั้งสี่ประสานกับหัวแม่โป้ง ขยำเงินเหรียญบาทล้วนๆ ทั้งหมดในกระเป๋าขึ้นมา "เดี๋ยวนะครับ หนึ่ง สอง ... เก้าบาท"
อีกหกบาท กระเป๋าข้างขวาจะมีไหมนะ? มือขวาสลับหน้าที่ซุกเข้าไปชอนไชจนทั่ว "ซวยละ... " น้อตบ่นเบาๆ มิือข้างขวาถอยกรูดออกมาจากกระเป๋าข้างเอวแล้วมุดเข้าไปในกระเป๋าอีกใบที่หลังก้นแฟบๆ ของเขา กระเป๋าสตางค์ย่อมมีเงิน .... นั่นไง "ชะอุ๋ย ป้ามีทอนแบ๊งค์พันมั้ยครับ"
"สบายมากจ๊ะ"
ธนบัตรสีขาวใบสุดท้ายของเดือน ถูกเปลี่ยนเจ้าของแล้วอย่างเป็นทางการ ป้านับเงินย่อยคืนมาให้ "นี่ค่ะ 955 บาท"
"ขอบคุณครับ"
เขายัด 955 บาทเข้ากระเป๋ากางเกงอย่างลวกๆ ก่อนหยิบก๋วยเตี๋ยวชามนั้นไปหาที่นั่ง ขณะที่ดูดเส้นก๋วยเตี๋ยวเข้าปาก น้อตก็คิดถึงแบ๊งค์พันใบนั้น ... เพียงแค่มันอยู่ในกระเป๋าก็รู้สึกอบอุ่นในใจ แต่พอมันจากไปเขากลับรู้สึกถึงความเปราะบางในสภาวะเศรษฐกิจของตัวเอง ความไม่มั่นใจว่าเขาจะทำอย่างไรถึงจะอยู่ได้ถึงวันที่บัญชีของเขาจะมีตัวเลขกลับมาเกินสองหลักอีกครั้ง
เช่นเดียวกับสสารทั่วไปในโลก แบ๊งค์พันนั้นจริงๆ ก็ไม่ได้หายไปไหน มันแค่เปลี่ยนรูป จากสีขาวใบเดียวเป็นสี่แดง สีม่วง สีเขียวและเหรียญสีเงินๆ แถมยังมีก๋วยเตี๋ยวอุ่นๆ ให้กินอีก
มันดูเป็นเรื่องง่ายๆ คำตอบไม่ได้อยู่ในสายลม แต่อยู่ที่ตัวเองว่าจะยอมรับได้ไหมว่าอดีตที่ผ่านไปแล้ว มันผ่านไปแล้ว แบ๊งค์พันที่แตกไปแล้วเพียงรอเวลาของมันก่อนที่จะกลับมาใหม่ อาจไม่ใช่ใบเดิม แต่ก็ยังใช้ได้ อยู่ในกระเป๋าก็ยังอุ่นใจได้เท่าเดิม
___________________________________________________
ป.ล. รับบริจาคข้าวสารและอาหารแห้งครับ ^^
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in