เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
ไดอารี่ยี่สิบถึงยี่สิบถึงยี่สิบหกสิงหาคมห้าเก้าละกันmynameis
หนึ่ง
  • อย่าหายไปเพื่อให้ใครบางคนออกตามหาเลย

    หรือถ้าคิดจะหายไป ให้หายไปด้วยเหตุผลของตัวเราเอง
    ด้วยเหตุผลที่ไม่มีความจำเป็นจะอยู่ในที่ตรงนี้แล้ว
    อย่าหายไปด้วยเหตุผลเพราะคนอื่นเลย
    ไม่มีประโยชน์หรอก

    แค่เราอยู่ตรงนี้เรายังไม่ค่อยมีตัวตนเลย ...
  • เราอ่านเจอบทความพวกนี้บ่อยบ่อย
    เราค่อนข้างเห็นด้วย

    เราเคยมีประสบการณ์งอนเพื่อนคนนึง

    เรารู้สึกว่าทุกครั้งที่เรามีความทุกข์
    เราจะคิดถึงมัน อยากคุยกับมัน
    อยากให้มันฟังเล่า คุยกับมันแล้วสบายใจ

    ไม่ใช่ว่าสุขแล้วไม่คิดถึงนะ 
    เราแชร์ความสุขกันเรื่อยเรื่อยอยู่แลัว

    แต่เวลาที่มันมีปัญหา เราก็อยากให้มันคิดถึงเราบ้าง
    อยากให้มันแชร์ ให้มันเล่าให้เราฟัง 
    แต่เรากลับไม่ได้เป็นคนตรงนั้น

    มันอาจจะคิดว่าไม่อยากทำให้เราคิดมาก
    หรือมันอาจจะไม่ได้คิดถึงเราจริงจริงก็เหอะ
    แต่เราจะรู้สึกดีใจเวลาที่ใครมีปัญหาแล้วคิดถึงเรา 
    เรารู้สึกว่าอย่างน้อยเราก็เป็นคนนึงที่เขาไว้ใจ

    นานนานเข้าเราเริ่มรู้สึกว่าความสำคัญที่เราให้มัน
    กับความสำคัญที่มันให้เรามันไม่เท่ากัน
    ทำให้เรารู้สึกน้อยใจมาก เรางอนมันแบบไม่บอกใคร
    จนวันนึงเราเลย unfriend facebook มันแม่ง

    สุดท้าย ผ่านไปเป็นอาทิตย์
    มันยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเราไม่ได้เป็น friend กัน
    เราเองต่างหากที่ add กลับไป 
    แล้วบอกมันว่าไม่รู้ว่า friend หายไปไหน

    มานั่งคิดคิดแล้วแม่งก็ตลกดี
    ตอนนั้นเรางี่เง่ามาก ขี้น่อยใจมาก
    แต่พอชีวิตผ่านช่วงเวลามาเรื่อยเรื่อย
    มันทำให้เราโตขึ้นจริงจริงนะ 
    เราปลงขึ้น มองโลกกว้างขึ้น 
    เข้าใจธรรมชาติของคนคนนึงมากขึ้น
    ตอนนั้นเพื่อนเรามันไม่ได้ทำผิดอะไรเลย
    เราเองต่างหากที่คาดหวังกับความสัมพันธ์มากเกินไป

    มันให้เราเท่าที่มันพอใจจะให้ได้
    เราบังคับใครไม่ได้ แม้แต่ตัวเราเอง
    เราก็ให้คนอื่นได้ไม่เท่ากับที่เขาให้เราได้ทุกคนหรอก

    ตอนนี้เรายังสนิทกันเหมือนเดิม
    มันอาจจะไม่ได้สนิทกันเท่ากับตอนนั้นที่เราคาดหวัง
    เราต่างคน ต่างโตกันไป มีเรื่องในชีวิตแตกต่างกันไป
    เจอกันที ก็อัพเดตกันไป แต่ไม่เจอกันก็อ่านเรื่องราวของมัน
    ผ่านทาง facebook หรือทัก chat กันบ้าง บางครั้ง

    นี่คือเรื่องเราที่เราเข้าใจเลยว่า
    บางทีการที่เราหายไปเพื่อเรียกร้องความสนใจ
    มันก็ไม่ได้อะไรกลับมา นอกจากความทรมานของเราเอง
    กับความคิดที่ว่าเราทำไปทำไมวะตอนนั้น

    แต่อีกแง่มุมนึง
    เป็นเรื่องของเพื่อนเรา

    เขาหายไปจากคนที่เขาคุยอยู่
    เพราะรู้สึกว่าพอแล้ว ไม่ต้องการอยู่ตรงนี้แล้ว
    แต่การหายไปของเขา กลับทำให้ใครคนนั้น
    รู้ใจตัวเอง และกลับมาตามง้อจนได้

    แต่มันก็ไม่ทันเสมอไปหรอกนะ
    ถึงจะหายไปแค่อาทิตย์ สองอาทิตย์
    แต่ทุกวินาทีที่เวลามันเดินไป 
    เรื่องราวมันสามารถเปลี่ยนแปลงได้หมดแหละ

    ถ้าเป็นอย่างนั้น
    เราอย่าทดลองกับความรู้สึกใครเลย 
    เราเองนั่นแหละที่จะเสียใจ

  • ที่เกริ่นมาแม่งเราคิดไปเอง
    ว่ามันจะเข้ากับสิ่งที่จะเขียนต่อไป

    เรากำลังจะลองอำพรางตัวเองจาก facebook

    ตลกว่ะ
    สุดท้ายกูเองเนี่ยแหละ
    ทำเป็นจะหายไป คิดว่าใครจะหาหรอ

    ก็อาจจะมี
    เพื่อนอาจจะงง ว่าหายไปไหน
    แต่คงไม่ใช่ใครคนนั้น

    หลายเดือนที่ผ่านมา
    เราค่อนข้างเล่น facebook หนัก
    อาจจะหนักจนเกินไป บางทีเล่นแล้วก็ตลก
    แต่บางทีเล่นแล้วก็หดหู่

    เรื่องราวความหดหู่ทั้งหมด
    แม่งเกิดจากคนแค่ไม่กี่คน
    เขาไม่ได้ทำอะไรให้เราหดหู่
    แต่การดำเนินชีวิตของเขาที่เราไปเสือกนั่นแหละ

    ทำให้เราหดหู่เอง

    เราเฝ้ารอติดตาม
    อ่านโพสทุกโพสของเขา
    เอามาตีความคิดเอาเองว่าหมายถึงเรารึเปล่า

    แต่พอเจออะไรบางอย่าง
    ที่ทำให้เรารู้ว่าเราอาจจะคิดไปเองคนเดียวทั้งหมด
    เราก็มานั่งเฟล เสียใจ ทำใจ แล้วก็กลับไปใหม่
    มันวนแบบนี้มาเป็นเดือน สองเดือนแล้ว
    เราเริ่มคาดหวังกับอะไรที่มันไม่เคยชัดเจน

    จริงจริงเมื่อก่อนเราก็เคยเป็นแบบนี้แหละ
    แต่ตอนนี้เราว่าเราหนักเกินไป
    บางทีชีวิตเราก็เหนื่อยอยู่แล้ว
    แล้วเรายังต้องมาเหนื่อย เฝ้ารอกับอะไรบางอย่าง
    บางทีเขาอัพเดต เราก็เหนื่อยที่ต้องตีความ
    แต่บางทีเขาหายไป เราก็ยังต้องมาเหนื่อยอีก
    ที่ต้องมานั่งคิดว่าหายไปไหน ทำไรอยู่ เป็นไงบ้าง
    เราว่าตอนนี้มันเกินความจำเป็นเกินไปแล้ว
    เราก้าวเข้ามามากเกินไปหน่อย

    เราเบื่อที่ต้องมาเห็นอะไรแล้วกลับมานั่งเฟล
    จนอะไรที่เราคิดไว้ว่าจะทำ ก็ไม่มีอารมณ์ทำ
    มัวแต่นั่งไถ feed facebook จนนิ้วสากหมดละเนี่ย

    ก่อนหน้านี้เราเคยชอบคนคนนึง
    เขาเป็นคนเงียบเงียบ แทบไม่อัพเดตอะไรบน social เลย
    ตอนนั้นมันทำให้เรากระวนกระวายใจ
    เราอยากรู้เรื่องราวในชีวิตเขาบ้าง
    แต่จริงจริงเราว่าแม่งเป็นข้อดีอยู่เหมือนกัน

    มาตอนนี้ตอนที่เราชอบคนนี้
    เค้าเป็นคนที่เล่น social ค่อนข้างบ่อย
    น่าจะอัพเดตทุกวันก็เป็นได้
    ตอนนั้นเรารู้สึกโอเค เรารู้สึกดี
    กับการที่ได้รู้เรื่องราวในชีวิตของเขาทุกทุกวัน

    แต่พอมันนานไป มันเสพติดเกินไป 
    เราก้าวเข้าไปมากเกินไป เราเริ่มคาดหวัง 
    ตั้งความหวังกับอะไรแปลกแปลก ที่เป็นไปไม่ได้

    จนตอนนี้เรารู้สึกควรหยุดได้แล้ว
    เราเลยคิดว่าไม่อยากเล่น facebook สักห้าหกวัน
    จริงจริงคนจริงแม่งควรจะทำได้นานกว่านั้น
    แต่มันค่อนข้างยากสำหรับเรา
    เราไม่อยากหายไปจนไม่มีตัวตน
    แต่เราแค่อยากพัก บางทีมันอาจจะดีขึ้นก็ได้
    เราหวังว่าอย่างนั้น

    แต่ตอนนี้เราก็ไม่ค่อยมั่นใจเท่าไหร่หรอก
    ว่าที่เราหายไป เราทำเพื่อตัวเราเองจริงจริง
    หรือเราตั้งความหวังอะไรในใจลึกลึกอีกรึเปล่า

    เรารู้สึกว่าสิ่งที่เรากำลังจะทำอยู่แม่งไร้สาระนะ
    แต่ก็อยากลองทำ

    เคยอ่านเจอมาว่า
    บางที Facebook ก็เป็นสิ่งเกินความจำเป็นของชีวิต
    เราเห็นด้วยนะ แต่เราก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ามันก็จำเป็นสำหรับเราเหมือนกันตอนนี้

    เราค่อนข้างสับสนในตัวเองนะ
    อย่า งง จนเกินไปล่ะ :-)

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in