ใครบอกหรอว่าสองคนนี้คบกันทำไมไม่เห็นไปไหนด้วยกันเลย กินข้าวก็ไม่เคย คบกันทำไมไม่เห็นทำอะไรแบบนี้เลย คุยกันบ่อย ทุกวัน ทุกคืน ทุกเวลา จำเป็นต้องคบกันด้วยเหรอ ?
ลีแดฮวี คณะบริหารการตลาดปีสอง สาขานี่ขึ้นชื่อคนหน้าตาดีเป็นดำดับต้นๆของมหาวิทยาลัยจริงไม่จริงไม่รู้ ต้องลองมาเรียนดู…
เขาผู้อยู่สูงสุดของห่วงโซ่อาหารของเรา..
วันเปิดเทอมที่แสนน่าเบื่อของแดฮวีที่วันๆไม่ได้ทำอะไรเลยนอกจากเรียน อ่าน เขียน ทำ ท่อง จำถ้าไม่ติดว่าต้องเรียนไปต่อยอดกิจการที่บ้าน คงลาออกไปทำธุรกิจส่วนตัวเองแล้ว..
แดฮวี รู้สึกเบื่อที่เขาไม่รู้สึกอยากทำอะไรและไม่มีอารมณ์ทำอะไรในตอนนี้ด้วยละตอนนี้เขาแทบจะฝังใบหน้าลงในหนังสือบนโต๊ะด้วยซ้ำ เวลาล่วงเลยไป แดฮวีถอนหายใจไปแล้วหลายครั้ง รู้ตัวอีกทีอาจารย์ที่ทำหน้าทีสอนในเวลานี้ก็เอ่ยปากพูดจบไปซะแล้ว ซึ่งนั่นหมายความว่า แดฮวีไม่ได้อะไรจากคาบนี้เลย..
“ เป็นไร กูเห็นมึงถอนหายใจนานแล้ว“
“ เปล่าๆ “
แดฮวี เป็นแบบนี้หลายครั้ง ยูซอนโฮเพื่อนข้างเคียงบ่าเคียงไหล่ผ่านร้อนผ่านหนาวกันมาตั้งแต่ปี1ของเขาเอ่ยทักขึ้นซ้ำๆ แต่แดฮวีเขาก็ยังคงตอบแบบเดิมอยู่ดี..
“ เออละ มึงยังคุยกับพี่แพอยู่ปะ“
คำถามของยูซอนโฮดังขึ้นหลังจากที่ปิดท้ายสนทนาเมื่อสักครู่ก่อนจะเว้นระยะห่างให้หายใจ
“ ไม่รู้จะคุยอะไรต่อวะ“
“ ยอมแพ้แล้วอ๋อ “
“ ไม่ได้ยอมแพ้แต่แค่กูคิดว่ากูเดินมาไกลพอแล้ว“
ทว่าเขาทั้งคู่ต้องจบบทสนทานาเพียงเท่านั้นไว้ หลังจากออดดังขึ้น เข้าคาบต่อไปทันที
แพจินยอง บริหารการจัดการ ปี4
แดฮวีรู้จักดี ..
‘ อีกไม่กี่อาทิตย์จะเป็นพิธีจบการศึกษาของเด็กบริหารการจัดการปีสี่นะครับเฉพาะเด็กสาขานี้เท่านั้นนะครับที่จะร่วมพิธีได้..’
เสียงประกาศของมหาลัยดังขึ้น และคงเป็นเสียงที่ทำให้คนรอบข้างๆแตกตื่นกันได้เพราะพวกป็อบๆของสาขาก็ไปอยู่ปี4กันหมดไม่แปลกที่ทุกคนจะให้ความสนใจ..
ณ โรงอาหาร
“ มึงไม่บอกพี่เขาไปสักทีละว่ามึงชอบ“
“ ก็ชอบแต่กูก็คิดแค่ว่ากูไม่คู่ควรกับเขาอ่ะ กูถอยดีกว่า “
รอบข้างๆเสียงดังแค่ไหนแต่บริเวณที่พวกเขานั่งก็ยังคงปกคลุมไปด้วยความเงียบ แดฮวีไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขารู้จักแพจินยองตอนไหน รู้ตัวอีกทีก็ชอบไปแล้ว เขาเริ่มคุยกันตั้งแต่ปี1 แต่ทว่า ความรู้สึกตอนนี้เหมือนเขากำลังพยายามอยู่แค่ฝ่ายเดียว..
“ มึงคุยกันมานานแล้วนะ“
“ ก็แค่คุยตอนนี้ทุกๆอย่างมันผิดพลาดไปจากเดิมเยอะ “
คนเราเคยทำอะไรผิดพลาดบ้างสอบตก ทำโครงงานไม่ผ่าน โดนอาจารย์ด่าเพราะทำงานไม่เรียบร้อย ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นความผิดพลาดส่วนหนึ่ง ห้วงความคิดของเขาที่ต้องหาอะไรเยียวยา..
เขาคิดขึ้นมา..
แค่ว่า ความรู้สึกเขามาไกลไกลเกินกว่าจะย้อนกลับไปแก้ไข..
แต่ห้วงความคิดหนึ่งก็ตีกลับมาให้รู้สึกว่าถึงย้อนความรู้สึกไปไม่ได้ ก็แค่หยุดพักเท่านั้น..
เขากำลังพยายามอยู่..จริงๆ
“ ทำไมคิดงั้นวะ “
“ คุยกันมาตั้งนานเขาไม่มีแววจะชอบกูเลย “
“ มึงคิดแทนเขาไม่ได้ แดฮวี“
“ ละมึง เคยรู้สึกรักใครแล้วเหมือนพยายามอยู่ฝ่ายเดียวปะกูก็เหนื่อยเป็น “
“ แล้วมึงได้บอกเขาตรงๆปะว่ามึงรู้สึกยังไง “
แดฮวีหยุดนิ่งไปสักพักก่อนริมฝีปากบางๆของเขาจะเอ่ยพูดประโยชน์ที่เก็บไว้อยู่ภายใจออกมา..
“ กูชอบเขา กูเป็นคนทักเขาไปเองเขาไม่ตอบ กูก็รอจนกว่าเขาจะตอบ แต่ทว่า ถ้ามึงลองคิดดีๆ การชอบอย่างเดียวมันก็มีความสุขกว่าหรือเปล่า แต่แบบ ..ความรู้สึกกูมาไกลเกินกว่าจะยอมรับได้ว่า การชอบฝ่ายเดียวการได้แอบมองเขามีความสุขมันจะมีความสุขจริงๆไหม.. “
“ … “
แดฮวีไม่เคยคิดเข้าข้างตัวเอง
เขาเอาความคิดตัวเองเป็นที่ตั้งเขาคิดอะไรอยู่ ละนั้นคือคำตอบ..
แต่ทว่า เขาคิดผิด ..
2 อาทิตย์ต่อมา
“ ทำตัวให้มันดีๆนะครับจบไปแล้วทำงานเก็บเงิน มีครอบครัวที่ดีกันทุกคน.. “
เสียงอาจารย์พูดหน้าเวทีดังขึ้นหลังจากนักเรียนสาขาวิชาการจัดการมารวมตัวกัน ณ ที่แห่งนี้ และบรรดาน้องๆปี1จะชอบอกชอบใจเป็นพิเศษแต่ทว่าจะมีแค่ ปี2-3 เท่านั้นที่ยังคงนั่งเงียบ เพราะทุกคนก็ผ่านร้อนผ่านหนาวมาด้วยกัน สนิทชิดเชื้อกันหมด ไม่แปลกที่ทุกคนจะรู้สึกเศร้าๆและก็รวมถึง แดฮวีและยูซอนโฮด้วยเหมือนกัน ..
“ มึงไม่ซื้อดอกไม้มาวะ“
“ ขี้เกียจ “
แดฮวี คนปากไม่ตรงกับใจ กลับมาอีกครั้งเพราะตอนนี้ความรู้สึกข้างในใจของเขาก็ย้อนแย้งกว่าคำพูดที่หลุดออกไปซะเหลือเกิน..
แต่เปล่าหรอก เป็นเพราะเขาไม่ชินซะมากกว่า ปีที่แล้วยังเป็นเด็กเฟรชชี่ใสๆไม่ค่อยมีคนรู้จักเลยไม่ได้ให้ดอกไม้ใครพอมาปีนี้ เขารู้จักก็หลายคน..แต่การที่ต้องไปซื้อดอกไม้มาให้ทีละคนก็จะรู้สึกเขินๆหน่อย
อืม แต่ก็คงไม่เสียหายเท่าไหร่หรอกมั้งที่จะให้ดอกไม้ในวันจบการศึกษาของรุ่นพี่ที่สนิท..
“ ละของพี่ละครับน้องแดฮวี “
เสียงทุ่มต่ำทักขึ้นหลังจากที่แดฮวีเดินถือกุหลาบไปให้พี่มินฮยอนพี่รหัสของเขาที่โดนล้อมไปด้วยวงของน้องๆเฟรชชี่ แหม ลายนั้นหน่ะป็อบที่สุดแล้ว
แดฮวี เขาถูกทักด้วยเสียงที่คุ้นเคยเหมือนเดิม..
“ หมดแล้วอ่ะ “
ร่างสูงกว่าทำหน้ามุ่ย เชิงงอน ก่อนจะเดินไปหาน้องรหัสอย่างฮยองซอบที่ถือดอกไม้ช่อใหญ่เพื่อมอบให้เขา และก็ทำให้แดฮวี รู้สึกไม่ดีขึ้นมานิดๆเหมือนกัน..
แต่ช่างเถอะ..ก็ไม่ได้แคร์ไม่ได้รู้สึกอะไรกันอยู่แล้ว..
“ มึงทำเหมือนมึงงอนเขาอ่ะทั้งๆที่มึงออกห่างจากเขาเอง “
“ ซอนโฮมึงไม่เข้าใจกูหรอก “
“ เออๆกูเข้าใจมึง “
ทำไมถึงเป็นคนโลเลในความรู้สึกตัวเองนักนะ แดฮวีคิด
คนสูงกว่าอย่างยูซอนโฮเพื่อนสนิทได้แต่เงียบและไม่ได้ถามอะไรกลับไปเพราะคิดไว้เยอะแล้วว่า แดฮวีไม่มีทางทำในสิ่งที่เขาอยากให้ทำแน่นอน..แดฮวีหน่ะเป็นคนหัวดื้อ..
“ เลี้ยงส่งครับคืนนี้ ร้านเดิม “
เป็นเสียงพี่ประธานเซอุนพูดขึ้นและก็เรียกความสนใจให้คนรอบข้างเป็นอย่างดี แต่ทว่าทุกคนดูเข้าใจในคำพูดนั้นยกเว้น เขา แดฮวี..
“ เลี้ยงส่งใครวะ “
แดฮวีเอ่ยถามเพื่อนสนิทอย่างยูซอนโฮที่ยืนหยอกล้อกับพี่ซองอูพี่รหัสกับพวกเพื่อนๆเขาอยู่อีกฝั่งของโต๊ะม้าหินอ่อน แต่ทว่า ก็ไมได้รับความสนใจจากอีกฝ่ายเลย..
“ ฮะ อะไรนะมึงถามไรกูนะ “
ยูซอนโฮได้สติหลังจากเขาละการสนทนาจากพี่รหัสของเขาและหันมาหาแดฮวีทันที
“ ถามว่า เขาจะเลี้ยงส่งใครกัน “
“ อ๋อเลี้ยงส่งไอ่แพจินยองหน่ะ “ ยูซอนโฮไมได้เป็นคนตอบแต่คนเป็นพี่รหัสของเขาอย่างซองอูตอบแทนขึ้นมาเอง “มันจะไปเรียนต่ออเมริกา 3ปีมั้งเรียนต่อโทด้านบริหาร “
สิ้นเสียงของอีกฝ่าย ก็ทำให้แดฮวีเหมือนโลกหยุดหมุนไปชั่วขณะ เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองเมอไปนานเท่าไหร่แล้วแต่เสียงของซอนโฮก็เรียกสติให้กลับไป “ แดฮวี กูถามว่าไปไหม “
“ หืมมม คืนนี้อะนะ “
“ ใช่ กูไปรับ “
วันก่อนแดฮวียังวางแพลนจะชวนจินยอง ไปดูหนังเรื่อง Love Actually ในวันจบการศึกษาอยู่เลย ก็แค่คิดว่าเลิกเรียนจะรีบไปหา ปรากฏว่าการที่เขาจะเลี้ยงส่งกันไปทำงานเปลี่ยนเป็นการเลี้ยงส่งให้เขาไปในที่ๆไกลกว่าเดิมได้ยังไง ..
นั้นคงเป็นประโยคในไลน์สุดท้ายที่ได้คุยกันนั้นแหละมาตอบอีกทีก็คงลืมไปแล้วว่าคุยอะไรกันไปบ้าง …
เสียงไลน์ของแดฮวีดังขึ้นหลายครั้งจากเพื่อนสนิทจนเจ้าตัวต้องหยิบขึ้นมาดู เพราะสร้างความรบกวนในการนอนสำหรับเขามากอยู่ไม่น้อย ..
ไปซะหน่อยคงไม่เสียหายหรอก ..
ขณะนี้เป็นเวลาสองทุ่มตรงภายในร้านที่เต็มไปด้วยนักศึกษาสาขาการจัดการการตลาดที่ตอนนี้ได้เป็นคนคุมร้านเป็นที่เรียบร้อย..
แดฮวี ก้าวเข้ามาในร้านโดยมียูซอนโฮเป็นผู้นำ เขาเดินไปยังโต๊ะที่มีพวกพี่ๆได้นั่งอยู่ก่อนแล้วเสียงทักทายตามโต๊ะต่างๆดังขึ้น เรียกเสียงฮือฮาให้คนรอบโต๊ะได้เป็นอย่างดีก็ไม่แปลกหรอก คนอย่างแดฮวีอ่ะนะ จะยอมออกมาในสถานที่แบบนี้ได้..ถ้าเกิดมันไม่ใช่เรื่องสำคัญ
“ อ่าวมาด้วยหรอเราอ่ะ“
“ จินยองไม่อยู่นะ “ แดฮวีชะงักนิดนึงก่อนจะหันไปตามเสียงนั้น “ เดี๋ยวมันก็มา มันไปสูบบุหรี่หลังร้าน“
เพื่อนของแพจินยองและคนรอบตัวรู้หมดว่าแดฮวีกับจินยองกำลังคุยกันอยู่และก็ไม่มีใครก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวของพวกเราเลยมีแค่อาจจะแซวๆในกลุ่มเพื่อนที่สนิทเท่านั้นซึ่งก็หาไม่ได้ง่ายๆกับเพื่อนๆรุ่นพี่ๆในสาขาอื่น..
“ พี่มินฮยอน “
แดฮวีทักร่างสูงที่พอจบบทสนทนาเก่าก็ไม่มีใครทักท้างอะไรขึ้นมาจนมาถึงแดฮวี
“ ครับ “
เสียงทุ้มต่ำแล้วแหบในลำคอบวกกับฤทธิ์เบียร์ที่เริ่มจะออกฤทธิ์นิดหน่อย มินฮยอนพูดพร้อมยกแก้วในมือขึ้นมาดื่มตามไปอีกที..ละก็หันมาสนใจกับสิ่งที่อีกฝ่ายกำลังจะพูด
“ เมาแล้วปะเนี่ย “
“ ดูถูกวะ พี่หน่ะคอแข็ง “
“ อย่างอื่นก็แข็งบอกน้องไป “
“ มึงหยุดจังไรสักแปบน้องกูมีเรื่องจะคุย .. เออแดฮวีไปคุยหน้าร้านเปล่า ดูเรามีเรื่องสำคัญ“
ร่างพี่รหัสอบอุ่นประทับร่าง มินฮยอนไม่ว่าเขาจะเมามาหนักแค่ไหนแต่สำหรับน้องคนสนิทอย่างแดฮวีที่ไม่ว่าจะเรื่องเล็กหรือเรื่องใหญ่เขาก็พร้อมที่จะรับฟังเสมอ..
“ ไว้ก่อนนะครับผมลืมละ “
“ ไอ่จินยองมึงมาเลยเหลือให้กูดูดกี่ตัว มาๆแก้ตัวที่ช้าเอาไปเลยครับคนเดียว “
ร่างสูงในชุดเสื้อยืดขาวกับยีนส์ขาดเซอร์ๆกับผมที่เซตมานิดๆให้ดูเป็นทรงดูไม่เยอะแยะไม่มากจนเกินไปและคงเป็นเสน่ห์ของเขา จินยอง..
“ ดีครับแดฮวีมาด้วยหรอเรา วันนี้ไม่ให้ดอกไม้พี่นะ รู้ไหมพี่น้อยใจ.. “
“ โฮๆๆๆๆๆๆๆๆ “
เสียงโฮจากคนรอบข้างไม่ว่าจะรุ่นพี่รุ่นเพื่อนหรือรุ่นน้องก็ต่างพากันโฮเสียงดังจนทำให้เจ้าตัวอย่างแดฮวีต้องนั่งก้มหน้า เลื่อนๆโฟนดูเวลาไปมา..
เหมือนกับความรู้สึกได้หลุดลอยหายไปอีกครั้งเมื่อแดฮวีได้เงยหน้าขึ้นมาละสบตากับอีกคนที่ยืนถือแก้วเบียร์อยู่มุมโต๊ะอีกฝั่งสายตาที่ดูมีคำถามมากมาย แต่ไม่ได้พูดออกไปจนทำให้เขารู้สึกอึดอัด..
ตลกดีนะ ทั้งๆที่อยู่ด้วยกันแบบนี้แล้ว
ทำไมถึงไม่บอกไป
ทำไมถึงเงียบอยู่แบบนี้
ทำไมถึงไม่ทำตามหัวใจตัวเอง
ตั้งแต่เมื่อไรกันตั้งแต่เมื่อไหร่ที่ เป็นคนโลเลแบบนี้ แดฮวี
“ แดนกูขอบุหรี่อีกตัวดิ“
“ สัส ซื้อบ้าง “
ถึงจะบ่นแบบนั้นแล้วเขาก็ยอมที่จะให้ไป เพราะถือซะว่าวันนี้เป็นวันเลี้ยงส่งเจ้าตัวคงไม่อยากให้บรรยากาศมันแย่ไปกว่าการที่เขาต้องมาหวงของกัน คิดและก็ขำปีหนึ่งยันปีสี่ เขาก็ยังคงทำนิสัยเดิมๆอยู่ตลอด..แพจินยอง หน่ะ..
บทสนทานาหยุดแค่ตรงนั้นไม่มีการตอบอะไรกลับไปจากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งแดฮวีรอที่จะได้ตอบกลับไปแต่ ทว่า ห้วงความรู้สึกลึกๆได้นึกถึงคำพูดเหล่านั้นของตัวเองขึ้นมา..
หัวใจของแดฮวีหลังจากได้อ่านประโยคนั้นก็ไม่รู้ว่าต้องรู้สึกยังไงรู้ตัวอีกที ใจเขาก็เต้นไม่เป็นจังหวะแล้ว..
“ ไปไหนมึง “
“ พี่แพเรียก “
“ อ๋อๆเออๆไปเหอะ “
รอบโต๊ะไม่มีใครแซวและว่าอะไรแดฮวีเลยต่างหลีกทางให้และพากันสนใจแต่เบียร์ตรงหน้าและสารพัดเรื่องคุยกันตั้งปีหนึ่งยันวันสุดท้ายของการเป็นนักศึกษา..ละนั้นก็คงทำให้แดฮวีรู้สึกไม่อึดอัดที่ตัวเองจะขอแยกออกมาอย่างเงียบๆ
และในตอนที่ขาของเขากำลังก้าวลงมายังหลังร้านก็เป็นจังหวะเดียวที่เขาได้สบตากับเจ้าตัวที่ยืนรอเขาอยู่พอดีเขายืนสูบบุหรี่อยู่ตอนแรกแต่พอเห็นแดฮวีที่กำลังเดินมาก็ทิ้งลงพื้นพร้อมลงเหยียบมันทันที..
“ จำได้ว่าเคยบอกว่าไม่ชอบกลิ่นบุหรี่เดี๋ยวก็หายทนหน่อย “
“ ก็ไม่ถึงขนาดนั้น
“ ไม่ค่อยได้ยืนคุยกันแบบนี้เลยเนอะ“
แดฮวีชะงักกับประโยคของอีกฝ่ายก่อนจะประมวลผลเหตุการณ์ทั้งหมดอีกรอบ เขาจึงขอพูดออกไปบ้าง..
“ อืมนานมาก “
“ โกรธปะ “
“ มีไรต้องโกรธวะพี่ไม่ได้เป็นไรกันซักหน่อย “
“ แล้วไม่อยากเป็นหรอ “
ไม่รู้ว่าเป็นเพราะฤทธิ์ของเบียร์ที่กินไปหรือเปล่าที่ทำให้แพจินยองพูดออกมาแบบนั้น แต่ปฎิเสธไม่ได้หรอกว่าอีกฝ่ายรู้สึกดีแค่ไหน..
“ เมาแล้ว “
“ เหอะๆ “ จินยองแค่ขำในลำคอ ไม่พูดเปล่าเจ้าตัวก็ยกเบียร์ในแก้วขึ้นมาดื่มที่แดฮวีถือมาให้ จนหมดไปอีกแก้ว..
“ แดฮวี “
เสียงทุ้มต่ำและดูอ่อนโยนลงอาจจะเป็นเพราะอาการที่รู้สึกมึนๆอยู่ในหัวด้วย เขาพูดจบพร้อมหันไปจับตัวอีกฝ่ายที่ยืนนิ่งๆอยู่ข้างๆให้หันมาหาตัวเองทันทีจนได้ยินเสียงหัวใจที่กำลังเต้นผิดจังหวะของตัวเอง..ละเป็นอีกครั้งที่เขาสบตากัน..
“ เนี่ยพี่จะไปอยู่แล้วไม่มีอะไรจะบอกพี่หน่อยหรอ “
“ ฮะ “
แดฮวี เบิกตากว้างก่อนจะตั้งสติ พร้อมกับความสงสัยที่เกิดขึ้นในวินาทีนั้นเต็มไปหมด..
“ ตอบสิครับ “
แดฮวีเขารู้สึกแตกต่างไปจากเดิม ทั้งความรู้สึก และทุกๆอย่างในตอนนี้เหมือนมันกำลังกลับไปในจุดเริ่มต้นของความรู้สึกนั้นอีกครั้ง..
“ อืม.. “
“ แล้ว “ จินยองทักขึ้นหลังจากที่เห็นอีกฝ่ายกำลังลังเลที่จะพูดมัน
“ แดฮวีชอบพี่นะตั้งแต่ทักไปวันแรกอ่ะ “
“ รู้แล้ว “
จบบทสนทนานั้นก็เกิดความเงียบรอบๆบริเวณขึ้น ไม่รู้ว่าตอนไหน แต่เขาก็รู้สึกว่า มันเงียบขึ้นจนได้ยินเสียงหายใจและหัวใจที่เต้นแรงขึ้นเรื่อยๆอีกครั้ง
“ แล้ว..พักหลังๆทำไมไม่ตอบไลน์ผม “
แดฮวีตั้งสติได้อีกครั้งเขาถามคำถามที่เขาอยากรู้มานานออกไป แต่ก็ยังไม่ได้รับคำตอบในทันที ..
“ อืม มันมีเหตุผลบางอย่างหน่ะ แต่ก็ไม่ค่อยแน่ใจ “
ทำไมผมไม่มั่นใจในความรู้สึกของตัวเองเลย จินยองคิด
ค่ำคืนที่ร้านวันนี้ พวกเราสั่งอาหารเข้ามากินในร้านกันเยอะเพราะในร้านที่เต็มไปด้วยนักศึกษาของสาขาทั้งนั้นบวกกับหนาวที่พัดแรงอยู่ข้างนอก รู้สึกถึงอากาศหนาวได้ข้างนอก ทุกคนต่างมีความสุขที่ได้ไปเที่ยวและอยู่ใกล้ชิดกันแบบนี้ทุกคนแต่อย่างน้อยการเดินทางมาร่วมงานในครั้งนี้มันทำให้เขารู้สึกถึงความรู้สึกหลายๆอย่างและถ้านับต่อไปในอนาคตมันคงได้เป็นสถานที่แห่งความทรงจำที่ดี เท่านี้ก็เพียงพอแล้ว จริงๆ(หรอ)
“ แต่..พี่มีอะไรอยากบอกเราอย่างนึง “
“ ว่า “
เวลาล่วงเลยไป จินยองเอ่ยด้วยประโยคที่ค้างคาอยู่ภายในใจเช่นกันจนอีกฝ่าย ต้องหันกลับมาตั้งใจฟัง..
“ พี่ชอบเราเหมือนกัน“
ความรู้สึกมันแปลกประหลาดที่เกิดขึ้นในใจของแดฮวีสับสนและวุ่นวานในใจมากตั้งแต่วินาทีที่ได้ยินประโยคนั้นของจินยอง...
มันล่องลอยราวกับอยู่ในฝันฝันที่ไม่ใช่สิ่งที่เรียกว่า Dream come true แต่อย่างใดมันคล้ายกับความรู้สึกล่องลอยหลุดออกจากความเป็นจริงอย่างใดอย่างนั้นซะมากกว่า..
“ จริงๆนะแดฮวี “ สติของแดฮวีกลับมาอีกครั้งหลังจากได้ยินประโยคนั้นจินยองที่กระชับเขาอีกครั้งว่าสิ่งที่เขาพูดออกไปนั้นไม่ได้โกหก..
“ ครับ “
แดฮวี ไม่ได้อยากตอบห้วนๆไปแบบนั้นหรอก แต่ทว่าเขาไม่มีอะไรจะตอบมากกว่า..
แต่เขาก็ดึงสติตัวเองให้พูดกลับไปอีกประโยคและก็เหมือนบทสนทนาที่เริ่มจะมากขึ้นเพราะเขาคิดว่า ในเวลาแบบนี้แล้ว ควรจะพูดออกไปจริงๆสักที..
“ แล้วทำไมพี่ทำเหมือนไม่ชอบผมอ่ะ“
“ ก็บอกไปแล้วไงว่ามันมีเหตุผลของมัน แต่ไม่สามารถอธิบายออกมาได้จริงๆวะ “
“ เริ่มพูดไม่รู้เรื่องและเมาปะเนี่ย“
เวลาล้วงเลยไปไม่นานสติของแดฮวีก็ต้องหลุดหายไปอีกครั้งหลังจากที่เขาไม่ได้ทันได้ตั้งตัวก็โดนอีกฝ่ายคว้าคอเล็กๆให้หันไปรับริมฝีปากหนาๆของเขาและมันคงเป็นจูบที่อ่อนโยนที่สุด เพราะบริเวณรอบๆนั้นไม่มีใครผ่านไปผ่านมาเลยและมันคงทำให้แดฮวีไม่ได้ขัดขืนอะไรกลับไปเขายืนนิ่งๆรับความหวานของเขาที่ส่งมาให้เท่านั้น..
จินยองถอนจูบออกมาพร้อมกับเอ่ยประโยคที่ทำให้อีกคนหัวใจพองโตได้เลยขึ้นมา..
“ คบกันนะครับ “
แดฮวี เงียบไปสักพักก่อนจะรู้สึกถึงความเศร้าขึ้นมานิดนึง ทำไมประโยคนั้นมันควรเป็นประโยคที่ได้ยินในวันที่มีความสุขกว่านี้ทำไมต้องมาได้ยินในคืนอำลาเขาแบบนี้ละ..
เขายังไม่ได้ตอบตกลงอะไรกลับไปแค่ปล่อยให้ความเงียบเข้ามาปกคลุมไว้แทน..
“ อเมริกาไม่ไกลหรอก 3ปีเอง เราจบพอดี อาจจะมาช้าไปปีนึง จนกว่าจะถึงวันนั้นพี่หวังว่าเราจะยังเป็นคนที่ยังรู้สึกกับพี่เหมือนเดิมและวันนั้นพี่จะมาเอาคำตอบละกัน แต่ถ้าพร้อมก็บอกได้เลยนะ เราต้องเจอกันอีกในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรพี่อีกไม่กี่วันนี้ อย่าลืมดอกไม้นะ “
“ …. “
“ ที่สำคัญถึงวันนั้นจะไม่ทำแค่จูบแน่นอน “
“ …. “
“ เงียบทำไมอยากได้วันนี้เลยหรอ หรือจะเอาเลยดี อากาศกำลังเป็นใจ “
สิ้นเสียงของจินยองทั้งสองก็แค่นหัวเราะออกมาก่อนจะโอบกอดกันอีกครั้งมันคงเป็นกอดที่อบอุ่นที่สุดของแดฮวีเลยก็ว่าได้..
มีประโยคหนึ่งในหนังสือกล่าวไว้ว่า..
-
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in