เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
No Man's LandVanilla * twilight
Act of god
  •     


                ในเมืองมีเทศกาลฉลองให้อะเธลินดา


                คนที่นี่นับถือสตรีผู้มอบโอกาสที่สอง นางไม่ใช่เทวี เป็นเพียงคนธรรมดาที่กล้าป่าวร้องว่ามนุษย์ควรได้เลือก -- ต่างจากพวกคนแผ่นดินใหญ่ยึดติดกับชะตา เชื่อฝังหัวว่าอนาคตกำหนดไว้แล้วเมื่อแรกเกิดจะเปลี่ยนแปลงไปไม่ได้แม้กระเบียดเดียว ได้แต่ทำหน้าที่ของตนจนตายตกไป ไม่อาจตั้งคำถาม

               

               สุดท้ายแล้วหญิงสาวโดนป้ายสีว่าเป็นแม่มด วาระสุดท้ายแวดล้อมด้วยเสียงหัวเราะเย้ยหยันน้ำลายถ่มใส่หน้าจากคนผู้เป็นคนเท่ากันกับนาง นังคนบ้าริอ่านเป็นเทวี เอาตัวเองขึ้นเท่านักบวชและกษัตริย์ เลือดของอะเธลินดาไหลนองแผ่นดิน ชะล้างฝุ่นผงบังตาคนบางผู้ให้คิดได้ 


                พวกเขาลุกฮือขึ้นต่อสู้ แล้วดินแดนก็ถูกแบ่งออก หุบเขารกร้างด้านตะวันออกสถานที่ซึ่งเคยใช้กักขังผู้เลือกเส้นทางของตนเช่นอะเธลินดากลายเป็นดินแดนแห่งเจตจำนงเสรี พวกแผ่นดินใหญ่ยื้อสักพักแล้วก็ว่า ให้มันเอาไป ประเดี๋ยวพวกมันก็ตาย เห็นเป็นสถานที่อันแล้งไร้ไม่มีประโยชน์อันใด    


                คืนนี้สงบเงียบ บรรยากาศตึงเครียดเกินไปสำหรับงานฉลอง ชาว อาธา หนุ่มสาวไม่ได้ร้องเพลงเต้นรำยินดีกับวันแห่งอิสรภาพที่วนครบอีกหน ในมือของพวกเขาจับอาวุธแทนแก้วสุราสำหรับอวยพรให้ตนเอง คบเพลิงลุกแดงฉาน สว่างกว่าแสงจันทร์ข้างแรม  


                มีข่าวมาว่าพวกนั้นเพิ่งเปลี่ยนกษัตริย์ ทันทีที่เขาเถลิงมงกุฎก็ลั่นวาจาว่าดินแดนจะไม่ถูกแบ่งแยกโดยพวกนอกรีตอีกต่อไป  บอกว่าบิดาแก่ชราของตนนั้นขลาดเขลาประมาทยอมให้มันเหล่านั้นอยู่กันได้มาเป็นห้าหกสิบปี มีลูกหลานเป็นเสี้ยนหนามที่มือจะปัดไปโดนเมื่อไรก็ได้


                จะไม่มีใครต้องมีจุดจบเช่นอะเธลินดา พวกเขาต้องรักษาเสรีให้ตนเอง    

               



                ลีโอจูบเหรียญตราที่ห้อยคอ หวังว่าอะเธลินดาจะอวยพร


                มันร่วงลงกระทบอก พร้อมกับที่มือยกขึ้นง้างคันธนู สายธนูตึงเขม็งพอกับประสาททุกส่วน ปลายหางตาเหลือบเห็นผมเปียของทาซารีอาวูบไหว เขานึกถึงเสียงตอนมันประดับกระพรวนยามมีงานฉลองออก นางให้สัญญาณ บุ้ยใบ้ไปยังพวกทหารกลุ่มเล็กที่กำลังค่อยๆ เคลื่อนผ่านช่องหินผาใต้จุดที่กำลังซ่อนตัว รางวัลสำหรับวันนี้อาจเป็นอาวุธและเชลยที่ยอมปริปากสักคน

     

                ไม่ใช่ครั้งแรกที่พวกเขาดักปล้น เขาและทาซารีอาทำเรื่องแบบนี้มาตั้งแต่ย่างเข้าวัยรุ่น ทั้งยังชำนาญทางกว่า แทบจะรู้จักก้อนหินทุกก้อนที่เหยียบ  


                “ข้ารู้ว่าเจ้ากังวลลีโอ” ฝ่ายนั้นว่า ดวงตากลมโตเต็มไปด้วยแววโกรธเกลียด “แต่เพื่อแอมโบรส”


                ชายหนุ่มกักกลั้นความรู้สึกคลื่นเหียนที่ตีขึ้นท้นรวมกับความรู้สึกผิด กลิ่นคล้ายสนิมเหล็กยังติดจมูก ลีโอสบถ “ถ้าข้าจะตายก็ปล่อยให้เป็นศพไปตรงนั้น ถือว่าเป็นคำขอของข้า...ทางเลือกของข้า”      


                “เฮอะ” นางแค่นเสียง “ทาซารีอาคนนี้จะไม่ปล่อยให้เพื่อนไปตายอีกหรอกนะ”    


                สิบต่อสอง -- ทั้งคู่มีโอกาสชนะ ถ้าเพียงแต่ลีโอจะแม่นและเร็วพออย่างที่เคยเป็น ด้วยจุดซุ่มซ่อนที่พวกเขาอยู่...พวกนั้นจะไม่ทางรู้ว่าธนูที่ปักหลอดลมหรือตัดขั้วหัวใจมาทางไหนก่อนถึงที่ตาย ขอแค่เขาไม่พลาดอีก     


                ลีโอพยายามบังคับมือให้นิ่งเหมือนกิ่งไม้ไม่ยอมลู่ลม ปล่อยลูกธนูแหวกอากาศ ตรงเข้าหาเหยื่อ


                มันโดนเข้าที่สีข้างของม้า สัตว์สี่ขาสะบัดตัวส่งเสียงร้อง ทั้งเขาและทาซารีอารีบถอยตัวเข้าเงามืด ยังไม่ทันตัดสินใจว่าจะสู้ต่อหรือหนี


                นัยน์ตาสีเทาเหมือนเหล็กกล้าคู่หนึ่งตวัดมองขึ้นข้างบนสบเข้ากับเขาพอดี แล้วคนผู้นั้นก็แสยะยิ้ม


                 


Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in