เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
清木場俊介exholic
20141026 ครั้งแรกที่พบกัน : My Sounds
  • Rock&Soul 2014 - My Sounds 
    @愛知芸術劇場 大ホール Nagoya


    เป็นคอนเสิร์ตที่ตัดสินใจปุบปับที่สุดที่เคยไป จริงๆ แล้ว ตอนนั้นก็เพิ่งมาฟัง Kiyokiba Shunsuke แบบจริงจังไม่นาน แต่ชอบอัลบัมล่าสุด (ณ ตอนนั้น) มากๆ บาลานซ์ดีมาก ทั้งเพลงร๊อคและบัลลาด ทำออกมาแล้วฟังง่าย เสียงร้องดี เครื่องดนตรีก็ดี ทุกเสียงชัดเจน แต่ในเวลานั้นเป็นแค่แฟนที่ฟังเพลงอย่างเดียว ไม่รู้เรื่องอะไรของศิลปินเลย ไม่เคยสมัครแฟนคลับ ไม่รู้ตารางคอนเสิร์ตด้วย

    แล้ววันนึงก็เปิดเจอตารางทัวร์.......

    แต่ว่าการจองตั๋วรอบแฟนคลับจบไปแล้ว สมัครโมบายก็ไม่ได้ เพราะเข้าเวบได้โดยมือถือญี่ปุ่นเท่านั้น ก็เปิดดูเล่นๆ ดูไปเรื่อยๆ ไปเจอว่า Yahoo Ticket เปิดขายอยู่!  สมาชิค Yahoo Japan เราก็มี ..... แล้วก็มีรอบที่ติดกับวันเกิดเราด้วย ลองจองตั๋วเล่นๆ ดีกว่า ตอนแรกคิดว่าคงไม่ได้หรอกมั้ง ปกติซื้อบัตรคอนเสิร์ตญี่ปุ่นมันง่ายซะที่ไหน

    .............
    ........
    ....
    .

    กดติด

    ได้บัตร

    เฮ้ยยยยยยย?????



    เอ้า! ได้บัตร ก็ต้องไปดูสิคะ! 



    พอไปจ่ายค่าบัตรที่ 7/11 (ญี่ปุ่น) เสร็จ ก็รอไปปริ้นท์บัตรที่ 7/11 ตอนใกล้ๆ วันคอน

    จากนั้นก็หาตั๋วเครื่องบิน ซึ่งเวลากระชั้นชิดมาก
    ตอนนั้นจองบัตรคอน เดือน กย. 
    ต้องบินเดือน ตค.
    คือ..................... ฉุกละหุกไปมั้ยคะหนู

    แถมต้องไปNagoya แต่ไม่อยากซื้อ JR Pass เพราะเราไปจาก Kyoto ต้องซื้อแบบ Nationwide ซึ่งแพง และใช้ไปแค่เมืองเดียวด้วย ก็หาวิธีอื่นๆ ที่ถูกกว่า

    ..... ที่สำคัญ ดูคอนเสร็จก็ต้องบึ่งกลับ Kyoto ในวันนั้นด้วย

    เรื่องเยอะจริงๆ......



    ตอนแรกคิดว่าไป-กลับ บัสละกัน ง่ายๆ ......... คิดเอาเองว่าง่าย

    แต่ไหนๆ ก็จะไปเที่ยวแล้ว น้องเลยพ่วงไปด้วยอีกคน ก็เลยเปลี่ยนแผนจากไปเช้า เย็นกลับ (จาก Kyoto) เป็นค้าง 1 คืน วันแรกนั่งรถไฟฉึกฉักไป Gifu ก่อน แล้วนั่งรถไฟไป Nagoya ห่างกันแค่ 20 นาทีเอง ส่วนวันกลับก็ Shinkansen เพราะมีแค่ทางเลือกเดียว

    แพคกระเป๋าแบบเป้คนละใบ ดูเหมือนไม่ลำบาก แต่เอาจริงๆ คือเหนื่อยเลย บางทีก็อยากจะโทษว่าอากาศมันร้อน แต่จริงๆ คงเพราะแก่แล้วมากกว่า....... 



    คืนวันศุกร์ ณ ดอนเมือง มุ่งสู่สนามบิน Kansai
    อ่านมาเรียบร้อยแล้วว่าควรนอนสนามบิน เพราะเวลาที่ถึงนั่นก็เกือบเที่ยงคืนแล้ว รถไฟหมดแล้ว อีกอย่างก็อยากซื้อ ICOCA ด้วย ต้องรอ JR office เปิดตอนเช้า ก็นั่งๆ นอนๆ ใน Mc ไปครึ่งคืน แล้วเดินหาเก้าอี้นอน แต่จริงๆ ก็นอนไม่สบายหรอก หลับๆ ตื่นๆ พะวงกับกระเป๋าที่มีเงินมากมาย (เหรอออออออ?????) กลัวของหายนั่นนี่จนแทบไม่ได้นอน


    เช้าวันเสาร์
    ไปซื้อบัตร HARUKA & ICOCA แล้วนั่งรถไฟเข้า Kyoto นั่งรถเมล์ต่อไปถึงห้อง ความถึกของทริปนี้คือมาแบบแบกเป้เท่านั้น เพราะต้องมาเอากระเป๋าเดินทางที่ทิ้งไว้คราวก่อนกลับบ้าน กว่าจะไปถึงห้องก็แทบแย่ ทั้งง่วงและเหนื่อย จริงๆ อยากนอนมากกว่า แต่ต้องไป Gifu ตามที่แพลนไว้

    อาบน้ำแต่งตัว จัดเป้ใหม่สำหรับ 1 คืน แล้วมุ่งสู่ Gifu 
    ด้วยงบที่จำกัดก็เลยนั่งรถไฟแบบหวานเย็น เรื่อยๆ ไม่รีบ แต่จะหลับก็ไม่กล้าอีก เพราะต้องเปลี่ยนรถหลายรอบ .... ถ้าเป็นสมัย 10ปีก่อนที่ใช้ Seishun Kippu จะหวานเย็นแค่ไหนก็ไม่หวั่น แต่ตอนนี้เที่ยวเหมือนไม่ดูอายุตัวเอง ก็ต้องเหนื่อยอย่างนี้แล

    ไปถึง Gifu เลยเที่ยง มุ่งไป Gifu castle เพราะเล็งไว้แล้วว่าจะไปกินอาหารกลางวันที่ยอดเขา ....... ที่คิดว่าคงไม่เหนื่อยเพราะมีเคเบิ้ลขึ้นไป .....  แต่ที่ไม่รู้คือ พอออกจากเคเบิ้ลแล้วก็ต้องเดินขึ้นไปอีกไกล พร้อมพระอาทิตย์ที่ส่งความร้อนมาไม่แพ้เมืองไทย และเป้ที่อยู่บนหลัง อยากจะยอมแพ้ตั้งหลายรอบ เดินไปบ่นไป สุดท้ายก็ถึงร้านอาหาร!!

    จริงๆ อาหารก็ธรรมดานะ ข้าวหมูทอดราดมิโสะ แต่วิวสุดยอดมาก เห็นแม่น้ำทอดยาวและลมพัดแรงตลอดเวลา จะว่าคุ้มกับการเสียเวลาปีนขึ้นมามั้ย... ก็ใช่ มันก็ดี ... แต่คงไม่เอาอีกแล้ว

    แต่ ณ จุดนี้ มันยังแค่ร้านอาหารบนเขานะ ยังขึ้นไปไม่ถึง Gifu castle เลย!! กินเสร็จแล้ว มีแรงแล้ว ก็ต้องเดินต่อค่ะ! เดินไปบ่นไปอีกรอบ จนถึงปราสาท และเข้าไปดูข้างใน มันก็ดีนะ (อีกแล้ว) จริงๆ เราก็ไม่รู้สึกว่าต่างจากปราสาทอื่นเท่าไหร่ มีโชว์ของเก่า มีด ดาบ ชุดซามูไร งานถ้วยชาม 

    ถ้าเป็นคนชอบประวัติศาสตร์ก็น่าจะชอบที่นี่ เพราะเป็นปราสาทของ Oda Nobunaga ที่โด่งดัง

    เดินจนบ่ายแก่ๆ เย็นๆ ไม่รู้จะไปไหนแล้ว ก็ไป Nagoya เลยละกัน

    ถึง Nagoya เย็นๆ ไปเก็บของที่โรงแรม แล้วออกมากินปีกไก่ Yamachan 

    จบไป 1 ทริปวันเกิดที่แสนยาวนาน


    วันอาทิตย์
    วางแผนว่าจะเที่ยวแค่ครึ่งวัน แล้วจะรีบไปที่ฮอล เพราะขี้เห่อ

    ตอนเช้าไปกิน Kishimen  (ราเมงเส้นแบนของ Nagoya)  ในสถานี Nagoya แล้วก็ไป Toyota Museum จนถึงบ่าย จากนั้นไป Nagoya Castle ตอนแรกคิดว่าเดินรอบๆ ก็พอ อยากรีบไปฮอล

    แต่ตอนนั้นมีจัดงาน Nobunaga Hideyoshi Ieyasu ที่ยังไงก็อยากเข้าไปดู ไหนๆ ก็มาถึงนี่แล้ว จะเสียเวลาอีกสักหน่อยก็คงไม่เป็นไร เดินดูไปเรื่อยๆ จน 5 โมงกว่า คือไม่ได้แล้ว ต้องไปแล้ว!! เปิดแผนที่ คือนั่งรถไม่ไกลหรอก โอเคๆๆ แป๊บเดียวน่าจะถึง .... แต่นี่มันรถเมล์ และ ร ถ ติ ด
    คือถ้ารู้ทางคงลงเดินแล้วววววววว

    เลยได้แต่ดูนาฬิกาทุก 10วิ รถก็ยังติดแหงก ชะเง้อไปตลอดทาง จนถึง Sakae, Nagoya Tower โชคดีที่ฮอลอยู่หน้าป้ายรถเมล์เลย เลยรีบวิ่งไป และยังทันเวลาอยู่ คนเริ่มเข้าฮอลกันแล้ว ก็เดินตามๆ เค้าเข้าไป 


    ที่นั่งเราได้ชั้น 5 แถวหน้าสุดตรงกลาง คือที่นั่งก็ดีนะ เหมือนไกล แต่ก็ไม่มาก คือถ้าวัดความสูง มันก็ไกลแหละ แต่ถ้าวัดความห่างจากเวที มันก็ไม่เท่าไหร่ รวมกันแล้วก็เลยโอเค 

    ตื่นเต้นไปกับทุกสิ่ง ทั้งการคอล การดูแบบนิ่งๆ อย่างมากก็โบกมือ คนรอบข้างก็นั่งนิ่ง แต่กลุ่มที่อยู่ริมสุดดูเฮฮากันสุดๆ น่าจะรุ่น ม.ปลาย กันเอง  พอร้องเพลงร๊อคก็ยืนดู พอบัลลาดก็นั่งฟัง ไม่ได้มีใครบอกว่าต้องยืนหรือนั่ง แต่เหมือนว่าจังหวะมันพาไปเอง แต่คนนั่งตลอดก็มีเหมือนกัน แบบนั่งนิ่งๆ เหมือนไม่สนุก แต่จริงๆ เค้าอาจจะสนุกในแบบของเค้าอยู่ก็ได้ 

    และ

    เป็นคอนเสิร์ตที่ดูแล้วหลับ

    เสียใจมากกกกกกกกก 


    แต่โดยรวมแล้วก็ดีนะ เป็นความรู้สึกใหม่ๆ ประสบการณ์ใหม่กับการมาคอนเสิร์ตเล็กๆ แบบไม่ต้องมีธงหรือเพนไลท์  เวทีหน้าตัดแบบธรรมดา มีเล่นไฟนิดหน่อยไม่วูบวาบ ร้องจบเพลงแล้วคนดูตบมือให้ทุกเพลง ไม่มีการกรี๊ดหรือตะโกนเรียก ยกเว้นช่วง MC ที่ชุนคุยด้วย เป็น MC ที่เป็นกันเอง มีการขอบคุณทั่วๆไปตามแพทเทิร์น จากนั้นก็เม้ามอย เผาเรื่องตลกของผู้จัดการ ตะโกนคุยกับคนดู ทุกอย่างดูเป็นกันเองและเข้าถึงง่าย  

    เป็นการพบกันครั้งแรก อยู่ห่างๆ อย่างห่วงๆ จะบอกว่ามาคอนเสิร์ตร๊อคครั้งแรกในชีวิตก็ได้ ไม่รู้จะทำตัวยังไง แต่ก็ดีที่แฟนๆ ไม่ฮาร์ดคอร์มาก คิดว่ามันดี และอยากมาอีก เป็นสไตล์ที่ตอบโจทย์ความรู้สึกเรามาก 


    และได้รู้ว่า.. ครั้งหน้าไม่ควรจัดทริปที่แน่นเหนื่อยขนาดนี้อีกแล้ว



    3・2・1 ROCK 最高!!!!!!



Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in