เป็นหนังที่ดูจบแล้วต้องหยิบมารีวิวเลย เพราะประทับใจมาก
แน่นอนว่าประทับใจตั้งแต่คาร์แรคเตอร์ดีไซน์ของตัวละคร โดยเฉพาะพระเอก
แล้วไอเราก็ชอบครต.ผู้ชายไทป์นี้อยู่แล้ว หล่อ เก่ง ติ๊งต๊อง ขี้เก๊ก หลงตัวเอง #ใช่ค่ะ ชั้นบ้าผู้ชาย2D
โอเค เริ่ม
เรื่องนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับนางเอกที่ชื่อ Snow White แน่นอนว่ามีสโนวไวท์ก็ต้องมีแม่เลี้ยงใจร้าย aka แม่มด กระจกวิเศษตามสเต็ป แต่ Red Shoes and the Seven Dwarfs แตกต่างกับสโนวไวท์ต้นฉบับตรงที่ สโนวไวท์ไม่ได้สวยเช้งเเต่แรก เป็นสาวอวบแกร่ง ชีออกตามหาพ่อที่หายตัวไป บังเอิญได้เข้าไปในกระท่อมคนแคระ (มุขเดิมแหละ) ซึ่ง7คนแคระแต่เดิมเป็นกลุ่มแก๊ง boy band-- เอ๊ย แก๊งฮีโร่หนุ่มหล่อฉายา 'The Fearless Seven' ที่โดนสาป แล้วทางเดียวที่จะถอนคำสาปได้ก็คือต้องได้รับจุมพิตจากเจ้าหญิงที่สวยที่สุดในโลก
และใช่ค่ะ นางเอกได้บังเอิญไปใส่รองเท้าเวทมนตร์ที่ทำให้สวยเช้ง กลายเป็นหญิงงามที่ใครเห็นเป็นต้องตกตะลึง อ้าปากค้าง
เนื่องจากเซตติ้งในหนังเป็น The Fairy Tale Island ซึ่งก็คือ ดินแดนเวทมนต์ที่มีเจ้าหญิง เจ้าชาย แม่มดและมังกร ในหนังเลยมีการใส่มุขล้อเลียนพวกเทพนิยายต่างๆ เช่น เจ้าหญิงนิทรา เจ้าหญิงเงือก ราพันเซล ซินเดอเรลล่า เจ้าชายกบ ฯลฯ เข้าไปด้วย
นางเอกน่ารักมาก ตอนใส่รองเท้าก็สวยมากๆ สวยทุกอิริยาบถ แค่มองหน้าก็อิ่มใจแล้ว *ตาลอย* และนอกจากพระเอกที่หล่อเตะตา หน้าอปป้าเกาหลีแล้ว คนอื่นในแก๊งที่เราชอบก็มีไอหนุ่มสำอางค์หัวทอง (Jack) กับสามแฝดที่ไม่เคยเปิดหน้าเปิดตาแต่ชอบความพวกเรามันสุดเจ๋ง ต้องให้ความมั่นอะ555555 ชอบคสพ.แก๊งบอยแบนด์ที่เป็นเพื่อนกันนะ แต่ก็เหมือนพร้อมตีกันได้ตลอดเวลา แล้วแม่มดนี่หน้าตาคล้ายแม่เลี้ยงตัวร้ายใน Tangled มาก555555 ละที่ตลกอีกคือ เซตติ้งเทพนิยายยุโรปนะ แต่พระเอกใส่ชุดเหมือนจีนโบราณ ใช้พลังแบบขว้างยันต์เอา เห็นแล้วถึงกับต้องยกมืออ้อมหลังมาเกาหัว 555555
เราชอบจังหวะฮาที่หนังใส่เข้ามาด้วย แก๊งพระเอกที่ถูกเรียกว่าฮีโร่ แต่แต่ละคนโคตรติ๊งต๊อง เหมือนศูนย์รวมคนเสพกาว พระเอกชื่อเมอร์ลิน หลงตัวเองจนโคตรตลก เห็นหน้านางเอกละหลงเสน่ห์ความสวยจนเพ้อ ตาลอย 5555555555555 แต่มันหล่อมาก โคตรหล่อ บ้าไปแล้ว
หลังจากตรงนี้
สิ่งที่ชอบในหนังก็คือ ชอบประเด็นที่หนังเล่นมาก he likes you more than he likes me ทั้งที่ both you and me are the same person
หนังใส่ประเด็นเสียดสีสังคมเข้าไปได้ดีมากที่คนเรามักตัดสินคนอื่นจาก appearance เหมือนที่เหล่าคนแคระตัดสินคนๆหนึ่งที่ไปช่วยว่าเป็นแม่มด แค่เพราะเธอหน้าตาไม่สวยไม่สมเป็นเจ้าหญิง จึงเป็นเหตุให้โดนสาป
ซีนดราม่าที่ใส่ก็ทำได้ดี ขยี้ปมในเรื่องซ้ำๆ จนถึงจุดพีค(มั้ง)ทำเราน้ำตาซึมเลย i like you just as you are. Whatever eyes opened or closed, you still you. โอ้ยย ชอบ ฉากจบก็ชอบ อันที่จริงไม่ว่าจะจบแบบไหนเราว่าสุดท้าย appearance's not important อยู่ดี เป็นหนังที่ดูเพลินตลอดเรื่องเลย
อีกนิดนึง ไอประเด็นทั้งนางเอกและ(แก๊ง)พระเอกก็ under the same curses ทั้งคู่ (ถึงจะคนละแบบอะนะ) แต่พอมองดีๆแล้วในขณะที่คนนึงอยากทำลาย อีกคนกลับ never want to break ในหนังก็นำเสนอออกมาได้แบบ เหยียบขยี้จนหลังแอ่นไปหมด โคตรอยากร้องไห้แทนนางเอกเลย
####### เขตปลอดSPOILแล้ว #######
พล็อตหนังไม่ได้ว้าวขนาดนั้น แต่เป็น1ชั่วโมงกว่าที่สนุกครบรสมาก ภาพสวย เพลงก็เพราะ ฉากบิ้วอารมณ์ก็ทำได้ดี เป็นหนัง1ชั่วโมงที่จะว่ายาวก็ยาว จะว่าสั้นก็สั้น รู้ตัวอีกทีอ่าว จบแล้วเรอะ
พูดถึงเพลงแล้ว อยากบอกว่า ชอบเพลง Something So Beautiful - Yongzoo ในเรื่องมาก ชอบEnglish ver. นะเพราะฟังเกาหลีไม่ออก5555 ตอนเพลงขึ้นครั้งแรกคือสะดุดหูเลย มีความหวานๆฟุ้งๆแบบเทพนิยาย ดูหนังจบแล้วต้องไปหาฟังเพิ่ม เพลงตอน End credit ก็เพราะ ให้ฟีลลิ่งคล้ายเพลงในบาร์บี้
เอาจริงอยากให้มีภาคต่อมาก อยากรู้เรื่องราวของเพื่อนพระเอกแต่ละคนต่อ แต่ก็คิดว่าภาคนี้จบสมบูรณ์ในตัวมันเองดีแล้ว สรุปอยากให้ทุกคนได้ไปดูกัน หนังยังไม่เข้าไทย (ม่ายย) ใครที่ดูเถื่อนก็อย่าหาดูซับไทยเลย เตือนแล้วนะ ไปดูแบบ no sub หรือ sub eng แทนเถอะ
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in