Couchsurfing เป็นแอพพลิเคชันที่เราเพิ่งเริ่มเป็นสมาชิกได้ประมาณ 3 อาทิตย์ ที่เล่นเพราะว่ามันน่าสนใจอ่ะ การทำงานของแอพนี้คือตรงตามชื่อเลย *ให้ที่อยู่กับนักท่องเที่ยว เป็นเจ้าบ้านนั่นเองจ้า* แต่จริงๆแล้วมันมีมากกว่านั้นนะถ้าเราไม่อยากเป็นโฮสหรือไม่อยากให้ใครมาโฮสเราก็สามารถ meeting new people, go grab some food, hang out, explore area, go party บลาๆๆ แล้วแต่สะดวกเลยฮะ
ครั้งแรกเราเลือก meeting ก่อนจ้า วันดีคืนดีมีผู้เยอรมันส่งข้อความมาชวนไปเอเชียทีค เราก็โอเคๆไปๆ ตอนแรกคิดว่ามีไปกันแค่ 2 คนแต่จริงๆแล้วไม่จ้าา นางไปชวนคนฮ่องกง อินโด มาเล มาด้วย ซึ่งนั่นเป็นครั้งแรกเลยที่เราไป hangout กับคนที่ไม่เคยรู้จักเป็นกลุ่มใหญ่ขนาดนี้ สนุกดีนะคุยกันไปเรื่อยๆ นี้บอกเลยว่า i live in Bangkok มาตั้งแต่เด็กแต่ก็ยังรู้ไม่หมดทุกอย่างหรอกจ้ะ
ครั้งที่ 2 เราตัดสินใจเป็นโฮสจ้าคือตอนนั้นมีผู้ชายจากลอนดอนส่งข้อความมาหาว่าจะเป็นไปได้ไหมที่จะมาค้างที่ห้อง 2 คืนอีเราก็ตอบรับไปเลยจ้าหลังจากอ่านประวัติเค้า อายุราวๆ 28 นางเขียนว่านางมี reference เยอะนะแต่มันอยู่ที่บัญชีเก่า ชั้นก็ไม่คิดไรมากบอกเลยว่าแค่อยากลอง ซึ่งเป็นการตัดสินใจที่ผิดมหันต์!!! เราจะ listed เหตุการณ์ให้ฟังตามลำดับ
- first impression คือไม่ตรงกับรูปในโปรไฟล์เลย แต่พอให้อภัยได้แล้วนางก็ไม่ได้อายุ 28 ด้วยจ้ะ
- เราก็พาเข้ามาที่ห้องแล้วบอกว่าต้องนอนกับพื้นนะแต่ชั้นมีหมอนผ้าห่มอะไรให้พร้อม นางตอบ that's alright thanks
- ก็พาไปกินข้าวกันแถวที่พักเรา จากนั้นก็กลับห้องจัดแจงเรื่องกระเป๋าเค้า เพราะนางมีสัมภาระ 3 ใบ
- เรานั่งคุยกันเรื่องที่เที่ยวในประเทศ นางก็เล่าว่าเคยไปอยู่ประเทศไหนมาแล้วบ้าง เพลินดี ค่อนข้าง nice เลยแหละ
- แยกย้ายกันนอน
- รุ่งเช้าเราปลุกเค้าแต่เช้าเพราะ i had to catch the rain for go to work. เอาเป็นว่าเราแยกกันที่สถานีรถไฟรามคำแหง
เอาจริงๆตอนนั้นเราค่อนข้างประทับใจเค้านะ พูดจาดี มีมารยาท ไม่ล่วงเกินอะไรเลย ก่อนจากกันเค้าบอว่าเค้าอยากเจอเราอีก เอาไว้เจอกันนะประมาณวันพฤหัส เราก็โอเค let's meet next time.
ประมาณช่วงสายๆนางส่งข้อความมาหาเราอีกว่า ''ทำแหวนหายเว้ย หาไม่เจอ อาจจะอยู่ในห้องของเรา ช่วยหาให้หน่อยได้ไหม'' เริ่มแปลกแล้วถูกมะ แต่เราก็ไม่ได้คิดอะไรอะก็หาให้นาง สรุปไม่เจอแหวนแต่เจอน้ำหอมแทน ก็เลยพิมพ์ตอบกลับไปว่า ''ไม่เจอแหวนเจอแต่โคโรนน่ะ'' นางตอบกลับมา ''เจอแหวนแล้วอยู่ในกระเป๋า แต่ก็ยังอยากได้อีโคโรนคืน มาเจอกันนะวันพฤหัส"
"OKAYY"
แล้วเค้าก็โทมาหาเราเช้าวันพฤหัสเพื่อนัดสถานที่สรุปคือเราจะไปคาเฟ่กันแแถวหัวลำโพง ตอนบ่าย 3 โมง โอเคตามนี้เนาะ เอ้อออ เดี๋ยวก่อนหน้านี้เค้าส่งข้อความมาว่าเจอกันที่ห้องได้ไหม เค้าจะเอาสมุนไพรกับชามาให้แต่เราตอบกลับไปว่า ไม่จ้า ไม่สะดวกจีๆ
15.00 pm ดิชั้นก็มารอเค้าที่ใต้ดินหัวลำโพง สักแพรบนางก็เดินมา สถานการณ์ยังคงดำเนินต่อไปด้วยความปกติสุข พวกเราก็ทักทายกัน คุยไปเดินไป จนเรารู้สึกแปลกกับท่าทีของเค้า ยกตัวอย่างเช่น
- เหงื่อแตกเยอะมาก ก็อาจจะเป็นเพราะแดดร้อนเนาะ อ่ะๆชั่งมัน พอรับได้
- สักพักเริ่มหยุดตามทาง ถ่ายรูป นู้น นี่ นั่น บนถนนแถวเยาวราช เอ้อก็ปกติเนาะชาวต่างชาติก็ต้องชอบอะไรพวกนี้อยู่แล้ว
- เดินไปเรื่อยๆเราเริ่มได้ยินเสียงนางพูดซึ่งคือนางไม่ได้พูดกับฉันนะเว้ย นางบอกฉันว่าอันนี้เป็นภาษาอังกฤษสำเนียงฟิลิปปิน ไอ้เราก็เอ้ออาจจะเป็นมุขอะไรงี้ป่าว ซึ่งตรูไม่ตลกเลยจ้ะ
ในที่สุดก็เดินมาถึงคาเฟ่แล้วความผิดปกติมันก็เกิดขึ้นที่นี้แบบเราไม่ทันตั้งตัวเลยเว้ย ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมากประมาณ 20 นาที เริ่มคะ
- อยู่ๆเค้าพูดว่า i wanted a bottle of water โอเคเราก็เดินไปบอกพนักงานให้แต่นางไม่พอใจแก้ว แล้วบอกเราว่า "เดี๋ยวมานะไปซื้อน้ำเปล่าก่อน"
- พอซื้อน้ำเสร็จกลับมาบอกเราว่า "ไอมือถือหาย" ชั้นก็โอเคเดี๋ยวลองโทเรียกให้ สรุปปป อยู่ในกระเป๋า โอ้ยผีมากก เริ่มวุ่นวายละนะ(คิดในใจ)
- "ไปสั่งกาแฟกันเถอะ'' เราพูด แต่ในขณะเดียวกันนางยังหงุดหงิดอะไรสักอย่าง อยู่ดีๆก็เดินไปถ่ายรูปแขกในร้านเกือบทุกคนเลย พร้อมกันพูดว่า '' fuck off. it's weird why everybody have to take a pictures of coffee. นี่ก็แบบอึ้งอะ ชาสัส คือเค้าเป็นอะไรอ่ะ เกิดอะไรขึ้นกับเค้า เรางงในงง
- เสร็จแล้วเค้าเดินออกไปจากร้าน ทิ้งเรานั่งอยู่ แล้วโทมาบอกว่า "จะเอาโคโรนคืน ออกมาหาเค้า"
- เราก็โอเคกูจะเดินออกไปด่ามึง แต่ก่อนจะเดินออกไปหน้าร้านเราโดนพี่เจ้าของร้านด่าว่า "เพื่อนน้องโคตรหยาบคายเลย พี่จะแจ้งตำรวจแล้วเราจะติดไปด้วยนะ บอกไว้ก่อน" เรานี่แบบ เชี่ยไรวะ ยังคง งงในงง ซวยในซวย
- เราไม่ได้พูดอะไรมาก เดินออกมาหน้าร้านเจอนางยืนอยู่เราบอกว่า " เห้ยคุณกิริยาที่ทำเมื่อกี้มัน totally bad เลยนะ เป็นอะไรหรอ? " นางตอบกลับว่า i don't care what they say i need my spray please"
- เราหยิบของคืนให้นางแล้วพูดว่า "พอเลย จบไม่ไปไหนต่อละ แยกย้าย" เค้าถามว่า "เดินกลับถูกหรอ"
เห้ยตรูเป็นคนนำทางมึงมานะเว้ยยย
อย่างที่บอกเหตุการณ์มันเกิดขึ้นเร็วมาก ถามว่ามันแย่ขนาดไหน เอิ่มม มันไม่ถึงกับโคตรแย่แต่เรา curious เราอยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเค้า ทำไมต่างจากคนที่เราเจอวันนั้นเลย ดูดกัญชามาหรอวะ ? เมาปะวะ ? หรือเค้ากลัวเวลาเจอคนเยอะๆ ? คือคำถามมันเยอะมากในหัว
แต่ในที่สุดเราพยายามตั้งสติ keep my shit together and moving on เราโทรไประบายให้เพื่อนสนิทฟังมันก็บอกว่าดีแล้วที่มึงปลอดภัย เออจริง เราปลอดภัย
จากวันนั้นจนถึงวันนี้
เค้าส่งข้อความมาบอกว่า it was good to see you แต่เราไม่ได้ตอบกลับ I am done
อีกสิ่งหนึ่งที่เรารู้สึกก็คือเราดีใจนะที่ครั้งหนึ่งเคยช่วยเค้า ไม่ว่าจะเคยเกิดอะไรขึ้นเราว่าเราให้อภัยวะ ทั้งตัวเค้าแล้วก็ตัวเราเอง โดยเฉพาะกับตัวเองที่เคยโทษตัวเองว่าทำไมไว้ใจคนแปลกหน้าง่ายแบบนี้ มึงคิดอะไรอยู่คะ เอาเป็นว่ามันคือประสบการณ์แปลกๆที่เราเคยเจอ แล้วต่อจากนี้ก็ใช้เหตุผล ข้อมูล คิดดีๆ อย่าใช้แต่อารมณ์ ความรู้สึก เพราะบางทีมันไม่เวิคเอาซะเลย
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in