เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
MIJO's CU life !Ye Eun
Arts CU 1/1 Reviewed / รีวิววิชาปี 1 เทอม 1 อักษร จุฬาฯ by mijo
  • รีวิววิชา / การเรียนอักษรฯ จุฬาฯ ปี 1 เทอม 1

    ฉบับนางบ้ากิจกรรม ไม่เด่นไม่ดัง จะไม่หันหลังกลับไป

    สวัสดีค่ะทุกคน !!! 

    ก่อนที่จะเริ่มบทความรีวิว เราอยากจะขอแนะนำตัวสักนิด ! เราเป็นนิสิตอักษรศาสตร์ จุฬาฯ ภาคไทย รุ่นที่ 90 สอบเข้าในปี 2565 เลยเรียกได้ว่าเป็นนิสิตรหัส 65 แบบปัง ๆ (สอบ gat และ 9 สามัญปีสุดท้าย แนะนำเรื่องสอบไม่ได้ละ555) มาจากศิลป์ภาษาเกาหลี มีแพลนจะเข้าเอกละคร สำหรับใครที่มาอ่านเพราะอยากรู้เรื่องราวเกี่ยวกับวิชาบังคับ หรือกำลังตัดสินใจว่าจะเข้าอักษรดีไหม ? ถ้าเข้ามาเรียน จะเรียนจะไหวไหม? บทความรีวิวของเรามีคำตอบให้คุณอย่างแน่นอน !

    แต่ก่อนอื่น เราต้องขอ Disclamer ก่อนเลยว่าสิ่งที่ทุกคนกำลังจะได้อ่านต่อไปนี้เป็นเพียงความคิดเห็นของเราเพียงคนเดียวเท่านั้น ! เพราะ เพื่อน ๆ ทุกคนในคณะเจออาจารย์ กลุ่มเพื่อนในเซค กิจกรรมในห้องเรียนต่างกัน ทุกคนจึงไม่มีทางรู้สึกเหมือนเรา 100% อย่างแน่นอน บางสิ่งที่เรา happy เพื่อน ๆ อาจจะ suffer และสิ่งที่เรา suffer เพื่อน ๆ ก็อาจจะ happy ก็ได้ 55555 อย่าลืมใช้วิจารณญาณในการอ่านนะะะะะ


    “เพราะตัดเอ 85 อาจารย์เลยให้เรามา 84”

    พูดได้ว่า การเรียนมหาวิทยาลัยนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายฉันใด เราเลยเริ่มปลงไปเรื่อย ๆ ฉันนั้น คำพูดนี้คือเรื่องจริง ตอนแรกที่เคยคิดว่า แหมมมมมม พี่ ๆ มหาลัย ทำเป็นเหนื่อย โหโห เรียนก็น้อยวิชา จะเหนื่อยอะไร๊ ตอนนี้ขอถอนคำพูด เพราะเข้าใจอย่างแจ่มแจ้ง 5555555555555 โดยรวมแล้ว ก็ถือว่า culture shock พอสมควรในเรื่องการเรียน เพราะมันเหนื่อยและหนักกว่าตอนม.ปลายสุด ๆ  และเด็กอักษรฯ เกือบทุกคน (ตัดใครออกไป รู้กันอยู่5555) ตั้งใจเรียนกันมาก ทำให้เรารู้สึกว่าต้องขยันไปด้วย ในช่วงสอบก็คือ ห้องสรรพไม่เคยว่าง หอกลางไม่เคยไร้ผู้คน (ห้องสมุดอักษร / หอสมุดจุฬา ** ถึงส่วนมากเราจะเข้าไปนอนกันก็เถอะนะ5555555) แต่เอาจริง ๆ ที่มันเป็นอย่างนั้นเป็นเพราะว่า วิชาของอักษรฯ ต้องใช้ “สกิล + ความจำ” ควบคู่กันไป เด็กอักษรฯ เราเลยต้องอ่านและฝึกปรือล่วงหน้ากันเป็นอาทิตย์ คณะอื่นมองมาก็คงคิดว่า โหหห อ่านหนักเว่อ แต่ไม่ใช่ไร พวกกูกลัวอ่านไม่ทันจ่ะพี่ 5555555555555555

    มาในส่วนของวิชาต่าง ๆ กันบ้าง

    เทอมนี้ผู้เขียนลงไปทั้งหมด 8 ตัว 22 นก.

    (เรียนเต็มหน่วยกิต วิชาหลากหลายมากจนงง เพื่อนได้ยินก็ยังงง เรียนเยอะมาก แต่ไม่ได้เรื่องสักวิชา 555555555555)


    1.    2201111 Use thai lang (การใช้ภาษาไทย) ✏️ (66 ไม่น่าได้เรียนแล้วคับ)

    หน่วยกิต : 3

    Sec 5 / อ.ดร.เทพี

    เกรดที่คาดหวัง : B+ / เกรดที่ได้ : B+

    ภาพรวมของวิชา : 8.5/10

    ความรักที่มีต่ออาจารย์ : 8/10

    ความยากของข้อสอบ : 8/10

    ขอเริ่มต้นด้วยวิชาบังคับที่ชาวอักษรฯ ทุกคนต้องได้พบได้เจอ นั่นก็คือวิชา การใช้ภาษาไทย นั่นเอง

    ภาษาไทยตอนมัธยมสำหรับเราว่ายากแล้ว อันนี้ยากกว่ามากกกก เป็นวิชาที่นิสิตปี 1 ส่วนใหญ่พูดออกมาเป็นเสียงเดียวกันว่า “วิชาบุญเก่า” และใช่จ้า มันเป็นแบบนั้นจริง ๆ 5555555555 ใครที่เป็นคนชอบอ่าน ชอบเขียน ชอบวิเคราะห์ วิชานี้เหมาะมาก เพราะจะสอนให้เราใช้ภาษาไทยได้อย่างเป็นระบบระเบียบมากขึ้น และมากกว่าความรู้และทักษะที่ได้ เรายังได้วิธีการใช้ภาษาใหม่ ๆ ได้วิธีการจดบันทึก เทคนิคการพูด ที่สามารถเอาไปใช้ได้จริงในชีวิตประจำวัน ถึงข้อสอบจะยากและ intense มากพอสมควร แต่ทักษะที่ได้นี่แหละของจริง

    เนื้อหาคร่าว ๆ : 

    • การใช้ภาษาเพื่อการสื่อสาร (ใช้ภาษายังไงให้ถูกต้อง เปิดโลกมากกกก พึ่งรู้ว่าใช้คำหลายคำ ไวยากรณ์หลายตัวผิดมาตลอด คำว่า “โดย” “ซึ่ง” “ถูก” ที่เคยใช้แบบพร่ำเพรื่อ ตอนนี้โดนแก้เรียบร้อย ไม่กล้าใช้อีก เปลี่ยนเราให้เป็นตำรวจแกรมม่า5555555555555)
    • การเขียนย่อความ (ย่อบทความ 4 หน้า ให้เหลือ 10 บรรทัด ภารกิจสุดท้าทาย)
    • การอ่านตีความ / อ่านเรื่องสั้น / อ่านร้อยกรอง (ได้อ่านเรื่องสั้นที่อาจารย์จัดมาให้ สนุกดีฮะ🤡 )
    • การพูดในที่ประชุมชน (อันนี้สนุกกก ได้ฟังเรื่องของเพื่อน แล้วเราก็ได้เล่าให้เพื่อนฟัง ของปีเราจับเวลาให้พูด 3-4 นาที เรื่อง “ความทรงจำที่สร้างเรา” เรื่องของแต่ละคนคือดีมาก บางคนก็มาแนวตลก บางคนก็โคตรซึ้ง)

    การเรียนการสอน  : 

    เรียนรวมที่ห้อง 303 (ห้องบรรทมรวม) เพื่อเรียนเนื้อหา แล้วแยกไปทำแบบฝึกหัดกันต่อในเซค มีอาจารย์ผลัดกันมาสอน มีเชิญวิทยากรมาด้วยบ้างครั้ง (อาจารย์ที่มาสอนเรื่องการพูด สอนสนุกมากกกกก) อาจารย์ประจำเซคเราก็น่ารัก ถึงจะ low-tech ไปบ้าง เฉลยแบบฝึกหัดด้วยปากเปล่า จนทำให้บางทีสติหลุด ตามไม่ทัน แต่รู้สึกได้ถึงความตั้งใจและความเป็นปรมาจารย์ภาษาไทยของอาจารย์เสมอ แต่เอาจริง มีสิ่งนึงที่อยากบ่นมาก ๆ ก็คือ ห้องเรียนรวมเวลาเดินเข้าไปนั่งที่ก็คือ ยากมากกกกก เวลามาสาย แทบก้มลงกราบเพื่อน ๆ ขอทางหน่อยค่า ทางแคบมาก เก้าอี้ก็ปวดหลัง เห้อ ๆ ขอร้องล่ะพี่

    สรุป :

    วิชาเปิดโลกการใช้ภาษาไทย ได้เทคนิคดีดี แต่ข้อสอบยากอยู่เจ๊ ใครเก่งภาษาไทยอยู่แล้วก็ค่อนข้าง ชิ๊ว


    2.      2202111 English I  (ภาษาอังกฤษ 1) 🔤🖍 

    หน่วยกิต : 3

    Sec 9 / Andrew John Lobb

    เกรดที่คาดหวัง : C / เกรดที่ได้ : C

    ภาพรวมของวิชา : 9/10

    ความรักที่มีต่ออาจารย์ : 10/10 (💖)

    ความยากของข้อสอบ : 9.5/10

    วิชาปราบเซียน ทุกทักษะ ทุกศัพท์ ทุกแกรมม่าที่เคยเรียนมาโดนขุดมาใช้ วิชาที่ใครได้ A คือเทพ พี่ได้ไอเอ้ลเท่าไหร่หรอคะ และนั่นก็คือวิชาที่ทุกคนเรียกว่า อิ้งวัน จ้าาาา ภาษาไทยผ่านไปแล้ว มาถึงตาพี่อังกฤษบ้าง ยากที่แปลว่า ยากจิง อาจารย์บางเซคคือเตือนตั้งแต่คาบแรกว่า ได้ C คือไม่แปลก5555555555555 ต้องเสียน้ำตาให้เธอเท่าไหร่ เธอถึงจะพอใจ แต่เอาจริง ๆ กลับกันกับความยาก มันก็สนุกมาก ๆ จนงง เช่นเดียวกัน แต่สำหรับเราคิดว่า อาจจะเป็นเพราะ แอนดรู๊ว (ครูของเซคเรา) ด้วย ที่สอนเก่งมาก ๆ แอนดรู๊วทำเรื่องยากให้เป็นเรื่องง่าย (เพื่อไปสอบข้อสอบที่ยากอีกทีนึง) writing reading ที่เคยทำแบบ ยากก็ถูกย่อยออกมาให้เข้าใจได้ง่ายกว่าเดิม จนงงว่า เออ ตอนมัธยมเราเรียนยาก ๆ แบบนั้นไปทำไมกันนะ

    เนื้อหาคร่าว ๆ : 

    • Writing สอบย่อยสองครั้ง แบ่งออกเป็น Example Paragraph และ Reason Paragraph (เคยกลัว writing มาก ๆ เพราะคลังศัพท์ในหัวน้อย แต่แอนดรู๊วก็คอยย้ำตลอดว่า อย่าใช้คำยาก ใช้คำที่เข้าใจง่าย ๆ พอ เราเรียนเพื่อสื่อให้คนอื่นเข้าใจไม่ใช่หรอ แล้วสรุปคือ เขียนคำง่าย ๆ ตอบไปจริง แล้วแอนดรู๊วก็ชมจริง โอ๊ย รักอ่ะ อาจารย์ทำให้เราหายกลัวและรักภาษาอังกฤษขึ้นมาก ๆ)
    • Reading สอบย่อยสองครั้ง ยากขึ้นเรื่อย ๆ (ยากสุดในทุก ๆ เรื่องที่เรียน ถามมันทุกอย่าง ต้องคิดให้ลึก ศัพท์มันไม่ยากก็จริง แต่คนเขียนมีทริคที่ทำให้ อะไรวะ ตลอด แต่พออาจารย์เฉลยก็คือ อ๋อออออออ ไปตามกัน โคตรยากกกก)
    • Grammar / Vocabulary เรียนตาม textbook (เน้นเอามาใช้งานมากยิ่งขึ้น ได้เข้าใจลึกขึ้นมากกว่าตอนมัธยม)
    • External Reading ; All Boys Aren’t Blue (อ่านเพื่อใช้ในการสอบกลางภาค มีทั้งปรนัย อัตนัย และ Group Discussion หรือ Speaking นั่นแหละ) หนังสือปีเราดีมาก เป็นหนังสือที่ถูกแบนในห้องสมุดบางรัฐของอเมริกา เพื่อนบางคนบอกว่ามันแอบน่าเบื่อ แต่เราคิดว่าอาจารย์เลือกหนังสือได้ดีและมีประโยชน์ต่อนิสิตมากกก เต็มไปด้วยประเด็นที่ controversial ให้เราได้คิดตามตลอดเรื่อง แต่ข้อสอบออกละเอียด จนแอบโกรธ ออกคำพูดแต่ละคนในเรื่องงี้ อยากให้ถามเป็นคำถามปลายเปิดที่ทำให้ได้แสดงความคิดเห็นมากกว่า แต่ส่วนของ Speaking คือดี คือที่ ขอย้ำอีกรอบ รักแอนดรู๊วอ่ะ)

    การเรียนการสอน + การสอบ  : 

    เรียนสนุก ลุกนั่งสบาย ตอนแปดโมงเช้า (โธ่เจ๊) เรียนคาบละชั่วโมงครึ่งแบบกำลังดี แต่เช้าไปหน่อย แอนดรู๊ว ถึงจะ low-tech (อ้าว อีกแล้ว) เปิดแต่สไลด์ ไม่ค่อยมีเกมให้เล่น แต่เก่งมาก ๆ แบบมาก ๆ ไม่กดดันให้ตอบ ทำให้พวกเราเรียนรู้ไปด้วยกันแบบไม่กดดันอ่ะ ฮรือ best english teacher EVER เลอ การสอบก็จะมีสอบย่อยตามด้านบนที่บอกไป มี midterm แล้วก็ final (คะแนนเยอะสุด ๆ) รวมทุกอย่างเลยทั้ง grammar, unseen reading, writing ในเวลา 3 ชม. แต่ถึงมันจะยากยังไงก็ตาม วิชานี้ทำให้เรารักและอยากเก่งภาษาอังกฤษมากกว่าเดิมมาก ๆ (หาหนังสือภาษาอังกฤษมาอ่านเพิ่ม แบบที่ไม่เคยทำมาก่อน5555555555) ใครอยากหาเรื่องย้ายเซค แนะนำเซคแอนดรูวค้าบ

    สรุป :

    รัก แอนดรูว มากค่ะ หนูอยากบวชให้อาจารย์นะคะ


    3.      2204181 East Civ (อารยธรรมตะวันออก🏮🎎

    หน่วยกิต : 3

    Sec (รวม) 

    เกรดที่คาดหวัง : C / เกรดที่ได้ : C+

    ภาพรวมของวิชา : 8.5/10

    ความรักที่มีต่ออาจารย์ : 8/10 (มีหลายคนเฉลี่ยกันไป;-;)

    ความยากของข้อสอบ : 9/10

    ใครที่เคยเรียนวิชาสังคมของโรงเรียนม.ต้น และ ม.ปลาย หลบไปค่าาา อารยธรรมตะวันออกจะเดิน !

    เป็นวิชาที่เราชอบและสนุกกับมันมาก (ยกเว้นช่วงสอบ อ้าว) เข้าใจเลยที่เค้าพูดกันว่าวิชาของอักษรมันเปิดโลกและทำให้เราเข้าใจมนุษย์มากขึ้น เพราะมันเปิดโลกเรามากจริง ๆ

    วิชานี้เราจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมต่าง ๆ ของเอเชียตะวันออกและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (ก่อนมิดเทอม) เอเชียใต้และโลกมุสลิม (หลังมิดเทอม) นั่นหมายความว่า เราจะได้เรียนรู้อารยธรรมในหลาย ๆ ลุ่มแม่น้ำในเอเชียตะวันออกเลยทั้งในจีน ญี่ปุ่น เกาหลี หรือจะเป็นเรากับประเทศเพื่อนบ้านใกล้ ๆ อินเดียแล้วก็ ราชวงศ์และจักรวรรดิต่าง ๆ ในโลกมุสลิม

    ด้วยตัวอย่างข้างต้นที่พูดไป นั่นเลยเป็นเหตุให้ข้อสอบนั้น ยากและเนื้อหาเยอะมาก จะสอบทีต้องอ่านข้ามกันเป็นอาทิตย์ (ซึ่งไม่ใช่วิถีเรา 55555555555555555) คนอย่างเราที่อ่าน 2 คืนก่อนสอบก็เลยได้รับ C+ มาอย่างไม่ต้องสงสัย วิชานี้อาศัยความเข้าใจอย่างเดียวไม่ได้ แต่ต้องใช้ความจำด้วย เท่าที่จำได้ เรารู้สึกว่ามิดเทอมยากกว่าไฟนอล (สงสัยอาจารย์จะสงสาร ไอเด็กพวกนี้ ฮา) ตอนแรกที่เห็นคะแนนเราเท่ามีนก็แทบกรี๊ดละ กูจะรอดไหมวะ สรุปก็รอดนะทุกคน ถ้าคะแนนไม่ดี เราคิดว่าลองสู้ต่อก่อน งิงิ อย่างเช่นเรา เป็นต้น (ดิชั้นไม่ยอมถอนแล้วลงใหม่หรอกค่ะผู้หมวด ดิชั้นไม่อยากเรียนซ้ำแล้ว ฮรือ)

    แต่เราว่าสุดท้ายแล้วเกรดที่เราได้มาไม่สำคัญอะไรกับเราขนาดนั้นเลย เพราะแต่ละอย่างที่อาจารย์พูดมา มันมีประโยชน์มาก ๆ  เรารู้สึกเชื่อมาก ๆ เพราะ อาจารย์มีการอ้างอิงถึงหลักฐานชิ้นต่าง ๆ ในการเล่าเรื่องประกอบ มันทำให้เราเห็นภาพและคิดตามตลอด ไม่เหมือนตอนเรียนช่วงมัธยมที่เราจะรู้สึกว่า อ้าว แค่นี้หรอ รู้สึกไม่เต็มอิ่ม วิชานี้เลยเป็นการเปิดโลกการเรียนประวัติศาสตร์ที่ดีมาก ๆ เรียนกับอาจารย์ทีเหมือนได้ฟัง podcast เหมือนได้ explore โลกในมุมใหม่ ๆ ได้เห็นความคิดของผู้คนในเวลาต่าง ๆ ที่ทำให้เกิดเรื่องราวและสิ่งต่าง ๆ ในปัจจุบันขึ้น เรื่องต่าง ๆ ที่เรียนยังอยู่ในหัวเราตอนนี้ ยังได้ยินเสียงอ.วาสนาในหูอยู่เลย ถ้าสมมติในปีต่อ ๆ ไป วิชานี้กลายเป็นแค่วิชาเลือก เราก็ยังอยากเชียร์ทุกคนให้ลงนะ ๆๆๆ คิดง่าย ๆ เวลาไปเที่ยวมันก็น่าจะสนุกขึ้น เพราะเราจะเชื่อมโยง ปะติดปะต่อสิ่งนู้นสิ่งนี้ในบ้านเมืองเขาได้ดีขึ้นแน่นอน

    การเรียนการสอน + การสอบ : 

    วิชานี้จะมีอาจารย์มาสอนในแต่ละอารยธรรม ผลัด ๆ กันไป รู้เรื่องเยอะบ้าง น้อยมาก หรือไม่รู้เรื่องเลย55555555 (ก็มี) มีคลิปให้ดูย้อนหลัง แต่เราแนะนำให้ไปเรียนสดเลย หรือถ้าดองก็อย่าดองนานเกิน เดะมันจะแซ่บไป เหมือนเรา (งื้อ) คะแนนในวิชานี้ก็จะเป็นจาก mid-term 50% และ final 50% ดังนั้น การสอบจึงดุเดือดมาก55555 ข้อสอบมีทั้งส่วนเติมคำ ตอบเป็น short passage และ long passage ตอนไฟนอลมีแบบจับคู่ด้วย ทุกคนสู้ ๆ เนื้อหาก็จะอยู่ในสไลด์กับตำรา (ซึ่งเยอะมาก) นั่นแหละ 555555555

    สรุป :

    ข้อสอบยาก (อีกแล้ว) เตรียมสอบ 1 อาทิตย์อย่างต่ำถึงจะทัน เปิดโลก เรียนแล้วอยากไปเที่ยว สุดหัวใจ งิงิ


    4.      2207143 REASONING (การใช้เหตุผล) 🫧📖 

    หน่วยกิต : 3

    Sec 4 / อ.ดร.ปิยฤดี

    เกรดที่คาดหวัง : B / เกรดที่ได้ : B+

    ภาพรวมของวิชา : 7/10

    ความรักที่มีต่ออาจารย์ : 8/10

    ความยากของข้อสอบ : 8/10

    มาแล้วกับวิชาปราบเซียนอีกตัววว (มันปราบเซียนทุกตัวเลยไหม น่าจะนะ 5555555555) เป็นวิชาที่ค่อนข้างเป็นที่ร่ำลือจากรุ่นพี่ว่า ต่างเซค ต่างสไตล์ และต่างชะตากรรม (ยืนยันว่าจริง) เพราะเวลาเราจะคุยกับเพื่อน แล้วเพื่อนอยู่ต่างเซคกัน แทบจะคุยกันไม่รู้เรื่อง เพราะอาจารย์สอนไม่เหมือนกันเลย555555 ดังนั้นใครรู้เรื่องเซคอื่นเยอะ ๆ จะทราบว่า อาจารย์ในอีกเซคอาจจะสอนได้เข้ากันได้กับเรามากกว่ากับเซคที่ตัวเองอยู่ แต่ถ้าคนไหนได้อยู่กับอาจารย์ที่สอนตรงกับสไตล์เราก็คือจะโชคดีมากกก เข้าใจศาสตร์นี้ได้ดีขึ้นและสนุกแน่นอน ซึ่งเราก็เป็นอีกคนที่อ่านสไลด์เพื่อนแล้ว get มากกว่า 55555555 แต่อ.ปิยฤดีก็สอนดีเหมือนกัน ก่อนสอบเราเลยจะอาศัยฟังอาจารย์ในห้อง แล้วขอสไลด์เพื่อนมาอ่านด้วยเพื่อทวน

    วิชานี้ถ้าให้พูดง่าย ๆ คือ การใช้เหตุผลตรง ๆ ตัวนี่แหละ 5555555 ลองคิดภาพว่า ถ้าเราอยากเขียนบทความขึ้นมา 1 บทความ แล้วเราอยากอ้างเหตุผลของเราให้ valid ที่สุด เราจะต้องเลี่ยงการอ้างเหตุผลและสถิติแบบไหนบ้าง โดยจะสอนตั้งแต่เริ่มแรกของเหตุผลเลย ว่าทำไมเราถึงเชื่อหรือไม่เชื่อข้อความหรือบทความใดใด บางความเห็นในโซเชียลมีเดียแล้วเราคิดว่า อีหยังวะ เราจะได้รู้เหตุผลว่าทำไมเราถึงรู้สึกอีหยังวะ กับข้อความนั้นและมันอ้างเหตุผลผิดไปตรงไหน และสุดท้ายวิชานี้ทำให้เรารู้ว่า ตายละ ที่กูอ้าง ๆ เหตุผลมาในชีวิตนี่มันถูกต้องแน่แล้วหรอ 5555555555 รู้สึกว่าตัวเรานี้แหละคือ falacy (ถ้าใครอยากรู้ว่าแปลว่าไร ลองมาเรียนดูนะะะะ 55555555)

    ต้นเทอมที่เรียนอาจจะมีได้ใช้คณิตศาสตร์บ้างในเรื่องของแผนภาพเวนน์ออยเลอร์ / สถิติใดใด แต่ไม่ยากเกินความสามารถเด็กอักษรหรอก งื้อ วิชานี้นะ พอเรียนจบ สอบไฟนอลเรียบร้อยแล้วมันจะรู้สึกเหมือน เออว่ะ นี่แหละวิชาที่โคตรเด็กอักษร เพราะเราก็นึกไม่ออกว่าจะได้หาอ่าน หรือ เรียนวิชาแบบนี้ที่ไหนอีก (เฉลย เหมือนจะมีที่นิติอีกที่ ที่ต้องเรียน) แต่นั่นแหละทุกคน เป็นวิชาที่ตั้งใจเรียนและจะได้อะไรกลับไปเยอะแน่นอน (อีก 1 คะแนน เหมือนจะได้ A แล้ว เสียดายแต่ไม่เสียใจ เพราะความตั้งใจเรียนติดลบมาก555555555)

    เนื้อหาคร่าว ๆ : 

    • การอ้างเหตุผลแบบนิรนัย / จัดประเภท : (ก่อนมิดเทอม) เรียนเรื่องการสังเกตข้ออ้าง ข้อสรุป อันไหนข้ออ้าง อันไหนข้อสรุป การใช้แผนภาพเวนน์ออยเลอร์ในการหาว่าอ้างเหตุผลได้ valid / invalid 
    • การอ้างเหตุผลแบบอุปนัย / เชิงสาเหตุ / เปรียบเทียบ : (หลังมิดเทอม) ได้อ่านตัวหนังสือ / บทความมากขึ้น เพราะจะได้ลองอ้างเหตุผลแบบละเอียดและซับซ้อนมากขึ้น 
    • ตรรกวิบัติ / การทิ้งเหตุผล (fallacies) / การอ้างเหตุผลที่บกพร่อง : เราจะได้รู้ว่าการอ้างเหตุผลแบบไหนที่มันอ่อนเกิน ทึกทักไปเอง คลุมเครือทางภาษา เราจะได้ไม่เอามาทำในการอ้างเหตุผลของเรา อันนี้เราว่าง่ายสุดแล้วก็ได้ใช้จริงที่สุด

    การเรียนการสอน + การสอบ : 

    คะแนนจากวิชานี้มาจากการสอบ 50% (midterm 20 / final 30) บทความใหญ่ 20% peer review (รีวิวงานของเพื่อน) 10%​ ที่เหลือเป็นงานในห้องใดใด ดังนั้น เป็นวิชาที่โดดไม่ค่อยได้ ต้องเข้าเรียน แล้วก็ตั้งใจทำแบบฝึกหัด จากการเรียนที่เราได้เรียนผ่านมาทั้งเทอม ทุกความรู้ที่เรามี เราจะได้ลองใช้มันในการทำบทความใหญ่ ซึ่งยากอยู่ แล้วเราก็ต้องใช้ความรู้ทั้งหมดมารีวิวงานของเพื่อนด้วย ว่ามีจุดตรงไหนที่แก้ไขได้ แก้ไขยังไง ตรงนี้ valid invalid ยังไง แต่อย่ากดดันตัวเองนะทุกคนนน  อันนี้เป็นของเซคเรา บางเซคให้ทำเป็นงานกลุ่มก็มี แล้วแต่เซคไป ๆๆๆ สำหรับอาจารย์แม่ปิยฤดีเรา ไม่ต้องห่วงเลย เพราะแม่มีแบบฝึกให้ทำเยอะมาก5555555 ฝึกกันจนคล่อง (หรือเปล่า) อาจารย์ใจดีมาก ๆ อันไหนที่ไม่เข้าใจจริง ๆ เดินไปถามได้เลย ให้สอนแต่แรก อาจารย์ก็ทำ ฮือ ๆ ใจดีมากคับ

    สรุป :

    ตั้งใจเรียนแล้วได้ความรู้จริง / เป็น soft skill ที่ควรมีสุด ๆ


    5.      2206103 RES COMP SKILLS (ทักษะการค้นคว้าและการใช้คอมพิวเตอร์)  💻🗝 

    หน่วยกิต : 3

    Sec 7 / ผศ.ดร.สมศักดิ์

    เกรดที่คาดหวัง : A / เกรดที่ได้ : B+

    ภาพรวมของวิชา : 6/10

    ความรักที่มีต่ออาจารย์ : 7/10

    ความยากของข้อสอบ : -

    วิชาที่เป็นที่เลื่องลือและไม่เป็นที่นิยมของเด็กอักษร5555555 ถามใครเกี่ยวกับวิชานี้ ก็จะได้ยินเสียง “เห้อ” ตามมา 55555555555555 รวมถึงตัวเราด้วย อาจจะเป็นเพราะเซคของเราเรียนวันศุกร์ ซึ่งเป็นวันหยุดไปแล้วเยอะมาก TT ทำให้เรียนออนไลน์ค่อนข้างมาก (อาจจะผิดที่เราเองที่ไม่ค่อยมีสมาธิเรียนออนไลน์เท่าไหร่ งืออออ) ดีที่เป็นวิชาไม่มีสอบ ไม่งั้นตาย ซี้แหงแก แน่นอน แล้วก็อาจจะเพราะมันเป็นวิชาที่ต้องทำงาน และเป็นศาสตร์ที่ถ้าใครไม่สนใจก็อาจจะไม่เอ็นจอยได้ง่าย ๆ แต่วิชาให้ความรู้เราเยอะมากแบบคาดไม่ถึง ไม่ว่าจะเป็นการใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ word ที่เคยใช้แบบผิด ๆ ก็ได้ใช้ให้ถูกต้องและมีประโยชน์ คุ้มค่ามากกว่าเดิม อีกอย่างที่เราคิดว่าสำคัญมาก ๆ สำหรับเด็กมหาลัยและวัยทำงานในอนาคตคือการเสาะหาแหล่งข้อมูลที่จะใช้ หาหนังสือ หาบทความ หรืองานวิจัยต่าง ๆ ที่เราอาจจะต้องอ้างอิงมาใช้ในงานของเรา วิชานี้จะสอนให้เราสแกนและใช้แหล่งข้อมูลที่มีคุณภาพพอ ทั้งจากในกูเกิล หรือแหล่งข้อมูลของจุฬาเอง หรือจะเป็นวิธีการอ้างอิงข้อมูลในแบบต่าง ๆ ทำให้เราอ้างอิงข้อมูลได้ถูกต้อง รวมถึงการทำบรรณานุกรมใด ๆ ที่ลึกไปกว่าวิชาภาษาไทยในสมัยมัธยมด้วย

    วิชานี้จะพาเราทัวร์ศูนย์สารนิเทศหรือห้องสมุดที่เทวาลัยด้วย เปิดโลกเรามากกกก เพราะได้ชื่อว่าห้องสมุดคณะอักษร หนังสือ แล้วก็ resource ใด ๆ คือเยอะมากจริง ๆ มีหลายภาษาด้วย (มีนิยายแล้วก็วรรณกรรมน่าอ่านเยอะมาก ๆ พี่ ๆ จนทก็ใจดี อยากให้ช่วยหาอะไร เค้าก็ช่วย) นอกจากนั้นก็มี zoom พาทัวร์หอกลาง (หอสมุดของจุฬา) รู้สึกได้ว่าเค้าพยายามให้เราได้ใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ให้ได้คุ้มค่า แล้วก็ทำให้ได้รู้ว่า การเข้ามาเรียนมหาลัย เราจะได้เปิดโลกความรู้ของเราได้กว้างขึ้นแน่นอน ผ่านหนังสือแล้วก็ทรัพยากรความรู้ (แอบกระซิบ ชั้น 3 หอกลางมีทีวี ถ้าใครเครียดจากอ่านหนังสือ ไปเปิด netflix ดูกับเพื่อนได้้้้้)

    ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าตอนนี้เราก็ใช้วิธีการหาข้อมูลจากที่เราเรียนในวิชานี้หาหนังสืออ่านที่หอกลาง 5555555555555 แบบมันมีประโยชน์มากโขอยู่นะอันที่จริง อันที่มีประโยชน์มากที่สุดอีกอันนึงก็น่าจะเป็นสอนให้เราเขียนบทความหรืองานวิจัยได้ ให้เหมือนมันถูกจัดระเบียบอย่างดี มีการเรียงลำดับความคิดได้เป็นขั้นตอนประมาณนั้น ถึงมันจะน่าเบื่อไปบ้าง แต่มันได้ประโยชน์มากแล้วก็ได้ใช้ในอนาคตแน่นอน

    เนื้อหาคร่าว ๆ : 

    • การวางเค้าโครงเรื่อง / บทความให้เป็นระบบระเบียบ : มีให้เขียนเค้าโครงบทความ ข้อสนับสนุน ข้ออ้างที่จะเอามาหักลบ อาจารย์จะดูความเป็นไปได้และจุดอ่อนของการอ้างเราว่าจะแก้ตรงไหนได้บ้าง ควรเอาข้อสนับสนุนหรือข้ออ้างไหนขึ้นก่อน การตั้งชื่อบทความใด ๆ 
    • การประเมินทรัพยากรสารสนเทศว่า เห้ย ใช้ได้จริง เชื่อถือได้หรือเปล่า : ให้เราหาหนังสือจากหอกลาง 3 เล่ม เว็บไซต์ 3 เว็บไซต์ ทั้งภาษาไทยและภาษาต่างประเทศมา แล้วให้ประเมินว่าใช้ได้ยังไง จะใช้บทไหน
    • การใช้ word ให้ได้ประสิทธิภาพ
    • การใช้ zotero อ้างอิง / ทำบรรณานุกรม
    • การใช้คอมพิวเตอร์เพื่องานวิจัย
    • จริยธรรม / กฎหมายคอมพิวเตอร์ : ของเซคเราให้ทำงานกลุ่ม หาข่าวที่ผิดพรบ.หรือผิดจริยธรรมคอมพิวเตอร์ มาวิเคราะห์ว่าผิดตรงไหน แล้วก็ควรป้องกันไม่ให้เกิดยังไง อาจารย์แจกคะแนนเต็มหมดทั้งห้องเลย ถือว่าตั้งใจจ   

    การเรียนการสอน + การสอบ : 

    คะแนนจากวิชานี้มาจากงานหมดเลย ไม่มีการสอบ แต่จะมี 70% จะมาจากแบบฝึกหัดในเทอมนั้นทั้งหมด + 30% จะมาจากความเรียง งานใหญ่ที่เราจะต้องงัดความรู้ที่มีมาใช้ โดยหัวข้องานก็จะเป็นประเด็น controversial ที่อาจารย์กำหนดมาให้ แล้วเราก็หาเรื่องที่เราสนใจมาทำ เซคเราให้มาหลายเรื่องมาก เท่าที่ทำได้ก็จะเป็น ความเท่าเทียมทางเพศ LGBTQ+ / มนุษย์ศาสตร์ดิจิทัลหรอพวก AI / การพนันเสรี / สารเสพติดเสรี อาจารย์ก็จะดูว่าเราได้ใช้ความรู้ที่เรียนไปยังไงบ้าง ถ้าเรารู้ว่าเราอยากจะทำหัวข้ออะไรแล้ว เวลาทำแบบฝึกหัดในห้องเราก็ใช้หัวข้อนั้นได้เลย อาจารย์จะได้ช่วยแก้ให้ พอเป็นบทความ final จะได้เกิดข้อผิดพลาดน้อยที่สุด อิอิ

    สรุป :

    วิชาที่ได้ประโยชน์มากแบบคาดไม่ถึง เสียดาย วันหยุดเยอะไปหน่อย ...


    6.      2233011 SPANISH I (ภาษาสเปน 1)  💃🏻🕺🏻


    หน่วยกิต : 3

    Sec 1 / ผศ.ดร.เพ็ญพิสาข์ 

    เกรดที่คาดหวัง : B / เกรดที่ได้ : B

    ภาพรวมของวิชา : 8/10

    ความรักที่มีต่ออาจารย์ : 9/10

    ความยากของข้อสอบ : 8/10

    ก่อนอื่นเลย สเปนเป็นวิชาที่เราจ้องมานานแล้ว ว่าชั้นจะต้องเรียนเป็นเจนแลงให้ได้เลย !!!!! และเนื่องจากหน่วยกิตว่างอยู่ 3 พอดี ก็เห้ย หรือเราจะลงไปเลยวะ ก็เลยลงเลย 55555555 และพอมองย้อนกลับไปก็ไม่ผิดหวังเลย ดีใจมากด้วยซ้ำ เพราะเราได้เพื่อนจากที่นี่เลย ทั้งเพื่อนสนิทแล้วก็เพื่อนในเซคใด ๆ เพราะ สเปน 1 เป็นวิชาฮอตฮิต นี่ว่ารองจาก Korean I ก็คือสเปนอ่ะ ในเซคก็จะมีทั้งเด็กปี 1 ที่จะเข้าเอก เด็กปี 1 ที่จะเก็บเจนแลง รุ่นพี่เจนแลง จากทั้งอักษร รัดสาด เจอคนเยอะมาก ๆ แล้วไม่รู้อะไรดลบันดาล เรียนตัวแรกก็ได้เจอตัวแม่เลย งื้อออ ทุกคนในเอกสเปนเรียกอาจารย์ว่า พส แล้วเราก็พึ่งรู้ด้วยว่า พส คืออาจารย์ที่สอนพี่ฟาโรสสส งื้อ ฟิรอ่ะ

    แต่ด้วยความสนุก ม่วนจอยใด ๆ ก็แลกมากับความหนักหน่วงแบบคิดไม่ถึง เพราะพอทุกคนเริ่มอ่านกันได้คล่องแล้ว แกรมม่าก็จะไปเร็วมาก แบบมาก ทุกคนอ่านนะ มากกกกกกกกกกก กลายเป็นว่าเราเรียนไม่ทันไปเลยช่วงนึง ควิซคือคะแนนน้อยมาก ๆ จนต้องทุ่มตัวไปให้สุดแล้วกลับมาได้ B จนได้ ก็ต้องยอมรับว่า หนึ่งอาทิตย์เนี่ย จะต้องเรียนน้องสเปน 1 เค้าไปสามคาบเลย เอาเป็นว่านี่เรียนสเปนหนักกว่าวิชาเข้าเอกอีก 55555555555555 แต่นั้่นแหละ มันเป็นการเรียนที่สนุกมากเลยนะ มีเพื่อน happy แล้วก็มีเพื่อน suffer ไปพร้อมกัน ทำ quiz บ่อยเกิน จนหายตื่นเต้นเวลาจะ quiz 555555555

    วิชานี้ เราจะได้เรียนเยอะมากตั้งแต่การอ่านภาษาสเปน การออกเสียง การ stress คำให้ถูกพยางค์ใดใด ซึ่งถ้าเรียนไปเรื่อย ๆ จะแม่นขึ้นเอง แล้วก็จะเข้าเรื่องของ สรรพนาม และ V ทั้ง ปกติและไม่ปกติ (ยากที่สุดในสเปน 1 ละเอาจิง 555555555555) เรียนการทักทาย ประโยคแนะนำตัว ถามคนอื่น เบื้องต้น (เรียนถึงสั่งอาหารเลยอ่ะ55555555555) เรียนคำศัพท์เยอะมาก ๆ หลายหมวด อาชีพ ผลไม้ ของในซุปเปอร์ การบอกทิศทางใด ๆ ADJ สวยงาม อารมณ์ ที่ถ้าบอกต่อก็จะมีคนถามเยอะมากว่า เรียนทั้งหมดนี้ในเทอมนึงหรอวะ ก็ต้องบอกเพื่อนไปว่า ใช่.. พอจบสเปน 1 นี่กล้าบอกได้เลยว่า เราจะเขียนแล้วก็สื่อสารคำศัพท์และแกรมม่าง่าย  ได้ในระดับนึงเลย เพราะเราเรียนทั้งหมด grammar reading และ writing บอกเลยว่าคุ้มค่าเทอมมาก... อาจารย์ก็สอนคุ้ม ๆ ครับผม (มีเรียน speaking แยกมาด้วยจากในตารางนะ ๆๆๆ เรียนกับอาจารย์สเปนเลย เราได้เรียนกับ Alejandro) 

    เนื้อหาคร่าว ๆ : 

    • การอ่านและออกเสียงภาษาสเปน (เปิดมาเริ่มเลย ใครที่ย้ายเซคไปมา ลงยังไม่ติด แนะนำให้ ถามเพื่อนแล้วตามเพื่อนให้ทันนะ ๆๆๆ)
    • ทักทาย แนะนำตัวเอง คนอื่น (ได้ศัพท์อาชีพ Appearance ADJ ต่าง ๆ มีงานให้ทำเล็ก ๆ คือโปสเตอร์แนะนำตัว) 
    • การอ่านเวลา บอกเวลา (อันนี้แอบปวดหัว แต่คล้าย ๆ ภาษาเกาหลี เลยคล่องขึ้น55555555555)
    • บรรยายสถานที่ ทิศทาง (ตอนเรียน speaking ก็คือจะได้ลองถามทาง บอกทางจริง)
    • สั่งอาหาร (รับบทบริกรสาว ครีเอทเมนู แล้วก็ทำ conversacion ส่งอาจารย์)
    • คาดเดาอนาคต

    การเรียนการสอน + การสอบ : 

    สเปน 1 จะมีคาบเรียนที่ปรากฎอยู่ในตาราง 2 คาบ แล้วก็ + speaking class ที่อยู่นอกตารางไปอีก 1 เลือกได้ตามที่เราสะดวกเลย / ในส่วนของอาจารย์ ก็คือสอนดีมาก ๆ แล้วก็ใจดีมาก ทั้งพส แล้วก็ Alejandro เลย อาจารย์จะเปิดโอกาสให้เราพูด เราตอบเรื่อย ๆ เพื่อพัฒนาการออกเสียงเรา ถ้าผิดอาจารย์ก็จะแก้ให้เลย อันไหนเรางง อยากปรึกษาอาจารย์ส่วนตัว อาจารย์ก็พร้อมจะสละเวลาให้เรา อธิบายให้เราจนเข้าใจ นอกจากนั้นก็ จะมี quiz “ทุกสัปดาห์” เน้น ทุก สัป ดาห์ ตอนแรกนี่ร้องฮือเลย แต่พอได้ลองทำไปทุกอาทิตย์ก็เข้าใจเลยว่าทำไมต้อง quiz มันเป็นการทำให้เราได้ทวนความรู้ นอกจากที่เข้าคลาสและทำให้เราตาม lesson ต่อไปทันอ่ะ เวลาคะแนนควิซออกก็จะได้รู้ด้วยว่าเราแม่นหรือไม่แม่นเรื่องไหน การสอบของวิชานี้ก็จะเป็น midterm 25% final 25% ที่เหลือจะเป็นส่วน conversation และ quiz ซึ่งหมายความว่าเราต้องตั้งใจทั้งเทอม เพราะเราทำคะแนนได้ทั้งเทอมเลย

    สรุป :

    ใครไม่ได้อยากเข้าเอกสเปน แต่อยากเก็บเจนแลงสักตัว ขอแนะนำ ตัวนี้เลอ  ¡Muy bien!


    7.     2305106 PLANTS/HUMAN (พืชกับมนุษยชาติ)  🪴🙎🏻‍♀️


    หน่วยกิต : 3

    Sec (รวม)

    เกรดที่คาดหวัง : B+ / เกรดที่ได้ : A

    ภาพรวมของวิชา : 8/10

    ความรักที่มีต่ออาจารย์ : 5/10

    ความยากของข้อสอบ : 7/10

    วิชานี้เป็นวิชาที่เราเล็งมาตั้งแต่ยังไม่เปิดเทอมเหมือนกัน 555555555555 ไปฟังยูทูปของรุ่นพี่มา เค้าบอกว่ามีเรียนพืชกับนิติเวช ไอเราก็อยากสวมบทโคนัน ก็เลยเอาวะ ลง ! โดยวิชานี้จะเป็นเจนเอดของหมวดสห (ซึ่งมีวิชาที่เราอยากเรียนเยอะมาก)​ แต่ก็มาลงเอยที่วิชานี้ ง่าย ๆ ก็คือ เรียนเกี่ยวกับพืชแต่ไม่ใช่ในเชิงของพฤกษศาสตร์ การปลูก การเจริญเติบโต การดูแล อะไรแบบนั้น แต่เป็นเรื่องของพืชในเชิงมนุษยศาสตร์ ว่าพืชมีความสำคัญกับมนุษย์ยังไงและด้านไหนบ้าง วิชานี้จะทำให้เราได้ฟังเรื่องราวเกี่ยวกับพืชในหลายมุมมองมาก ๆ แบบที่ไม่คาดคิดว่า เออ น้องพืชเค้าก็อยู่ข้างเรา ๆ มาตลอด ๆ อยู่ในประวัติศาสตร์ อยู่ในชีวิตความเป็นอยู่ของเรา

    มีคาบนึงที่อาจารย์เปิดยูทูปเรื่องของต้นและใบก๊อให้ฟัง เป็นคาบที่เพลินมาก ๆ อาจารย์อธิบายให้ฟังว่า พืชเอามาทำเป็นที่อยู่อาศัยได้นะ และยังไงบ้าง ต้องยอมรับว่าสำหรับเด็กอักษรแบบเราก็มีคาบที่น่าเบื่อมากเหมือนกัน พวกพืช GMOs การเพาะพันธุ์เบื้องต้น ธนาคารพืช ไรงี้ แต่ที่เหลือก็สนุกและเพลินมาก ๆ ได้ความรู้รอบตัวกลับไปเยอะมาก ๆ ถ้าตั้งใจฟังจะได้อะไรเยอะมาก ๆ (ซึ่งเรา... เห้ย ตั้งใจเรียนน่า วิชานอกคณะก็งี้ เพื่อนยังแซวเลย ว่าเราตั้งใจเรียนวิชานี้มากกว่าวิชาในคณะอีก55555555555555)

    ลืมบอกไปว่าวิชานี้เป็นวิชาของคณะวิทย์ ต้องไปเรียนที่ตึกคณะวิทย์ เดินไปไกลจากอักษรเหมือนกัน555555555555 (แล้ววิชาอักษรเลิก 12.30 น. โห วิ่งแทบไม่ทันอ่ะคับ) ถ้าใครสนใจจะเรียน แนะนำชวนเพื่อนลงด้วยไม่ก็ตามหาเพื่อนอักษรที่เรียนด้วยกัน ๆๆๆ เพราะเราก็ไม่มีเพื่อนมาเรียนด้วย ตามหาเพื่อนในสแควร์อักษร แล้วก็ได้เพื่อนมาเพิ่มตั้ง 3 คน งิงิ ตอนที่เรียนด้วยกันก็คือนั่งบ่นเรื่องในอักษรด้วยกันสนุกมาก55555555555555555 (+ ได้เพื่อนทำควิซด้วยกัน / ทำงานกลุ่มด้วยกัน)

    เนื้อหาคร่าว ๆ : มันเยอะมากกกกก อันนี้คัดมาแต่อันที่เราชอบมาก ๆ 

    • พืชกับสถาปัตยกรรมไทย (อาจารย์ให้ถ่ายรูปพืชในบ้าน หรือพืชตามทาง มาเขียนว่าน้องมีหน้าที่อะไรกับสถาปัตยกรรมนี้)
    • พืชในขนบธรรมเนียมตะวันออกและตะวันตก (เรียนเรื่องชา การชงชา ชาเขียว ชาดำ ไรงี้ / กาแฟ คาเฟ่ กำเนิดการปฏิวัติ / ข้าวโพดและการกดขี่แรงงาน)
    • พืชในวรรณกรรม / ขนบธรรมเนียมไทย (อาจารย์ให้แต่งกลอนใส่ชื่อพืช ตลกมาก เพราะลืมการแต่งกลอนไปหมดแล้ว 55555555555555555)
    • นิติพฤกษศาสตร์ (สวมบทยอดนักสืบจิ๋ว วิธีการสังเกตรอยเลือด การเก็บหลักฐาน นิติเวชเบื้องต้น และการจับคนร้ายโดยใช้ประโยชน์จากพืช อันสุดท้ายนี่อึ้งมาก ๆ มีอ้างจากคดีอาจารย์หมอในจุฬาด้วย เราหลอนไปช่วงนึงเลย ฮือ)
    • พืชในสุสาน (เรียนเรื่องพืชในสุสานฟาโรห์ / อารยธรรมกรีก)

    การเรียนการสอน + การสอบ : 

    วิชานี้จะเรียนเป็นเซครวม เป็นร้อยคนเลย ในห้องชั้น 3 ตึกมหามกุฎของคณะวิทยา ห้องก็จะเงียบ ๆ ตามสไตล์ lecture แต่ก็มีอาจารย์บางคนที่ entertain เก่งมาก ๆ พยายามให้ตอบคำถาม ต่อกลอนในห้องไรงี้ สนุก55555555555555 ในคลาส จะมีเก็บคะแนนจากควิซ ที่ถ้าไม่เข้าเรียน ก็จะขาดคะแนนส่วนนี้ไป TT (นั่นแสดงว่าต้องเข้าทุกคาบ) มีงานกลุ่มที่จับกลุ่มเยอะมาก ปม 10 กว่าคนเลย ช่วยกันทำรายงานพืชกับมนุษย์ 1 เรื่องที่สนใจ เป็นคะแนน 10% ตอนนั้นเราน่าจะทำพืชรักษาเบาหวาน ถ้าจำไม่ผิด 555555555555555 อาจารย์ให้เต็มหมดถ้าตั้งใจทำ แล้วก็สอบ midterm และ final อย่างละ 30% เป็นอัตนัยสอบที่คณะตัวเองเลย บางคณะคนเรียนน้อยอาจจะสอบที่คณะใด ๆ ว่าไป ไม่ยากมาก ถ้าอ่านมาดี ๆ ละเอียด ๆ ก็ทำได้แน่คับ (เรา one night miracle 555555555) ตัดเกรดอิงกลุ่มคับ (ป.ล. เพื่อนแอบกระซิบว่า A ยากอยู่ TT)

    สรุป :

    ใครอยากเรียนพืชในเชิงมนุษยศาสตร์หน่อย ๆ แนะนำ ! แต่ถ้าอยากโดดได้บ่อย ๆ ไม่แนะนำ 555555555555555555555


    8.      2208397 THEATRE WORKSHOP (ปฏิบัติงานละคร) 👫🧣 (66 ไม่น่าได้เรียนแล้วคับ)

    หน่วยกิต : 1

    Sec 2 (เซคพีอาร์) / ครูแอน

    เกรดที่คาดหวัง : A / เกรดที่ได้ : A

    ภาพรวมของวิชา : 8/10

    ความรักที่มีต่ออาจารย์ : 7/10

    ความยากของข้อสอบ : -

    วิชาเอก 1 เดียวของเรา เย่่่่่ 55555555555555555 พิมพ์มาตั้งนานพึ่งเข้าวิชาเอก เนื่องจากเราจะเข้าเอกละคร วิชานี้ก็จะเป็นวิชาบังคับที่จะต้องเก็บ (ใครที่จะโทละครด้วยนะ ๆๆๆ) มี 2 เซคให้เลือก เซค 1 จะเป็นเซคอำนวยการ และเซค 2 เป็นเซคพีอา เซคอำนวยการก็จะทำหน้าที่ในการช่วยงานละครภาค (มีทุกปีเลย ติดตามได้ที่ @dramaarts_chula คับ) ในเซคก็จะมีฝ่าย house (เดินต้อนรับและอำนวยความสะดวกคนดู) ฝ่าย sponsor ฝ่ายประสานงาน เป็นต้น และต่อไปก็จะเป็นเซคพีอาหรือเซค 2 ที่มีหน้าที่ในการทำสื่อประชาสัมพันธ์ให้ละครภาค แบ่งเป็นหลายทีมเหมือนกัน ทั้งทีมเขียน (ฝ่ายเราเอง อิอิ) เขียนคำโปรย เกลาคำ เลือกรูป เขียนจดหมายส่งให้สื่อ / ทีมประสานสื่อ ส่งจดหมายให้สื่อช่วยโปรโมทละคร / ทีมมีเดีย คิดคอนเท้นต์ ทำรูปและวิดีโอเพื่อโปรโมทละคร 

    ซึ่งถ้าลงเทอม 1 ก็จะมีทั้งหมด 2 เซค เทอม 2 มีเซคเดียว นั่นหมายความว่าต้องทำหลายหน้าที่หน่อย 555555555555 แต่สนุกและได้รับความรู้เต็มที่เหมือนกัน ในเทอมเรามีละครที่เราต้องดูแลทั้งหมด 2 เรื่องคือ ละครภาค “ปริศนาภริยาคนที่ 2” และ ละครแดนนี่ นักแสดงชื่อดังจากฮ่องกงที่มาใช้โรงละครเราเป็นที่จัดแสดง (เผื่อใครไม่รู้ อักษรของเรามีโรงละครด้วยนะะะะ อยู่ที่ชั้น 6 ตึก MCS คนไม่ค่อยรู้ เพราะเราซ่อนแอบ อิอิ) โดยเซค 2 ของเราก็จะต้องไปเดิน house หรือ เดินต้อนรับผู้ชมกันคนละ 1 รอบ ทำให้เราจะได้แตะงานของเซคอำนวยการด้วยนิดหน่อย ไม่ต้องกลัวว่าจะไม่ได้เข้าโรงละครนะะะ

    วิชานี้เราได้อะไรหลายอย่างเลย ทั้งการเขียนคอนเทนต์ในระดับที่จริงจังขึ้น เหมือน playground ที่ให้เราได้ลองทำจริง เพราะถ้าเราผิดพลาดไปตรงไหน ก็มีอาจารย์ช่วยเหลือเราเสมอ ได้ลองเขียนจดหมาย เกลาคำ เวลาที่ข้อความที่เราเขียนได้โปรโมทออกไป มันก็จะปลื้มปริ่มใจหน่อย ๆ และสุดท้าย วิชานี้อาจารย์ก็เชิญวิทยากรมาบรรยายด้วยว่า เราจะพีอาร์ยังไงให้ประสบความสำเร็จ ถือว่าได้รับความรู้จากพี่เขาหลายอย่างเลย

    การเรียนการสอน + การสอบ : 

    วิชานี้ไม่มีการสอบ มีแต่งาน งาน และงาน ตามสไตล์เด็กละครมากกกก งานส่วนมากก็จะอยู่ในคาบ มีแค่งาน final reflect ที่ให้เราเขียนว่าเราจะได้อะไรจากการเรียนวิชานี้บ้าง มีอะไรที่พัฒนาและสิ่งที่ต้องปรับปรุงมีอะไรบ้าง วิชานี้ก็คือ ได้ A กันถ้วนหน้า แจกเอไปเลยคับผม (ถ้าอาจารย์เห็นความตั้งใจ ทำงานส่งตามเวลา ก็ได้ A แน่นอน ! )

    สรุป :

    ใครอยากรู้จักเอกละครให้มากขึ้น มาลองลงเรียนดูได้ ถึงจะฉุดเกรดไม่ได้ แต่ก็ A สวย ๆ ง้าบ

    ทำไมยิ่งพิมพ์ยิ่งยาวววไม่รู้วิชาหลัง ๆ คือยาวมาก ๆๆ มันเพลินอ่ะ ฮือ 55555555555555555 ใครที่อ่านมาถึงตรงนี้เราขอขอบคุณมากเลยนะคะ ใครที่เริ่มสนใจคณะอักษรฯ แล้วก็ค่อย ๆ คิด ใครที่สนใจจะเข้าอักษรฯ อยู่แล้ว ก็ขอให้ทุกคนได้เข้ามาลองเรียนวิชาเหล่านี้น้าาาาา 

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in