เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
My StoriesJirattipat Tengamnuay
ตะลอนทำบุญ...วัดตามซอยอ่อนนุช
  • 17 มีนาคม 2562

    วัดที่ไปทำบุญขอพรตามซอยอ่อนนุชนี้คือตั้งแต่ซอยอ่อนนุช 3 ถึงซอยอ่อนนุช 45 ซึ่งมีทั้งหมด 7 วัด จุดเริ่มต้นคือการมีนัดสัมภาษณ์งาน ซึ่งแกะรอยตามแผ่นที่ที่เขาส่งให้มา แต่ก็ไม่รู้อยู่ดีแม้ลองเอาสถานที่เด่นๆ ไปหาใน Google Map แล้วถามกระเป๋ารถเมล์แล้วก็ไม่แน่ใจ แต่กระเป๋ารถเมล์บอกให้ลงที่ตลาดศรีเอี่ยม พอถึงกระเป๋าก็บอกให้ลงตรงนี้ ก็งงๆ ไม่รู้ว่ามันใช่ที่นี่ไหม แต่ลองเดินย้อนไปที่ต้นทางเพราะเป็น 4 แยก ก็ลุ้นๆ ต่อว่าจะเป็นป้ายซอยอะไร ปรากฏซอยอ่อนนุช 60 นี่คือโล่งเลย เพราะที่ต้องไปนี่ก็ซอยอ่อนนุช แต่เพื่อความแน่ใจก็เดินไปถามมอเตอร์ไซด์รับจ้างว่าซอยอ่อนนุชที่จะไปอยู่ไกลจากนี้มากไหม เขาก็บอกไม่มากแต่ถ้านั่งมอเตอร์ไซด์ไปก็ 20 บาท เราก็ตกลงเพราะ 20 บาทก็ถือไม่แพงและไม่อยากเดินเพราะไม่แน่ใจที่บอกไม่ไกลคือแค่ไหนเพราะต้องไปให้ทันเวลานัด


    แต่ระหว่างที่ยืนงงแถวป้ายอ่อนนุช 60 ก็เห็นรถสองแถววิ่งผ่านไป เห็นข้อความที่รถสองแถวผ่านที่หนึ่งคือ "วัดมหาบุศย์" ซึ่งเหมือนเคยรู้ว่าอยู่แถวพระโขนง แต่ไม่ทราบว่าอยู่แถวเส้นทางนี้เลยสนใจที่จะเดินทางไปไหว้ขอพร "ย่านาค" สักครั้ง ตั้งใจว่าหลังจากเสร็จการสัมภาษณ์ก็จะแวะไปเพราะนัดสัมภาษณ์ตอนบ่ายโมง ใช้เวลาอย่างมากไม่เกิน 1 ชั่วโมง แต่ปรากฏมีทดสอบด้วย เลยลากยาวไปจนบ่ายสาม เลยไม่ได้ไปไหว้ "ย่านาค" เพราะแวะทานข้าวก็เกือบบ่ายสี่โมงและแบกโน๊คบุ๊คอยู่ด้วย หนัก แต่ก็ตั้งจิตในใจว่าจะย้อนมาไหว้ภายในวันเสาร์-อาทิตย์นี้ ตอนแรกก็คิดว่ากลับบ้านไปแล้วย้อนมาจะมาไหว้ทันไหม แต่ลองหาข้อมูลใน Google ปรากฏปิด 17.30 น. ซึ่งไม่น่าจะทัน


    พอวันเสาร์ที่ 16 มีนาคม 2562 ก็ไปไหว้ไม่ได้เพราะติดงานออกแบบกล่องให้พี่ที่รู้จัก ซึ่งเรื่องออกแบบ package นี้ ด้อยมาก เคยพูดเองเลย ตอนเคยมีสัมภาษณ์งานครั้งหนึ่งเมื่อหลายปีก่อน เจอให้ทดสอบออกแบบ package ว่าถึงเป็นกราฟฟิคก็ไม่ใช่ออกแบบพวกกราฟฟิคได้ทุกอย่าง แต่พอเล่าให้เพื่อนที่เรียนมาด้วยกันฟัง เขาบอกง่ายซะงั้น งานนี้เลยลองดู และตั้งจิตในใจว่าถึงไม่ได้ไปไหว้วันนี้ ถ้าสามารถทำงานนี้ได้และเสร็จได้ภายในคืนนี้ พรุ่งนี้จะไปไหว้ ก็ทำเสร็จจริงๆ แต่ก็ด้วยความพยายาม ดิ้นรนของเราด้วย และคืนนั้นก็ฝันว่าไปไหว้ "ศาลย่านาค" แต่สถานที่ไม่เหมือนกัน แต่รู้ว่าที่นี่คือ "ศาลย่านาค" แต่ตอนเข้าไปไหว้ขอพรเรื่องงาน ใบหน้าบนรูปปั้นกลับมีสีหน้าโกรธ โมโหไม่พอใจ คือเหมือนเราไหว้ในฝันนี่ 2 รอบ แต่พอเงยหน้าขึ้นไปก็เจอสีหน้าไม่พอใจทั้ง 2 รอบ พอตื่นขึ้นมา ยังจำความฝันได้ทั้งที่ปกติจะลืม เลยตั้งใจว่าวันนี้แหละต้องไปไหว้ แล้วก็นึกถึงวัดหนึ่งที่เคยไปไหว้กับเพื่อน 7 - 8 ปีก่อนอยู่เส้นศรีนครินทร์ แต่จำไม่ได้ว่าวัดชื่ออะไร เลยไปค้นย้อนที่ข้อความที่เคยคุยกันและเราขอชื่อวัด แล้วเอาชื่อวัดไปค้นใน Google หาที่ตั้งปรากฏอยู่เส้นเดียวกับ "วัดมหาบุศย์" และเจอกระทู้ Pantip ที่มาเล่าถึงการไปไหว้พระที่ซอยอ่อนนุช มีทั้งหมด 8 วัด (ความจริงวัดที่ 8 อยู่ลาดกระบัง) ตั้งแต่ซอยอ่อนนุช 3 ถึงซอยอ่อนนุช 67 และมีประวัติคร่าวๆ เลยสนใจที่จะไปไหว้ และออกเดินทางตอนนั้นเลยเพราะกลัวทำเวลาไม่ทันเพราะเกือบจะ 11 โมงแล้ว

    มายืนรอรถเมล์นานมาก แดดก็ร้อนเปรี้ยง รอเท่าไหร่รถก็ไม่มาสักทีจนคิดว่าจะไปดีไหมหรือรอไปวันอื่นแบบออกจากบ้านแต่เช้าเลย แต่ก็ตัดสินใจรอแล้วกัน ชะเง้อไปเรื่อยๆ แต่ในใจตั้งจิตถึง "ย่านาค" ว่าถ้าหากอยากให้ไปไหว้ ขอให้รถเมล์มา "สาย 519" ก็ชะเง้อไปเห็นรถยูโรสีส้มตอนแรกเหมือนเห็นเป็น 168 คิดว่า เฮ้อ ต้องรออีกแหละ จะมาไหมรถ แต่ปรากฏพอวิ่งเข้ามาใกล้เรื่อยๆ คือ 519 คืออาจจะบังเอิญหรืออะไร แต่ก็ขอบคุณที่รถเมล์สายนี้มาซักทีเพราะแดดร้อนมาก และรอไปเรื่อยๆ มันก็เสียเวลาในการไปให้ครบทุกวัดที่ตั้งใจ


    ขึ้นรถเมล์ไปก็ถามกระเป๋ารถเมล์ว่าไปถึงซอยอ่อนนุช 3 หรือเปล่าเพราะครั้งที่แล้วพอเลี้ยวเข้าจาก 4 แยกก็ลงป้ายแรกเลยแถวซอยอ่อนนุช 60 กระเป๋าก็บอกถึง ค่ารถก็ 17 บาท แต่กระจกรถเหมือนติดอะไรสักอย่างเลยมองด้านนอกไม่ชัด ก็ไม่แน่ใจว่าจะเห็นซอยหรือเปล่าเพราะไม่เคยมากลัวลงไม่ถูก


    รถเมล์แล่นไปเรื่อยๆ ก็รถติดตั้งแต่เขตบ้านที่อยู่ไปจนถึงเส้นศรีนครินทร์  ก็คิดว่าความจริงถามว่าไกลไหมก็ไม่เชิงว่าไกลมาก แต่เพราะรถติด ใช้เวลาบนรถนานเลยเหมือนไกล พอรถเลี้ยวเข้าถนนเส้นซอยอ่อนนุช เราก็ส่องไปเรื่อยๆ ว่าถึงรึยัง ก็ผ่านป้ายวัดที่เราต้องเข้าไปไหว้ขอพรวันนี้หลายวัด แต่เราจะไปเริ่มที่ซอยอ่อนนุช 3 แล้วไล่ลงมาตามทางเรื่อยๆ ตอนดูในกระทู้เห็นชื่อซอยก็คิดว่าไม่ไกลจากกันมาก แต่พอนั่งรถเมล์ผ่าน บางซอยก็ไม่ไกลกันมาก แต่บางซอยก็ทิ้งห่างเลย ก็ต้องดูอีกทีว่าจะเดินหรือสองแถว

    มาถึงวัดแรกที่ซอยอ่อนนุช 3 คือ "วัดใต้ (ซอยอ่อนนุช 3)" ก็เดินข้ามสะพานลอยไป และต้องเดินเข้าไปอีก


    เดินเข้าไปก็งงๆ เพราะเหมือนไม่เห็นมีอะไรเลย ซึ่งตามข้อมูลในกระทู้ "ทำบุญเก้าวัดรับปีใหม่ที่อ่อนนุช" ของคุณ "แม่โอ๋เรนเจอร์" กล่าวไว้ว่า

    "วัดใต้ เป็นวัดราษฏร์โบราณสร้างขึ้นมาเมื่อประมาณ ปีพุทธศักราช 2346 ไม่พบประวัติและนามของผู้สร้าง จากการคาดคะเนรูปทรงของเจดีย์เก่า พบว่าน่าจะถูกสร้างในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ตอนต้น สำหรับชื่อของ "วัดใต้" มาจากการที่ตัววัดตั้งอยู่ทางทิศใต้ของแหล่งชุมชน ชาวบ้านจึงพากันเรียกติดปาก "วัดใต้" จัดเป็นแหล่งเรียนรู้ท้องถิ่น เพราะมีศาลาริมน้ำท่ามกลางไม้ดัดที่มาจากต้นข่อยมีอายุเก่าแก่กว่าร้อยปี มีบาตรพระโบราณที่ทำจากดินเผา พระไตรปิฏกใบลานที่เก่าแก่ กุฏิทรงไทย และ อุโบสถศิลปะในสมัยรัชกาลที่ 3 นอกจากนี้ยังมีพระพุทธรูปอันศักดิ์สิทธิ์อย่างหลวงพ่ออู่ทอง หลวงพ่อทวารวดี และพระพุทธมงคลประทานพร ดังนั้น วัดใต้ จึงได้รับการขนานนามว่าเป็น “พิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นของเขตสวนหลวง""

    ตัดสินใจเดินเลี้ยวเข้าไปข้างในก็เจอศาลาที่มีองค์พระหลายองค์ประดิษฐานอยู่ เลยเข้าไปไหว้เป็นจุดแรก ขอพรเรื่องงานและชีวิตไป ไม่ไกลในศาลาเดียวกันก็มีการถวายสังฆทาน แต่เดินไปดูหาที่กรวดน้ำไม่เจอเลยไม่ได้ถวายสังฆทาน แล้วเดินย้อนมากะว่าจะเสี่ยงเซียมซี แต่เจอ 2 สาวเสี่ยงเซียมซี แต่แปลกที่เธอ 2 คนเสี่ยงเซียมซีแล้วแต่โยนก้อนไม้สีแดงเสี่ยงทายด้วย และก็กลับมาเสี่ยงเซียมซีใหม่พร้อมโยนก้อนไม้สีแดงอีกหลายรอบจนเรางงๆ ว่าเขาทำอะไร สื่ออะไร 


    สุดท้ายเขาก็ให้เราเสี่ยงเซียมซีก่อน เราก็ถามเขาว่าเสร็จแล้วเหรอ เขาก็บอกให้เราเสี่ยงก่อนก็ได้ เราก็เอากระบอกมายกอธิษฐานขอให้ได้เลขดีดี คำทำนายดีดี โดยเฉพาะเรื่องงานเดือนมีนาคม 2562 นี้ ก็ใบเซียมซี่เลขที่ 28 ก็กลางๆ พอรับได้ไม่ต้องเสี่ยงใหม่ 


    ไหว้พระขอพร + เสี่ยงเซียมซีแล้ว เราก็เปิด Pantip กระทู้ ""ทำบุญเก้าวัดรับปีใหม่ที่อ่อนนุช" เพื่อดูว่า "วัดใต้" มีอะไรน่าสนใจบ้าง ก็เจอ

    "ศาลาริมน้ำท่ามกลางไม้ดัดที่มาจากต้นข่อยมีอายุเก่าแก่กว่าร้อยปี มีบาตรพระโบราณที่ทำจากดินเผาพระไตรปิฏกใบลานที่เก่าแก่ กุฏิทรงไทย และ อุโบสถศิลปะในสมัยรัชกาลที่ 3"

    แต่ก็ไม่รู้ว่าสิ่งที่น่าสนใจอยู่ตรงไหนของวัด เพราะหันไปหันมาไม่เจออะไรเลย หันไปเจอลุงคนหนึ่งยืนอยู่แถวที่จอดรถเลยเดินไปถาม ลุงก็แนะนำดีให้เดินไปด้านหลังและเลี้ยวและเจอแถวริมน้ำ สิ่งน่าสนใจเหล่านี้อยู่บริเวณนั้นแต่ไม่แน่ใจอย่าง "พิพิธภัณฑ์" จะเปิดไหมหรือสิ่งของเหล่านี้ยังมีอยู่ไหม

    เราก็เดินไปด้านหลัง เลี้ยวไปตามทาง แต่ตรงนี้ยอมรับว่าสกปรกอาจเพราะมีขี้หมาด้วย เดินไปริมน้ำก็ไม่เจออะไร แต่มีกุฎีของพระอยู่หลายหลัง เดินไปด้านหนึ่งก่อนไม่เจอก็เดินย้อนไปอีกทางก็ไปเจอทางออกไปหน้าวัดอีกทาง เลยเดินย้อนกลับไปทางเก่า เผื่อพลาดอะไรไป แต่แถวนั้นไม่มีใครให้ถาม มีลุงคนหนึ่งนอนอยู่ริมน้ำในศาลาก็ไม่กล้าไปกวนลุงเขา



    เดินไปเรื่อยๆ ไม่เจออะไรเหมือนเดิม แต่เจอลุงที่เคยถามตรงที่จอดรถ เขาก็บอกน่าจะไม่มีแล้ว ปิดไปแล้วแบบคนมาน้อย เราก็อ้อ โอเคเลยเดินกลับไปที่ศาลาที่มาไหว้พระเมื่อกี้ เจอพระรูปหนึ่งนั่งอยู่เลยเดินเข้าไปถามว่าสิ่งที่เราตามหาตอนนี้มีอยู่หรือเปล่า


    พระท่านก็บอกให้เดินไปซอยที่อยู่ข้างศาลานี้แล้วเลี้ยวไปจะเจอบันได แต่ไม่แน่ใจคนดูแล "พิพิธภัณฑ์" จะอยู่หรือเปล่า เราก็ขอบคุณและเดินไปตามทางที่พระท่านบอกไว้ ก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าจะเจอหรือเปล่าเพราะเดินวนมารอบหนึ่ง แต่พอเลี้ยวไปเจอหมาตัวหนึ่งดักกลางทาง เราก็เดินหลบ แล้วก็เห็นบันไดอยู่ใกล้ๆ ก็ไม่แน่ใจว่าใช่หรือเปล่า แต่พอเดินขึ้นไปก็เจอป้ายบอกว่าอาคารหลังนี้คือ "พิพิธภัณฑ์" ความจริงตรงนั้นมีหมาอีกตัวนั่งหลบแดดอยู่ เราเดินไปก็เห่า เราก็ทำตัวลีบๆ เดินขึ้นบันไดของอาคาร  
    "พิพิธภัณฑ์" อย่างไว คือขออยู่สูงไว้ก่อน หมาความจริงก็ขึ้นบันได้ได้ แต่ตรงนั้นเหมือนปลอดภัยสุด


    พอเดินขึ้นบันไดก็เจอกระดาษบอกคนดูแลไม่อยู่ เลยส่องกระจกเข้าไปก็เห็นอะไรไม่เยอะ ก็เลยเดินกลับออกไป ไก่แถวนั้นอยู่ๆ ก็ขัน ก็ไม่รู้อาจเป็นตามเวลา หมาก็นั่งหลบแดดต่อไป


    เราก็เดินย้อนกลับมาที่ศาลาที่เราไหว้พระ ไหว้ลาพระแล้วบอกว่าคนดูแล "พิพิธภัณฑ์"  ไม่อยู่ ตอนเดินออกมา เจอลุงที่เราถามทางเข้ามาทัก และถามว่าจะไป "วัดมหาบุศย์" ต่อเหรอ เราก็ยิ้มบอกว่าใช่ แล้วเดินออกมา เนื่องจากคิดว่าไม่ไกลเราเลยจะเดินไป "วัดมหาบุศย์ (ซอยอ่อนนุช 7)"


    เดินฝ่าแดดมาก็มาถึง "วัดมหาบุศย์ (ซอยอ่อนนุช 7)" ซึ่งต้องเดินเข้าไปอีก มีร้านขายของเล่นเล็กๆ หน้าซอย เข้าใจทันทีว่าของถวาย ระหว่างเดินเข้าซอย ร้านหมอดูเยอะมากและร้านพวกของถวายอย่างร้านของเล่นหรือชุดไทย คนมาทำบุญก็เยอะกว่าวัดที่ผ่านมา อาจเพราะเป็นวัดใหญ่และมีชื่อเสียงด้วย

    เข้ามาก็เจอศาลาคนถวายสังฆทานและมีโลงแก้วของเด็กชายคนหนึ่ง วัยรุ่นเดินผ่านแล้วยกมือไหว้ เราก็สงสัยเลยจะเดินเข้าไปอีกนิด ด้อมๆ มองๆ ดู เปิด Google หาข้อมูลเจอว่าเป็นศพเด็กที่ไม่เน่าเปื่อยเสียชีวิตตั้งแต่ปี พ.ศ. 2520 แล้วอยู่ๆ เราก็รู้สึกกลัวขึ้นมา เลยล่าถอยออก เดินเข้าไปด้านในก็เจอลานที่มีรูปเคารพมากมายอย่างองค์เจ้าแม่กวนอิม เราก็ยกมือไหว้แล้วเดินอ้อมออกไปเพื่อหาว่าศาลาของ "ย่านาค" อยู่ตรงไหน


    เดินไปไม่ไกลก็เจอป้ายบอก "เรือนแม่นาคพระโขนง" ซึ่งก็มีของขายด้านหน้า และประวัติของ "แม่นาค" เดินเข้าไปก็เจอ "ไม้ตะเคียน" และ "เรือนแม่นาคพระโขนง" บอกตรงๆ ตอนเดินมาที่ตรงนี้รู้สึกเหมือนมีแรงต้านเบาๆ แต่ก็เดินต่อมาจนถึง "เรือนแม่นาคพระโขนง" ด้านหน้ารูปเคารพของ "แม่นาค" มีต้นตะเคียนใหญ่มากมีผ้าสีพันอยู่ เราก็ยกมือไหว้แล้วเดินเข้าไปด้านใน มองหาว่าจะซื้อธูปเทียนไหว้จากตรงไหน


    ตรงริมอาคาร เราเห็นมีคนต่อแถวกันอยู่ ตอนแรกไม่ทราบแถวอะไร แต่เงยหน้าขึ้นไปก็เจอราคาสิ่งของถวายต่างๆ เราก็เลยเดินไปต่อแถว เห็นคนมาขอใบเซียมซี แต่เราไม่ค่อยชอบแบบนี้แบบมีคนหยิบให้เพราะถ้าเกิดผลออกมาได้ใบไม่ดีมาขอใหม่ก็น่ารำคาญ แต่เป็นแบบหยิบเองจะได้ไปเสี่ยงอีกรอบได้ เราเลยตัดสินใจไม่เสี่ยงเซียมซีที่นี่ ขอพรอย่างเดียว สำหรับเราก็ธูปเทียน-ดอกไม้ถวายชุดละ 20 บาท ก็เดินไปไหว้ขอพรด้วยความตั้งใจ และขึ้นไปไหว้ด้านในต่อหน้ารูปปั้นของ "แม่นาค" แล้วเข้าไปแปะทองคำเปลวที่มือรูปปั้นพร้อมถวายเงิน แล้วเดินมาหยิบไข่เลขเด็ดในไห ตอนเราเดินเข้ามาเห็นเลขหนึ่งมีคนหยิบขึ้นมา อยู่ๆ เราก็คิดถึงเลขนั้น แบบไม่มองในไห ปรากฏหยิบได้เลขนั้นเป็น 1 ใน 2 ใบที่เราหยิบขึ้นมาจริงๆ


    เราไหว้ลา "แม่นาค" แล้วกางร่มฝ่าแดดออกไปยังวัดที่ 3 คือ "วัดยาง (ซอยอ่อนนุช 23)" ซึ่งดูแล้วอีกหลายซอยจากตรงนี้ไป เราเลยตัดสินใจนั่งสองแถวมาลงที่ "ซอยอ่อนนุช 23" ค่าโดยสาร 8 บาท


    ตรงจุดที่ลงรถและเดินเข้ามาจะผ่านที่บรรจุกระดูกผู้ล่วงลับและลานจอดรถ ความจริงตอนนั่งรถเมล์ผ่าน เราส่องดูเห็นเหมือนกันว่า "วัดยาง" มีหลายทางเข้า แต่ทางเข้าที่เราเข้ามาเหมือนเดินไกลเหมืิอนกัน สงสัยลงผิดทางเข้า


    เดินผ่านลานจอดรถจะมีประตูทางเข้าเล็กๆ เชื่อมกับด้านในวัด ตอนเดินเข้ามาก็งงๆ เพราะไม่เห็นมีอะไรเลยเจอเมรุอย่างแรกเลยด้วยซ้ำ ก็ไม่รู้ว่าโบสถ์ที่ให้ไหว้พระอยู่ตรงไหน แต่ระหว่างทางก็เจอศาลาของ "เจ้าแม่ตะเคียนทอง" ก็ยกมือไหว้ แต่ดูรอบๆ คือไม่มีคนมาทำบุญเท่าไหร่ช่วงเวลานี้


    เดินผ่านศาลาของ "เจ้าแม่ตะเคียนทอง" ไปไม่ไกลก็เจอโบสถ์ เราก็ลองเดินเข้าไปดูก็เจอว่าพระประธานองค์ใหญ่น่าจะอยู่โบสถ์นี้ จึงเดินเข้าไปไหว้ขอพร


    ความจริงคิดจะเสี่ยงเซียมซีด้วยแต่เดินหากระบอกเซียมซีไม่เจอ แต่มีชั้นวางคำทำนาย พอถามคนดูแลแถวนั้น เขาก็บอกไม่มี เราก็เลยทำบุญอย่างเดียวแล้วเดินออกจากวัดเพื่อเดินต่อไปยังวันที่ 4 คือ "วัดทองใน (ซอยอ่อนนุช 25)" แต่ระหว่างเดินออกเราก็เจอที่ไถ่ชีวิตโค-กระบือที่มีคอกวัว-ควายอยู่ เราก็เลยยืนมองและถ่ายภาพ


    เดินต่อไปอีก 6 - 7 นาทีก็มาถึงซอยอ่อนนุช 25 ซึ่งเป็นที่ตั้งของ "วัดทองใน" ซึ่งเหมือนต้องเดินเข้าซอยไปอีก ไม่ใช่เดินผ่านซุ้มประตูวัดและจะถึงวัดเลย


    เดินผ่านซุ้มประตูวัดไปเรื่อยๆ ก็ถามทางคนที่เดินสวนมาว่าอีกไกลไหม เขาก็บอกก็ไกลแต่ก็เดินได้แล้วชี้ไปท้ายซอยซึ่งเราคิดว่าต้องมีทางเลี้ยวไปและเลี้ยวซ้าย เลยเดินไปเรื่อยๆ จนมาถึง "วัดทองใน" 

    เดินเข้าไปภายในวัด ก็งงๆ ว่าจะต้องไปไหว้พระที่ไหนก็เจอศาลาหนึ่งเห็นมีรูปเคารพก็ไม่แน่ใจเลยเดินเข้าไปอีกและเลี้ยวข้างโบสถ์ก็เจอปะรำพิธีไหว้พ่อแก่ พ่อปู่ฤาษี มีคนนั่งทำพิธีกันอยู่ เราเลยเดินเข้าไปดูและถ่ายภาพก่อนเดินกลับย้อนออกมา


    เดินย้อนกลับมาศาลาเดิมที่เห็นมีรูปเคารพก็เจอข้อความด้านบนศาลาว่า "หลวงพ่อเพชร" ลองหาข้อมูลในกระทู้เดิมก็เจอชื่อหลวงพ่อองค์นี้ จึงเดินเข้าไปไหว้ขอพระและเสี่ยงเซียมซี ใบทำนายก็บอกให้หมั่นทำบุญไว้แล้วจะดีขึ้นเอง


    ทำบุญขอพรแล้วก็เดินออกจากวัด แวะซื้อน้ำที่ร้านข้างทาง ร้อนมากๆ แล้วก็เดินต่อไปที่วัดที่ 5 คือ "วัดต้นไทรย์ (ซอยอ่อนนุช 29)" ซึ่งเราก็ตัดสินใจเดินไป เพราะจากซอยอ่อนนุช 25 ไปซอยอ่อนนุช 29 ไม่น่าไกล (มั้ง) แต่ก็เดินไปประมาณ 10 - 15 นาที 


    วัดนี้คือวัดที่เราตามหาว่าชื่อวัดอะไร เป็นวัดที่เคยมากับเพื่อนเมื่อ 7 - 8 ปีก่อน มีจุดเด่นที่จำได้คือมีพิธีกรรมที่แก้กรรมผู้หญิงที่ทำแท้งแล้วมีพระให้ผู้หญิงแต่ละคนเอามือจุ่มน้ำในกะละมัง แล้วผู้หญิงเหล่านั้นก็ร้องไห้ เราก็เหมือนได้กลิ่นเหม็น กลิ่นแปลกๆ ไม่รู้กลิ่นอะไรแต่นึกถึงกลิ่นศพเด็ก หรือกุมารทองเพราะจำได้ว่าตรงนั้นมีรูปเคารพกุมารทองเยอะมากๆ เลยอยากไปที่วัดนี้อีก เลยค้นข้อความเก่าๆ ที่เคยถามเพื่อนและหาที่ตั้ง ปรากฏก็อยู่บนถนนเส้นเดียวกันกับ "วัดมหาบุศย์" 

    พอเดินผ่านซุ้มประตูวัดก็ต้องเดินผ่านเข้าไปอีก แต่พอถึงวัดข้างในก็เหมือนทำพิธีศพอยู่ และมีผู้ชายบอกให้เราเข้าไปไหว้ในศาลาได้ (ศาลาเดียวกับที่ทำพิธีแก้กรรมทำแท้ง) แต่ตอนนี้ไม่มีภาพแบบตอนนั้นแล้ว มีแค่องค์พระประธานและรูปเคารพต่างๆ เราก็ไหว้พระ ขอพรและเสี่ยงเซียมซีเหมือนที่เคยทำที่วัดอื่นๆ ที่ผ่านมาตามปกติ


    แต่เสี่ยงเซียมซีที่วัดนี้ไม่ดี คือเสี่ยง 3 รอบ ไม่ดีเท่าไหร่ก็แค่พอใช้ แต่เนื่องจากมีพิธีศพ เรามาเขย่ากระบอกเซียมซีก็รบกวนเขาแล้ว เลยไหว้พระแล้วเดินกลับออกมา

    เดินไปประมาณ 10 นาทีก็มาถึงวัดที่ 6 คือ "วัดปากบ่อ (ซอยอ่อนนุช 35)" 


    พอเดินผ่านซุ้มประตูวัดก็ต้องเดินเข้าไปอีก ไกลพอสมควร ความจริง "วัดต้นไทรย์" เรามาเป็นครั้งที่ 3 ครั้งที่ 2 มาประมาณ 6 ปีก่อน แล้วเดินไปอีกวัดหนึ่ง ไปให้อาหารวัวหรือควายมั้งเป็นผักกาด ตอนนั้นไปแต่เช้าเลย และคิดว่าน่าจะเป็น "วัดปากบ่อ" แต่ไม่ใช่ เพราะจำได้ไม่ว่าเดินลึกขนาดนี้ หรืออาจเป็น "วัดยาง" ก็จำไม่ได้เหมือนกัน แต่อาจจะใช่ก็ได้เพราะจำได้ตอนให้อาหารวัว + ควาย มีโบสถ์อยู่แถวนั้นด้วย

    เดินมาเรื่อยๆ ก็มาถึง "วิหารหลวงพ่อรุ้งเพชรและหลวงพ่อหาญสัมฤทธิ์" ก็เข้าไปไหว้ ขอพรในโบสถ์เลย


    ในโบสถ์ไม่มีคน แต่มีเปิดคำเทศนา เราไหว้พระ ขอพรก็อยากนั่งสมาธิสักแป๊ปหนึ่ง แล้วก็ออกไปจุดธูปเทียน ถวายดอกไม้ด้านนอก ก่อนเข้ามาเสี่ยงเซียมซีด้านในโบสถ์อีกรอบ ตอนแรกได้ใบทำนายไม่ดี เลยมาตั้งใจเสี่ยงใหม่ ออกมาดี เราก็ขอบคุณ แล้วเดินออกจากโบสถ์มา พระที่นั่งอยู่หน้าโบสถ์เห็นเราออกมาก็เข้าไปปิดประตู ตอนแรกเราอยากถวายสังฆทาน แต่พระท่านบอกต้องไปทำพิธีเผาศพตอน 4 โมงเย็น ตอนนั้น 15.41 น. แล้วคือไม่ทัน เราเลยไหว้ลาท่านแล้วเดินออกมา


    วัดสุดท้ายที่เราต้องการไปทำบุญคือ "วัดขจรศิริ (ซอยอ่อนนุช 45)" ความจริงในกระทู้มีวัดอีกแห่งที่อยู่ในซอยอ่อนนุชคือ "วัดกระทุ่มเสือปลา (ซอยอ่อนนุช 67)" แต่ดูแล้วต้องข้ามสี่แยกไปอีก เราเลยไม่ไปเพราะไกลเกินไป เราก็เดินมาเรื่อยๆ จนผ่านที่เรามาสัมภาษณ์งาน ก็จำได้ว่าวันนั้นที่เราเดินออกมาเราก็เดินไปทานข้าวและก็เดินไม่ไกลเลี้ยวไปป้ายรถเมล์ถนนหลัก เราเลยไม่แน่ใจว่าก่อนถึงสี่แยก "ซอยอ่อนนุช 45" อยู่ก่อนถึงสี่แยกหรืออยู่อีกด้านถนนหนึ่งของสี่แยก 

    ระหว่างทางเราก็แวะร้านอาหารเดิมที่เรามาทานตอนสัมภาษณ์งานเสร็จเมื่อ 2 วันก่อน และทานเมนูเดิมคือ "ข้าวหน้าเป็ด" 50 บาท แต่อร่อยจริง


    พอออกจากร้านอาหาร เราก็คิดว่าจนไปสุดถึงสี่แยกก็คงยังไม่ถึง "ซอยอ่อนนุช 45" แต่ปรากฏเดินไปเรื่อยๆ เจอ "ซอยอ่อนนุช 41" และ "ซอยอ่อนนุช 43" แต่สี่แยกยังอยู่อีกลิบๆ ดังนั้นในที่สุดเราก็มาถึงวัดที่ 7 คือ "วัดขจรศิริ (ซอยอ่อนนุช 45)" จนได้


    เดินผ่านซุ้มประตูวัดก็ต้องเดินเข้าไปอีกไม่ไกลมาก แต่พอเข้าถึงในวัดก็เจอเขาทำพิธีศพกันอยู่ เราก็เดินเข้าไปข้างในก็เจอโบสถ์หนึ่งมีคนเข้าออก มองดูมีป้ายบอก "นมัสการขอพรหลวงพ่อขอม" เราเลยเดินเข้าไปไหว้ด้านใน


    ไหว้พระ ขอพร แปะทองคำเปลวแล้ว ตอนแรกเราก็ลังเลจะเสี่ยงเซียมซีดีไหม เพราะวัดที่แล้ว เราได้ใบทำนายดี แต่ก็ลองเสี่ยงดู ก็ได้ใบกลางๆ เสร็จแล้วเราก็ไหว้ลาแล้วเดินไปอีกศาลา เข้าไปไหว้พระด้านในขอพรก่อนเดินทางกลับ


    เดินออกจากวัดสุดท้ายก็ประมาณ 4 โมงเย็นกว่าๆ ก็ถือว่ามาครบ 7 วัด เสียดายไม่ได้ถวายสังฆทาน ตอนแรกกะมาถวายวัดสุดท้ายแต่คงเพราะเย็นมากเกินไปจึงไม่มีพระอยู่แล้ว และตอนเราเดินออกมาจากศาลาสุดท้ายนี้ เจ้าหน้าที่ดูแลก็เริ่มเก็บของแล้ว ก็ถือว่าวันนี้มาทำบุญขอพรวันหยุด ส่วนจะได้ตามคำขอหรือเปล่า สุดท้ายก็ขึ้นอยู่กับเวรกรรม คือตระเวนทำบุญมาเยอะแล้วก็ยังไม่ได้ คนเรามีเวรกรรมและโอกาสแตกต่างกันไป ชาตินี้ไม่ได้ ไม่ดี ชาติหน้าอาจจะดีขึ้นกว่านี้ก็ได้





Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in