สืบเนื่องจากว่าเราเห็นว่าข้อมูลเกี่ยวกับโครงการวมว. มข. เนี่ยมีค่อนข้างน้อยนอกจากเว็บของลุงวิกิและเว็บของโครงการแล้ว ก็เอาเป็นว่า ถ้าไม่ฟังจากปากของรุ่นพี่ก็ยังไม่มีกระทู้หรือบล็อกที่บอกเล่าประสบการณ์ในการเรียนในโครงการวมว.ศูนย์มข. อย่างละเอียดถี่ถ้วนมาก่อนในประวัติศาสตร์!!?❤
แล้วเข้ามาเรียนวมว. แล้วต้องทำอะไรบ้าง?
หนึ่งเลยก็คือเรียนแล็ป ค่ะ
ทุกวันพฤหัสบดีเราจะไม่ได้ไปเรียนที่โรงเรียนค่ะ แต่จะได้ไปเรียนที่คณะวิทยาศาสตร์แทน ถามว่าอะไรที่เราต้องเรียนเพิ่มบ้างพื้นฐานเลย เราจะได้เรียนแล็ปสาขาต่าง ๆ ของวิทยาศาสตร์ ทั้งฟิสิกส์ เคมีและชีววิทยา เป็นแล็ปแบบ แล็ปเลย หลักสูตรคล้ายของพี่นักศึกษาปีหนึ่งเคมีก็อย่างเช่น การวิเคราะห์อะลูมิเนียมโดยใช้กฎความดันย่อยของดาลตัน การไทเทรตแบบปฏิกิริยารีดอกซ์โดยวิธีไอโอโดเมทรีและการหาปริมาณทองแดง ฟิสิกส์ก็อย่างเช่นวงจร RC, แทนเจนต์แกลวานอมิเตอร์ ส่วนแล็ปของชีววิทยาก็อย่างเช่น การสังเคราะห์แสงและการหายใจระดับเซลล์ เป็นต้นค่ะ
ซึ่งโครงการจะจัดให้แล็ปเรื่องที่เรียนที่คณะสอดคล้องกับเรื่องที่เราเรียนที่โรงเรียนด้วยทำให้เราแบบเข้าใจได้อย่างลึกซึ้งมากยิ่งขึ้นซึ่งแล็ปที่ก็จะทำคละกันกับเพื่อนในรุ่นตามโอกาสเลยค่ะซึ่งทุกครั้งก่อนที่จะเรียนจะมีการสอบควิซก่อนทำให้ต้องอ่านแล็ปเรื่องที่เราจะทำไปก่อนเพื่อเตรียมตัวสอบควิซก็แล้วแต่จะจัดการกันเลยว่าใครจะอ่านตอนไหน บางคนก็อ่านก่อนหนึ่งคืน บางคนก็ก่อนสอบเลยค่ะ555555 ซึ่งทุกเทอมที่เรียนจบก็จะมีการสอบไฟนอลแล็ปแต่ละวิชาที่เรียนมาด้วย ซึ่งแล็ปที่ทำรีพอร์ทที่เขียนส่ง ควิซที่ควิซทุกสัปดาห์นำมาคำนวณเป็นคะแนนใช้ตัดเกรดที่โรงเรียนด้วยค่ะ
นอกจากทำแล็ปแล้วอย่างที่สองเลยก็คือเรียนวิชาเสริม
วิชาเสริมก็คือวิชาที่เพิ่มเติมขึ้นมาจากหลักสูตรนั่นเองค่ะ ซึ่งทางโครงการวมว. มข. จัดวิชาเสริมให้เยอะมากกกกกกกกกกกเรียนแบบว่า โอ้ว แบ่บว่า..555555 ซึ่งวิชาเสริมที่เราเรียนเพิ่มทั้งหมดคร่าวๆประมาณนี้ค่ะ
ม.4 ธรณีวิทยา, ภาษาอังกฤษเพิ่มเติม, คอมพิวเตอร์(ภาษาซี), วิชาเลือกระหว่างจุลชีววิทยาหรืออิเล็กทรอนิกส์, วิชาสัมมนา
ม.5 สถิติพื้นฐานเพื่อการวิจัย, ภาษาอังกฤษ, วิชาเลือกคอมพิวเตอร์ 2 หรือคอมประยุกต์, วิชาประวัติศาสตร์ของจังหวัดขอนแก่น
ม.6 ภาษาอังกฤษ, นาโนเทคโนโลยี, นิติวิทยาศาสตร์, วิชาวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม, วิชาเสริมภาคบรรยายฟิสิกส์ เคมี ชีวะ
ซึ่งวิชาเสริมเหล่านี้ในแต่ละปีการศึกษาก็จะประมาณนี้อาจมีปรับเปลี่ยนในแต่ละปีบ้างตามความเหมาะสม ชอบบ้างไม่ชอบบ้างแต่ก็ต้องเรียนเอาจริง ๆ ก็เหนื่อยนะคะเพราะว่าเยอะมากกกกก บางวิชามีสอบ มีนำมาคิดเกรดด้วยแต่ข้อดีก็คือ พอมันได้เรียนมันก็แบบ เฮ้ย มีแบบนี้ด้วยเหรอ อย่างนาโนเทคโนโลยีอ่ะค่ะเรียนแล้วแบบ ว้าวเลยยยยยยย ไม่คิดว่าชีวิตนี้จะได้รู้อะไรแบบนี้ด้วยธรณีวิทยาก็สนุกค่ะ เหมือนแบบก็เป็นโอกาสที่ดีมากจริง ๆ ที่ได้มีโอกาสเรียนอ่ะค่ะ
อย่างที่สามเข้าค่ายเสริมประสบการณ์เป็นกิจวัตร!! และทำโครงงานวิทยาศาสตร์
หลายๆ คนคงแอบรู้มาว่า ค่ายของโครงการเราเยอะม๊ากมากกกกกกกก เยอะมากจริง ๆ ค่ะ เดี๋ยวเรามาดูกันเลยว่ามีอะไรบ้างงงง
ถ้าจะพูดถึงค่ายหลักๆ ของโครงการวมว. ของทุก ๆ ศูนย์เลยนั่นก็คือ
1.ค่ายวิทยาศาสตร์สานสัมพันธ์ฉันท์วมว.
นักเรียนโครงการวมว. รุ่นที่ 10
ณ โรงเรียนสาธิตพิบูลบำเพ็ญ
ค่ายนี้จะได้ไปหลังจบม.4 จะขึ้นม.5เป็นค่ายที่เพื่อน วมว. จากศูนย์ทุกศูนย์จะไปรวมกันเพื่อสานสัมพันธ์ตามชื่อเลยค่ายนี้สนุกค่ะ เน้นหาเพื่อน และส่องกันตามอัชฌาสัย!! ธรรมเนียมฮิตฮอทเลยก็คือแลกเข็มค่ะก็จะมีการแลกเข็มกับเพื่อนศูนย์อื่นตามศรัทธาและราคาเข็ม(55555) ประโยคเด็ดก่อนจากกันเลยก็คือ“เจอกันฟอรั่มนะ”
2. อันนี้ไม่ใช่ค่ายแต่ขออนุญาตจัดอยู่ในหมวดนี้ล่ะกันนะคะเป็นงานนำเสนอผลงานทางวิชาการ ในชื่อของ SCiUS FORUM ครั้งที่....ก็ว่าไป
เป็นงานที่เอาโครงงานที่เราทุ่มเททั้งแรงกายแรงใจตลอดช่วงเวลาที่อยู่ที่นี่มานำเสนอกับอาจารย์ผู้ทรงคุณวุฒิและเพื่อน ๆ จากศูนย์อื่นนั่นเองค่ะ อย่างที่ทราบกันดีว่า เข้ามาในโครงการจะต้องทำโครงงานวิทยาศาสตร์หรือที่ทุกคนเรียกติดปากว่า ทำฟอรั่มเป็นโปรเจคที่นักเรียนในโครงการทุกคนต้องทำเพื่อนำไปนำเสนอในงาน SCiUS forum ค่ะ ซึ่งโครงงานเนี่ยก็จะจับคู่กัน หรือจะทำคนเดียวก็ได้โดยต้องเลือกทำตามสาขาวิชาที่สนใจ แต่ละคนก็จะเริ่มทำไม่พร้อมกันค่ะส่วนมากก็จะเริ่มกันตอนม.5ซึ่งใช้เวลาทำกันเป็นปีหรือน้อยกว่านั้นตามความสามารถและความฟิตของแต่ละคนเลยซึ่งศูนย์มข. ก็จะจัดให้นำเสนอความก้าวหน้าเป็นระยะ ๆ ค่ะ โดยเปิดโอกาสให้อาจารย์และเพื่อนๆ กลุ่มอื่นตำหนิติชม ซักถาม ทำให้เราต้องแบบพัฒนาโครงงานเราเรื่อย ๆ เลยยย แง้ ก็ถามว่าเครียดมั๊ยก็เครียดอยู่ค่ะ5555 แต่ว่าเป็นประสบการณ์ที่ดีมากเลย อย่างโครงงานเราเป็นสาขาชีววิทยาต้องอ่านเปเปอร์เยอะมากกกกกก ทำโครงงานเสร็จก็คือเวลาอ่านงานเขียนภาษาอังกฤษก็รู้สึกว่ามันพัฒนาขึ้นมากเลยค่ะ ทักษะการสื่อสาร การเรียบเรียงนำเสนอข้อมูล ทุกคนได้ประโยชน์แน่นอน โดยงานนำเสนอผลงานทางวิชาการจะได้นำเสนอช่วง ม.5 จะขึ้นม.6ค่ะประมาณช่วงเมษายน – พฤษภาคมค่ะ
อันนี้คือหลักๆ ของโครงการ ต่อมาเรามาดูกันค่ะว่าค่ายของศูนย์มข. เนี่ยจัดให้เราไปไหนบ้าง
1. ค่ายรับน้องของโครงการที่จัดขึ้นที่เขาใหญ่ค่ะ ตอนเราอยู่ม. 4 ต้องเข้ากิจกรรมนี้ สนุกมากเลยค่ะ แบบว่าได้รู้จักกันเพื่อน ๆ ที่ ๆ และอาจารย์ในโครงการที่ค่ายนี้เลย พี่ ๆ ดูแลดีมากกกกกกกกกก แต่ว่าในปีการศึกษา 2562 เนี่ย เป็นปีเดียวที่จัดที่เขื่อนอุบลรัตน์ อ.อุบลรัตน์ จังหวัดขอนแก่น สนุกมากกกกกกกก็จะได้รู้จักกับเพื่อน ๆ ในรุ่นทั้งศึกษาศาสตร์และมอดินแดงตอนนี้ก็จะเป็นน้องน้อยที่พี่ ๆ ดูแลเป็นอย่างดีแน่นอน
2. ค่ายสานสัมพันธ์ฉันท์น้องพี่ หรือที่รู้จักกันในชื่อของ ค่ายสามรุ่น เป็นค่ายนักเรียนในโครงการวมว.มข. ทุกคนจะมาทำกิจกรรมร่วมกันทั้ง ม. 4 - ม.6 นั่นเองค่ะ ค่ายนี้ก็สนุกกกกกกกกเล่นจนกลับห้องไปคือหลับสลบ
3. ค่ายธรณีวิทยา เป็นค่ายที่ประกอบกับการเรียนวิชาธรณีวิทยา แต่ว่าพาเราไปเจอของจริง
บรรยากาศค่ายธรณีวิทยาค่ะ ตอนปีเราไปที่ผาหินงาม จ.เลย มีเวลาให้แวะถ่ายรูปกันนิดหน่อยยย เหนื่อยแต่สนุกมากค่ะ ส่วนรูปที่สองเป็นค่ายธรณีวิทยารอบที่ 2 ไปกับนักเรียนที่มาทัศนศึกษาจากประเทศญี่ปุ่น แต่อันนี้ไปแบบไม่นอนค้างคืนค่ะ แถวๆ ภูเวียง กาฬสินธ์ุ ค่าา
4. ค่าย 4 กรุง เป็นค่ายที่พาเราไปเรียนรู้ประวัติศาสตร์ชาติไทยให้เราเนี่ยรู้ซึ้งถึงประเทศโดยรุ่นเรารุ่นที่ 7 กับรุ่นพี่เนี่ยได้ไปประมาณช่วงค่ายสานสัมพันธ์เลย แต่เหมือนน้องรุ่น 9 จะเปลี่ยนให้ไปช่วงเดือนธันวาแทนโดยค่ายนี้จะไปศึกษาประวัติศาสตร์ที่ สุโขทัย อยุธยา กำแพงเพรช
5. ค่ายพัฒนาผู้นำ ตามชื่อเลยค่ะทุกคนเป็นค่ายที่เราเนี่ยจะได้เรียนรู้การจัดกิจกรรมให้คนหมู่มาก ทำนองว่าเป็นค่ายที่เตรียมก่อนออกสนามรบของจริง
6. ค่ายรู้รักษ์รู้จักเมืองขอนแก่นเป็นค่ายที่จัดให้สอดคล้องกับวิชาเรียนและเพื่อให้ทุกคนได้รู้จักจังหวัดขอนแก่นที่เป็นจังหวัดที่ทุกคนอยู่ในตอนนี้ค่ะก็จะได้ไปทัสร์สถานที่สำคัญ ๆ ในจังหวัดขอนแก่นเลย
7. ค่ายดาราศาสตร์ เราจะเดินทางไปที่เขื่อนจุฬาภรณ์ จังหวัดชัยภูมิ ที่หอดูดาวค่ะ
8.เปิดโลกทัศน์ที่ต่างประเทศค่ะ ตัวนี้ก็จะไปพักผ่อนบวกกับไปศึกษาวิทยาศาสตร์ที่ต่างประเทศด้วยซึ่งรุ่นเราเนี่ยเพื่อน ๆ ห้อง 1 เดินทางไปที่ประเทศญี่ปุ่น ส่วนห้อง 5 ไปเกาหลีใต้ สนุกมากและว้าวมาก ไม่ขอลงรายละเอียดมาดนะคะแต่สามารถติดตามได้ใน#sciusseoulsay ในอินสตาแกรม blogsportและคลิปในยูทูปได้เลย
แปะๆๆเผื่อใครอยากแอบไปดู อิ้---อิ้
บล็อก #sciusseoulsay DAY4 >>click<<
คลิป #SCiUSseoulsay DAY 1 >>click<<
#SCiUSseoulsay DAY 3 >>click<<
#SCiUSseoulsay DAY 4 >>click<<
#SCiUSseoulsay DAY 5 >>click<<
หอพักเราพักที่ไหน??
ในส่วนของห้องกลางนะคะจะประกอบไปด้วย 7 ห้องด้วยกันค่ะ
ประกอบไปด้วย 1. ห้องสำนักงาน เป็นห้องของอาจารย์ประจำโครงการค่ะ เอาไว้จ่ายค่าน้ำค่านม รับยาเมื่อเราแบบเจ็บป่วย มีไมค์เอาไว้ประชาสัมพันธ์บางอย่างที่ต้องรับรู้กันทั้งหออ่ะค่ะ ไปติดต่อเวลามีอะไร อะไรทำนองนี้ค่ะ
2. ห้องทีวี ห้องนี้มีไว้เวลาแบบว่า ดูทีวี5555 ไม่เชิงค่ะ เป็นแบบเวลาประชุมกัน หรือเต้นโวฟเวอร์ ก็จะมาห้องนี้ค่ะ
3. ห้องสมุด ห้องสมุดก็คือห้องสมุดค่ะ! ห้องนี้ก็คือเอาไว้อ่านหนังสือ ศูนย์รวมความฟิตอยู่ ณ ห้องนี้
4. ห้องเลคเชอร์ เป็นห้องที่เอาไว้เวลาที่อาจารย์มาสอนเสิร์มที่หอ หรือเวลามีกิจกรรมอะไรก็สามารถมาประชุมกันที่ห้องนี้ได้ค่ะ
5. ห้องคอมพิวเตอร์ เวลาใครจะใช้งานคอมพิวเตอร์สามารถมาใช้งานได้ ส่วนใหญ่จะเป็นน้องม.4 เพราะว่าม.4เทอมแรกจะไม่ได้รับอนุญาตให้เอาคอมพิวเตอร์มา แล้วก็เวลาใครจะปรินท์งานส่งอ่ะค่ะ ก็สามารถมาปริ้นท์และจ่ายเงินที่ห้องนี้ได้ ตอนนี้รู้สึกว่าห้องสำนักงานก็มีให้ปริ้นท์งานเหมือนกันนะคะ แต่ว่าต้องจ่ายตังค่ะ
6. ห้องคอมม่อน เป็นห้องที่มีตู้เย็น หนึ่งชั้นมี2ห้อง แยกกันในแต่ละฝั่งค่ะเอาไว้สำหรับใครที่จะเวฟอาหาร เก็บของกินในตู้เย็น นั่งทานข้าว ทำนองนี้ค่ะ
7. ห้องพระ เราชอบไปนั่งสมาธิมากค่ะ แบบว่าจะอยู่ในห้องคอมอีกที เวลางานเยอะๆ วุ่นวายๆ เราชอบมากเลยทุกคน
ในส่วนของตอนเช้านะคะ ทางหอพักมีอาหารเช้าให้ สามารถติดตามได้ในไอจี sciuskku_foodland เป็นไอจีที่สร้างขึ้นโดยน้อง ๆ วมว.มข. รุ่นที่ 8 ค่ะ อาหารเช้ามี 2 อย่าง มีโอวันตินให้ชง บางวันมีน้ำเต้าหู้กับปาท่องโก๋ด้วยค่ะ กินดีอยู่ดีมาก
ในส่วนของหอพักก็มีกิจกรรมเช่นเดียวกันนะคะ
กิจกรรมของหอพัก หลัก ๆ เลยก็จะมี
1. บิ๊กคลีนนิ่งเดย์ กิจกรรมทำความสะอาดหอพักครั้งใหญ่ ปีละหนึ่งครั้ง
2. กิจกรรมอบรมอัคคีภัย เป็นกิจกรรมที่อบรมวิธีการเอาตัวรอดตอนที่เกิดเหตุไฟไฟม้ค่ะ สอนในเรื่องการขนย้ายผู้ป่วย การดับไฟ การหลบหนีเมื่อได้ยินเสียงสัญญาณค่ะ
3. ทำบุญหอพัก จัดขึ้นปีละครั้งค่ะ โดยทางหอพักจะนิมนตร์พระสงฆ์มา มีกิจกรรมทำวัตรเช้าและทำบุญตักบาตร
4. ประชุมหอพัก จัดขึ้นในทุก ๆ เดือนค่ะ ทุกคนต้องมาประชุมกันอัพเดตข่าวสาร
5. บายเนียร์ เป็นกิจกรรมที่น้องม.5จะจัดให้พี่ม.6ที่กำลังจะจบการศึกษาในปีนั้น ๆ ค่ะ ในช่วงเช้าจะต้องไปดูแลต้นไม้สายรหัสของตัวเอง ในช่วงเย็นจะเป็นงานเลี้ยงค่ะ ในแต่ละปีก็จะมีธีมที่แตกต่างกันออกไป กิจกรรมในงานก็จะเป็นการแสดงโชว์ของแต่ละห้อง ร่วมกันรับประทานอาหาร เล่นเกมนิดๆหน่อยๆ นั่งดูวิดิทัศน์ด้วยกัน เป็นความทรงจำที่ดีมาก ๆ เลยค่ะ
วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2563
เวลาเดินทางไปโรงเรียนไปยังไง
ถ้าเป็นศึกษาศาสตร์จะเดินไปโรงเรียน แต่ถ้าเป็นสาธิตมอดินแดงจะมีรถรับส่งพาไปส่งที่โรงเรียนค่ะ แต่ว่าขากลับต้องกลับเองนะคะ อิ้___________อิ้
ต่อไปเราขออนุญาตเราว่าแต่ละชั้นเนี่ยอารมณ์มันจะประมาณไหน(สำหรับเรานะคะ)
ส่วนตอนม. 5 เรารู้สึกว่า อ่ะ....มาล่ะ โครงงงโครงงาน งานที่โรงเรียนตั่งต่างงงงงงงงงงงตอนนั้นมองกลับไปม.4ก็จะแบบ ตอนนั้นชั้นเครียดอะไรวะ55555 เพราะตอนม.5ก็คือ กระติกตัวไม่ค่อยจะได้จะเตรียมตัวสอบเข้ามหาลัยก็แบบ มู้ดไม่ค่อยมา (อันนี้น่าจะเป็นคนเดียว) ตื่นเต้นกับโครงงานที่จะเอาไปพรีเซ้นท์เข้าแล็ปเป็นกิจงานที่โรงเรียนก็เยอะอีก สีสันชีวิตจริงๆ อย่างเช่นตอนปิดเทอมอ่ะค่ะ เราไปทำโครงงาน ตลอดปิดเทอมเลย!!!55555 ทุ่มเทที่สุดมากในตอนนั้น สนุกดีค่ะ แต่เวลามีค่าจริง ม.4เน้นกิจกรรมใช่ไหมคะ ม.5ก็คือยังเน้นกิจกรรมอยู่5555555 เพราะต้องเป็นสตาฟค่าย รวมถึงมีโครงงานที่ต้องรับผิดชอบด้วย
และม. 6 เป็นช่วงที่55555555555555555เปนบ้า เครียดมหาลัยค่ะ เครียดกว่าที่ผ่าน ๆ มา แต่โครงการจะไม่มีกิจกรรมที่ให้เราทำแล้วแต่ต้องไปเรียนแล๊ปทุกวันพฤหัสบดีเหมือนเดิมห้ามขาด บวกๆประชุมหอต้องไปค่าาา(เป็นกำลังใจให้DEK63
เห็นยุ่งเป็นหน้าเป็นหลังแบบนี้แต่กิจกรรมก็ไม่ขาดนะคะ อยากเพื่อนเรานี่แบบไปเป็นลงเป็นหลีด แข่งกีฬาสาธิต เล่นกีตาร์ร้องเพลง ทำทุกอย่างแล้วบนโลกนี้555555555555
คำถามฮิตฮอทอีกหนึ่งคำถามก็คือ “ถ้าอยากเป็นหมอเรียนวมว.ได้ไหม” อันนี้ในความเห็นส่วนตัวของเราถ้าน้องอยากแบบเตรียมตัวแบบเตรียมตัวเลยเรียนพิเศษออลเดย์ออลไนท์ ก็อย่ามาดีกว่าอย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่างานเยอะกิจกรรมเยอะมากคือมันเยอะอ่ะ!!
แล้วก็น้องชอบถามเราว่า“เรียนดีไหม” น้องอ่านมาที่พี่เขียนทั้งหมดน้องโอเคก็เรียนนนนแต่ถ้าไม่ชอบทำโครงงาน ไม่ชอบแบบวิทย์จ๋าขนาดนี้ก็แนะนำอย่ามาเลยยเพราะว่าตรงๆก็คือกดดันอยู่น้า5555555 มาเรียนนี่สิ่งที่ได้เพิ่มเติมคือการจัดการกับหัวใจให้แข็งแรงฮึกๆๆๆ
ความรู้สึกที่ได้มาอยู่ในโครงการ
เราขอบอกเลยว่าสำหรับเราสังคมที่นี่ดีมากกกกกกกกกกกกกเพื่อนก็ดีรุ่นพี่ก็ดี รุ่นน้องก็น่ารัก อาจารย์ประจำโครงการก็น่ารักกันมาก ๆเวลามีปัญหาอะไรก็ไม่ต้องห่วงว่าจะเหงา!! ประกอบกับเพื่อน ๆ เนี่ยเก่งกันแล้วก็ขยันกันมากด้วย ทำให้เราแบบ เออก็ต้องขยันขึ้นมาบ้างแหละเนอะเสน่ห์ของการมาอยู่ที่นี่สำหรับเราก็คือ การได้พัฒนาตัวเองทุกวันๆเหมือนเป็นชาเล้นท์อะไรสักอย่าง แต่อีกมุมนึง ถามว่าเหนื่อยมั๊ยกดดันดันมั๊ยอันนี้ตอบได้เต็มปากเต็มคำเลยว่าเหนื่อยมากกกกกกกกกกก กดดันมากกกกกกกกกกกกกแอบนั้งร้องไห้คนเดียวก็มีบ้างงงงงงง 55555เพราะว่าอย่างที่บอกว่าคนอื่นเก่งมันเลยแอบแบบ เออ เรามันแย่ แบบนี้ก็มีบ้างแหละเครียดโครงงานก็นั่งร้องไห้มาแล้วแต่แบบเราเรียนมาจนจะจบโครงการเราก็ได้รู้ว่ายังไงสุดท้ายมันก็จะผ่านไปผ่านจะผ่านไปด้วยด้วยดีบ้างไม่ดีบ้างแต่สุดท้ายมันจะดีที่สุดในตอนนั้นแล้วอ่ะทุกคนเก่งมากเลยตัวชั้น(หอมหัวตัวเองล้านที)
ถ้าให้กลับไปตอนม.ต้น แล้วถามว่าจะมาเรียนมั๊ย ก็ตอบได้เต็มปากเต็มคำเลยค่ะว่า มาเหมือนเดิม 5555555555 มันก็เหนื่อยแหละแต่แบบถ้าเราไม่เข้าโครงการเราคงไม่แข็งแกร่งเหมือนทุกวันเน้(ซึ้งน้ำตาไหล) มาอยู่นี่เรารู้สึกโตขึ้นมากมายอ่ะทุกคน 10เต็ม10ไปเลย!!! เราดีใจและยินดีมากจริง ๆ นะคะที่ได้มาอยู่ในโครงการอ่ะค่ะ ถึงแม้มันจะมีอะไรขรุขระบ้าง(ไม่บ้างค่ะก็เยอะอยู่55555) แต่พอมองกลับไปก็แบบ เก่งมากนะที่มีชีวิตมาถึงตอนนี้ โตขึ้นมากเลยถ้าเทียบกับวันแรกที่เข้ามา เพื่อน ๆ รุ่นพี่ รุ่นน้องที่รู้จัก มันแบบดีมากอ่ะค่ะ ร้องไห้แล้ว คิดถึงมากกกกกกกกกกก แง้
สุดท้ายนี้ขอบคุณทุกคนที่อ่านมาถึงตรงนี้นะคะ หวังว่าจะรู้จักโครงการของเรากันมากยิ่งขึ้นส่วนน้อง ๆ คนไหน ที่กำลังตั้งใจมาเป็นส่วนหนึ่งของ
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in