เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
พนอ่านpaniiit
แนะนำหนังสือนิยายภาษาอังกฤษน่าอ่าน

  •           ก่อนอื่นต้องออกตัวก่อนว่าเราไม่ได้เก่งภาษาอังกฤษมากมายเท่าไหร่ และเราพึ่งจะเริ่มมาสนใจอ่านนิยายภาษาอังกฤษก็ตอนขึ้นมหา'ลัยนี่เอง แรกๆที่เริ่มอ่านก็เริ่มผิดเล่มด้วยค่ะ ไปเจอเรื่องที่อ่านยาก อ่านแล้วท้อไปหมดจนเกือบจะถอดใจแล้ว จนมีเพื่อนแนะนำมาว่าให้ลองหาอ่านแนว Young Adult ดู นิยายรักจะอ่านง่ายกว่าแนวอื่นๆ ก็ลองทำตามดูก็พบว่าง่ายจริงๆค่ะ เลยอยากมาแนะนำให้กับคนที่อยากเริ่มอ่านแต่ไม่รู้จะเริ่มยังไงดี ไม่อยากให้กลัวว่าจะอ่านไม่รู้เรื่องนะคะ เราเองก็ไม่ได้รู้ศัพท์ทุกคำ บางทีก็เดาจากบริบทเอา ไม่ได้ว่าอ่านไปเปิดดิคชันนารี่ไปอะค่ะ พอเริ่มแล้วก็จะพบว่ามีหนังสือที่น่าอ่านเพียบเลย เพราะงั้นอย่าท้อนะคะ เราเป็นกำลังใจให้ค่ะ 


    สำหรับหนังสือที่เราหยิบยกมา เราเองก็อ่านตามรีวิวมาเหมือนกันว่าสนุก ส่วนความคิดเห็นของเราจะเป็นยังไงนั้นก็ไปลองอ่านกันได้เลยค่า :D

    Everything Everthing by Nicola Yoon
    - ความอ่านง่าย 4/5
    - เนื้อเรื่อง 3/5

    เรื่องย่อ: นางเอกเป็นโรคเกี่ยวกับภูมิคุ้มกัน ทำให้ไม่สามารถออกไปข้างนอกบ้านได้ ชีวิตก็คืออยู่แต่ในบ้าน ส่วนพระเอกเป็นหนุ่มน้อยข้างบ้าน พบเจอนางเอกโดยบังเอิญ​แบบว่าพระเอกพึ่งย้ายมา ก็สงสัยเกี่ยวกับนางเอก อยากรู้จัก แต่ก็ด้วยข้อจำกัด ทำให้ไม่สามารถเจอได้ ก็ลุ้นเอาว่าจะเป็นยังไง...ฮิฮิ

    เรื่องนี้เป็นแนวฟีลกู้ด มีดราม่านิดหน่อยไม่ได้หนักอะไรอะ ภาษาอ่านเข้าใจง่าย แบบว่าไม่ต้องเปิดพจนานุกรมก็สามารถเดาบริบทของคำได้อะไรแบบนี้ จริงๆเรื่องนี้เอาไปทำเป็นหนังด้วย แต่เราดูไม่จบ ส่วนหนุึ่งเป็นเพราะรู้เรื่องจากหนังสือแล้วด้วยมั้ง ตัวหนังเดินเรื่องเหมือนหนังสือเป๊ะ ใครที่ไม่อยากอ่านก็สามารถไปดูหนังเอาได้

    สำหรับใครที่อยากเริ่มอ่านหนังสือ/นิยายภาษาอังกฤษ เราว่าเล่มนี้ก็ถือเป็นตัวเลือกที่ดีในการเริ่มต้นนะคะ


    Wonder by R.J. Palacio
    - ความง่ายในการอ่าน 4/5
    - เนื้อเรื่อง 4.5/5

    เรื่องนี้เราแนะนำเลย ฟีลกู้ดมากกก ดูแล้วอิ่มอกอิ่มใจ เป็นหนังสือที่ให้ข้อคิดดีมากๆด้วยค่ะ 

    เรื่องย่อ " ออกัสเป็นเด็กที่เกิดมาผิดปกติ ทำให้ต้องผ่าตัดร้อยกว่าครั้งเพื่อรักษาโรค ปกติเรียนหนังสือที่บ้านตลอด homeschool อะไรแบบนั้น จนอายุประมาณหนึ่งพ่อกับแม่ก็ให้ไปโรงเรียน ออกัสก็ไม่อยากไปเพราะกลัวเจอล้อว่าหน้าตาประหลาด ซึ่งก็เป็นตามคาดนั่นแหละ ไปโรงเรียนก็มีแต่คนมอง เอ้อ..ลืมบอกว่าออกัสมีพี่สาวด้วยนะ พี่สาวรักน้องมาก สงสารน้องที่เป็นแบบนี้ เวลาแม่ให้ความสำคัญกับน้องมากกว่าก็ไม่โกรธเพราะเข้าใจ แต่ก็มีจุดที่น้อยใจบ้างเหมือนกัน..."

    เอาเป็นว่าไปลุ้นต่อเองนะคะว่าออกัสจะเอาชนะความกลัวของตัวเองได้ไหม แล้วเพื่อนหรือคนรอบข้างจะทำยังไง พี่น้องคู่นี้จะก้าวข้ามความรู้สึกของตัวเองไปได้ยังไงและแบบไหน มีประโยคหนึ่งในเรื่องที่เราชอบมากเป็นตอนที่เวีย(พี่สาว)กับออกัสทะเลาะกันแล้วเวียได้พูดเอาไว้ว่า

    "มันไม่ใช่การแข่งขันหรอกนะว่าวันของใครแย่กว่ากัน แต่ว่าเราทุกคนต่างก็ต้องเจอกับวันแย่ๆกันทั้งนั้น"

    เรื่องนี้ดีมากจริงๆค่ะ อยากแนะนำมากเลยเป็นเรื่องที่เราทั้งอ่านหนังสือและดูหนังด้วย ตัวหนังเองก็ทำได้ดีค่ะ เราชอบจากหนังก่อนแล้วจึงค่อยมาตามอ่านหนังสือ




    One of us is lying by Karen M. McManus
    - ความง่ายในการอ่าน 3/5
    - เนื้อเรื่อง 4.5/5

    เรื่องนี้กระแสดีมากกก ขายดีจนขาดตลาดไปพักหนึ่งด้วยค่ะ เราเองก็ซื้อมาตามกระแสเหมือนกัน จนได้อ่านดูก็เข้าใจว่าทำไมมันถึงเป็นกระแส มันสนุกดีนะคะ บางปัญหาที่สอดแทรกเข้ามาก็สามารถรีเลทกับสังคมในปัจจุบันได้ดี คิดว่าอีกหลายปีปันหานี้มันก็จะยังเป็นประเด็นที่เล่นได้อยู่ (หมายถึงไม่ตกยุคอะค่ะ)

    เรื่องย่อ "นักเรียน 5 คน ที่สังคมแตกต่างกันในโรงเรียนมาถูกกักบริเวณด้วยกัน ซึ่ง
    บรอนวิน เป็นสาวเนิร์ด เด็กเรียนดี เกรด A มาตลอด แอ็ดดี้ สาวสวยประจำโรงเรียน คูเปอร์ เป็นนักกีฬาหนุ่มสุดฮอต เนท เป็นพวกหัวโจก เด็กร้ายๆในโรงเรียน และไซม่อน คนแปลกๆที่ไม่มีเพื่อนคบ 
    แล้วอยู่ๆไซม่อนก็เกิดตายขึ้นมาอย่างกะทันหัน พอตำรวจได้สืบสวนก็พบว่าไซม่อนเป็นผู้อยู่เบื้องหลังแอพพลิเคชั่นที่กุมความลับของคนในโรงเรียนเอาไว้ และทั้งบรอวิน, แอ็ดดี้, คูเปอร์และเนท ต่างก็มีความลับที่ไม่สามารถเปิดเผยได้(แต่กำลังจะถูกเปิดเผยโดยไซม่อน) ทั้ง 4 คนจึงตกเป็นผู้ต้องสงสัย
    ....แล้วสรุป ใครกันนะที่เป็นฆาตกร? :) "

    สิ่งที่ไม่ชอบของเรื่องนี้คือมีตัวละครบางตัวที่เรารู้สึกว่ามันน่ารำคาญหน่อยๆ และโดยส่วนตัวเป็นคนที่ไม่ค่อยชอบการเล่าเรื่องผ่านตัวละครหลายๆตัว (บางบทมันก็ดีนะคะ ได้เห็นหลายๆมุมมอง แต่บางบทก็น่าเบื่อจนไม่อยากอ่านต่อเหมือนกัน) อีกอย่างตอนเฉลยปมเราว่ามันยังขยี้ได้มากกว่านี้อีก แต่โดยรวมก็ถือว่าสนุกค่ะ



    Crazy-Rich Asians by Kevin Kwan
    - ความง่ายในการอ่าน 4/5
    - เนื้อเรื่อง 4.5/5

    เรื่องย่อ "เมื่อราเชลถูกแฟนหนุ่มที่คบกันมานานชวนข้ามทวีปไปเยี่ยมครอบครัวไกลถึงสิงคโปร์... เรื่องก็ดูเหมือนจะไม่มีอะไรใช่ไหมคะ แต่เปล่าเลย เพราะพอตกปากรับคำแล้วราเชลก็ต้องพบเจอกับความรวยของแฟนที่ไม่เคยรู้มาก่อน ซึ่งไม่ได้แค่รวยธรรมดาแต่เป็นรวยระดับเอเชียเลยด้วย เรื่องราววุ่นๆ(โดยเฉพาะปัญหาแม่ผัวลูกสะใภ้)ของสาว ABC(American born Chinese) จาก New York กับเศรษฐีชาวเอเชียจึงเกิดขึ้น"

    สำหรับ Crazy-Rich Asians นั้นก็เปรียบเหมือนพจมานฉบับฮอลลีวูดเลยค่ะ ฮ่าา พล็อตฟังดูน้ำเน่าซึ่งมันก็น้ำเน่าจริงๆค่ะ เป็นนิยายชวนเพ้อฝันมากอยู่แต่ส่วนตัวเราชอบมากนะ ชอบทั้งตัวหนังทั้งตัวหนังสือเลย เป็นเรื่องที่อ่านแล้วอินกับบทมาก อาจเพราะเป็นนิยายฝั่งตะวันตกที่เล่าถึงความเป็นเอเชียด้วยมั้งคะ เล่มนี้ก็เป็นอีกเล่มที่เล่าผ่านตัวละครหลายๆตัว แต่เรากลับชอบซะอีกนะ แต่ละตัวละคร(ฝั่งพระเอก)ก็มีแต่คนที่รวยๆทั้งนั้น รวยเว่อรวยวังมากกก เหมือนขนทุกคนรวยมากจากทั้งเอเชีย มีการแทรกชื่อแบรนด์เนม แฟชั่นต่างๆ เยอะพอสมควร เราอ่านแล้วเราก็รู้สึกเหมือนตัวละครมีชีวิตจริงๆเลยค่ะ อีกบทบาทหนึ่งที่ชอบก็คือการเชือดเฉือนกันของแม่ผัว-ลูกสะใภ้นั่นเองค่ะ สนุกมากๆ

    ซีรีส์เรื่องนี้มี 3 เล่มจบ ซึ่งตอนนี้เราก็กำลังอ่านเล่ม 2 และคิดว่าก็คงจะอ่านเล่ม 3 ด้วย ถ้ายังไงอ่านจบแล้วจะมารีวิวเพิ่มเติมอีกทีนะคะ และเช่นเคยเรื่องนี้เองก็ทำเป็นหนังเหมือนกันค่ะ สนุกและดีมากกกก เราชอบตัวละครในเรื่องทุกตัวเลย (อาจเพราะส่วนตัวเป็นคนชอบคน ABC ด้วยมั้งคะ เลยอินกับหนังมากๆและตัวหนังสือมากๆเลยค่ะ)

    ps.- เล่มนี้มีแสลง/คำศัพท์จีนทับศัพท์ค่อนข้างเยอะนะคะ 


    P.S. I Still love you by Jenny Han
    - ความง่ายในการอ่าน 4/5
    - เนื้อเรื่อง 4/5

    "เรื่องนี้เป็นภาคต่อของ To All the Boys I've loved before หลังจากที่ภาคแรกน้องสาวได้เอาจดหมายที่นางเอกเคยเขียนเอาไว้ให้กับผู้ชายที่ตัวเองเคยชอบทั้งหมด(แต่ไม่ได้ส่ง)เอาไปส่ง นางเอกเลยได้ไปรักกันกับพระเอก(ซึ่งเป็นแฟนเก่าของอดีตเพื่อนสนิท) มาภาคนี้ หนึ่งในผู้ชายที่นางเอกเคยชอบได้ตอบจดหมายกลับมา(พึ่งได้รับจดหมายเพราะว่าย้ายบ้าน) นางเอกก็เลยรู้สึกหวั่นไหว..."

    คอนเซ็ปของเรื่องนี้ก็คือ 'คนเราจะสามารถตกหลุมรักคนสองคนพร้อมกันได้ไหมนะ?' สุดท้ายก็ต้องมาลุ้นเอาว่านางเอกจะเลือกทางไหน พล็อตไม่ได้แปลกใหม่ ไม่ได้ดราม่ารัก 3 เศร้าอะไรขนาดนั้น มีปมให้คิดและโดนใจอยู่พอสมควร บางประเด็นก็รีเลทได้กับชีวิต(และสังคมในตอนนี้) สนุกดีค่ะ เป็นซีรีส์ใน Netflix ด้วยนะคะเผื่อมีใครอยากดู :)


    จบแล้วค่ะสำหรับนิยายที่เราอยากมาแนะนำ หวังว่าจะช่วยให้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้นนะคะ 
    แล้วพบกันใหม่ค่ะ
    until then :-)
Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in