3 ก.ค. 2566

เวลา 07.00-08.30

   วันนี้ผมมาถึงที่โรงเรียนเวลาเดิม อาการปวดหัวดีขึ้นมากแม้ว่ายังมีอาการอยู่บ้างในบางคราวก่อนจะเดินมาที่ห้องสมุด จัดระเบียบและทำความสะอาดคร่าวๆ ก่อนที่จะเดินทางไปที่เข้าแถวหน้าเสาธงเช่นเมื่อวาน นักเรียนทุกคนหน้าเสาธงก่อนจะเริ่มการเคารพธงชาติ ระหว่างกิจกรรมผมก็เช็คระเบียบแถวของน้องๆ อนุบาล3ในระหว่างกิจกรรมเข้าแถวหน้าเสาธงเช่นเดิม ก่อนการเข้าแถวหน้าเสาธงจะจบลง ผมพาเด็กๆ อนุบาลเดินกลับห้อง ผมมาประจำการเป็นผู้ช่วยครูอ้อยในการดูแลเด็กนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3

เวลา 08.30-11.30

    ผมอยู่ที่ห้องเรียนของน้องๆ อนุบาล3 วันนี้ครูอ้อยให้น้องๆ ทำกิจกรรมทั่วไป เช่น ท่องตัวอักษรเต้นออกกำลังกาย ก่อนที่ครูอ้อยจะให้ทำกิจกรรม คือ ให้น้องๆ ฟังนิทานเรื่อง เมฆเพื่อนรัก ซึ่งเป็นเรื่องระหว่างเฆษน้อยกับเพื่อนมนุษย์ของเขาชื่อปันและสุนัขของเขา เพื่อปูทางในการสอนเรื่องของการเกิดเฆษและฝนว่าเกิดจากอะไร ก่อนจะให้การบ้านเป็นโยงเส้นจับคู่กับระบายสีภาพในธีมของเมฆและฝน ก่อนจะให้ทำการบ้านเป็นการคัดลายมือและระบายสีตัวอักษร ส่วนผมก็ทำหน้าที่คอยช่วยงานบางส่วนของครูอ้อยและช่วยคุมเด็กๆ ไปด้วย รวมทั้งสำรวจพฤติกรรมเด็กๆ ไปด้วยว่าพวกเขาแต่ละคนนั้นเป็นแบบไหนเช่นเดิม

เวลา 11.30-12.30

    เด็กๆ ไปพักกลางวัน กินข้าวกัน ส่วนครูอ้อยก็ให้ผมกลับไปที่ห้องสมุดแล้วไปพักผ่อนในช่วงพักกลางวันเช่นเดิม เพราะงานผู้ช่วยทำแค่ช่วงคาบเช้า ผมตอบตกลงแล้วบอกว่าถ้ามีอะไรให้โทรมาได้เลย ก่อนที่ผมจะกลับมาที่ห้องสมุดเช่นเดิม ผมยังมีอาการปวดหัวเล็กน้อยอยู่เช่นเดียวกับเมื่อเช้านี้แต่ไม่ได้มีปัญหาอะไรเท่าไรนัก ผมจึงพักผ่อนและทานข้าวกลางวันจนกระทั่งหมดเวลาช่วงพักกลางวันไปตามปกติ

เวลา 12.30-15.30

    หลังจากพักกลางวันไปแล้ว ผมก็หาอะไรทำต่อไป ทั้งระเบียบห้องและทำความสะอาดจุดต่าง หรือหาอะไรทำในไอแพตของผมอยู่อย่างนั้น จนกระทั่งคาบสุดท้าย ผมก็ทำการปิดห้องสมุดให้เรียบร้อยทั้งหมดก่อนจะกลับบ้าน

4 ก.ค. 2566

เวลา 07.00-08.30

   วันนี้ผมมาถึงที่โรงเรียนเวลาเดิม อาการปวดหัวดีขึ้นมากแม้ว่ายังมีอาการอยู่บ้างในบางคราวก่อนที่จะเดินมาที่ห้องสมุด จัดระเบียบและทำความสะอาดคร่าวๆ ก่อนที่จะเดินทางไปที่เข้าแถวหน้าเสาธงเช่นเมื่อวาน นักเรียนทุกคนหน้าเสาธงก่อนจะเริ่มการเคารพธงชาติ ระหว่างกิจกรรมผมก็เช็คระเบียบแถวของน้องๆ อนุบาล3ในระหว่างกิจกรรมเข้าแถวหน้าเสาธงเช่นเดิม ก่อนการเข้าแถวหน้าเสาธงจะจบลง ผมพาเด็กๆ อนุบาลเดินกลับห้อง ผมมาประจำการเป็นผู้ช่วยครูอ้อยในการดูแลเด็กนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3

เวลา 08.30-11.30

    ผมอยู่ที่ห้องเรียนของน้องๆ อนุบาล3 วันนี้ครูอ้อยให้น้องๆ ทำกิจกรรมทั่วไป เช่น ท่องตัวอักษรเต้นออกกำลังกาย ก่อนที่ครูอ้อยจะให้ทำกิจกรรม คือ ให้น้องๆ ฟังนิทานเรื่อง เสือน้อยแห่งป่าใหญ่เป็นเรื่องราวของเสือน้อยตัวหนึ่งที่ออกไปหาผลแอปเปิ้ลจำนวนหนึ่ง ที่ต้องเผชิญหน้ากับฝนที่กำลังตกอย่างน่ากลัว เพื่อใช้ในการอัางอิงในการสอนเรื่องการเกิดฝนและปรากฏการณ์ฟ้าร้องหรือฟ้าผ่าก่อนจะให้กิจกรรมทำเป็นการให้เลือกระบายสีภาพว่าชุดไหนเป็นชุดกันฝนบ้างในรูปภาพที่ให้ไปทั้งหมด ต่อด้วยให้เขียนคำตามเส้นปะและระบายสีรูปภาพตามคำเส้นปะในธีมฝน เสร็จแล้วก็มีกิจกรรมที่ครูอ้อยจะให้น้องๆ ตัดกระดาษรูปเมฆและสายรุ้งแล้วนำมาแปะติดกันให้สวยงาม ส่วนผมก็ทำหน้าที่คอยช่วยงานบางส่วนของครูอ้อยและช่วยคุมเด็กๆ ไปด้วย รวมทั้งสำรวจพฤติกรรมเด็กๆไปด้วยว่าพวกเขาแต่ละคนนั้นเป็นแบบไหนเช่นเดิม

เวลา 11.30-12.30

    เด็กๆ ไปพักกลางวัน กินข้าวกัน ส่วนครูอ้อยก็ให้ผมกลับไปที่ห้องสมุดแล้วไปพักผ่อนในช่วงพักกลางวันเช่นเดิม เพราะงานผู้ช่วยทำแค่ช่วงคาบเช้า ผมตอบตกลงแล้วบอกว่าถ้ามีอะไรให้โทรมาได้เลย ก่อนที่ผมจะกลับมาที่ห้องสมุดเช่นเดิม ผมยังมีอาการปวดหัวเล็กน้อยอยู่เช่นเดียวกับเมื่อเช้านี้แต่ไม่ได้มีปัญหาอะไรเท่าไรนัก ผมจึงพักผ่อนและทานข้าวกลางวันจนกระทั่งหมดเวลาช่วงพักกลางวันไปตามปกติ

เวลา 12.30-15.30

    หลังจากพักกลางวันไปแล้ว ผมก็หาอะไรทำต่อไป ทั้งระเบียบห้องและทำความสะอาดจุดต่าง หรือหาอะไรทำในไอแพตของผมอยู่อย่างนั้น จนกระทั่งคาบสุดท้าย ผมก็ทำการปิดห้องสมุดให้เรียบร้อยทั้งหมดก่อนจะกลับบ้าน

5 ก.ค. 2566

เวลา 07.00-08.30

   วันนี้ผมมาถึงที่โรงเรียนเวลาเดิม อาการปวดหัวดีขึ้นมากแม้ว่ายังมีอาการอยู่บ้างในบางคราวก่อนที่จะเดินมาที่ห้องสมุด จัดระเบียบและทำความสะอาดคร่าวๆ ก่อนที่จะเดินทางไปที่เข้าแถวหน้าเสาธงเช่นเมื่อวาน นักเรียนทุกคนหน้าเสาธงก่อนจะเริ่มการเคารพธงชาติ ระหว่างกิจกรรมผมก็เช็คระเบียบแถวของน้องๆ อนุบาล3ในระหว่างกิจกรรมเข้าแถวหน้าเสาธงเช่นเดิม ก่อนการเข้าแถวหน้าเสาธงจะจบลง ผมพาเด็กๆ อนุบาลเดินกลับห้อง ผมมาประจำการเป็นผู้ช่วยครูอ้อยในการดูแลเด็กนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3

เวลา 08.30-11.30

    ผมอยู่ที่ห้องเรียนของน้องๆ อนุบาล3 วันนี้ครูอ้อยให้น้องๆ ทำกิจกรรมทั่วไป เช่น ท่องตัวอักษรเต้นออกกำลังกาย ก่อนที่ครูอ้อยจะให้ทำกิจกรรม คือ ให้น้องๆ ฟังนิทานเรื่อง กุ๋งกิ๋งเป็นหวัด เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับน้องกั๋งกิ๋ง เด็กน้อยคนหนึ่งที่วิ่งเล่นซนอยู่หน้าบ้านในขณะที่ฝนตกจนทำให้เธอเป็นหวัดไม่สบาย เพื่อใช้สำหรับในการสอนเรื่องประโยชน์และโทษของฝน รวมทั้งการเป็นไข้หวัดที่เกิดจากฝนว่าเกิดจากอะไรบ้าง ก่อนจะให้ทำกิจกรรมเป็นการลากเส้นเรียงตามตัวเลขในกระดาษให้เป็นรูปร่มให้ได้ ต่อด้วยการคัดลายมือพยัญชนะตามเส้นปะ หลังจากเสร็จแล้วก็ให้น้องๆ เล่นดินน้ำมันได้จนกว่าจะถึงช่วงพักกลางวัน ส่วนผมก็ทำหน้าที่คอยช่วยงานบางส่วนของครูอ้อยและช่วยคุมเด็กๆ ไปด้วย รวมทั้งสำรวจพฤติกรรมเด็กๆ ไปด้วยว่าพวกเขาแต่ละคนนั้นเป็นแบบไหนเช่นเดิม

เวลา 11.30-12.30

    เด็กๆ ไปพักกลางวัน กินข้าวกัน ส่วนครูอ้อยก็ให้ผมกลับไปที่ห้องสมุดแล้วไปพักผ่อนในช่วงพักกลางวันเช่นเดิม เพราะงานผู้ช่วยทำแค่ช่วงคาบเช้า ผมตอบตกลงแล้วบอกว่าถ้ามีอะไรให้โทรมาได้เลย ก่อนที่ผมจะกลับมาที่ห้องสมุดเช่นเดิม ผมยังมีอาการปวดหัวเล็กน้อยอยู่เช่นเดียวกับเมื่อเช้านี้แต่ไม่ได้มีปัญหาอะไรเท่าไรนัก ผมจึงพักผ่อนและทานข้าวกลางวันจนกระทั่งหมดเวลาช่วงพักกลางวันไปตามปกติ

เวลา 12.30-15.30

    หลังจากพักกลางวันไปแล้ว ผมก็หาอะไรทำต่อไป ทั้งระเบียบห้องและทำความสะอาดจุดต่าง หรือหาอะไรทำในไอแพตของผมอยู่อย่างนั้น จนกระทั่งคาบสุดท้าย ผมก็ทำการปิดห้องสมุดให้เรียบร้อยทั้งหมดก่อนจะกลับบ้าน

6 ก.ค. 2566

เวลา 07.00-08.30

   วันนี้ผมมาถึงที่โรงเรียนเวลาเดิม เดินมาที่ห้องสมุด จัดระเบียบและทำความสะอาดคร่าวๆ ก่อนที่จะเดินทางไปที่เข้าแถวหน้าเสาธงเช่นเมื่อวาน นักเรียนทุกคนหน้าเสาธงก่อนจะเริ่มการเคารพธงชาติระหว่างกิจกรรมผมก็เช็คระเบียบแถวของน้องๆ อนุบาล3ในระหว่างกิจกรรมเข้าแถวหน้าเสาธงเช่นเดิม ก่อนการเข้าแถวหน้าเสาธงจะจบลง ผมพาเด็กๆ อนุบาลเดินกลับห้อง ผมมาประจำการเป็นผู้ช่วยครูอ้อยในการดูแลเด็กนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3

เวลา 08.30-11.30

    ผมอยู่ที่ห้องเรียนของน้องๆ อนุบาล3 วันนี้ครูอ้อยให้น้องๆ ทำกิจกรรมทั่วไป เช่น ท่องตัวอักษรเต้นออกกำลังกาย ก่อนจะให้ทำกิจกรรม คือ จะแจกกระดาษที่มีรูปคนที่กำลังทำกิจกรรมต่างๆ โดยจะมีรูปสี่เหลี่ยมรูปอยู่ใต้รูปนั้นๆ ให้น้องๆ ทำการติ๊กถูกเฉพาะภาพที่เป็นประโยชน์ที่เกี่ยวข้องกับฝนเท่านั้น เพื่อเป็นการเสริมความรู้จากการสอนเรื่องเกี่ยวกับประโยชน์และโทษของฝนเมื่อวานนี้ หลังจากเสร็จแล้วก็ให้น้องๆ แบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 3 คน โดยจะทำกิจกรรมการทดลองที่เรียกว่า “สนุกกับฟอง” โดยจะมีอุปกรณ์คือ ถ้วยน้ำเปล่ากลุ่มละ 3 ใบ, ถ้วยน้ำยาล้างจานกลุ่มละ 3 ใบ, หลอด, และแว่นขยายคนละ 1 ชิ้น โดยเริ่มแรกให้เป่าน้ำเปล่าก่อนแล้วดูว่ามันเกิดฟองหรือไม่ ก่อนจะให้น้องๆนำน้ำเปล่าใส่ถ้วยน้ำยาล้างจานครึ่งถ้วย และใช้หลอดคนถ้วยที่ผสมน้ำแล้วให้เข้ากัน ก่อนจะเป่าถ้วยนั้นแล้วดูว่ามีฟองเพิ่มขึ้นมาหรือไม่ แล้วให้ใช้แว่นขยายส่องไปที่ฟองบนถ้วยว่ามีสายรุ้งหรือเปล่า เสร็จแล้วให้ไปที่ด้านนอกห้อง แล้วนำถ้วยเดิมมาเป่าอีกครั้งด้านนอกถ้วยแล้วดูว่าฟองที่เกิดจากการเป่าห้องแต่ละคนมีรูปร่างอย่างไร แล้วเห็นสีรุ้งบนฟองหรือไม่ เสร็จแล้วมีกิจกรรมถัดไปคือให้น้องๆ วาดภาพผลของการทำกิจกรรมทดลองระหว่างก่อนผสมน้ำยาล้างจานและหลังจากผสมแล้วเรียบร้อยว่ามีผลที่ออกมาเป็นแบบใด และระบายสีตามสีที่เห็นตามที่น้องๆ เห็นในระหว่างการทำกิจกรรมที่จำได้ให้สวยงาม ส่วนผมก็ทำหน้าที่คอยช่วยงานบางส่วนของครูอ้อยและช่วยคุมเด็กๆไปด้วย รวมทั้งสำรวจพฤติกรรมเด็กๆ ไปด้วยว่าพวกเขาแต่ละคนนั้นเป็นแบบไหนเช่นเดิม

เวลา 11.30-12.30

    เด็กๆ ไปพักกลางวัน กินข้าวกัน ส่วนครูอ้อยก็ให้ผมกลับไปที่ห้องสมุดแล้วไปพักผ่อนในช่วงพักกลางวันเช่นเดิม เพราะงานผู้ช่วยทำแค่ช่วงคาบเช้า ผมตอบตกลงแล้วบอกว่าถ้ามีอะไรให้โทรมาได้เลย ก่อนที่ผมจะกลับมาที่ห้องสมุดเช่นเดิม ผมยังมีอาการปวดหัวเล็กน้อยอยู่เช่นเดียวกับเมื่อเช้านี้แต่ไม่ได้มีปัญหาอะไรเท่าไรนัก ผมจึงพักผ่อนและทานข้าวกลางวันจนกระทั่งหมดเวลาช่วงพักกลางวันไปตามปกติ

เวลา 12.30-15.30

    หลังจากพักกลางวันไปแล้ว ผมก็หาอะไรทำต่อไป ทั้งระเบียบห้องและทำความสะอาดจุดต่าง หรือหาอะไรทำในไอแพตของผมอยู่อย่างนั้น จนกระทั่งคาบสุดท้าย ผมก็ทำการปิดห้องสมุดให้เรียบร้อยทั้งหมดก่อนจะกลับบ้าน

7 ก.ค. 2566

เวลา 07.00-08.30

   วันนี้ผมมาถึงที่โรงเรียนเวลาเดิม เดินมาที่ห้องสมุด จัดระเบียบและทำความสะอาดคร่าวๆ ก่อนที่จะเดินทางไปที่เข้าแถวหน้าเสาธงเช่นเมื่อวาน นักเรียนทุกคนหน้าเสาธงก่อนจะเริ่มการเคารพธงชาติระหว่างกิจกรรมผมก็เช็คระเบียบแถวของน้องๆ อนุบาล3ในระหว่างกิจกรรมเข้าแถวหน้าเสาธงเช่นเดิม ก่อนการเข้าแถวหน้าเสาธงจะจบลง ผมพาเด็กๆ อนุบาลเดินกลับห้อง ผมมาประจำการเป็นผู้ช่วยครูอ้อยในการดูแลเด็กนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3

เวลา 08.30-11.30

    ผมอยู่ที่ห้องเรียนของน้องๆ อนุบาล3 วันนี้ครูอ้อยให้น้องๆ ทำกิจกรรมทั่วไป เช่น ท่องตัวอักษรเต้นออกกำลังกาย ก่อนที่เริ่มกิจกรรมในวันนี้ ก็ได้มีกลุ่มพยาบาลมาตรวจร่างกายน้องๆ ทุกคน เพื่อเช็คสุขภาพโดยรวมของน้องๆ เสร็จแล้วจึงเริ่มทำกิจกรรม โดยกิจกรรมวันนี้คือ ให้น้องๆ ทุกคนได้ลองทำไข่เจียวหม้อครกกัน โดยจะมีวัตถุดิบดังนี้ คือ ไข่ไก่, มะเขือเทศ, หอมใหญ่, น้ำปลา, น้ำมันพืช, ถ้วยเปล่า, ช้อน, ส้อม, มีดหั่น และหม้อครกไฟฟ้า เริ่มแรกครูอ้อยจะทำการหั่นมะเขือเทศและหอมใหญ่เป็นชิ้นเล็กๆ เตรียมไว้ก่อน ตามด้วยตอกไข่ใส่ในถ้วย ก่อนจะให้น้องๆ ใส่วัตถุดิบต่างๆลงไปตั้งแต่มะเขือเทศ, หอมใหญ่ และน้ำปลา ตามด้วยให้น้องๆ ตีส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน ในระหว่างที่ครูอ้อยจะตั้งเตาครกไฟฟ้าแล้วหยอดน้ำมันพืชลงไปตามรูบนหม้อ ก่อนที่จะให้น้องๆ หยอดไข่ที่ตีเสร็จเรียบร้อยลงไปในเตาที่ร้อนได้ที่แล้ว พอสุกแล้วครูอ้อยจะตักขึ้นมาใส่ไว้ที่ถ้วยที่เตรียมไว้พอเสร็จสิ้นทั้งหมดแล้วก็ให้น้องๆ ได้ชิมกัน ส่วนผมก็ทำหน้าที่คอยช่วยงานบางส่วนของครูอ้อยและช่วยคุมเด็กๆ ไปด้วย รวมทั้งสำรวจพฤติกรรมเด็กๆ ไปด้วยว่าพวกเขาแต่ละคนนั้นเป็นแบบไหนเช่นเดิม รวมทั้งเก็บภาพบางส่วนในระหว่างกิจกรรมไปด้วย

เวลา 11.30-12.30

    เด็กๆ ไปพักกลางวัน กินข้าวกัน ส่วนวันนี้หลังจากที่พักกลางวันเสร็จ ผมต้องไปเฝ้าห้องของน้องๆอนุบาล2 เนื่องจากครูอายจะไปทำธุระจึงฝากให้ผมทำหน้าที่ดูน้องๆ ในช่วงนอนกลางวันไปก่อน ผมตอบตกลง ก่อนจะไปจัดแจงห้องอนุบาล3 ให้เรียบร้อยเสียก่อน

เวลา 12.30-13.40

    หลังจากเสร็จภารกิจในห้องอนุบาล3 เรียบร้อยแล้ว ผมก็มานั่งอยู่ที่ห้องของน้องๆ อนุบาล2 ตามที่ได้รับมอบหมายงานมา แน่นอนว่าน้องๆ แทบทั้งห้องก็หลับไปแล้ว จะมีเพียงบางคนที่ยังตื่นอยู่ แต่ไม่นานก็หลับไป ผมอยู่ที่ห้องนั้นอยู่สักพักหนึ่ง จนกระทั่งครูอายกลับมา ผมจีงขออนุญาตกลับไปทำงานที่ห้องสมุดตามเดิมเช่นเคย

เวลา 13.40-15.30

    ผมมาถึงที่ห้องสมุดแล้ว ผมก็หาอะไรทำต่อไป ทั้งระเบียบห้องและทำความสะอาดจุดต่าง หรือหาอะไรทำในไอแพตของผมอยู่อย่างนั้น จนกระทั่งคาบสุดท้าย ผมก็ทำการปิดห้องสมุดให้เรียบร้อยทั้งหมดก่อนจะกลับบ้าน