แอนดี้กับแมนดี้กะพริบตาตื่นอย่างเชื่องช้ามองดูโลกที่เพิ่งเคยเห็นข้างหน้าเป็นพื้นน้ำสีฟ้าใสแจ๋ว มีก้อนเมฆสีขาวที่ลอยเอื่อยอยู่บนท้องฟ้าและต้นไม้หลากสีที่มีดอกและออกผลอยู่เต็มต้นเห็นตัวอะไรบางอย่างตัวเล็กและตัวใหญ่เดินไปมา บางตัวก็อยู่เป็นกลุ่มบางตัวอยู่เป็นคู่ หรืออยู่แบบตัวเดียวก็มี ทั้งคู่มองสิ่งมีชีวิตและไม่มีชีวิตมากมายตรงหน้าด้วยความแปลกใจไม่ว่าจะมองไปทางไหนทุกอย่างก็ดูน่าสนใจไปหมด แต่ก่อนจะได้ไปดูสิ่งพวกนั้นใกล้ๆ ก็หันมาเห็นตัวอะไรสักอย่างที่นั่งอยู่ข้างกันสีน้ำตาลอ่อนที่สะท้อนแสงแดดเมื่อรวมกับรอยยิ้มกว้างสีส้มของแมนดี้ทำให้แอนดี้รู้สึกว่าแมนดี้ดูน่ารักสดใสมากขณะที่แมนดี้ก็รู้สึกว่าแอนดี้ที่มีสีทองสว่างเหมือนแสงอาทิตย์กำลังมองเธอด้วยสีฟ้าอยู่นั้นน่ารักมากเหมือนกัน
“สวัสดี” แอนดี้พูด
“สวัสดี” แมนดี้ตอบกลับ
ไม่มีใครพูดอะไรอีกถึงแม้จะเป็นอย่างนั้นแต่ทั้งสองต่างก็รู้ว่าตนเองชอบอีกคนมากและรู้สึกสบายใจบรรยากาศจึงเป็นไปด้วยความสงบเงียบที่ไม่รู้สึกอึดอัดเลย ลมยังพัดเย็นสบายอยู่แอนดี้และแมนดี้ก็เริ่มสำรวจร่างกายของตนเอง
“เอ นี่คืออะไรนะ แข็งจังเอาไว้ใช้ทำอะไรเนี่ย”
“แล้วอันนี้คืออะไรล่ะ นิ่มๆ นะทำไมขยับยากจังเลย”
เสียงพึมพำดังออกมาไม่ขาดสายจากปากแอนดี้และแมนดี้ทั้งสองพยายามที่จะลุกขึ้นยืนโดยใช้มือยันพื้นเอาไว้ แต่ก็ทำไม่ได้ง่ายๆเพราะรู้สึกว่าร่างกายของตัวเองหนักมากแมนดี้รู้สึกสงสัยว่าทำไมตัวเองถึงยืนไม่ขึ้นพลางมองแมนดี้ที่ลุกขึ้นด้วยท่าทางสบายๆแมนดี้จึงคิดว่าเพราะแอนดี้ตัวยาวถึงลุกขึ้นยืนได้ง่ายต่างจากตัวเองที่ตัวสั้นแถมยังกลมกว่าแอนดี้อีก
ในที่สุดแมนดี้แอนดี้ก็ช่วยกันลุกขึ้นยืนได้สำเร็จความรู้สึกภูมิใจเล็กๆ นี้ทำให้ทั้งสองรู้สึกดีใจนิดหน่อย อาจเพราะการลุกขึ้นยืนเป็นสิ่งแรกที่ทั้งสองทำสำเร็จและยังได้ทำพร้อมกันกับเพื่อนที่ชอบมากอีกด้วย ทั้งสองเอื้อมมือออกมาตั้งใจว่าจะจับมืออีกคนแต่ดันยื่นมือออกมาพร้อมกันพอดีความรู้สึกที่เหมือนกับได้พบอีกครึ่งหนึ่งของตนเองนี้ทำให้ทั้งคู่หัวเราะออกมาและเกี่ยวมือกันแน่น
“สุขสันต์วันเกิดนะแอนดี้” แมนดี้พูดแอนดี้ตอบกลับด้วยรอยยิ้ม
“เธอก็เหมือนกันสุขสันต์วันเกิดนะแมนดี้”
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in