หลาย ๆ คนที่ตาม Ally Brooke กันมาซักพักคงเคยได้ยินและผ่านหูเพลงนี้มากันบ้างแล้ว ด้วยบีทที่ติดหู ประกอบกับดนตรีที่ได้รับมาจากฝั่งละตินซะเยอะ จึงเป็นเพลงที่บรรยายกันไว้ว่า “ยั่ว ๆ บด ๆ” กันซะมากกว่า แต่ที่จริงแล้ว ยังอีกมุมนึงที่มักจะถูกผลักให้ตกประเด็นไปนั่นคือในแง่ของความหมายตัวเพลงนี้นั่นเอง
Vámonos เป็นเพลงที่สะท้อนถึงสังคมชายเป็นใหญ่ ที่ผู้หญิงถูกตีกรอบว่าไม่มีความสามารถเทียบเท่าผู้ชาย รวมไปถึงสนับสนุนสิทธิสตรี และ women empowerment อีกด้วย
ในโพสต์จะขอหยิบยกมาแค่บางตอนของเพลงที่เกี่ยวกับ movement เท่านั้นครับ ขออภัยที่อาจจะตกหล่นอะไรไปเยอะ เนื่องจากเป็นเพลงภาษาสเปนล้วนตั้งแต่ต้นจนจบ ทำให้หาคำแปลที่ใกล้เคียงที่สุดยากมาก ๆ ดังนั้นในโพสต์นี้จะเป็นแค่การสรุปเนื้อเพลงมากกว่าการแปลทั้งหมดนะครับ อาจจะมีเก็บความแปลก ๆ ไปบ้าง ขอโทษล่วงหน้าด้วยครับ ?
หมายเหตุ: เซคชั่นนี้เป็นเซคชั่นใหม่ของเพจ Ally Brooke Thailand ครับ ยังไงขอฝากติดตามกันไว้ด้วยนะครับ
หมายเหตุ 2: ตัวหนังสือที่มีไฮไลท์จะมีอธิบายคำศัพท์อีกทีในพาร์ทหลังนะครับ
—————————
คำว่า el siglo de la hombría หมายถึงศตวรรษของความเป็นสุภาพบุรุษ หรือศตวรรษของความเป็นชาย ท่อนแรกนี้จึงสรุปได้ว่าเป็นการพูดถึงสังคมในยุคสมัย male dominated หรือ ชายเป็นใหญ่ (patriarchy) อารมณ์ประมาณว่าคนจะ expect ให้ผู้หญิงต้องแก้ไขตัวเอง ต้องแต่งหน้าตัวเองเพื่อผู้ชาย เป็นการสะท้อนถึงแนวคิดที่ค่อนข้างกีดกันผู้หญิง ที่ชีวิตต้องเป็นผู้ตามและต้องได้รับการยอมรับจากผู้ชายเท่านั้น
—————————
ท่อนพรีคอรัสตรงนี้สรุปได้ว่าผู้หญิงทำทุกอย่างก็เพื่อผู้ชายหมดเลย อย่างเวลาเต้นแบบเซ็กซี่ ๆ หรือเวลาตัวเองเอนจอย รักสนุกต่าง ๆ นานา ยังไงก็เพื่อผู้ชายอยู่ดี ทั้ง ๆ ที่จริง ๆ แล้วผู้หญิงไม่จำเป็นต้อง pleasure ผู้ชายเลยแม้แต่น้อยครับ
—————————
ท่อน killing part อย่าง Vámonos หมายความว่า "ไปกันเถอะพวกเรา" โดยอ้างอิงจากเนื้อเพลงที่ได้ระบุไว้ในท่อน rap* อย่างชัดเจนว่าผู้พูดประโยคนี้คือผู้ชาย และผู้หญิงเป็นคนปฏิเสธโดยการพูดว่า "แต่ไม่ไปที่เตียงนะ" ซึ่งอาจแสดงถึงการปฏิเสธการมี sex ครับ ซึ่งที่มาของการเชิญชวนนี้เห็นได้จากท่อนที่ผ่านมาว่ามาจากการคิดเข้าข้างตัวเองของผู้ชาย ที่คิดว่าผู้หญิงทำทุกอย่างเพื่อเข้าหาผู้ชาย โดยเป็น point หลักอันนึงของเพลงเลยก็ว่าได้ครับ
—————————
พูดถึงการที่ผู้หญิงสามารถทำได้ทุกอย่าง เป็นผู้หญิงและไม่กลัวอะไร โดยประโยคที่ว่า “Ellos se confunden” จะเป็นการจิกกัดเล็กน้อย แปลได้ประมาณว่าพวกเค้าก็งงมากที่ทำได้ เพราะผู้ชายมักจะเปราะบางกับเรื่องพวกนี้มาก ๆ จนบางครั้งไม่ยอมรับว่าผู้หญิงเก่งหรือทำได้ทุกอย่างแบบผู้ชาย และทั้งหมดนี้เองจึงนำไปสู่การกีดกันผู้หญิงเพื่อธำรงไว้ซึ่ง “ความเป็นผู้นำ" ของผู้ชาย นั่นเองครับ
—————————
สรุปความได้ประมาณว่า “ชั้นว่าชั้นเคลียร์แล้วนะว่าไม่ต้องการเลย แต่พวกเขาก็คิดว่าที่ชั้นทำก็เพื่อจีบผู้ชายอยู่ดี” สะท้อนถึงสังคมปัจจุบันที่ผู้ชายหลายคนก็ยังมีความคิดว่าผู้หญิงแต่งตัวเซ็กซี่ ก็เพื่อเข้าหาผู้ชายอย่างเดียว ซึ่งจริง ๆ แล้วไม่ใช่เลย หลาย ๆ ครั้งผู้หญิงที่แต่งตัวเซ็กซี่ก็เพื่อความมั่นใจในแบบของตัวเองแต่เพียงเท่านั้น ไม่ใช่ทุกอย่างจะเกี่ยวกับผู้ชายหรือมีผู้ชายเป็นตัวแปรเสมอไปครับ
—————————
มาแตกศัพท์กันซักนิดดดดดดนึงครับ
1. Ellos - ในภาษาสเปนจะมีการแบ่งเพศของคำเป็น masculino (เพศชาย) และ feminino (เพศหญิง) คำว่า Ellos จะใช้กับประธานที่เป็นเพศชายล้วนรูปพหูพจน์ หรือประธานเพศชายคละประธานเพศหญิงรูปพหูพจน์ครับ ในเพลงนี้ ดูจาก context แล้วน่าจะ refer ถึง “ผู้ชายล้วน” ในรูปพหูพจน์ in general ไม่เจาะจงว่าผู้ชายคนไหนครับ
เสริม: ในส่วนของประธานเพศหญิงล้วนไม่มีประธานเพศชายปนจะใช้ Ellas แทนนะครับ
2. Te - ในเพลงนี้มีการใช้คำนี้หลายแห่งเลย ไม่ว่าจะเป็น Te arregles, Te maquillas ซึ่ง te จริง ๆ เป็นรูปกรรม เป็นโครงสร้าง reflexive กล่าวคือเป็นประโยคที่ประธานเป็นคนทำกริยานั้นต่อตัวเองด้วยตัวเองครับ อย่างในเพลงนี้ Te maquillas สามารถสรุปหลวม ๆ ได้ว่าเธอแต่งหน้าให้ตัวเธอเอง กล่าวคือ เธอ เป็นทั้งประธานและกรรมในประโยคเดียวกันนั่นเอง
โดยมากแล้วภาษาสเปนจะละประธานไปในประโยคไป เพราะมีการผันกริยาเจาะจงประธาน (หรือที่เรียกว่า conjugation) ว่าการใช้รูปนี้ ใช้กับประธานนี้เท่านั้น ทำให้สามารถบอกได้ว่าใครเป็นประธานในประโยคได้ถึงประธานจะโดนละไปครับ (ให้อธิบายจริง ๆ คงยาวมากแน่นอน ยังไงใครสงสัยเพิ่มเติมสามารถติดต่อมาได้นะครับ จะพยายาม ;_;)
3. Dejo claro - ในที่นี้แปลเป็นภาษาอังกฤษได้ว่า "I make it clear" ซึ่งถ้าจะแปลให้เป็นภาษาไทยอย่างเข้าใจง่ายที่สุดคือ "ชั้นว่าชั้นพูดชัดแล้วนะ" แต่อาจจะไม่ตรงกับต้นฉบับเท่าไหร่นัก เพราะมี sense ของการพูดขึ้นมา จึงขอทับศัพท์ไปตรงข้างต้นครับ
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in