เดือนเมษายนเป็นช่วงเดือนที่ร้อนที่สุดในประเทศไทย และมวลอากาศเย็นจะพัดมาพร้อมกับฝนในช่วงปลายเดือนธันวาคม เป็นสัญญาณสิ้นสุดหน้าร้อนจัดของปีนี้
นักศึกษาที่เพิ่งหมดจากวาระได้ไม่นาน ก็ได้แต่กระดิกเท้ามองดูนาฬิกาไปวันๆ นับถอยหลังปฏิทิน และเตรียมเก็บกระเป๋าเดินทางครั้งใหญ่ เป็นการขอบคุณความเหนื่อยยากที่ผ่านมา ของขวัญรับปริญญาให้ตัวเอง , นั่นคือเหตุผลรองที่ดูสวยงาม
ความจริงคือ ยังไม่พร้อมทำงานเว้ยย
ถ้าเอานิ้วชี้จิ้มลงไปบนแผนที่โลก เมืองที่เราไปอยู่คงเล็กกว่านิ้วชี้นั้นแน่นอน
North Carolina , USA
เป็นรัฐที่อยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของสหรัฐอเมริกา ถ้าไม่รู้ว่าอยู่ตรงไหน ให้มองหน้า NEW YORK แล้วเลื่อนสายตาลงมาด้านล่าง ส่วนเมืองที่เราไปอยู่นั้นเป็นเกาะที่อยู่ด้านซ้ายเล็กๆ ยาวๆ ลงมา มีชื่อเรียกว่า OUTER BANK หรือ OBX
มีตำนานหลายอย่างที่เล่าว่าเป็นเกาะที่เคยมีโจรสลัดมาอาศัยอยู่ ทำให้ชื่อเมืองบนเกาะ OBX นั้นมีความเกี่ยวข้องกับโจรสลัดทั้งสิ้น ซึ่งเมืองที่เรามีตำนานเล่าว่า โจรสลัดได้ฆ่าปีศาจที่อาศัยอยู่บนเกาะ บริเวณสันทราย โดยการมอมเหล้าปีศาจก่อนแล้วจึงลงมือ ดังนั้นชื่อเมืองของเรา จะต้องตั้งเป็นเกียรติประวัติให้แก่โจรสลัดท่านนั้นว่า Kill Devil Hills
เชื่อเถอะว่าตรวจคนเข้าเมืองอ่านชื่อนี้ซ้ำไปซ้ำมาอยู่หลายรอบ ก่อนที่จะถามเราซ้ำอีกทีว่า 'แกจะไปเมืองไหนนะ ?'
การเดินทางไปก็ไม่ยาก แท๊กซี่อย่างเดียว ไม่มีรถประจำทางใดๆ โลดแล่นอยู่บนเกาะนี้ และต้องโทรจองล่วงหน้าเท่านั้น ไม่มีการกดมิเตอร์ ราคาตกลงกันเองแต่ถ้าไม่พอใจก็ต้องไปอยู่ดี เพราะไม่มีแท๊กซี่ให้เราไปยืนโบกมือเรียกริมถนน
ป้าแคที่ คือเจ้าของบ้าน
บ๊อบคือแฟนของป้าแคที่
ป้าแคที่มีหมาสามตัว ชื่อ พัมกินส์ มาลี เทเตอร์
ส่วนเราคือผู้อยู่อาศัย
บ้านป้าแคที่เป็นบ้านชั้นเดียว อาศัยอยู่ในซอยเกือบลึกสุด ข้างเป็นป่า และเลยจากบ้านไปหน่อยเป็นทะเลทรายกว้างใหญ่
ในบ้านของป้าแคที่ สามารถรับเด็กแลกเปลี่ยนได้ถึงสี่คน มีตู้แขวนผ้า , ห้องน้ำพื้นพรม และเตียงสองชั้นอัดอยู่ในห้องกว้างขนาดสี่แขน เรากับเพื่อนทำการจับจองพื้นที่ด้านล่างของเตียงตั้งแต่วันแรกที่ไปถึง ซึ่งในอีกสองอาทิตย์จะมีเด็กแลกเปลี่ยนจากจีนอีกสามคนเดินทางมา
เจ้าหมาสามตัว เป็นหมาปากเปราะ ไม่ว่าจะนกบิน ใบไม้หล่น คนเดินผ่าน ก็เห่า บางทีก็ขี้ลืม ลืมไปว่าสนิทกันแล้ว เมื่อกี้ยังเลียมือเราอยู่เลยเดินออกจากบ้านไปแปบนึง กลับมามันก็เห่าราวกับว่าไม่เคยพบเจอกันมาก่อน พอเห่าได้เต็มที่สะใจแล้วก็เดินออกไปเห่าใบไม้ร่วงต่อตามอัธยาศัย
โอเค เอาที่สบายใจเลย
เช้าวันแรกที่มาถึง เราต้องไปรายงานตัวที่ร้านไอศครีมที่จ้างแรงงามข้ามชาติตัวเล็กๆสองคนมาทำงาน ซึ่งร้านก็อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล อยู่แค่ปากซอยบ้านนี่เอง แต่ใช้เวลาเดินเท้าไปประมาณสิบนาที
กลิ่นหอมของวัฟเฟิลลอยปะทะจมูกทันทีที่เปิดประตูหลังร้านเข้าไป นายจ้างของเราเป็นสองสามีภรรยาชื่อ เคทที่ กับ ไมค์ ทั้งคู่มีลูกสาวหนึ่งคนรับตำแหน่งเป็นเมเนเจอร์ ชื่อ วิกเตอเรีย ส่วนเราสองแรงงานชื่อตำแหน่งว่า Fast Food Crew
วันนั้น วันแรกที่เราได้เหยียบเข้ามาในร้าน เราได้รู้ว่าจากนี้น้ำหนักและขนาดตัวเราต้องเปลี่ยนไปจนน่าตกใจแน่นอน
ไอศครีมรสสเปเชียลวันนั้นเป็นรส คุกกี้แอนด์ครีม เป็นการผสมผสานกันระหว่าง ไอศครีมรสครีมหวานๆกับคุกกี้โอริโอ้บด และสองรสชาติที่จะมีทำขายประจำทุกวันคือ วนิลากับช๊อกโกแลต
ด้านหน้าร้านเป็นไอศครีม ส่วนด้านหลังเป็นครัวทำเบอร์เกอร์และเฟรนฟรายส์ ซึ่งสโลแกนของฟรายส์ร้านนี้คือ Never Freeze จะไม่มีวันแข็งไม่ตลอดกาล เราจะได้เรียนรู้การทำทุกอย่างทั้งฝั่งของครัวและด้านหน้าร้านไอศครีม และจะมีเด็กแลกเปลี่ยนมาร่วมงานกับเราอีกทั้งหมด 5 คน ซึ่งรวมถึงสาวจีนอีกสามคนที่จะมาร่วมแชร์ห้องพักกับเราในอีกสามอาทิตย์ รวมถึงมีเด็กๆอเมริกันท้องถิ่นอีกสิบกว่าคนที่จะมาผลัดเวรกรรมทำงานกันตลอดซัมเมอร์นี้
พร้อมกับคำขู่ของไมค์ว่า 'หน้าร้อนมันคือนรก'
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in