นอกจากจะเป็นพระเอกคนเดียวกับคุณพี่ตำรวจแห่งเมืองหลวงจาก Memories of Murders – หนังสืบสวนซึ่งเป็นพ่อของหนังสืบสวนทั้งปวงแล้ว บรรยากาศของหนังเรื่องนี้ก็ยังให้ความรู้สึกลุ่มลึกคลับคล้ายคลับคลากันอีกด้วย
คดีลักพาตัวเด็กเมื่อ 15 ปีก่อนกำลังจะหมดอายุความในอีก 5 วัน โดยที่คดียังคงเป็นปริศนาไม่สามารถจับคนร้ายได้, ชองโฮ- นายตำรวจผู้รับผิดชอบคดี ฮาคยอง- แม่ของเด็กหญิงที่ถูกลักพาตัวไป ช่วงเวลา 15 ปีแห่งความทุกข์ทรมานของพวกเขาที่กำลังจะสูญเปล่า แต่แล้วก็กลับปรากฏเหตุการณ์ลักพาตัวขึ้นอีกครั้งโดยที่คนร้ายใช้วิธีเดียวกันกับคดีเมื่อครั้งนั้นทุกประการ ความหวังที่จะคลี่คลายปมในอดีตที่วูบดับไปแล้วจึงได้ถูกจุดขึ้นอีกครั้ง โดยมีหลักฐานที่เป็นกุญแจสำคัญคือทะเบียนรถ, วิดีโอ และเทปเสียงของคนร้ายที่ถูกเล่นซ้ำไปซ้ำมา จนกว่าจะค้นพบความจริงที่จะคลี่คลายปริศนาของเหตุการณ์ที่ผ่านมาทั้งหมด
กราฟอารมณ์ของหนังเรื่องนี้มีความผกผวนอยู่หน่อย จากเริ่มต้นที่ดำเนินเรื่องมาได้ดี ทั้งบรรยากาศอันทึมเทา เยียบเย็น และการตัดต่อเรื่องไปมาระหว่างปัจจุบันกับอดีตที่ทำได้เท่และสะอาดเอี่ยม ก่อนที่มันจะตกลงไปหน่อยตอนค่อนเรื่องที่ฉันเริ่มมีธงในใจว่าหนังจะไปทางไหนแล้วมันดันไปทางนั้น เป็นอารมณ์แบบที่ว่า เห้ย อุตส่าห์ทำมาซะดีแล้วทำไมมันง่ายอย่างนี้คะซิส แต่แล้วพอถึงช่วงท้าย ก็กลับมีจุดพีกให้ได้ร้องเชี่ยยย กราฟพุ่งขึ้นรัวๆ เป็นความสะใจเพียงครั้งเดียวของเรื่องแต่มันช่างเหลือกินเหลือใช้ ก่อนที่หนังจะปิดท้ายด้วยความเศร้า ที่ไม่ว่าการตามหา การคลี่คลาย หรือการแก้แค้นใดๆ ก็ไม่สามารถบรรเทามันได้เลย
ฉากที่ชอบของเรื่อง: ฉากพี่ตำรวจดูดบุหรี่วันฝนพรำ, ฉากในโกดัง (ระทึกเบาๆ), ฉากคุณแม่ในบ้านอาบอจี (ระทึกหนักๆ), ฉากเอาถุงพลาสติกครอบหัวในรถที่เป็นฉากเปิดเรื่องและเฉลยเรื่อง (หดหู่), บทสนทนาบนโต๊ะในเรือนจำ (ความสะใจเพียงหนึ่งเดียวที่ว่า) และฉากหญิงผู้เป็นแม่โอบกอดต้นไม้ ฉากที่ทำให้นึกถึงหนังญี่ปุ่นเรื่อง Matataki (2010) ท่ามกลางความเงียบได้ยินเสียงลมพัดยอดไม้ เป็นเสียงศักดิ์สิทธิ์ที่ได้ยินทีไรก็ชวนให้รู้สึกอยากปลดปล่อยคนที่ผูกพันไปเสียทุกครั้ง
อ่อ หนังเรื่องนี้มีฉากไล่ล่าบนรางรถไฟสาย KTX ที่ถ้าเห็นแค่รูปแคปฉันเชื่อว่าคนจะตอบว่านี่มันเทรนทูปูซาน! ดูไปก็เผลอนึกไปว่าที่วิ่งตามหลังพี่ตำรวจมาจะเป็นกงยูอปป้ายังไงยังงั้น
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in