เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
FreyVanilla * twilight
On that day
  • เขากําลังค้นหาความตาย




    เมืองยิ่งขนาดใหญ่ ประชากรยิ่งเยอะ ไม่แปลกที่จะมีคนตายมากเป็นเงาตามตัว ผนวกรวมกับนิสัย
    ช่างก่อเรื่องก่อราวของพวกมนุษย์แล้ว ทุกวันจะมีดวงวิญญาณเกิดใหม่ให้ไล่ตามจับไม่หวาดไม่ไหว เขาไม่นึกอยากเปรียบเทียบตัวเองกับสุนัขล่าเนื้อ หน้าที่นี้คงเหมาะกับคําว่าแมวไล่จับหนูเสียมากกว่า
    ช่วงนี้อยู่ ๆ รายชื่อในมือเขาก็เยอะขึ้นมาอย่างมีนัยสําคัญ ไม่ใช่ชื่อของคนที่ถูกลงทะเบียนไว้ว่าถึง
    เวลาอันเหมาะสมที่ต้องโบกมือลาโลก แต่เป็นคนที่ยังควรมีชีวิตอีกยาวไกล ซ้ำร้ายยังจําเพาะเจาะจงมา
    เป็นเขตที่เขารับหน้าที่รับผิดชอบ จนแทบจะอยากฟ้องร้องขอวันพักร้อนเสียบ้าง




    เอ็ดเวิร์ด – นั่นเป็นชื่อที่ยมทูตใช้เรียกตัวเอง ความจริงแล้วเขาจําชื่อไม่ได้หรอก เรื่องราวเนิ่นนาน
    เกินว่าจะติดอยู่ในความทรงจํา แค่เห็นว่าออกเสียงแล้วมันดูสมตัวก็เพียงเท่านั้น ไม่อยากถูกเรียกเป็นไอ้นั่นไอ้นี่ก็เป็นอีกเหตุผลหนึ่ง




    เขาเพิ่งเสร็จธุระกับมิสเตอร์ไอแซ็ค โจนส์ ชายชราอายุเจ็ดสิบเก้าปีเศษ ซึ่งก็ถือว่ามีเวลาใช้ชีวิตได้
    คุ้มค่าในระดับหนึ่งแล้ว งานของเอ็ดเวิร์ดจึงเป็นงานที่ง่าย มีดอะธาเม่ที่พกติดตัวไว้ไม่ได้ออกมาตวัดตัด
    ขาดสิ่งใด ใช้เพียงแค่คําพูดเหมือนพนักงานบริษัทประกันภัยแจ้งเงื่อนไขหลังตาย มิสเตอร์ไอแซ็คดูเหมือนจะเข้าใจสถานะภาพของตัวเองดี จึงละจากโลกไปอย่างสงบ เอ็ดเวิร์ดมองร่างจาง ๆ นั่นหายไป โดยที่เขาก็ไม่รู้ว่าจะหายไปที่ไหน




    คนตายไม่จําเป็นต้องมียมทูตนําทาง จิตวิญญาณสุดท้ายของพวกเขาจะพาคนเหล่านั้นไปสู่ที่ของ
    ตนเอง ยกเว้นในกรณีพิเศษ




    แต่กระนั้น...สังหรณ์ถึงความตายก็ยังไม่จางหาย เหมือนกําลังเรียกร้องให้ไปหาอยู่กลาย ๆ เอ็ด
    เวิร์ดจึงตามไปด้วยจิตใจล้นไปด้วยความสงสัย




    นั่นเป็นครั้งแรกที่เขาพบกับสองพี่น้องฝาแฝดคาร์เดล




    อันที่จริง เอ็ดเวิร์ดเจอคนน้องก่อน เขาจํารูปลักษณ์และชื่อนั้นได้ขึ้นใจ จากนั้นจึงจําได้ตลอดมา
    สิ่งที่เขาตามหามาจากเด็กหนุ่มคนนั้น สภาพร่อแร่ลมหายใจจะขาดหายไปเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ โดนทํา
    ร้ายอย่างแสนสาหัส มีแต่รอยกรีดเฉือน เจ้าของร่างอดทนเหลือเชื่อ ทว่าสิ่งที่เขาคิดถึงคงมีแต่ความตาย
    เหมือนกับจะท้าทายสิ่งนั้นให้มาหาเพื่อประกาศว่าตนจะไม่ยอมแพ้




    เอ็ดเวิร์ดแค่นยิ้ม ยังไม่มีชื่อนั้นในบัญชี แต่ปล่อยไว้อย่างนี ้เห็นทีจะกลายเป็นชื่อที่อยู่นอกบัญชีใน
    อีกไม่กี่วัน ด้วยเหตุนั้นเขาจึงก้าวเข้าไป ก้มตัวลงคุกเข่าโดยไม่สนใจว่าเสื้อสูทจะเปื้อนเลือดกลิ่นคาวเหมือนสนิมเหล็ก ยื่นมือไปแตะหน้าผากเย็นชื้นเหงื่อ




    แล้วเขาก็ได้เห็นสีนํ ้าเงินเข้มลึกที่สุดเท่าที่เคยเห็น แม้เปลือกตานั่นแทบจะปิด ทําให้เห็นนัยน์ตานั้น
    เพียงครึ่ง แต่ก็ตรึงสายตาของเขาไว้ให้อยู่นิ่งได้ ความมุ่งมั่นที่จะมีชีวิตกระมัง สิ่งที่สวยงามที่สุดของมนุษย์




    “นายจะไม่ตาย เด็กน้อย”





    ประกาศิตของยมทูตเสียงดังเท่าเสียงกระซิบ อีกฝ่ายหายใจแรงขึ้นคล้ายพยายามแค่นหัวเราะ ไม่
    รู้ว่าเยาะเย้ยคําพูดที่อวดอ้างอํานาจเหนือความตาย เคืองใจที่ถูกเรียกว่าเด็กโดยอมนุษย์ที่อายุร้อยกว่าปี
    หรือคิดประชดประชันว่าตนเองกําลังเห็นภาพหลอน




    เอ็ดเวิร์ดดูประกายตาหยิ่งผยองเหมือนหมาป่านั่นแล้วสําทับอีกประโยค ถ้ายังมีแรงร่างเก้งก้างนั่น
    คงพยายามชกเขาเข้าสักทีกระมัง “ฉันไม่ใช่คนปลิ้นปล้อนหรอก”




    มีดอะธาเม่ที่เหน็บอยู่ข้างข้อเท้าถูกชักขึ้นมาวางนิ่งไว้บนฝ่ามือ แก้วสีนํ้าเงินนั่นลับหายไปแล้ว
    เพราะเจ้าของดูจะไม่ชอบใจกับภาพที่เห็นนัก มิหนําซํ้ายังเนื้อตัวสั่นเทิ้ม ต่อให้คนคนหนึ่งแข็งแกร่งกล้าปานเหล็กเพียงใด แต่โดนทําร้ายซ้ำแล้วซ้ำเล่าเหมือนเหล็กที่ถูกหลอมและตีก็ใช่ว่าจะไม่อ่อนยวบ
    รอยแผลเป็นเส้นเหมือนลวดลายสลักแขนเป็นหลักฐานแสดงความโหดร้าย เด็กคนนั้นกําลังกลัวว่า
    คมมีดจะกรีดลงอีกครั้ง




    เขาแนบด้านคมลงบนผิวเนื้อ -- มีดประจําตัวของเขาตัดได้แทบทุกสิ่งบนโลก แม้แต่เลือดเนื้อที่ไม่รู้
    ว่าจะนับเป็นอะไรดีอย่างตัวตนของเขา ปล่อยให้เลือดไหลอาบปลายนิ้ว แตะมันลงบนริมฝีปากแห้งผาก
    คงเพราะกําลังกระหายน้ำอยู่เป็นทุนเดิม สติรับรู้บ้างไม่รับรู้บ้าง เมื่อมีของเหลวแตะลงบนริมฝีปาก
    จึงไม่ลังเลที่จะกลืนกินลงไป ก่อนที่จะสําลักเพราะรสประหลาดน่าขยาด แววตานั่นปรือขึ้นมานิดหนึ่ง
    ขมวดคิ้วไม่ชอบใจ




    เลือดของยมทูตสามารถเป็นทั้งยาวิเศษ พรที่ให้สิ่งที่มนุษย์บางคนขอ หรือแม้กระทั่งคําสาป
    เอ็ดเวิร์ดรู้ว่ามันอาจจะง่ายดาย หรือพลิกกลับหัวกลับหางกลายเป็นยากเป็นอย่างยิ่ง แต่เด็กคนนี ้
    จะผ่านมันไปได้ แววตานั่นบอกอย่างนั้น เขาปัดเส้นผมชุ่มเหงื่อให้พ้นจากหน้าผาก แตะอยู่นิ่ง ๆ เป็นครั้ง
    สุดท้ายเหมือนอําลา จากนั้นเขาก็จากมา และไม่เคยลืมกลิ่นวิญญาณคล้ายแซนดัลวู้ดปนกับกระดาษท่ามกลางกลิ่นเลือดนั่นอีกเลย





    สองวันหลังจากนั้นตํารวจคลี่คลายคดีลักพาตัวได้ด้วยเหตุผลประหลาด รอยเท้าแมวเลอะเลือด
    แปลก ๆ ใกล้รั้วบ้านทําให้เพื่อนบ้านสังเกตจนแจ้งตํารวจ ตอนแรกมันช่างคล้ายกับเรื่องพิลึกพิเรนท์ แต่เมื่อตามรอยเท้าแสนประหลาดนั่นไปเหมือนเศษขนมปังของฮันเซลและเกรเทล พวกเขาพบกับเหยื่อสองรายสุดท้ายที่เป็นฝาแฝด คนหนึ่งสภาพยํ่าแย่แทบไม่ไหวเพราะโดนทรมาน อีกคนถูกจับเป็นตัวประกันก่อนถูกยิงเกือบถึงตาย ส่วนคนร้ายที่จนตรอกหาทางหนีด้วยการสังหารตัวเอง




    ทว่าไม่มีใครตอบได้ถึงรอยเท้าปริศนาเลอะเลือดอีกรอยในที่เกิดเหตุว่าใครเป็นเจ้าของ



Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in