Note : แอชเชอร์ = เจโน่ , เชส = แจมิน , เฮนริค = คุน , เซบาสเตียน = เฮนเดอรี่
อากาศหนาวเย็นที่ติดลบคงไม่ใช่เรื่องน่าอภิรมย์สักเท่าไหร่ สำหรับการเดิมท่ามกลางหิมะที่ร่วงหล่นลงมา ไม่ว่าจะมองไปไกลจนสุดลูกหูลูกตาแค่ไหนก็ยังคงเต็มไปด้วยสีขาวโพลน แม้จะมีต้นไม้สูงใหญ่ที่แทรกซ้อนสีขาวพวกนั้นพอให้เห็นการมีชีวิต
แต่ทว่ามันก็ดูเป็นการมีชีวิตที่แสนยากเย็น
แสงสว่างที่ลอดผ่านเมฆขมุกขมัวนั้นช่วยทำให้สามารถมองอะไรได้เห็นก็จริง แต่ก็ดูจะเป็นความช่วยเหลือที่ไม่ได้ดีนักกับความหนาวเหน็บที่กำลังกัดกินผิวเนื้อของชายหนุ่มในชุดคลุมสีเข้มจนเย็นเฉียบ กลีบปากที่สมควรจะมีสีระเรื่อกลับเริ่มขาวซีด พอๆกับผิวขาวที่โผล่พ้นมาให้เห็นนั้นแทบจะกลืนกินไปกับหิมะ
ภายใต้ชุดคลุมสีเข้มที่ดูผิวเผินอาจจะไม่มีอะไร แต่หากพินิจพิจารณาดูใกล้ๆแล้วก็คงจะได้เห็นของเหลวสีเข้มที่ไหลจนเปียกชุ่ม หยาดเลือดสีแดงสดหยดลงตามพื้นสีขาวจนกลายเป็นทาง ก่อนจะถูกกลบทับด้วยหิมะที่ตกลงมาทับถม สภาพอากาศที่ไม่เคยเป็นใจในวันที่โชคไม่ดี ทำให้ทุกอย่างยิ่งดูย่ำแย่จนไม่อาจคาดการณ์ได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไปกับตัวของชายหนุ่ม
คนที่ได้รับบาดเจ็บพยายามเร่งฝีเท้าของตัวเองให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ แม้ว่าร่างกายจะไม่เอื้ออำนวยแค่ไหนก็ตาม ในนาทีนี้การกัดฟันสู้จนสุดชีวิตคงเป็นเพียงทางเดียวที่จะทำให้ชายหนุ่มรอดพ้นออกไปจากดินแดนนี้
นัยน์ตาสีดำสนิทยังคงทอแสงแข็งกร้าวอย่างเช่นเคย แววตาถือดีอย่างคนโอหังที่เคยอยู่เหนือทุกคนมาตลอด รอยยิ้มบิดเบี้ยวที่เกิดขึ้นนั้นก็เป็นผลมาจากความคับแค้นภายในใจ เจ็บกายหรือจะเท่ากับเจ็บใจ ความรู้สึกที่ถูกเหยียบย่ำมันตลกร้ายสิ้นดี
แบล็คฟอเรสต์ในเขตแดนเหนือ ถือเป็นรอยต่อของแดนเหนือและแดนใต้ ป่าแห่งนี้เป็นที่ล่ำลือกับมานักต่อนักว่าคร่าผู้คนไปมากกว่าหนึ่งในสี่ของการเดินทาง ความไม่สามารถคาดเดาได้ ทำให้ที่นี่ดูน่าพิศวงเข้าไปใหญ่เมื่อได้เข้ามาสัมผัส ต้นไม้สีดำสนิทที่ตัดกับหิมะขาวโพลนคงกลายเป็นภาพที่ทำให้ที่นี่หดหู่อย่างไม่ต้องสงสัย
'แอชเชอร์' ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องฝืนทนก้าวเดินต่อไป ความหนาวเย็นในแดนเหนือแท้จริงแล้วนั้นมันไม่โหดร้ายเท่ากับจิตใจคนเลยสักนิด ต่อให้แอชเชอร์จะอยู่สูงสุดบนตำแหน่งของห่วงโซ่อาหารแต่เขาก็ไม่สามารถหลีกหนีมันได้พ้น ลำดับชั้นที่กำหนดความเป็นอยู่และการใช้ชีวิตนั่นมันไม่เคยมีความยุติธรรม ไม่ว่าจะทั้งอัลฟ่า เบต้า หรือโอเมก้าที่อยู่ต่ำสุดเองก็เช่นกัน
เรื่องแก่งแย่งกันในชนชั้นยังคงเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นไม่รู้จักจบจักสิ้น ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานเท่าไหร่
แอชเชอร์เป็นอัลฟ่าชั้นสูงที่เกิดในตระกูลเก่าแก่ของแดนเหนือ เจ้าตัวเป็นอัลฟ่าสมบูรณ์แบบอย่างที่สมควรจะเป็น ไม่ว่าจะทั้งร่างกายหรือจิตใจเองด้วยก็ตาม สิ่งที่ปลูกฝังมาตั้งแต่เยาว์วัยนั้นยังคงดังชัดก้องอยู่ในหู
แอชเชอร์ไม่เคยถูกสอนให้หนี แต่ตอนนี้สภาพของเจ้าตัวมันก็ไม่ต่างจากสัตว์ที่ได้รับบาดเจ็บและตะเกียกตะกายเอาตัวรอดจนสุดชีวิต ความรู้สึกที่เคยยืนอยู่บนสูงสุดนั้นมันเทียบไม่ได้เลยสักนิดกับความตกต่ำที่ได้รับในตอนนี้
ความแตกแยกไม่ลงรอยกันนับครั้งไม่ถ้วนของตระกูลเก่าแก่ในแดนเหนือ คือชนวนชั้นดีที่ก่อให้เกิดการช่วงชิง ตระกูลของแอชเชอร์ถือว่าเป็นตระกูลสุดท้ายที่โดนบีบ เพราะการไม่ฝักใฝ่ฝ่ายไหนและเลือกที่จะเมินเฉยของคนเป็นพ่อทำให้พอยืดเวลาได้สักระยะ แต่ก็ไม่ได้นานพอที่จะทำให้คนในตระกูลได้หาทางเอาตัวรอดกันได้ทัน
ในบรรดาพี่น้องของตระกูลนั้นไม่มีใครเคยที่จะออกมาจากแดนเหนือ แบล็คฟอเรสต์ที่ถูกเล่าขานจากปากผู้ใหญ่มานักต่อนักทำให้อัลฟ่ารุ่นลูกเลือกจะเมินเฉย และสนใจเรื่องอื่นแทนการจะขวนขวายไปในต่างแดน
ยิ่งถูกปลูกฝังว่าแดนเหนือคือที่สำหรับชนชั้นสูง ไม่ใช่อย่างเช่นคนเถื่อนทางแดนใต้ก็ยิ่งทำให้เรายิ่งถือดีในตนเอง
'นายน้อยต้องหนี..'
แว่วเสียงของคนรับใช้ที่ดูแลแอชเชอร์มาตั้งแต่เด็กลอยเข้ามาในหู ภาพของอีกฝ่ายที่ผลักให้เขาออกมาจากขุมนรกนั่นมันยังฉายชัด แม้จะเป็นเพียงเบต้าแสนจะธรรมดา แต่เฮนริคกลับกล้าหาญมากเกินกว่าที่แอชเชอร์จะคาดคิด
เสียงกรีดร้องแสนทรมาน สะท้อนความสูญเสียจนรู้สึกถึงความเจ็บปวดบริเวณหน้าอก กลีบปากบางขบเข้าหากันแน่นเพื่อข่มความทรมานนั้นไว้อย่างถึงที่สุด
ความสุญเสียครั้งยิ่งใหญ่พวกนี้จะกลายเป็นฝันร้ายที่แอชเชอร์ไม่อาจลืมเลือน...
เขาจะไม่สาบานเพื่อใครทั้งนั้น เว้นก็แต่ตั้งคำสัตย์กับตัวเอง ว่าถ้าหากได้หวนคืนกลับมาที่นี่อีกครั้ง เขาจะเอาทุกอย่างคืนให้มันสาสมกับสิ่งที่พวกระยำนั่นทำ
แว่วเสียงของหมาป่าที่เห่าหอนอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล นั่นเป็นสัญญาณเตือนถึงอันตรายที่กำลังคลืบคลานเข้ามาใกล้กับแอชเชอร์มากขึ้นเรื่อยๆ สัตว์สี่เท้าพวกนั้นคงกำลังไล่ล่าเขาอย่างไม่ลดละ ทั้งด้วยพละกำลังของร่างกายที่ถูกออกแบบมาให้เป็นผู้ล่านั้นใช้เวลาเพียงไม่เท่าไหร่ก็คงจะรุกคืบมาถึงตัวแอชเชอร์ได้อย่างไม่ยาก
หมาล่าเนื้อ ย่อมทำหน้าที่ของมันจวบจนกว่าจะสำเร็จ ยิ่งสำหรับเหยื่อที่คิดหนีแล้วล่ะก็ คงไม่ใช่เรื่องที่จะตัดสินใจยากเท่าไหร่ในการจัดการ
เชื่อเถอะว่าถ้าพวกมันไม่ได้สักส่วนในร่างกายกลับไปให้เจ้านายของตัวเอง ก็คงเป็นพวกมันนั่นล่ะที่จะถูกกำจัดแทน
กลิ่นอายของแบล็คฟอเรสต์ ยิ่งชวนทำให้แอชเชอร์รู้สึกเหมือนตัวเองใกล้จะสิ้นหวังอยู่เต็มทน แม้จะพยายามกวาดสายตาหาทางเอาตัวรอดเท่าไหร่มันก็ช่างยากไปเสียหมด ต่อให้เขาจะมีร่างกายแข็งแรงอย่างอัลฟ่าแต่การบาดเจ็บขนาดนี้มันย่อมทำให้เรี่ยวแรงที่มีอยู่นั้นหายไปเรื่อยๆ
หรือนี่จะเป็นอย่างที่ใครต่อใครต่างพูดถึง แบล็คฟอเรสต์ก็ไม่ต่างจากป่าแห่งความตาย แต่ถ้าหากได้หลุดผ่านพ้นไปก็จะได้สัมผัสกับการมีชีวิตของโลกอีกใบหนึ่งซึ่งแตกต่างจากดินแดนที่หนาวเหน็บแห่งนี้
แดนใต้ที่เต็มไปด้วยความชุ่มชื้นและความอบอุ่น ที่ก่อกำเนิดของการมีชีวิต
"อึก.."
ร่างทั้งร่างของแอชเชอร์ลื่นไถลลงไปตามความชันของทางที่ต่างระดับ ลำตัวของร่างโปร่งกระแทกเข้ากับความแข็งของท่อนไม้ที่เกลื่อนกลาดจนทำให้บาดแผลนั้นปริแตกมากขึ้นกว่าเดิม เสียงแหบครางอื้ออึงในลำคอด้วยความเจ็บ
แม้จะอยากฝืนร่างกายให้ลุกมากแค่ไหน แต่ความอ่อนล้าของร่างกายและบาดแผลพวกนี้ก็เป็นตัวถ่วงชั้นดีที่ทำให้แอชเชอร์ไม่สามารถทำอย่างที่ใจคิดได้ แขนยาวค่อยๆพยุงร่างกายของตัวเองไปหลบอยู่ที่โพรงไม้หลังต้นไม้ใหญ่
รอยเลือดที่เป็นทางพวกนี้มันก็ไม่ต่างจากตัวล่อชั้นดีที่ทำให้หมาล่าเนื้อนั้นตามเจ้าตัวจนเจอ แต่มันก็ไม่มีทางเลือก จากที่จะหนี แอชเชอร์กลับคิดว่าหากลองสู้กับพวกมัน ก็คงอาจจะเป็นทางรอดทางสุดท้ายของตัวเอง
เสียงหอบหายใจถี่เพราะเลือดในร่างกายที่สูบฉีด เป็นตัวสร้างความกดดันที่ดีให้กับแอชเชอร์ที่กำลังนับถอยหลังในการเผชิญหน้ากับความอันตรายที่ย่างกรายเข้ามาเรื่อยๆ
ฝีเท้าของสัตว์ใหญ่ย่ำเท้าหนักๆ สลับกับเสียงหอบหายใจพวกนั้นช่างเป็นความรู้สึกที่ทำให้เจ้าตัวตื่นกลัวยิ่งกว่าการฝึกสอนที่แสนจะอันตรายจากที่เคยได้เรียนรู้
และวินาทีที่ทำให้แอชเชอร์เผลอหยุดลมหายใจอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว ก็คงเป็นตอนที่หางตาของเขามองเห็นขนสีเทาเข้มสลับปะปนกับสีขาว เสียงขู่กรรโชกของพวกมันวนเวียนอยู่รอบตัวของแอชเชอร์ราวกับกำลังเล่นสนุกให้เหยื่อขวัญผวาเล่น
กรรรจ์! กรรรจ์!
พรึ่บ!!
แรงกระชากไม่น้อยเหวี่ยงเอาร่างของคนที่กำลังบาดเจ็บออกมาจากที่หลบ จนคนที่มีศักดิ์เป็นนายน้อยนั้นตวัดสายตามองเจ้าของการกระทำรุนแรงนั่น
"พึ่งจะรู้เหมือนกันนะครับ ว่านายน้อยชอบเล่นไล่จับเหมือนกัน.."
"เซบาสเตียน.." คนที่ถูกต้อนจนมุม กดเสียงเรียกชื่ออีกฝ่ายต่ำเสียจนน่ากลัว "ไอ้คนทรยศ.."
หมาป่าตัวใหญ่สามตัวยังคงเดินวนรอบตัวของแอชเชอร์ เพื่อรอคำสั่งจากเจ้านายของมัน
"มาฉลาดตอนนี้ก็สายไปแล้วล่ะครับนายน้อย :)"
รอยยิ้มมุมปากที่ไม่ว่าแอชเชอร์เห็้นครั้งไหนก็ไม่เคยพอใจ นั้นแสยะยิ้มให้เขาจนน่าขยะแขยง มันก็คงไม่แปลกที่อัลฟ่าปกติแบบนี้จะอยากมักใหญ่ใฝ่สูง เพื่อยกตัวเองให้เหนือคนอื่น
พ่อเคยบอกว่าเซบาสเตียนเป็นคนฉลาด แต่ก็ไม่น่าไว้ใจ.. ซึ่งนั่นมันคือเรื่องจริงทั้งหมด
"ขย้ำ.."
สิ้นเสียงคำสั่งของเซบาสเตียน สัตว์ใหญ่สี่ขาที่กำลังเฝ้ารอคำสั่งนั้น ก็ไม่ลังเลที่จะทำตามคำสั่ง ร่างกายใหญ่โตของมันตรงเข้าไปตะครุบเหยื่อสูงศักดิ์ด้วยความกระหาย
แววตาตื่นตระหนกที่ฉายความกลัวออกมาชั่วแวบนึงของแอชเชอร์นั้น เป็นที่น่าพอใจไม่น้อยสำหรับเซบาสเตียน
TAG : #youngmastermn
จากที่เคยทำโพลแต่งฟิคนะคะ วันนี้ได้ฤกษ์มาลงอินโทร ขอบอกว่าเป็น อัลฟ่า x อัลฟ่า เน้อ ยังไงก็ฝากติดตามกันด้วยนะคะ อ่านแล้วเป็นยังไงอย่าลืมคอมเมนต์บอกกันด้วยน้า
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in