เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Virus In Phatthalung : ฝูงผีดิบอาละวาดพัทลุงHacker Dewdie
Episode 3 : สหกรณ์และบ้านผู้ใหญ่บ้าน
  • ===========================================================================
           ความเดิมตอนที่แล้ว :
           ซอมบี้บุกโจมตีบ้านผม ผม พ่อ แม่ น้องเกม และน้องแชมป์ต่างวิ่งหนีลงห้องใต้ดิน แต่ที่ห้องใต้ดินไม่มีอาหารหรือของกินเลย ดังนั้นครอบครัวผมตัดสินใจมุ่งหน้าไปที่ร้านค้าสหกรณ์เพื่อหาของกิน
    ===========================================================================


             รถยนต์ของพ่อเคลื่อนที่มาถึงสหกรณ์หมู่บ้านของผมอย่างรวดเร็ว

     
              สหกรณ์หมู่บ้านของผม เป็นสหกรณ์ร้านค้าขายสินค้าขนาดเล็ก ตั้งอยู่ห่างจากบ้านของผมไม่ไกลมากนัก คนในหมู่บ้านของผมร่วมมือร่วมใจกันก่อตั้ง ร่วมกันเป็นผู้ถือหุ้น  ภายในสหกรณ์มีของกินของใช้ที่ใช้ในชีวิตประจำวันมากมาย อย่างเช่น ขนม เครื่องดื่ม ผงซักฟอก น้ำยาล้างจาน ฯลฯ มีวัตถุประสงค์เพื่อแก้ไขความเดือดร้อนในการซื้อเครื่องอุปโภคบริโภค และเพื่อผดุงฐานะทางเศรษฐกิจของคนในหมู่บ้าน ทุกสิ้นปีผู้ที่ถือหุ้นจะได้รับเงินปันผลตามหุ้นส่วนของที่ตัวเองถืออยู่ นับเป็นการรวมกลุ่มการเพื่อผลประโยชน์ของคนในหมู่บ้าน


             ผมขับรถมอเตอร์ไซค์คันสีเทาถึงหน้าสหกรณ์หมู่บ้าน ตั้งขาตั้ง ตบเกียร์ว่าง ดับเครื่องยนต์ แขวนหมวกกันน๊อคไว้กับกระจกมองหลัง เดินมาข้างรถของพ่อ พยักหน้าส่งสัญญาณให้ครอบครัวผมทราบว่า ทุกอย่างเรียบร้อยดีและไม่มีอะไรที่น่าเป็นห่วง หลังจากนั้นพ่อแม่และน้องของผมทั้งสองคนเปิดประตูรถ เดินออกมา


              "มาช้าจังเลยนะ พี่ชาย.." น้องผมพูดด้วยความเยาะเย้ย

     
              "แหม่น้อง...พี่ก็กำลังสนุกในการซ้อมตีลูกเทนนิสอยู่นะ"  ผมตอบกลับ "พี่คิดค้นท่าไม้ตายเยี่ยวถลาลมได้แล้วนะ จะดูไหมล่ะ??"


              "ใช้ท่าไม้ตาย ไม้เทนนิสหักตายแน่ๆ"


              "เอิ่ม..."




              "ทุกๆ คนมาช่วยพ่อยกประตูเหล็กขึ้นหน่อย" เสียงแม่เรียกขึ้นมา เมื่อผมหันไปมอง แม่อยู่หน้าประตูเหล็กร้านสหกรณ์ ส่วนพ่อพยายามยกประตูเหล็กขึ้น ผมกับน้องก็รีบช่วยพ่อยกประตูเหล็กทันที 


               "เอะ ไม่ได้ล๊อกกุญแจไว้หรือเนี่ย"  ผมคิดในใจ


               ผมสังเกตเห็นประตูเหล็กที่ไม่มีกุญแจประตูคล้องเอาไว้ หลังจากที่ครอบครัวผมดันประตูเหล็กขึ้นในระดับหนึ่ง  มีมือแปลกๆ จับประตูเหล็กด้านล่างและยกประตูเหล็กขึ้นจนถึงครึ่งลำตัวของผม  ผมสังเกตเห็นขาคนจำนวนสองคู่สี่ขา มือสี่มือ พยายามยกประตูเหล็กขึ้น  ผมบอกให้พ่อและน้องๆ ให้ถอยออกห่างๆ


              ประตูเหล็กเลื่อนขึ้นเรื่อยๆ จนเกือบจะพ้นศีรษะ แสงสว่างจากภายนอกส่องเข้าไปในร้านค้าสหกรณ์เผยโฉมหน้าคนทั้งสองคนที่ยกประตูเหล็ก




               "คีม เค!!!!"  เกมพูดเสียงดัง 

               แสงจากนอกส่องให้เห็นใบหน้าของชายทั้งสองคนอย่างชัดเจน คนหนึ่งเป็นผู้ชายตัวขาว ตัวผอม รูปร่างสูง ใส่เสื้อฟุตบอลและกางเกงฟุตบอลสีน้ำเงิน นั่นคือคีม ส่วนอีกคนเป็นคนตัวเล็ก ใบหน้ากลม มีรอยยิ้มที่เป็นมิตร นั่นคือเค 
               คีมและเคเป็นน้องของผม แม่ของผมกับแม่ของคีม เค รู้จักกันในฐานะเป็นเพื่อนร่วมงาน  คีมและเคมักจะมาเล่นที่บ้านผมบ่อยๆ คีมมักจะเล่นกีฬากับผม ส่วนเคมักจะดูการ์ตูนหรือเล่นเกมคอมพิวเตอร์ร่วมกับเกมและแชมป์ 


               ชายทั้งสองคนกำลังออกแรงยกประตูเหล็กอย่างสุดฤทธิ์ ผมและเกมเห็นการกระทำของเด็กชายทั้งสองคนจึงรีบเข้าไปช่วยยกประตูเหล็กทันที


               "มาทำอะไรที่นี่"  เกมถาม หลังจากที่ประตูเหล็กของร้านสหกรณ์เปิดออกกว้าง


               "พวกผมหนีภัยมาฮะ" คีมตอบ "ที่บ้านของคีมมีพวกซอมบี้บุกเข้ามาภายในบ้าน มันเริ่มพังประตูบ้าน เราซ่อนตัวในห้องนอน เมื่อเห็นสถานการณ์ไม่ดี ก็หนีทางหน้าต่าง"


                "แล้วน้าศรีอยู่ไหน ทำไมไม่มาด้วยกันล่ะ"


                "ก่อนออกจากบ้านคีมกับเคแยกทางกัน แม่ขับรถมอเตอร์ไซต์ไปที่บ้านของผู้ใหญ่บ้าน เพื่อแจ้งเตือนกับผู้ใหญ่บ้านให้ทราบถึงปัญหาที่เกิดขึ้น ส่วนพวกผมวิ่งเลาะป่ามาทางหลังบ้าน มาหาบ้านป้าไรนี่แหละ กะว่าจะมาขอความช่วยเหลือ แต่ป้าก็อยู่ในร้านค้าสหกรณ์แล้ว"


                 "แล้วป้าไรอยู่ไหน" ผมถาม


                 เคชี้ไปยังด้านหลังของสหกรณ์ร้านค้า ผมมองไปทางที่เคชี้ เห็นป้าไรกำลังนั่งทำอะไรบางอย่างบนแคร่ไม้ ป้าไรคือพี่สาวของพ่อผมที่สืบสายเลือดมาด้วยกัน บ้านของป้าไรอยู่ใกล้กับสหกรณ์มาก เดินไม่กี่ก้าวก็ถึงแล้ว ตอนวัยเด็กๆ ผมมักจะไปหาป้าไรเป็นประจำ เพื่อไปเล่นกับลูกของป้า


                 "สวัสดีครับป้าไร ป้ากำลังทำอะไรครับ"


                 "รวบรวมเครื่องมือปฐมพยาบาลเบื้องต้นนะ ยาทำแผล พลาสเตอร์  และข้าวของเครื่องใช้ที่เก็บมาจากบ้านนะ"


                 "แล้วพี่อบอยู่ไหนล่ะครับ"

         
                 "อยู่ข้างหลังร้าน" ป้าไรตอบและก้มหน้าขะมักเขม้นกับการจัดกล่องปฐมพยาบาล  "ดิวเดินไปที่ข้างประตูหลังร้านนะ เปิดออกไป พี่อบน่าจะอยู่ข้างหลัง คงจะประดิษฐ์อะไรของแปลกๆ นะ"

  •     

                "พี่อบ ทำอะไร"


                 "อ่อดิวนี่เอง" ชายคนนั้นหันหน้ามา นั่นคือพี่อบ พี่อบเป็นลูกชายคนสุดท้องของป้าไร ตอนเด็กๆ พี่เขาเป็นเพื่อนเล่นกับผม เป็นพี่ที่ปกครองและดูแลผมทั้งตอนอยู่บ้านและอยู่ที่โรงเรียน เป็นคนที่ผมไว้ใจได้  


                 "พี่กำลังทำอาวุธที่ใช้จัดการซอมบี้" พี่อบกำลังกรอกน้ำใส่กระบอกพลาสติกสีเขียวขนาดเท่าแขน 

                
                  "ปืนฉีดน้ำเนี่ยนะ"


                   "ไม่ใช่แล้ว มันไม่ใช่ปืนฉีดน้ำธรรมดา"  พี่อบปิดก๊อกน้ำและเอากระบอกพลาสติกติดตั้งกับปืนฉีดน้ำอันใหญ่ยักษ์  "มันคือาวุธอันแสนร้ายการที่ใช้จัดการซอมบี้ให้อ่อนแรงลงได้ พี่ขอตั้งชื่อมันว่า ปืนบาซูก้าเทอร์โบอาร์พีจี แซด ซีโร่วัน (Bazooka Turbo RPG Z01)"


                   "......อะไรนะ แซด ซีโร่ วัน....."


                    "มันเป็นปืนเคมี ใส่ผงซักฟอกและน้ำยาล้างจานลงในกระบอกน้ำ กรอกน้ำเปล่าใส่ เขย่าส่วนผสมให้เป็นเนื้อเดียวกัน เอามาติดตั้งกับปืนบาซูก้าที่เพิ่มประสิทธิภาพด้วยการอัดแรงดันมากกว่าเดิมเป็น 10 เท่า ทำให้ฉีดน้ำยาพุ่งไปได้ไกล ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย เมื่อซอมบี้เข้ามา พี่จะใช้ไอ้นี้จัดการซอมบี้ หากฉีดเข้าตา ตาของมันจะพร่ามัวมองไม่เห็น หากฉีดเข้าไปในปาก มันจะอาเจียนออกมาเป็นเลือด หากฉีดโดนแผลมันจะร้องโหยหวน และหลังจากนั้นมันจะนอนแน่นิ่งไป"


                     "สุดยอด......พี่เคยใช้กับซอมบี้เหรอ"


                     "ก็ดูนั่นสิ ผลงานของพี่"  พี่อบชี้ไปยังพื้นที่ที่อยู่ใกล้บริเวณนั้น ผมมองไปทางที่พี่ชี้ เห็นซอมบี้นอนน้ำลายฟูมปาก ลำตัวยังกระตุกบ้างเล็กน้อย และมันก็ไม่มีที่ท่าจะเข้ามาทำร้ายเลย 


     
                     "เอาล่ะ เสร็จเรียบร้อยแล้ว เข้าไปหลบในร้านสหกรณ์เถอะ..อยู่ข้างนอกมันอันตราย"



                     พี่อบเปิดประตู และเข้าไปในร้านสหกรณ์สหกรณ์ ผมเดินตามหลัง ปิดประตู  และใส่กลอน หลังจากนั้นไม่นาน ผมได้ยินเสียงคนคุยกันสนั่นตรงหน้าประตูเหล็กทางเข้าของสหกรณ์ เมื่อหันไปมองก็พบว่าเกมกำลังใช้ดาบฟันซอมบี้ พ่อและแม่ของผมใช้จอบและพร้าฟาดซอมบี้อย่างไม่หยุดยั้ง แชมป์กำลังเก็บกวาดสิ่งของเครื่องใช้ที่มีอยู่ในร้านลงในถุงพลาสติกสีดำขนาดใหญ่ ส่วนพี่อบยิงปืนฉีดน้ำใส่ซอมบี้ คีมและเคช่วยกันเคลื่อนตู้แก้วปิดขวางทาง และป้าไรรีบจัดเก็บกล่องปฐมพยาบาล

                  
                      "แชมป์ เร็ว เสร็จแล้วหรือยัง" แม่ตะโกนเรียกแชมป์ หลังจากฟาดฟันซอมบี้


                      "ยังเลย ยังขาดขนม เอ มันอยู่ไหนนะ"


                      "ฝูงซอมบี้กำลังใกล้เข้ามากันเยอะขึ้นเรื่อย พวกเราอยู่ที่นี่ไม่ไหวแน่นอน" พ่อพูดขึ้นบ้าง

           
                      "พ่อรีบไปสตาร์ทรถยนต์เลย ไปหาบ้านผู้ใหญ่บ้านโดยด่วนเลย ไปหาน้าศรีนะ  แม่ช่วยกวาดทางให้พ่อ  เกมฆ่าซอมบี้ไปเรื่อยๆ จนกว่าพ่อจะติดเครื่องยนต์สำเร็จ  แชมป์หยุดได้แล้ว ถ้าหาขนมนั้นไม่เจอก็ช่างมัน มัดปากถุงซะ แล้วรีบตามแม่ขึ้นรถไปเลย  ส่วนป้าไรไปกับพ่อ  คีมเคไม่ต้องทำแล้ว เสียเวลา ขึ้นหลังรถพ่อพี่ซะ" ผมบัญชาการให้ทุกคนทำตาม 


                      "ส่วนพี่อบ....."
     
        
                       "ไม่ต้อง ไม่ต้อง พี่มีรถมอเตอร์ไซค์ของพี่ พี่ไปเองได้" พี่อบหันมาพูดกับผม


                       "โอเคงั้นทุกคน เจอกันที่บ้านผู้ใหญ่บ้าน"


                       ผมดึงไม้เทนนิสออกมา หยิบข้าวของเครื่องใช้ที่หลงเหลืออยู่ในห้องสหกรณ์ ตีใส่ซอมบี้ เมื่อไม่สิ่งของหลงเหลือ ผมจึงกระโจนเข้าฝูงซอมบี้และใช้ไม้เทนนิสตีกับซอมบี้


                       ...ครืน...บรื้น....บรื้นนนน..
                       เสียงเครื่องยนต์รถของพ่อดังสนั่น พวกซอมบี้หันความสนใจไปยังเสียงของรถยนต์ของพ่อ ผมเห็นพ่อ แม่ แชมป์ และป้าไร นั่งอยู่ในรถเรียบร้อยแล้ว ส่วนคีมและเคนั่งบนกระบะหลัง

                  
                        "เกมไปได้แล้ว ตรงนี้พี่จัดการเอง"


                        "รับทราบท่านพี่" เกมพูดขึ้นมาหลังจากดึงดาวกระจายจากซอมบี้ตัวหนึ่ง "หวังว่าพี่คงไม่โดนซอมบี้กัดตายนะ"


                        "ช่างเป็นคำอวยพรที่ดีจริงๆ" ผมบ่นภายในใจ










                   



















  •                     รถยนต์กระบะ 4 ล้อคันสีเทา วิ่งฝ่าความมืดในค่ำคืนที่ไร้แสงจันทร์ แสงไฟจากรถยนต์คอยส่องทาง  กับอีก 7 ชีวิตบนรถยนต์ที่ต้องการหนีเอาตัวรอดจากฝูงซอมบี้  
                        รถเคลื่อนที่อย่างรวดเร็ว เลี้ยวซ้าย เลี้ยวขวา ทะลุซอย และในที่สุดเดินทางมาถึงบ้านผู้ใหญ่บ้าน



                        บ้านของผู้ใหญ่เป็น เป็นบ้านไทย ยกใต้ถุนสูงจากพื้นดิน มีหลังคาไม้ทรงสูงซึ่งเป็นภูมิปัญญาของไทยที่ช่วยให้อากาศถ่ายเทไหลเวียน ทำให้อากาศภายในตัวเรือนเย็นสบาย  ใต้ถุนมีแคร่ไม้เหมาะสำหรับการนั่งพักผ่อนในยามกลางวัน และคอยสอดส่องว่ามีใครมาใครไปบริเวณรอบบ้าน
                        บ้านผู้ใหญ่มีชานบ้านที่อยู่ด้านหน้าที่ยกตัวสูงจากพื้นที่ดินเล็กน้อย ใช้เป็นสถานที่ต้อนรับคนในหมู่บ้าน มีทางขึ้นบันไดจากพื้นดินไปยังชานบ้าน ก่อนขึ้นบันไดจะต้องตักน้ำในโอ่งดินเผาล้างเท้าก่อนจะขึ้นตัวเรือน นอกจากเพื่อความสะอาดแล้ว ยังมีความเชื่อว่า จะคอยปัดเป่าสิ่งที่ไม่ดีให้พ้นไปจากบ้านเรือนอีกด้วย
                        รอบๆ บ้านของผู้ใหญ่บ้าน มีพื้นที่ืทำเกษตรสำหรับครัวเรือน  มีแปลงปลูกพืชสมุนไพร และพืชผักสวนครัวมากมายหลายชนิด เหมาะนำมาใช้ทำเป็นอาหารและยารักษาโรค มีผลไม้หลากหลายชนิด นอกจากนี้ผู้ใหญ่บ้านเลี้ยงวัวไว้ในคอกที่อยู่ข้างบ้านอีกด้วย 
                        หลังบ้านผู้ใหญ่บ้านมีสวนยางพารา แต่ละต้นมีอายุประมาณ 8 ปีซึ่งเหมาะแก่การกรีดยาง ในการกรีดยางนั้น ผู้กรีดจะต้องตื่นนอนตอนเช้าลุกขึ้นไปกรีดยาง น้ำยางจากต้นยางพาราจะค่อยๆ ไหลลงสู่ถ้วยที่รองรับไว้ เมื่อผ่านไปราวๆ 2-3 ชั่วโมง ก็จะได้น้ำยางพาราตามที่ต้องการ จึงเก็บน้ำยางในถ้วยใส่ถังขนาดใหญ่แล้วนำไปขายให้โรงงาน นับเป็นงานรายได้พิเศษอีกทาง
                     





                        พ่อดับเครื่องยนต์และเปิดประตูรถ มองซ้ายมองขวาเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีซอมบี้อยู่ใกล้ จึงส่งสัญญาณให้แม่เปิดประตูลงจากรถ ป้าไรขยับตัวลงจากรถ ส่วนเกม คีมและเคที่ที่นั่งอยู่กระบะด้านหลังก็กระโดดลงมา

                        
                         "ทำไมมันเงียบเหลือเกิน"  เกมพูดขึ้น 


                         "พ่อจะขึ้นไปเคาะประตูเอง"                     



                         
                          ไม่กี่วินาทีต่อมา ผมและพี่อบขับรถมอเตอร์ไซค์มาถึงบ้านผู้ใหญ่บ้าน ดับเครื่องยนต์และเดินมาหาพ่อกับแม่  พ่อสั่งให้ทุกคนยืนเฝ้ามองดูเหตุการณ์โดยรอบตัวบ้าน หลังจากนั้นจึงค่อยๆ เดินขึ้นบันได 


                           พ่อเดินผ่านชานบ้าน หยุดหน้าประตู และเคาะประตู

                           
                           ก๊อก...ก๊อก...ก๊อก!!!
                           ไม่มีเสียงตอบรับกลับมา พ่อเคาะประตูอีกครั้ง หลังจากเคาะประตูบ้าน ซอมบี้พุงโต ใบหน้ามีรอยแผลเหวอะหวะ สวมเสื้อลายสก๊อตสีแดงสลับสีแดงอ่อน พังประตูออกมา แรงกระแทกประตูทำให้พ่อรีบล้มตัวลงกับพื้นไม้ของบ้านเพื่อหลีกเลี่ยงก่อนโดนกัด


                           "โอว โน่ววว มาย ฟาเต้ออออ"  เกมตะโกนอย่างสุดเสียง 


                            ซอมบี้พุงโตเห็นพ่อล้มลง จึงรีบคลานเข้ามาหาพ่อทันที  พ่อพยายามใช้มือดันตัวเองและรีบตะกุยตะกายลุกขึ้นยืน ไม้พื้นลื่นๆ ทำให้พ่อไม่สามารถพยุงตัวเองได้ จึงพลิกหันหลังกลับและพยายามคลานหนี


                            ในระหว่างที่ทุกคนตะลึงด้วยความกลัวสุดขีด  แชมป์ที่เป็นน้องสุดท้อง หยิบดาวกระจายจากเกม ง้างและปาดาวกระจายออกไป  ดาวกระจายพุ่งเฉียดหัวซอมบี้และปักประตูบ้าน เกมหันมาเห็นแชมป์ที่ขโมยดาวกระจายจากตัวไปจึงต่อว่าแชมป์อย่างหนัก  พี่อบปั้มลมใส่ปืนฉีกน้ำ วางท่า และเล็งปืนไปยังซอมบี้   ส่วนผมเล็งเห็นถึงความฉิบหาย  แม่ตัดสินใจวิ่งขึ้นบันไดไปหาพ่ออย่างรวดเร็ว  ส่วนป้าไรวิ่งตามติดแม่ไปด้วย

        
                             "....โปัง!!!....."
                             เสียงปืนดังลั่นขึ้นสนั่นหวั่นไหวไปทั่วบริเวณ  ซอมบี้ที่จะหมายปองชีวิตของพ่อล้มตัว และเลือดค่อยๆ ไหลบนพื้น ทุกคนมองไปที่เสียงอันดังลั่นเหล่านั้น


                              "ผู้ใหญ่บ้าน !!!"


                              ชายอายุ 50 ปีที่ทุกคนคุ้นหน้าคุ้นตาเป็นอย่างดี ผมหยิกดำมีผมขาวแซมเล็กน้อย ไว้หนวด ไว้เครา สวมเสื้อคอปกสีฟ้า นุ่งกางเกงชาวเล กำลังส่องปืนลูกซองไปยังซอมบี้ที่นอนบนพื้นอย่างแน่นิ่ง เมื่อซอมบี้ไม่กระดุกกระดิกแล้ว  


                               "รีบหนีเร็ว  ที่นี่จะไม่ปลอดภัยแล้ว" ผู้ใหญ่บ้านลดปืนลงและสั่งทุกคน  ยื่นมือมาหาพ่อ พ่อจับมือผู้ใหญ่บ้านและลุกขึ้นยืน  "เสียงปืนจะทำให้พวกสัตว์นรกกรูเข้ามาที่นี่ เราต้องรีบหนีไป"

     
                               "ไปไหน" แม่ถามขึ้นด้วยความสงสัย
            

                               "โรงเรียนประภัสสรรังสิต"  ผู้ใหญ่บ้านรีบตอบอย่างเร่งด่วน "ที่ที่คนในหมู่บ้านไปรวมตัวกันที่นั่น"

                             
                               "แล้วแม่ของผมละ"  คีมถาม



                               "อยู่ที่โรงเรียน"  ผู้ใหญ่บ้านตอบ

                               

                               พ่อ แม่ และผู้ใหญ่บ้านรีบเดินลงบันไดอย่างรวดเร็ว พ่อวิ่งไปสตาร์ทรถยนต์ ส่วนแชมป์ รีบวิ่งไปเปิดประตูรถ นั่งชิดด้านใน ป้าไรก็เข้าไปในตัวรถด้วย แม่ที่เป็นคนสุดท้ายก็ขึ้นรถ เกม คีมและเค นั่งบนกระบะหลัง  ส่วนพี่อบและผม ก็ติดเครื่องยนต์มอเตอร์ไซต์ทันที ส่วนผู้ใหญ่บ้านติดเครื่องยนต์มอเตอร์ไซต์คันเก่าๆ ที่อยู่ข้างบ้าน 


                               รถยนต์ของพ่อ และมอเตอร์ไซต์สามคัน เคลื่อนที่ออกจากบ้านผู้ใหญ่บ้าน
                        

                               เป้าหมายสถานที่ต่อไปของพวกเราก็คือ
                               "โรงเรียนประภัสสรรังสิต"

               

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in