สวัสดีค่ะ ได้ฤกษ์ยามงามดีมาเขียนบันทึกท่องเที่ยวฉบับมึนๆฉบับที่สอง ซึ่งเป็นเรื่องราวการเดินทางอันแสนวุ่นวายนี้ แต่ก็ไม่ได้แย่ไปเสียทั้งหมด
ทริปนี้เราไปช่วงเดือนธันวาคมปีที่แล้วค่ะ (2016) ขอคุยหน่อยนึงว่าทริปนี้แพลนไว้ตั้งแต่เดือนตุลาคม 5555555555555 และตอนที่แพลนกับพี่สาวนั้นตารางสอบไฟนอลเรายังไม่ออก แต่แพลนไว้ก่อน ว่าจะไป ช่วงวันที่ 15-18 ธันวา แต่พอตารางสอบออกเหมือนดั่งเทวดาฟ้าดินแกล้ง เราสอบวันสุดท้ายคือวันที่ 14 ธันวา สอบถึง 10โมงเช้า แม่เจ้า เลื่อนทริปไม่ได้เพราะ พี่สาว และเพื่อนพี่สาวอีกคนล็อกวันหยุดวันลาไว้หมดแล้ว เอาล่ะสิ ซวยแล้ว ทำไงดี จะทันมั้ย กระวนกระวาย หนังสือก็ต้องอ่าน แพลนก็ต้องวางใหม่ สติค่ะสติ! ผลสุดท้ายคือ วันที่ 14 สอบเสร็จปุ้ปเราต้องรีบเดินทางกลับจากพิษณุโลกไปลำปางก่อน วันที่13เย็น รีบเก็บของไว้เตรียมเดินทางกลับในวันพรุ่งนี้
December 14, 2016
วันนี้เป็นวันสอบวันสุดท้าย เรามีสอบเช้าถึงสิบโมง ทำข้อสอบเสร็จเก้าโมงครึ่ง ก็รีบเรียกแท็กซี่ไปขนส่ง พอถึงขนส่งก็รีบถ่อสังขารไปต่อแถวซื้อตั๋ว และแล้วก็ได้ตั๋วบ่ายสองกว่า ถึงลำปางประมาณหนึ่งทุ่ม เหนื่อยจริงจังมาก ซื้อของมาแพ็ค แพ็คเสร็จอาบน้ำนอนเลย
December 15, 2016
สวัสดีเช้าที่แสนเร่งรีบ ตื่นตีห้าอาบน้ำแต่งตัว เก็บของรีบไปขนส่ง รีบซื้อตั๋วรถตู้รอบแรกให้ทัน พอซื้อทันก็ต้องรีบซื้อข้าวและน้ำมากินเดี๋ยวตกรถอีก เห้อรีบจริงๆ แปดโมงนิดๆก็มาถึงบขส.เชียงใหม่ เพื่อนของพี่สาวก็มาถึงพอดี(นางเป็นคนลำพูน) ก็พากันไปซื้อตั๋วรถตู้เปรมประชาเพื่อไปแม่ฮ่องสอนก่อน ตามเเพลนคือจะไป แม่ฮ่องสอน-ปางอุ๋งก่อน ค่อยมาชิลๆที่ปาย แต่แพลนล่มค่ะ ตั๋วรถตู้ไปแม่ฮ่องสอนหมด อยากหวีดดังๆแต่เกรงใจป้าขายตั๋ว ทีนี้ก็มาคุยกันว่าจะเอายังไง สรุปผลคือเปลี่ยนเเพลนใหม่ เปลี่ยนไปปายก่อนแล้วค่อยไป แม่ฮ่องสอน-ปางอุ๋ง แล้วต้องแจ้งเลื่อนวันเข้าพักในห้องพักที่จองไว้อีก อ่ะๆ รีบซื้อตั๋วรอรถรอบต่อไป ระหว่างที่รอรถออก ก็นั่งเสพอาหารตาไปพลางๆ เก็บรูปนิดๆหน่อยๆ
ที่แรกที่ไปคือ ร้านคอฟฟี่อินเลิฟ ที่ข้างๆจะเป็นบ้านที่ละครอุบัติรักข้ามขอบฟ้าไปถ่ายทำ (ติ่งกอล์ฟ-ไมค์แรงมาก) แวะดื่มโกโก้กินเค้กแล้วก็ถ่ายภาพกันตามประสาค่ะ
ทุ่มเศษๆก็ออกไปถนนคนเดินปายค่ะ คนแน่นเหมือนเคย อยู่ปายไม่รู้สึกว่าตัวเองอยู่ประเทศไทยเลย มีแต่ต่างชาติทั้งนั้น ตอนนั้นจำได้ว่าเดินซื้อของกินอย่างเดียว ปล.คือยืมตังค์พี่ด้วยนะ ลืมเอากระเป๋าตังค์มา เก็บภาพได้ไม่กี่ภาพเอง เลนส์กล้องเสียค่ะคุณ อะไรของทริปนี้ก็ไม่รู้เหมือนกัน ฮ่าๆ ซื้อของกินกลัมากินที่ห้องด้วย ตอนนั้นหม่าล่สกำลังดังก็จัดสิคะ เอามากินกันที่ระเบียงมีโซฟา โต๊ะ ให้นั่ง ห้องเราริมสุดด้วยนะ บรรยากาศดีมาก เสียอย่างเดียว ระเบียงไม่มีที่กั้นค่ะ ห้องข้างๆเป็นคนเกาหลี ทำให้เราเกร็งในการกินอาหาร 555 เดินซื้อของฝากสักพักก็พากันเดินตามหาซื้อ 1 day trip กันค่ะ อยากไปดูพระอาทิตย์ แล้วก็ได้ทริปมา
December 16, 2016
ทริปนี้เริ่ม ตีสี่ เสร็จประมาณไม่เกินสิบโมง (ทริปหนึ่งวันตรงไหนฟร๊ะ) เขามารับหน้าที่พักเลย เป็นรถ mu7 โดยที่แรกไปที่อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง ไปดูทะเลหมอกกับพระอาทิตย์ขึ้น ที่สองไปน้ำพุร้อน แล้วก็ไปอีกหลายที่อยู่แต่จำไม่ได้แล้วเพราะไม่ได้ถ่ายรูปไว้ ;-; แต่เช้านี้เฟลมากไม่เห็นพระอาทิตย์ มีแต่หมอกทึบๆเพราะเมื่อคืนฝนตก เช้ามาอากาศชื้นเเละเย็นมาก 13องศา อดเจอพระอาทิตย์ง่ะ ฮือๆๆๆ
แวะอีกหลายที่เลยแต่ไม่ได้ถ่ายรูปไว้ ก็เลยกลับ ถึงที่พักเก้าโมงนิดๆ ก็ไปทานอาหารเช้า อาหารเยอะดี มีให้เลือกเยอะ ทั้งแบบไทยและเเบบตะวันตก กินให้อิ่มแล้วเก็บของมาเช็คเอาท์ เพื่อไปเช็คอินที่พักอีกที่หนึ่งในปายนั่นแหละค่ะ ที่นี่ราคาถูก เป็นกระท่อม แต่ข้างในโอเคมากๆ ทั้งห้องน้ำและที่หลับที่นอน หน้ากระท่อมมีเปลให้นอนเล่นด้วย
เช็คอินเสร็จก็เก็บของมานอนเปลหน้ากระท่อมรอเวลากินข้าวกลางวัน พอดีที่นี่มีห้องสมุดค่ะ เลยไปยืมหนังสือมาอ่านกับชงโกโก้ร้อนมาดื่มด้วย อากาศวันนั้นหนาวเย็นทั้งวัน (ทำไมเราไม่เช็คพยากรณ์อากาศก่อนมาฟร๊ะ เเต่เหมือนๆว่าพายุเข้ากะทันหันแหละ)
จนเวลาอาหารกลางวันมาถึง เราก็เอาท้องไปฝากที่เดิมคือร้านส้มตำหน้าอำเภอ เป๋นตาเเซ่บมากขร่ะท่านผู้ชม อาหารแซ่บทุกเมนู แต่เมื่อวานบังเอิญสะดุดตากับร้านกาแฟร้านนึงค่ะ กินของคาวเสร็จก็ต่อด้วยของหวานเลย จำชื่อร้านไม่ได้ แต่ร้านตกแต่งด้วยดอกไม้เต็มร้าน เค้กอร่อยมากกด้วย
.
.
ก่อนจะไปเดินซื้อของได้ขับรถและเดินขึ้นไปไหว้พระพุทธรูปบนเขา สูงมาก เมื่อยขา แต่ขึ้นไปแล้วคุ้มมาก อยู่บนนั้นเห็นปายทั้งเมืองเลยค่ะ สวยมาก พอค่ำๆก็ไปถนนคนเดินเช่นเคยค่ะ หาอะไรกินเรื่อยๆ ซื้อกลับไปกินหน้ากระท่อมนิดๆหน่อยๆ ซื้อของฝากด้วยเพราะอยู่ปายเป็นคืนสุดท้ายแล้ว
December 17, 2016
เช้ามืดของวันใหม่ ตอนตีห้าครึ่ง ทุกคนรีบอาบน้ำแต่งตัว ขับมอไซค์ออกจากที่พักเพื่อจะไปดูพระอาทิตย์ขึ้นอีกครั้ง ที่หยุ่นไหล ไปดูทะเลหมอกด้วย ทางไปทรหดมาก หนาวด้วย ทางก็แคบ สุดท้ายไม่เจอทะเลหมอก พระอาทิตย์ก็ขึ้นลิบๆ อยู่ที่นั่นไม่เห็นอะไรเลย ถ่ายรูปนิดนึงก็ขับลงมา แวะที่จำลองกำแพงเมืองจีน แล้วก็ไปทานข้าวต้มใกล้ๆที่พัก คืนมอไซค์ที่ร้าน เสร็จก็เก็บของเตรียมตัวไปแม่ฮ่องสอน
.
.
ขึ้นรถตู้จากปายไปแม่ฮ่องสอน ถึงบขส.แม่ฮ่องสอนแล้วเวียนหัวที่สุดของที่สุดค่ะ เรียกลุงตุ๊กๆให้พาไปส่งที่ร้านเช่ามอไซค์ ทุลักทุเลเพราะของเยอะ แต่สตรองพอค่ะ แบกข้าวของเหมือนบ้าหอบฟางไปร้านก๋วยเตี๋ยว อร่อยดี รีบกินแล้วต้องขับมอไซค์ไปปางอุ๋งค่ะ
.
.
ทางไปปางอุ๋งคือที่สุด เนินเขาชันและโค้งไปมา ทางราบแทบไม่มี นี่จะร้องไห้ ขับรถจนเมื่อยเเขนเพราะเกร็งมาก เกร็งจนถึงปางอุ๋งเลย พอถึงก็เอาของไปเก็บที่เต็นท์ (เชาเต็นท์ใหญ่ไว้ คืนละ500บาท) แล้วรีบไปนั่งเเพน้ำ คนละ 150บาท รู้สึกแฮปปี้มาก คุยกับน้องคนพายแล้วก็ชมวิว เออออหายเหนื่อยเลยว่ะ คุ้ม ประทับใจมากค่ะ
ใกล้ค่ำก็รีบไปอาบน้ำกันค่ะ น้ำเย็นมากกกกกกกกก เย็นในขั้นที่มีคนต้มน้ำให้อาบปิ๊ปละ 30บาท ที่นี่คนเยอะก็ต้องรอกว่าจะได้อาบ
อาบน้ำเสร็จก็ถึงเวลามื้อเย็น และอาหารมื้อเย็นของเราคือ หมูกระทะ!! เป็นมื้อที่รักที่สุด ปาหัวใจล้านดวงใส่แม่ค้าที่เอามาขายในนี้เลย
ที่นี่หนาวมากนะ แต่ชอบ นอนริมน้ำ แต่ว่าตอนเช้าตีห้าเรารีบกลับ ต้องขับมอไซค์กลับไปแม่ฮ่องสอน เพราะจองรถตู้ไว้ตอนแปดโมง เสียดายมาก ไม่ได้เสพบรรยากาศปางอุ๋งตอนเช้า ;_;
December 18, 2016
ตื่นตีห้ามาเก็บของ ล้างหน้าแปรงฟัน ในอากาศที่หนาวมาก ตีห้ากว่าๆ เตรียมของไว้ที่มอไซค์ เเละเริ่มออกเดินทาง อากาศเย็นจัด กว่าจะสตาร์ทเครื่องติด ;_; ทางก็มืด โค้งเยอะ รอบนี้ขาลง ต้องลงเนินเยอะมาก เบรคจนเกร็งมือ หมวกกันน็อคก็เต็มไปด้วยน้ำค้าง ขับด้วย เบรคด้วย เช็ดกระจกรถ เช็ดกระจกหมวกกันน็อคอีก แต่ไปได้ครึ่งทางรู้ไหมเจออะไร เจอทะเลหมอกที่เห็นแวบๆตอนขับมอ-ไซค์ลงเนินเขา สวยมาก ;-; ; วันนี้อากาศดี ฝนเริ่มไม่มีแล้ว แต่ทำไมต้องเป็นวันที่เราต้องกลับด้วยเนี่ย ฮือๆ
.
.
และแล้วก็ถึงแม่ฮ่องสอนโดยสวัสดิภาพ คืนมอไซค์ แล้วไปบขส. รอขึ้นรถตู้ ระหว่างที่รอก็โซ้ยมาม่าคัพ ฮ่าๆ รอบนี้ซื้อยาเเก้เมาไปแผงนึง กินก่อนขึ้นรถสองเม็ดเลยแม่ง ตอนขึ้นรถมันง่วงพอดีหลับตลอดทางจนถึงเชียงใหม่เลย พันกว่าโค้งก็พันกว่าโค้งสิ กูหลับโว้ย 5555 พอถึงเชียงใหม่ก็เกือบไม่มีรถตู้กลับอีกนะ 55555555555 ทริปนี้แม่งต้องสตรองเบอร์แรงอ่ะ เหนื่อย ทะลุกทุเล แต่ก็ได้ความทรงจำดีๆ ธรรมชาติสวยๆ เจอคนแปลกหน้าเยอะ ชอบมาก ชอบคุยกับคนแปลกหน้าด้วย เป็นประสบการณ์ที่ดี และเป็นบทเรียนในการเที่ยวครั้งต่อไปด้วยว่าต้องวางแผนรัดกุมขนาดไหน แต่ก็นะ อะไรก็เกิดขึ้นได้ เอาเป็นว่ามีสติในการเที่ยวดีกว่าเนอะ แพลนมันดิ้นได้เสมอ
มีโอกาส อย่าลืมออกไปดูโลกใบอื่นบ้างนะ
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะคะ ขอบคุณมาก xx
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in