หุ่นจำลองของทหารมุ่งเป้าไปยังประเทศจีนบนชายฝั่งของ Lieyu Township, Kinmen, Taiwan, 19 ตุลาคม 2021 ซึ่งนั่งอยู่แนวหน้าระหว่างไต้หวันและจีน Kinmen เป็นสถานที่สุดท้ายที่ทั้งสองได้เข้าร่วมการต่อสู้ครั้งใหญ่ในปี 1958 ที่จุดสูงสุดของสงครามเย็น และที่ซึ่งความทรงจำของสงครามถูกจดจำในทศวรรษต่อมา REUTERS/Ann Wang

Chen Ing-wen ก้าวขึ้นไปบนโขดหินโผล่ขึ้นมาประมาณ 3 กม. จากชายฝั่งจีนบนเกาะ Kinmen ที่ไต้หวันถือครอง และแสดงให้เห็นว่าในฐานะทหารที่เขาเคยยิงจากที่นั่นด้วยเรือลากอวนของจีนที่เข้าใกล้เกินไป

เฉิน วัย 50 ปี ซึ่งรับราชการทหารในจินเหมินระหว่างปี 2534 ถึง 2536 กล่าวว่า "แค่ทำให้พวกเขาหวาดกลัว แต่พวกเขาไม่ได้กลัว" "เราไม่ได้พยายามจะฆ่าพวกเขา แค่เตือนพวกเขาให้ ออกจาก."

จินเหมินตั้งอยู่บนแนวหน้าระหว่างไต้หวันและจีน เป็นสถานที่สุดท้ายที่ทั้งสองมีส่วนร่วมในการต่อสู้ครั้งใหญ่ในปี 2501 ที่จุดสูงสุดของสงครามเย็น ในความทรงจำ ทหารหุ่นกระบอกกำลังเล็งอาวุธมาที่ประเทศจีนจากบังเกอร์เก่า

จีนมองว่าไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของอาณาเขตของตน และไม่เคยละทิ้งการใช้กำลังเพื่อให้อยู่ภายใต้การควบคุมของปักกิ่ง

ความตึงเครียดที่เพิ่มสูงขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้ โดยกองทัพอากาศของจีนทำการซ้อมรบเป็นเวลาสี่วันไปยังเขตป้องกันภัยทางอากาศของไต้หวันในต้นเดือนตุลาคม ส่งเสียงเตือนในไทเปและทางตะวันตก ว่าปักกิ่งอาจกำลังวางแผนบางอย่างที่น่าทึ่งกว่านี้
ธงชาติไต้หวันถูกวาดไว้บนเกาะ Shihyu หน้าเมืองเซียะเหมิน เมืองชายฝั่งของจีน ในเมือง Lieyu เมืองจินเหมิน ประเทศไต้หวัน เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2564 ซึ่งนั่งอยู่ในแนวหน้าระหว่างไต้หวันและจีน จินเหมินเป็นสถานที่สุดท้ายที่ ทั้งสองมีส่วนร่วมในการต่อสู้ครั้งใหญ่ในปี 2501 ที่จุดสูงสุดของสงครามเย็นและเป็นที่ที่ความทรงจำของสงครามถูกจดจำในทศวรรษต่อมา REUTERS/Ann Wang

แต่ในจินเหมิน ใช้เวลาเดินทางโดยเครื่องบินไม่ถึงหนึ่งชั่วโมงจากไทเปและเผชิญหน้ากับตึกระฟ้าเซียะเหมินของจีน ไม่มีการตื่นตระหนกหรือข้อจำกัดในการเข้าชมจากไต้หวัน

“เราเป็นสถานที่ที่ปลอดภัยมาก ทั้งในด้านเศรษฐกิจและชีวิตของผู้คน เราไม่รู้สึกถึงผลกระทบใดๆ จากความตึงเครียดข้ามช่องแคบ” Ting Chien-kang ผู้บริหารแผนกการท่องเที่ยวของรัฐบาลจินเหมิน กล่าวกับรอยเตอร์ นอกบ้านที่ถูกทำลายซึ่งถูกคอมมิวนิสต์ยึดครองชั่วครู่ . กองทหารในการบุกโจมตีเกาะที่ล้มเหลวในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2492

จินเหมิน พร้อมด้วยหมู่เกาะมัตสึ ซึ่งอยู่ไกลออกไปตามชายฝั่งจีน อยู่ภายใต้การควบคุมของรัฐบาลในไทเป นับตั้งแต่กองทหารของพรรครีพับลิกันหลบหนีไปไต้หวันในปี 2492 หลังจากแพ้สงครามกลางเมืองต่อคอมมิวนิสต์

การยิงปกติยังไม่สิ้นสุดจนถึงวันที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2521 เมื่อวอชิงตันยอมรับอย่างเป็นทางการว่าปักกิ่งเหนือไทเป แม้ว่าในเวลานั้นกระสุนจะถูกยิงในวันที่เลขคี่ซึ่งมีแผ่นพับโฆษณาชวนเชื่อ

“ฉันไม่ต้องการให้สิ่งนั้นเกิดขึ้นอีก” เจสสิก้า เฉิน วัย 53 ปี ผู้ดูแลร้านน้ำชาและเล่าถึงเหตุการณ์กราดยิงดังกล่าว "ผู้คนอาจคิดว่าสถานการณ์ตึงเครียด แต่เราชินกับมันแล้ว"

ณ จุดที่ใกล้ที่สุด จากจุดสังเกต Mashan เกาะหลักของ Kinmen เมื่อน้ำลงอยู่ห่างจากดินแดนที่จีนควบคุมไม่ถึง 2 กม. จากที่นั่นอดีตหัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของธนาคารโลก จัสติน หลิน ว่ายน้ำข้ามฟากไปยังประเทศจีนในปี 2522

รัฐบาลจินเหมินกำลังทำงานอย่างหนักเพื่อส่งเสริมให้เกาะแห่งนี้เป็นมากกว่าอนุสรณ์สถานสงคราม โดยหวังว่าจะดึงดูดผู้มาชมนากและดูนก ให้เข้าพักในเกสต์เฮาส์บูติกแห่งใหม่ที่ทันสมัยและเพลิดเพลินกับหอยนางรมในท้องถิ่น

ป้ายโฆษณาชวนเชื่อที่ได้รับการดูแลรักษาอย่างระมัดระวังเรียกว่า "โจร" ของคอมมิวนิสต์ และรูปปั้นของผู้นำผู้ล่วงลับไปแล้ว เจียง ไคเช็ค ชายผู้หนึ่งซึ่งขณะนี้ถูกคนไต้หวันหลายคนมองว่าเป็นเผด็จการของเขาในเชิงลบ ยกย่องเขาว่าเป็น "ผู้กอบกู้ประชาชน"

บางคนได้เปลี่ยนความตึงเครียดในอดีตให้เป็นผลกำไร เช่น ผู้ผลิตมีดจินเหมินที่มีชื่อเสียงจากปลอกกระสุนเก่า

Lin You-hsin ผู้ผลิตมีดอายุ 60 ปีกล่าวว่า "การรวมตัวกันใหม่ดีที่สุด ไม่ใช่สงคราม" กล่าว "การอยู่ร่วมกันอย่างสันติจะดีกว่ามาก"