ตอนแรกค่อนข้างเครียดที่จะแนะนำหนังเรื่องนี้ เพราะอันที่จริงตัวพล็อตก็มีช่องโหว่มากมาย และคำวิจารณ์จากบรรดานักวิจารณ์ทั้งหลายจากหลากหลายสำนักก็ค่อนข้างไปในทิศทางเดียวกันว่าแม้ตัวภาพยนตร์จะทำออกมาได้ดีแค่ไหน ช่องโหว่ในเรื่องความเป็นไปได้ก็ดูจะเป็นปัญหาพอสมควร แต่สิ่งหนึ่งที่นักวิจารณ์หลายคนไม่ได้ตระหนักคือ ตัวเค้าโครงเดิมของ 'Sweet November' (2001) คือ 'Sweet November' (1968) ที่เป็นภาพยนตร์รอม-คอม แม้จะมีกลิ่นอายความดราม่าเฉกเช่นเดียวกับเวอร์ชัน 2001 องค์ประกอบหลักของภาพยนตร์ยังคงเป็นรอม-คอม ดำเนินเรื่องรวดเร็ว ขบขัน และดูเหนือความเป็นจริง การดัดแปลงเค้าโครงภาพยนตร์รอม-คอมมาเป็นโรแมนติกดราม่าจึงมีปัญหาทันที เพราะเมื่อเป็นโรแมนติกดราม่า ความคาดหวังของผู้ชมต่อภาพยนตร์แตกต่างกัน กล่าวคือ ความเสมือนจริงถูกให้ความสำคัญมากกว่า ซึ่งแม้ 'Sweet November' (2001)  จะสร้างบรรยากาศและกลิ่นอายความโรแมนติกดราม่าได้อย่างสมบูรณ์แบบ ตัวองค์ประกอบพล็อตที่ถูกดัดแปลงมาจากฉบับรอม-คอมยังคงอยู่และกลายเป็นช่องโหว่ให้นักวิจารณ์โจมตีได้อย่างง่ายดายว่า "พล็อตช่างไร้เหตุผล"  แต่คำวิจารณ์ของบรรดาสำนักวิจารณ์หาได้ลดทอนคุณภาพที่แท้จริงของ 'Sweet November' (2001) สำหรับเราแล้วไม่รู้สึกเลยวาพล็อตดูเป็นไปไม่ได้ อันที่จริง ผู้เขียนดัดแปลงออกมาได้ดีมาก และทำให้เราเชื่อได้ด้วยซ้ำว่า ความสัมพันธ์และสถานการณ์เช่นนี้เป็นไปได้ ยิ่งเรื่องดำเนินไป ยิ่งใกล้จบ ยิ่งถึงจุดที่ปมจะคลี่คลาย ทุกอย่างยิ่งเป็นไปได้ ทุกการกระทำและทุกคำพูดของตัวละครมีเหตุผลที่เป็นไปได้อยู่เบื้องหลัง และอันที่จริง ตัวภาพยนตร์เองก็ไม่ได้ประกาศว่าฉันเป็น 'โรแมนติกดราม่า' แต่เป็นผู้คนเองต่างหากที่แปะป้ายดังกล่าว ดังนั้น ถ้าตัวเค้าโครงจะมีความรวดเร็วฉบับรอม-คอม เราก็ไม่รู้สึกว่ามันผิดแปลก เพราะอย่างที่กล่าวว่า 'Sweet November' (2001)  คือ Sweet November' (1968) ฉบับภาพยนตร์รอม-คอม ถ้าจะให้ลบองค์ประกอบความรอม-คอม ก็คงเป็นไปไม่ได้

ความสมบูรณ์แบบของ 'Sweet November' (2001) คือการทำให้ผู้ชมได้ตระหนักว่า เราไม่สมบูรณ์แบบ ไม่มีใครสมบูรณ์แบบ และจุดมุ่งหมายในการใช้ชีวิตไม่ควรดำรงอยู่เพียงกรอบชีวิตการทำงานเท่านั้น แต่ยังรวมถึงชีวิตในแบบ 'ชีวิต' จริง ๆ ที่หันแลมองบุคคลรอบข้างตนเอง รวมทั้งภายในจิตใตของตนเอง ความต้องการที่แท้จริงของตนเอง และความสัมพันธ์กับคนรอบข้าง ประโยคหนึ่งในภาพยนตร์ที่เราชอบมาก และคิดว่าสรุปทุกเหตุผลที่เราอยากให้คุณดูภาพยนตร์เรื่องนี้ คือ ประโยคที่เนลสันกล่าวถึงซาร่าว่า "ผมไม่เคยเห็นใครที่ได้ใช้ชีวิตอย่างแท้จริงมากเท่าเธอ" 

มันสรุปทุกเหตุผลที่เราอยากให้ทุกคนลองดูเรื่องนี้นะ : ) มันเหมาะกับทุกคนจริง ๆ ถ้าไม่อินเรื่องความรัก ก็อินเรื่องการจัดการปัญหาชีวิตของเนลสัน (สำหรับเราคืออินทุกอย่าง เพราะมีปัญหาเหมือนเนลสันทุกอย่าง .__.) ตอนมองเนลสัน คือเหมือนกำลังมองชีวิตตัวเองตอนนี้และสภาพในอีกหลายปีข้างหน้า แล้วก็พร่ำถามตัวเองในใจว่า 'มึงจะเป็นแบบนี้จริงๆ หรอว่ะ'  แบบ 'มึงจะทำงานแบบเนี้ย แบบกดดันตัวเอง คาดหวังกับตัวเองขนาดนี้ แบบต้องจริงจังกับทุกสิ่งบนโลกใบนี้ งี้ จริงๆ อะนะ'  

แล้วคำตอบที่ได้ก็คือ 'เชี่ย กูไม่อยากมีชีวิตแบบนี้เลยสักนิด แต่กูก็กำลังใช้มันอยู่' และสิ่งที่ 'Sweet November' (2001) ทำให้เราตระหนักได้ก็คือ ไม่มีใครจะเปลี่ยนแปลงชีิวิตเราได้นอกจากตัวเราเอง และอย่ารอเวลาที่จะเปลี่ยนหรือจะทำสิ่งใด อย่ารอวันพรุ่งนี้ อาทิตย์หน้า หรือเดือนหน้า เพราะบางครั้งเราอาจจะไม่มีวันพรุ่งนี้ อาทิตย์หน้า หรือเดือนหน้าให้รอแล้ว

___________