แขนสองข้างของเขารอดกลับมา ไม่มากกว่านั้น แต่อาจเรียกได้ว่าน้อยกว่านั้น ขึ้นอยู่กับความหมายของคำว่าแขน เมื่อพวกเขาบอกพี่สาว "เอาแขนสองข้างกลับมาได้" หล่อนก็คิดไป ว่าหมายถึงท่อนแขนทั้งท่อน รวมถึงส่วนของมือของน้องชาย
บนโต๊ะหินที่พวกเขารอให้หล่อนไปประจักษ์ ท่อนแขนที่ว่าหมายถึงต้นแขน ข้อศอก ท้องแขน ข้อมือ กับส่วนของมือที่โดนคว้านไปหมด เหลือแค่เสี้ยวขอบมือกับนิ้วก้อยข้างขวา ส่วนแขนซ้ายมีแค่จากต้นแขน ข้อศอกถลอกหนังเปิด ท้องแขนมีรอยข่วนยาว และสุดเพียงข้อมือ
"ทำไม"
"ทายาทพวกมันเสียมือไปทั้งสองข้าง มันเลยมาเอาของน้องเจ้าไป ญาติเจ้าคว้ามาได้ทัน เลยมีแค่นิ้วก้อยที่ไม่โดน"
หล่อนลากนิ้วสัมผัสรอยสักเถาบนนิ้วก้อยที่ยังเหลืออยู่ ลากไปยังส่วนกระดูกตรงโคนนิ้วโป้ง จากนั้นก็ถอดสร้อยทองพันนิ้วก้อยขวาของตัวเอง แล้ววางทาบโต๊ะหิน "ตัด" หล่อนบอก แล้วพวกเขาก็หั่นโคนนิ้วก้อยของสองพี่น้องออกมาพร้อมกัน
ผู้เป็นพี่หยิบนิ้วก้อยสักลายเถาทมิฬขึ้นมาต่อบนโคนนิ้วก้อยแดงของตัวเอง คนอื่นช่วยเอานิ้วก้อยพันสร้อยเป็นลวดลายเดียวกับรอยสักเข้าต่อให้กับท่อนแขน ยายเฒ่าผลักทุกคนออกด้วยข้อศอก แล้วเอาด้ายสีเขียวขี้ม้าเย็บนิ้วเข้าหากันให้ทีละราย
"จะจัดงานศพเขาก่อน หรือแกจะล้างแค้นก่อน"
"จัดงานศพให้น้องฉันก่อน"
"พวกแก ไปสุสานซะสิ ยังขาดอีกเก้านิ้ว เร็วเข้า"
"ไม่ต้องหรอกยาย ฉันจะไปหาเอาเองจากในทะเล"
พิธีศพของจอมเวทต้องการสองสิ่ง
สิบนิ้วมือสำหรับผู้ตาย มหาสมุทรสำหรับครอบครัว
พวกเขายืนรอหล่อนอยู่บนชายหาด ยายเฒ่ากอดผ้าห่อท่อนแขนไว้ ส่วนตัวหล่อนก็ดำลงไปในทะเลลึก นิ้วนางขวา หล่อนตัดมาจากศพที่เจอในกระเป๋าเดินทาง นิ้วกลางขวา หล่อนคัดมาจากห่อถ่วงด้วยหินปูน นิ้วชี้ขวาและนิ้วโป้งขวา หล่อนงัดมาจากใต้ทราย
นิ้วโป้งซ้าย หล่อนตัดมาจากกะลาสีเรือ นิ้วชี้ซ้าย หล่อนต่อรองแบ่งมาจากขบวนเรือวิญญาณโจรสลัด นิ้วกลางซ้าย หล่อนเฉือนแย่งมาจากเงือก นิ้วนางและนิ้วก้อยซ้าย หล่อนขโมยเอาจากเหยื่อสังเวยเป็นๆ
ยายเฒ่าเย็บฝ่ามือจากเศษเปลือกหอยแตก รากไม้ และทรายทีละเม็ด หล่อนวางนิ้วทั้งเก้าลง ยื่นมือให้ยายเฒ่าเลาะรอยเย็บตรงนิ้วก้อยของตนกับน้องชาย หล่อนเอานิ้วก้อยพันสร้อยกลับมา คืนนิ้วก้อยรอยสักเถาให้น้องไป แล้วนั่งรอข้างกองไฟกับลมทะเลให้ยายเฒ่าเย็บนิ้วที่เหลือเข้ากับท่อนแขน
ดวงตาสีอำพันของหล่อนดูเหลวข้นในแสงเปลว จดจ้องมองแขนของน้องชายค่อยๆ ตรงกับความเข้าใจแรกเมื่อพวกเขาบอกว่า "แขนสองข้างของเขารอดกลับมา"
ไม่นานหรอกเมื่ออยู่ใกล้ทะเล ก่อนที่เส้นผมของหล่อนจะเย็นไปกว่านี้
หล่อนนั่งกอดเข่ารอบนชายหาดร่วมกับคนอื่น ทรายวิ่งไปกับคลื่นบนชายเสื้อคลุม เมื่อทุกอย่างจากทะเลแหวกผิวน้ำขึ้นมา ถามหาหัวขโมยที่นิ้วมีรอยเย็บและสักลายเถา หล่อนก็ชูนิ้วให้ดูว่านิ้วหนึ่งของตนมีรอยเย็บ แต่ไม่ได้สักลายเถาใด เพียงพันสร้อยประดับ ส่วนน้องชายนิ้วสักลายเถาทุกนิ้ว แต่เขาก็ตายไปนานแล้ว
"ที่จัตุรัสกลางเมือง มีทายาทจอมเวทที่นิ้วมีรอยเย็บหลายนิ้ว และหลายนิ้วมีรอยสักเถา พวกท่านไปหาเขาสิ" หล่อนบอก
ยายเฒ่าบรรจงห่อผ้าหุ้มแขนสองข้าง ยกทั้งห่อให้แกหล่อน หล่อนก็รับมา พวกเขาเวียนกันจุดไฟให้ทีละเปลวบนผ้า หล่อนเดินเข้าหาทะเลอีกครั้ง แต่คราวนี้ย่ำลงบนผิวน้ำไม่ลงไป ฝ่าเท้าเปล่าก้าวไปข้างหน้า ห่อผ้าและสองแขนของน้องชายค่อยๆ กลายเป็นเถ้า บ้าง เศษไร้รูปเกาะท่อนแขนของพี่สาว ที่เหลือปลิวโปรยกระจายไปเหนือมหาสมุทร แต่ลมจะพัดเท่าใด
เถ้าไม่ปลิวกลับถึงฝั่ง แต่น้ำทะเลแผ่ไพศาลไกลไปถึงจัตุรัส ให้ธุลีร่อนตัวพักบนน้ำแล้วซัดกลับมายังกลางทะเลที่หล่อนยืนอยู่ มีพวกเขาและยายเฒ่ายืนขนาบไม่ห่างหาย หล่อนมองเศษดำทมิฬวิ่งเล่นผ่านขอบฝ่าเท้าแล้วล่องกลับสูงขึ้นมาเกาะรวมกับรอยดำที่เกาะบนแขนเสื้อสองข้างใหม่
ปกป้อง รักษา
คุ้มครอง
ถนอมถึงวิญญา
ไม่นานนักหรอก ก่อนตะวันจะลับลา
แล้วแก้วในดวงตาของหล่อน
เก็บแสงขอบฟ้าไว้สำหรับกลางคืน
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in