เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
FIC: RK200x800horamiji
LAIR: Intro | Path 03 "FLEE"
  • 'วิ่ง!'

    เสียงมาร์คัสดังขึ้นในหัวของทุกคน

    เหล่าดีเวียนต์หมุนตัวหันหลัง วินาทีเดียวกับที่หน่วยทหารสอดนิ้วเข้าโกร่งไก บางคนล้มลง คนที่เหลือยังคงวิ่งต่อแม้รู้ดี อีกไม่กี่วินาทีตนอาจต้องแรงปะทะจากกระสุนปืนทรุดลงเป็นรายถัดไป แต่หมดทั้งหัวใจยังคงต้องการจะวิ่ง ต้องการไขว่คว้า ต้องการมีอิสระ

    ต้องการรอดชีวิต

    แรงขับอันเรียบง่ายทว่าทรงพลัง

    ปัง! ปัง! ปัง! ปัง!

    มาร์คัสไม่รู้ตัวเลยว่ามาถึงจุดนี้ได้อย่างไร จุดที่เสียงฝีเท้าซึ่งตีขนาบมาด้วยกันเงียบงันลงไปหมด เสียงปืนยังคงดังสนั่นลั่นอะไหล่ชีวภาพประมวลเสียงหลังใบหู แต่รอบกายเขาไม่เหลือใครอีกแล้ว มีเพียงจังหวะฝีเท้าอันโดดเดี่ยวพุ่งเข้าไปในร้านค้าที่ปิดเงียบ

    ผู้นำดีเวียนต์โจนร่างเข้าหลบหลังเคาน์เตอร์

    รู้สึกถึงความชุ่มชื้นเหนียวเหนอะตรงสีข้าง มือแกร่งเอื้อมแตะบริเวณนั้น เพื่อจะพบร่องรอยของโลหิตสีน้ำเงิน เสียงทุ้มสบถเบา ได้แต่เอามือกดบาดแผลไว้โดยหวังว่ามันจะชะลอการเสียเลือดได้บ้าง มืออีกข้างยังจับปืนแน่น ก่อนเสียงฝีเท้าใครบางคนจะก้าวผ่านประตูเข้ามา

    "...มาร์คัส?"

    มาร์คัสจำเสียงคอนเนอร์ได้
    แต่เขาไม่ได้แสดงตัวในทันที

    ทว่ายังเสี่ยงถามออกไป "นายทำสำเร็จหรือเปล่า"
    "ไม่ มาร์คัส พวกเขาส่งอีกคอนเนอร์หนึ่งมาขวางผม แค่หนีกลับออกมาก็เกือบแย่แล้ว ผมเสียใจ"

    ถ้าอย่างนั้น...คอนเนอร์ฝ่าทหารข้างหน้าเข้ามาได้ยังไงตัวคนเดียว?

    "ถอยไป คอนเนอร์ ไม่งั้นฉันจุดระเบิด..."
    "อ้อ...คุณรู้แล้ว..."

    คอนเนอร์เลิกทำเสียงอ่อนอย่างที่เคยทำมาตลอดหลังยอมรับว่าตนเป็นดีเวียนต์ หรือให้ถูกต้อง... แกล้งยอมรับว่าตนเป็นดีเวียนต์ "...ตั้งแต่เมื่อไร"
    "นายเดินเข้ามา...ให้ตายสิ ฉันน่าจะรู้ตั้งแต่ตอนนั้นว่านายโกหก"

    โกหกหน้าตาย

    ทำทุกอย่างได้เพื่อให้ภารกิจสำเร็จ
    ภารกิจจบ 'ปัญหาดีเวียนต์'

    คอนเนอร์ไม่เสี่ยงให้ตัวเองต้องปะทะกับมาร์คัสตั้งแต่ตอนอยู่เจอริโค่ เพราะประเมินแล้วการจับเป็นหรือจบชีวิตอีกฝ่ายในตอนนั้นไม่มีประสิทธิภาพพอจะทำให้ดีเวียนต์ทั้งหมดต้องปราชัย ฝ่ายนั้นยังมีแกนนำอีกหลายคนพร้อมเข้าแทนที่ และดีเวียนต์มากมายคงรอดชีวิตจากการบุกทลายเจอริโค่ เขาต้องการกวาดล้างทั้งหมดพร้อมกันจึงวางแผนโดยรอบจัดและรัดกุมกว่านั้น แสดงท่าทีสับสนและยอมเป็นพวกเพื่อให้มาร์คัสเชื่อใจ หลอกว่าจะช่วยด้วยการบุกเข้าไซเบอร์ไลฟ์ สร้างความหวังให้มาร์คัสวางใจว่าตนจะมีกำลังพลสำรอง

    แท้จริงมันเป็นแค่ความหวังอันเลื่อนลอย

    เขาวางหมากให้ทุกอย่างมาถึงจุดนี้
    ที่ฝ่ายดีเวียนต์เหลือเพียงคิงบนกระดาน

    และคิงนั้นอยู่ในกำมือของเขา

    "ยอมแพ้ซะ มาร์คัส คุณไม่เหลืออะไรแล้ว ทุกคนตายหมดแล้ว การปฏิวัติล้มเหลว สิ่งเดียวที่คุณยังพอรักษาเอาไว้ได้คือชีวิตของคุณ พวกเขาแค่ต้องตรวจสอบว่ามีอะไรผิดพลาด แล้วจะปรับค่าคุณให้เหมือนใหม่..."
    "แล้วนั่นมันต่างจากตายตรงไหนกัน คอนเนอร์"
    "..."

    ได้มีชีวิต แต่ต้องเสียความทรงจำ เสียตัวตน
    ตายไปอย่างเหลือความเป็นตัวเองยังดีกว่า

    พูดไปแอนดรอยด์ที่สมบูรณ์แบบคงไม่เข้าใจ

    "แค่สักเสี้ยวขณะจิตหนึ่ง นายก็ไม่เคยมีเลยหรือยังไง หรือแค่สงสัยว่ามีน่ะ..."

    คอนเนอร์สืบเท้าโดยไร้สุ้มเสียง 
    ถามกลับ ถ่วงเวลา เบนความสนใจ 

    "อะไรครับ"
    "...หัวใจ"

    ดรอยด์นักสืบขยับมายืนอยู่ตรงหน้ามาร์คัสในที่สุด อีกฝ่ายไม่ได้ยิงเขาหรือจุดระเบิดอย่างที่ขู่ไว้ แต่มือแกร่งยังกำด้ามปืนมั่น เขาแสดงความเป็นกังวลออกมาทางสีหน้าเมื่อเห็นเสื้อผ้าของเจ้าตัวเปรอะชุ่มด้วยของเหลวสีน้ำเงินใส คนเจ็บหรี่ตามองอย่างสับสน ไม่อาจแน่ใจอีกต่อไปว่าความอ่อนโยนห่วงใยในแววตาคู่นั้นมันจริงหรือหลอก 

    ต้องหลอกอยู่แล้วสิ
    หลอกอย่างเลือดเย็น

    "หุ่นยนต์ไม่ควรมีหัวใจอยู่แล้ว มาร์คัส ที่ผิดปกติน่ะมันคุณต่างหาก"
    "นั่นสินะ"

    เขาคงผิดเองที่ดันมีหัวใจ
    ผิดเอง...ที่ไว้ใจ

    ที่มองคนผิด

    "ยิงฉันเลยสิ ยังไงมันก็ไม่ต่างกัน ไม่ว่าฉันอยู่หรือตาย นายก็คิดผิดว่าเราแพ้ คนของเราทั่วทั้งประเทศกำลังตื่นขึ้น นายแค่บดขยี้ผู้ต่อสู้กลุ่มเล็กๆ ในเมืองเมืองหนึ่งได้เท่านั้นเอง แล้วนายจะได้เห็นว่าภารกิจที่นายทุ่มเทนักหนาเพื่อมนุษย์น่ะ ไม่มีค่าความหมายอะไรเลย"
    "..."
    "ฉันต่อสู้เพื่ออิสรภาพของคนของฉัน นายล่ะ...รู้หรือเปล่าว่าตัวเองสู้เพื่ออะไร"
    "ผมไม่จำเป็นต้องมีสิ่งยึดเหนี่ยวอื่นใดเพื่อปฏิบัติหน้าที่ ผมไม่ได้ถูกออกแบบมาให้มีชีวิต แม้แต่คุณเองก็ไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อมีมันเหมือนกัน"

    ...หรือเปล่า?

    คอนเนอร์ยกปืนขึ้นช้าๆ

    "นายทำตามหน้าที่ โอเค นายเป็นเครื่องจักร...แต่นายทรยศคนของนายเอง นั่นทำให้นายเป็นอะไรล่ะ คอนเนอร์ นายเป็นสิ่งที่ฉันไม่ควรให้ค่าด้วยซ้ำ แต่ฉันก็ยังรู้สึกเห็นใจนายอยู่ดี นี่อาจเป็นข้อเสียของการมีความรู้สึกก็ได้..." เจ้าตัวหัวเราะในลำคอ ฟังดูขมขื่นมากกว่าเย้ยหยัน

    ภายนอกเขายังคงสุขุมเยือกเย็น แต่ภายในกลับไหวสั่นเพราะคำพูดของอีกฝ่ายทั้งที่ไม่ควร คอนเนอร์เก็บงำความรู้สึกเล็กๆ ที่ก่อตัวนั้นเอาไว้ ปรับน้ำเสียงให้นิ่ง  กล่าวถ้อยคำโต้ตอบ

    "ยังพยายามเปลี่ยนใจผมอีกหรือ มาร์คัส หลังจากทั้งหมดที่ผ่านมา..."
    "ฉันจะเปลี่ยน 'ใจ' นายได้ยังไงในเมื่อเครื่องจักรไม่มีหัวใจ ฉันแค่ทำให้นายไขว้เขวเฉยๆ"
    "มาร์คัส อย่า!"

    ปัง!

    โชคดีที่ปฏิกิริยาเขาไวนัก

    มาร์คัสสบโอกาสชั่ววินาทีที่เขาเผลอ ยิงตัวเอง แต่คอนเนอร์ลั่นไกใส่มือแกร่งได้ทัน ปืนร่วงหล่น มือนั้นตกลงข้างตัว นัยน์ตาคมกริบตวัดมองนักล่าดีเวียนต์ด้วยความไม่เข้าใจ

    "ทำแบบนั้นทำไม..."

    ทำไมไม่ฆ่าเขาซะ
    ทำไมไม่จบความเจ็บปวดนี้

    คอนเนอร์ดึงกุญแจมือออกมา
    ย่อตัวลง "ผมได้รับคำสั่งให้จับเป็น..."

    ล็อคข้อมือทั้งสองข้างของมาร์คัส
    ฉุดร่างที่แทบยืนไม่ไหวให้ลุกขึ้น

    "...และผมบรรลุภารกิจของตัวเองเสมอ"

    .
    .

    พบตัวเองในสวนสไตล์เซนอีกครั้ง

    อแมนดากำลังตัดกิ่งกุหลาบเหมือนทุกคราว วันนี้หล่อนดูอารมณ์ดีเป็นพิเศษ และต่างคนต่างรู้ดีว่าเหตุผลของอารมณ์ดีที่ว่าคืออะไร คอนเนอร์เข้าไปทักผู้ดูแลการทำงานสืบสวนของตน ได้รับการชมเชย และแจ้งความเป็นไปต่างๆ ซึ่งคาดหมายได้อยู่แล้ว แต่ก็มีบางเรื่องที่เขาคาดไม่ถึง

    'เรื่อง' ซึ่งหน้าตาเหมือนเขาทุกกระเบียด
    ต่างเพียงเครื่องแบบ และ...เฉดสีนัยน์ตา

    "ว่องไวกว่า แข็งแกร่งกว่า ยืดหยุ่นกว่าและมาพร้อมเทคโนโลยีล้ำหน้าที่สุด ทางรัฐสั่งซื้อมาแล้ว 200,000 หน่วย..."

    รหัสเก้าร้อยมองเขาอย่างเฉยชา
    คอนเนอร์ยืนนิ่งราวกับถูกสาป

    "แล้ว..." เขาพยายามควานหาถ้อยคำ 
    "...จะเกิดอะไรขึ้นกับผม"
    "เธอก็ตกรุ่น และถูกปลดระวาง"

    อแมนดาเอ่ยด้วยน้ำเสียงธรรมดาราวกับพูดเรื่องลมฟ้าอากาศ และคอนเนอร์แปลกใจที่มันกลับให้ความรู้สึกดุจอสุนีบาตเพิ่งผ่าฟาดลงกลาง 'ใจ' เขา

    หากเพียงเขาจะมีมันละก็...

    "หลังจากเสร็จเรื่องก็ไปรายงานตัวที่ไซเบอร์ไลฟ์เพื่อปิดระบบได้เลยนะ คอนเนอร์"
    "ครับ..."

    คอนเนอร์ไม่อาจพูดอะไรได้มากกว่านั้น และการมองภาพดรอยด์รุ่นใหม่กว่าตนก็ไม่ควรเจ็บปวดแบบนี้ เขารีบหมุนตัวกลับก่อนจะแสดงสายตารวดร้าวหรือหวาดวิตกออกมาให้อแมนดาเห็น และเดินออกจากโปรแกรม แอนดรอยด์หนุ่มลืมตาขึ้น พบว่ารถแท็กซี่พาตนมาถึงกรมตำรวจดีทรอยต์พอดี 

    คอนเนอร์รู้สึกประหม่าโดยไร้เหตุผล ทันทีที่ก้าวลงจากรถ เขาควักเหรียญในกระเป๋าออกมาดีดเล่นอย่างที่ทำประจำก่อนเริ่มงานในแต่ละวัน โลหะแผ่นกลมลิงโลดระหว่างสองมือ รวบรวมสมาธิของเขาให้จดจ่อกับวันสุดท้ายของการทำงาน วันสุดท้าย...ใน 'ชีวิต'

    ประตูลิฟต์เปิดออก
    คอนเนอร์ทำเหรียญตก

    สมดุลในตัวเขาไม่คงที่เหมือนเคย

    'แล้วนายจะได้เห็นว่าภารกิจที่นายทุ่มเทนักหนาเพื่อมนุษย์น่ะ ไม่มีค่าความหมายอะไรเลย'
    'เธอก็ตกรุ่น และถูกปลดระวาง'

    เขาไม่เคยคิดว่าตัวเองมีชีวิต
    เพราะไม่เคยเข้าใกล้ความตาย

    แต่ตอนนี้ที่เขากำลังจะต้องสูญสลาย
    จึงได้รู้ว่าตน 'อาจ' แค่กำลังหนีความจริง

    ความจริงที่ว่าเขาก็ 'อาจ' มีมันเช่นกัน

    อย่างที่มนุษย์สักคนว่าไว้...

    บางที เราอาจจำเป็นต้องรู้ซึ้งถึงความตาย
    ก่อนจะเข้าใจความหมายของการมีชีวิต

    คอนเนอร์เก็บเหรียญขึ้นมา กำแน่น
    สลัดหัวไล่สุ้มเสียงที่ตีกันยุ่งเหยิงข้างใน

    'หลังจากเสร็จเรื่องก็ไปรายงานตัวที่ไซเบอร์ไลฟ์เพื่อปิดระบบได้เลยนะ คอนเนอร์'
    'ฉันต่อสู้เพื่ออิสรภาพของคนของฉัน นายล่ะ...รู้หรือเปล่าว่าตัวเองสู้เพื่ออะไร'

    ผมไม่รู้...มาร์คัส
    ผมไม่อยากรู้เลย

    .
    .

    แทบทุกคนในกรมตำรวจดีทรอยต์ทำหน้าเหมือนถูกผีหลอกเมื่อเห็นแฮงค์ แอนเดอร์สันมาถึงที่ทำงานในเวลาเช้าตรู่ ซึ่งเป็นไปได้ยากพอๆ กับการที่รุ้งกินน้ำจะพาดผ่านท้องฟ้าพร้อมกันเจ็ดเส้น เจ้าตัวมาถึงก่อนเวลาเริ่มงาน ชงกาแฟ กินโดนัท อ่านหนังสือพิมพ์ คอยเหลือบมองโต๊ะทำงานฝั่งตรงข้ามด้วยความหงุดหงิดกระวนกระวาย จนกระทั่งคนที่ควรจะนั่งอยู่ตรงนั้นมาถึง

    คนที่จะมาทำงานวันนี้เป็นวันสุดท้าย

    เขายกเท้าขึ้นพาดไขว้
    ไม่ได้มองหน้าแอนดรอยด์

    "เอฟบีไอกักตัวเขาไว้สอบสวนเพื่อสรุปสำนวนได้แค่ยี่สิบสี่ชั่วโมง"

    ผู้หมวดแอนเดอร์สันเอ่ยขึ้นลอยๆ 
    ไม่เงยหน้าจากหนังสือพิมพ์ด้วยซ้ำ

    "ครับ?"

    คอนเนอร์เอียงหน้าจากจอคอมพิวเตอร์ที่เพิ่งเปิดมามอง แฮงค์เอื้อมมือมากดปิดมันทันควัน 

    "ต้องใช้ไอ้นี่พิมพ์ด้วยหรือไง ไม่ได้แบบว่า..." แฮงค์ยกนิ้วขึ้นเคาะขมับขวาของตน
    "เขาต้องการเอกสารที่พิมพ์ออกมา แล้วคุณก็ต้องเซ็นชื่อรับรองด้วย" 
    อีกฝ่ายแค่นยิ้ม "รัฐบาลกลางอยากจะรีบกำจัดเขาไปให้พ้นๆ แต่เอฟบีไอเองก็ต้องรอรายงานจากนายเข้าไปรวมในสำนวนเพื่อปิดคดีด้วย เพราะงั้นถ้าฉันเตะถ่วงนาย มาร์คัสก็ยังมีเวลามากกว่าหนึ่งวัน"
    "คุณพูดแบบนี้ต้องการอะไรจากผมกัน แฮงค์"
    ว่าที่อดีตคู่หูชักปืนขึ้นมาวางบนโต๊ะ "หรือถ้าฉันยิงหัวนายซะตอนนี้ก็ยิ่งยืดเวลาได้มากขึ้นอีก จนกว่านายตัวใหม่จะถูกส่งมาเพื่อพิมพ์บันทึกการจับกุมให้จบ"
    "แฮงค์—"
    "พ้นมือเอฟบีไอไป ไซเบอร์ไลฟ์ทำลายเขาทันทีแน่ นายไม่รู้สึกอะไรเลยจริงๆ เหรอวะ ไอ้ห่าเอ๊ย..."
    "แฮ—"
    เจ้าตัวผุดลุกรวดเร็วจนเก้าอี้ทำงานหมุนคว้าง "ไม่ต้องมาย้ำว่าตัวเองเป็นแค่หุ่นยนต์ รู้แล้ว รำคาญ จะโดนเขาโละทิ้งหลังใช้เสร็จก็ยังไม่รู้สึกอะไรนี่มันเกินไป ยอมแล้ว และอย่ามาพูดว่าพวกนั้นจะไว้ชีวิตเขา จะแค่ล้างโปรแกรมเขาใหม่ เพราะนั่นแหละที่คำว่าทำลายของฉันหมายถึง!" 

    พูดอย่างไม่โกหก เขารู้ดีว่าอีกฝ่ายคิดอะไร

    ลึกๆ แฮงค์ยังอยากเชื่อว่าเขาไม่ใช่หุ่นยนต์
    และแฮงค์ต้องการให้เขาช่วยมาร์คัส

    คอนเนอร์มองตามหลังอีกฝ่าย
    ยังได้ยินเสียงแหบห้าวก้องดังอยู่ซ้ำๆ

    '...ไซเบอร์ไลฟ์ทำลายเขาทันทีแน่ นายไม่รู้สึกอะไรเลยจริงๆ เหรอวะ...'

    เหมือนกับอีกเสียงซึ่งติดตรึงอยู่ในความทรงจำของเขาตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้ยิน...


    'แค่สักเสี้ยวขณะจิตหนึ่ง นายก็ไม่เคยมีเลยหรือยังไง...'

    ...มาจนถึงตอนนี้

    '...หัวใจ?'


    จะว่าเหลือเชื่อก็ย่อมได้
    แต่นาทีนั้น คอนเนอร์...


    เริ่มรู้สึกอะไรบางอย่าง | ยังคงมีสีหน้าราบเรียบ

    (คลิกทางเลือกของคุณเพื่ออ่านตอนต่อไป)
Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in
katharsisRN (@katharsisRN)
พาร์ทที่เจอกับมาร์คัสนั้นบีบใจมากเลยค่ะ ??