"ทำไมไม่ชอบดูหนังรัก"
ถามตัวเองหลังออกจากโรงภาพยนตร์
.......ทั้งที่ไม่ชอบแต่ก็ไปดู
การเห็นเพื่อนร้องไห้เต็มหน้
ไม่ใช่แค่นั้น เรายังเดินออกจากโรงด้วยรอยยิ้ม พลางนึกในใจว่า "นี่เรามันหยาบกระด้างเกินไปป่ะวะ"
จริงๆ ก็อินนะ แต่พอมาคิดดูเราก็ไม่สามารถเปลี่ยนความตั้งใจของใครได้ป่ะ ปณิธานอันแรงกล้าว่าอยากจะตายห่าลาโลก ถึงขนาดวางแผนล่วงหน้า 6 เดือนแบบนี้ พ่อแม่ยังห้ามไม่ได้เลย สู้ใช้ชีวิตให้เต็มที่ แล้วก็ตายไปพร้อมกับความทรงจำดีๆ คงจะเป็นทางเลือกที่พระเอกคิดไว้สิบตลบแล้ว
นั่นแหละ เราเลยรู้สึกยอมตาม และไม่ร้องไห้
ทีนี้เข้าเรื่องว่า "ทำไมไม่ชอบดูหนังรัก" คงเพราะไม่อยากให้ไดอะล็อกหนังมามีอิทธิพลถ้าเรามีความรัก เลยเลือกที่จะไม่ดู ถึงดูก็ไม่ค่อยเกิดอารมณ์ร่วมเท่าไหร่
โอเคว่าหนังก็คือเหตุการณ์สมมติ แต่บางคนก็เอา Quote จากหนังมาตัดพ้อกัน แก้ปัญหาชีวิตคู่ด้วยวิธีเดียวกับหนังที่เคยดู หรือจะฟีลกู๊ดกับความรักในทุกสถานการณ์ แถมบางเรื่องก็ทำซะบันเทิงจนอาจทำให้ลืมแยกแยะว่าความรักในชีวิตจริงมึงไม่ได้ตลกขนาดนั้น เราเลยคิดว่าหนังไม่ได้คลี่ปมหรือแก้ปัญหาในชีวิตจริงๆได้ ถ้าไม่ดูก็ไม่เสียหาย แถมยังไม่สปอยตัวเองอีกด้วย
แต่ถ้าหนังรักมันแก้ปัญหาความรักได้จริงและเกิดเหตุให้ชีวิตคู่ของเราล้มเหลว เราคงกลายเป็น Case Study แห่งความไม่เชื่อฟังในวลีหนังรัก ให้คอหนังได้หัวเราะจนโต๊ะสั่น
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in