เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
That Feelingboringgee
ฉันไม่อยากให้แม่เป็นครู ครูที่ดูแลแต่ลูกคนอื่น
  • * REPOST * 
    แม่เป็นครูมา 30 กว่าปีแต่ ไม่มีวันไหนเลยที่ฉันอยากให้แม่เป็นครู 
    ใครๆก็เรียกแม่ว่าครูแม้แต่คนข้างบ้านบ้าง พ่อค้าแม่ค้าที่รู้จักแม่บ้าง หรือคนในครอบครัวของฉัน 
    ไปไหนใครก็ให้ความแม้คนที่เรียกจะเคารพนับถือ แต่ฉันไม่อยากให้แม่เป็นครู 
    แม่เป็นครูที่สอนลูกศิษย์มามากมายแต่แม่ไม่เคยสอนฉันเลย

    จริงๆแม่ไม่เคยอยากเป็นครูหรอก แม่ฝันอยากจะทำงานธนาคารกับเป็นตำรวจหญิง 
    แต่สอบตำรวจไม่ติด จึงได้เข้ามาทำงานในมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในกรุงเทพ 
    หลังจากนั้นแม่ไปเรียนต่อปริญญาตรีที่มศว. พอเรียนจบแม่ก็สอบบรรจุครูได้โดยเริ่มจากครู2ระดับ 2 และเรียนต่อปริญญาโทคณะรัฐศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยรามคำแหงอีก 
    จนปัจจุบันแม่ดำรงตำแหน่งผู้ช่วยศาสตราจารย์และเป็นคณบดีคณะศิลปศาสตร์ 

    ทุกๆวันแม่ออกจากบ้านไปทำงานแต่เช้ามืดกว่าจะกลับถึงบ้านก็สามสี่ทุ่ม วันหยุดก็ไม่ได้หยุด 
    แม่รับสอนพิเศษอีก เวลาที่ฉันได้ใช้ร่วมกับแม่ก็ไม่มี น้องสาวฉันก็น้อยใจแม่เหมือนกัน
    น้องเคยบอกว่า “ถ้าเป็นเมื่อก่อนก็รู้สึกแย่นะ อยากไปเที่ยวกับครอบครัวบ้าง”  
    คิดมากไปก็เท่านั้นทำไงได้ละเพราะแม่เคยบอกว่า 

    “สำหรับแม่แล้วงานมาเป็นที่หนึ่งเสมอ 
    การเป็นครูมาเป็นอันดับแรกเหนือกว่าครอบครัวเสียอีก” 
       
    ฉันไม่อยากให้แม่เป็นครูตอนเด็กๆเคยเอารองเท้าส้นสูงของแม่ไปซ่อน
    เพราะคิดว่าถ้าแม่ไม่มีรองเท้าใส่เขาก็คงจะไปทำงานไม่ได้ แต่ตื่นมาก็พบว่าแม่ก็ยังไปทำงานอยู่ดี.. 
    ก่อนนอนเคยนอนกอดแขนแม่ไว้เพราะคิดว่าแม่จะลุกไปทำงานไม่ได้ 
    แต่ตื่นมาแม่ก็ยังไปทำงานอยู่ดี.. 
    เคยแกล้งไม่สบาย หวังให้แม่หยุดงานอยู่บ้านกับฉัน แต่แม่ก็ยังไปทำงานอยู่ดี..
      
    พ่อกับแม่ต้องแยกกันอยู่เพราะทำงานคนละที่ แม่เป็นครูอยู่ที่กรุงเทพ 
    พ่อเป็นตำรวจกรมป่าไม้อยู่ที่จังหวัดแพร่ อยู่ 5 ปี พ่อก็ลาออกไม่ได้ทำงานอะไรอีกเลย 
    รายได้หลักของครอบครัวจึงมาจากแม่ทั้งหมด 
    ก็พอจะเข้าใจเหตุผลได้ว่าทำไมแม่ต้องทำบ้างานขนาดนี้ แต่ถึงยังไงฉันก็ไม่อยากให้แม่เป็นครูอยู่ดี 
         
    อยู่ที่ทำงานแม่จะนึกถึงแต่งานไม่แปลกหรอก 
    แต่เวลาปกติในชีวิตประจำวันทั่วๆไปก็ยังต้องมีเรื่องงานมาเกี่ยวทุกที 
    เช่น เวลาไปซื้อเสื้อผ้า แม่จะเลือกของที่มีสีส้มทั้งนั้น เสื้อก็สีส้ม กระเป๋าก็สีส้ม กางเกงก็สีส้ม 
    เคยถามแม่ว่าทำไมต้องสีส้ม แม่ตอบ “ก็สีประจำคณะแม่ไง” 
    แล้วมันจำเป็นต้องส้มไปทั้งตัวขนาดนี้ไหม แต่ก็ยังดีนะที่แม่ไม่ทำผมสีส้มไปด้วย 
    เวลาถ่ายรูปก็เหมือนกันคนอื่นจะชูสองนิ้ว ชูนิ้วโป้งหรือทำท่าน่ารักๆ 
    แต่แม่จะทำมือนิ้วชี้กับนิ้วโป้งให้เป็นรูปตัว L ทำไมแม่ต้องทำท่านั้นด้วยละ 

    “ก็คณะแม่ไงศิลปศาสตร์ เขาเรียกย่อๆว่า L-ART (liberal art) ก็ต้องทำมือเป็นตัว L สิ ” 

    อ่า..ฉันไม่เข้าใจแม่เลยจริงๆ 
      
    ฉันไม่อยากให้แม่เป็นครู แต่พ่อเป็นคนที่สนับสนุนให้แม่เป็นครูมาโดยตลอด 
    พ่อเคยพูดว่า ...

      “อาชีพครูสอนคนให้เป็นคน เป็นอาชีพที่มี เกียรติ สอนคนให้มีอาชีพ 
    แม่เป็นคนเก่งและเป็นคนที่มีความอดทนสูงมาก รู้ไหมตั้งแต่พ่อรู้จักแม่มาแม่ไม่เคยเปลี่ยนไปเลย 
    แม่เป็นคนดี รักเพื่อนฝูง รักพี่น้อง แม่เป็นครูที่ดี ไม่งั้นจะโดนด่าอยู่ทุกวันหรอ เพราะดีเกินไง 
    คนที่เขาไม่ค่อยชอบก็มี การทำงานราชการมีการแบ่งพรรคแบ่งพวก นี่พวกฉันนั้นพวกเธอ แต่แม่เขาไม่สนใจเรื่องพวกนี้หรอกไง แม่ทำแต่งาน”  

    งานราชการดูวุ่นวายน่าปวดหัว แล้วถ้าแม่ย้อนเวลากลับไปได้แม่ก็อยากจะเป็นครูอยู่ดี 

    “ เพราะเป็นอาชีพเดียวที่สามารถจะสร้างมนุษย์ได้ 
    สร้างคนให้เป็นคนที่สมบูรณ์ได้
    แล้วมันก็เป็นอาชีพที่มีเกียรติ
    ถึงแม้แม่สอนคนสักร้อยคนแต่มีคนดีได้สักสามสี่คน
    มันก็ยังดีกว่าทำอะไรไม่ได้เลย ”  
         
    เอาจริงๆฉันยังไม่เคยเห็นคนที่อึดและทนเหมือนแม่มาก่อน ใครๆก็บอกว่าแม่เป็นคนเก่ง 
    น้องสาวฉันก็คิดแบบนั้น ฉันเองก็เห็นด้วย 
    พ่อบอกว่า “แม่เป็นคนเก่ง และเป็นคนที่โคตรอดทนที่สุด พ่อยังสู้ไม่ได้ด้วยซ้ำ” 
    เสียสละได้ทุกอย่างไม่ใช่แค่ครอบครัว แต่แม่ให้ทุกอย่างได้กับทุกคนได้
    ไม่ว่าจะ ลูกศิษย์ ลูกน้อง เพื่อนร่วมงาน หัวหน้า หรือคนอื่นๆทั่วไป 
    ถ้าอยากให้แม่ทำอะไรแม่ไม่เคยปฏิเสธโอกาส ยินดีทำทุกอย่างด้วยความเต็มใจ

    ฉันไม่อยากให้แม่เป็นครูแต่ก็ยอมรับว่าแม่ก็เหมาะที่จะเป็นครูที่สุดแล้ว 
    ไม่ว่าจะเป็นครูที่สมบูรณ์แบบหรือไม่ เราคงไม่สามารถตอบด้วยตัวเราเองได้ว่าสมบูรณ์แบบไหม 
    บางทีมันอาจจะมีข้อเสีย แต่บอกได้ว่าทุกครั้งเวลาแม่จะทำอะไรแม่ก็ทำด้วยความเต็มใจและจริงใจ 
    สอนลูกศิษย์ก็เหมือนสอนลูกตัวเอง อยากให้ลูกตัวเองได้ดีก็อยากให้ลูกศิษย์ได้ดีเหมือนกัน 
    แม่ไม่ได้คิดว่าแม่แค่รับจ้างสอน ไปวันๆหรืออะไร แต่แม่ทำทุกอย่างออกมาจากใจ 
    ทุกๆอย่างที่แม่ทำก็ฉันคิดว่าแม่ทำได้ดีที่สุดแล้วในการเป็นครู

    ตอนนี้แม่อายุ 59 แล้ว ใกล้จะเกษียณแล้ว เวลาของการเป็นครูตลอด 32 ปีเริ่มหมดลง 
    ถึงเวลาที่แม่จะได้ทำหน้าที่แม่เสียที…. 

    คิดอย่างนั้นหรอ ? 

    เปล่าเลย 

    ถึงแม่ไม่ได้เป็นครูแล้วแม่ก็มีอาชีพใหม่เป็นนักธุรกิจอยู่ดี 
    แม่อยากเปิดร้านขายกระเป๋าจะแบรนด์อะไรก็ได้หรือไม่ก็ทำแบรนด์ตัวเองมันซะเลย 
    ถึงตอนนั้นฉันคงไม่น้อยใจเป็นเด็กๆแล้วละ ขอแค่กระเป๋าทุกแบบอย่ามีแต่สีส้มทั้งร้านก็พอ.



Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in