วันนี้อยู่ดีดี ก็มีอะไรสักอย่างมาสะกิดให้ได้มาเขียนไดอารี่ต่อ
ทั้งชีวิตเราก็เพิ่งจะมาเห็นนี่แหละ ว่าเรื่องการฆ่าตัวตาย ไม่ใช่เรื่องไกลตัว
อนึ่งคือในมอที่เราเรียนอยู่ มีข่าวการฆ่าตัวตายของนักศึกษา ซึ่งเราจะขอไม่พาดพิงถึงผู้เสียชีวิตค่ะ และก็รู้สึกเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นค่ะ
***ทุกอย่างที่พิมพ์มาจากประสบการณ์ของตัวเองทั้งหมดนะคะ อาจจะถูกหลักการหรือผิดอันนี้ไม่ทราบค่ะ แค่ต้องการสื่อหลายๆสิ่งที่คิดออกมาเฉยๆ หากผิดพลาดขออภัยด้วยค่ะ***
ฆ่าตัวตาย ≠ คิดสั้น
ตามชื่อหัวข้อเลย วันนี้ไม่ว่ายังไงก็อยากจะพูดเรื่องนี้ ถึงจะมีไฟนอลรออยู่ก็เถอะ แต่ไม่ไหวแล้ว
จากข่าวการฆ่าตัวตายนี้ ก็มีเสียงสะท้อนมาจากหลายๆทาง ว่าคิดสั้นบ้าง เครียดบ้าง ทำไมไม่ไปหาหมอบ้าง
เราขออธิบายจากมุมมองของตัวเองที่เคยเข้าข่ายการเป็นโรคซึมเศร้าตรงนี้เลยว่า โอเค การหาหมอช่วยได้จริง แต่ถึงหาหมอไปถ้าสภาพแวดล้อมในการใช้ชีวิตเป็นแบบเดิม มันก็จะกระตุ้นให้อาการซึมเศร้ากลับมาอยู่ดี
บางทีเราก็คงจะได้ยินคนพูดกันว่า คนที่ภายนอกดูร่าเริงๆ ส่วนใหญ่คนเหล่านั้นอาจจะเป็นโรคซึมเศร้าก็ได้
เราขอบอกเลยว่ามันจริง ซึ่งเอาจริงๆบางทีเราร่าเริงผิดปกติ แล้วโดนเพื่อนทักว่ามีเรื่องอะไรเครียดรึเปล่า จากที่ยิ้มๆอยู่คือน้ำตามันไหลออกมาแบบไม่รู้ตัวเลย (นี่ไม่ได้เว่อร์เด้อ)
ส่วนเรื่องสาเหตุว่าทำไม คนที่เป็นซึมเศร้าส่วนใหญ่ จะร่าเริงยิ้มแย้มบ่อย ขออธิบายจากเคสที่เคยเห็นกับเคสตัวเองตามนี้นะ
อย่รงแรกเลยคือ คนที่เป็นซึมเศร้า ก็ไม่ได้อยากทำตัวเศร้าตลอดเวลา ช่วงที่ยิ้มแย้ม ถึงจะมีเรื่องเครียดเรื่องอะไรในใจ แต่มันคือช่วงเวลาที่มีความสุข มันเป็นปกติอยู่แล้วที่ไม่ว่าใครก็แล้วแต่ ยิ้มออกมา มันจะสร้างบรรยากาศรอบข้าง ให้เป็นไปในเชิงบวก คนที่ซึมเศร้าก็ต้องการบรรยากาศแบบนั้นอยู่แล้ว จึงเลือกที่จะทำตัวร่าเริง ลืมเรื่องเศร้าไปเพื่อให้เจอกับบรรยากาศรอบตัวที่ดีๆ
ต่อมาคือ ก็เพราะว่าชอบบรรยากาศดีดีรอบๆตัวนั่นแหละ เลยไม่ค่อยสามารถระบายเรื่องดาวน์ๆ ให้ใครฟังได้ บางคนอาจจะคิดว่าเพราะสังคมรอบข้างคาดหวังว่าเขาจะเป็นคนร่าเริง ไม่อยากให้ใครมาผิดหวังในตัวเอง จากการที่เป็นโรคนี้ มันทำให้ทุกๆวันที่ผ่านไปรู้สึกว่าตัวเองไร้ค่าอยู่แล้ว ถ้าสมมติว่าบอกเพื่อนไปในเรื่องความดาวน์ของตัวเอง หรือบอกสิ่งที่ตัวเองคิดจริงๆ ความในใจจริงๆออกไป อาจจะทำให้คนรอบข้างผิดหวัง แล้วจากการกลัวจะทำให้คนรอบข้างผิดหวังนี้ ทำให้สุดท้ายความดาวน์ถูกสะสมไว้เรื่อยๆอย่างไม่สิ้นสุดภายใต้ใบหน้ายิ้มแย้มของคนที่เป็นนั่นเอง
ต่อมา คนที่เป็นโรคซึมเศร้า ถ้าสาเหตุเกิดจากการขาดความรัก หรือแนวๆนี้ คนเหล่านี้ จะต้องการความรักจากคนรอบข้างเป็นอย่างมาก หลายคนกลัวการที่จะต้องอยู่คนเดียว เพราะเขาคิดอยู่แล้ว ว่าตัวเองไร้ค่า ยิ่งอยู่คนเดียวโดยไม่มีจุดหมายก็จะยิ่งรู้สึกไร้ค่าเข้าไปใหญ่ กับอีกกลุ่มก็คือ กลัวการที่จะอยู่กับคนอื่น กลัวการเข้าหาคนอื่น เลือกที่จะอยู่คนเดียวเพราะเป็นเกราะป้องกันไม่ให้ตัวเองเสียใจจากคนอื่นมากกว่าเดิม จาก 2 กลุ่มนี้ กลุ่มที่เราคิดว่าน่าเป็นห่วงก็คือกลุ่มที่กลัวการอยู่คนเดียวนั่นแหละค่ะ เพราะพวกเขาเหล่านี้ต้องการความรัก ความเข้าใจ การใส่ใจจากผู้อื่น ถ้าหากพวกเขาเจอคนที่เข้าใจพวกเขา มันจะเป็นเรื่องที่โครตดีที่สุดในชีวิตเขาเลยค่ะ แต่ส่วนใหญ่ไม่ เขาจึงต้องพยายามทำตัวให้เข้ากับผู้อื่นให้ได้ บางคนพยายามปรับเปลี่ยนตัวเอง จนไม่เหลือความเป็นตัวเองอยู่แล้วก็มี คนเหล่านี้จะกลัวการถูกบอกว่า ไร้ค่า เพราะว่าพวกเขาต้องใช้ความพยายามเป็นอย่างมาก เพราะเขาตระหนักได้เป็นอย่างดีว่า ถ้าพวกเขาเป็นตัวของตัวเอง คือการจมลงไปในความเศร้าตลอดเวลา เขาจะไม่เหลือใครเลย แม้จะเป็นอย่างนั้น ทั้ง 2 กลุ่มนี้ เมื่ออยู่ตัวคนเดียว หากพวกเขามีงานอดิเรกทำจะเป็นเรื่องที่ดี แต่ถ้าไม่มี สิ่งที่พวกเขาจะทำคือการจมลงไปสู่ความเศร้าที่สะสมมาของตัวเอง ถ้าจมลงไปจนถึงจุดๆ หนึ่งแล้วไม่มีใครสามารถดึงขึ้นมาได้แล้ว เขาอาจหาทางปลดปล่อยตนเองด้วยการฆ่าตัวตายในที่สุด
มุเมย์
12.12.18
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in