เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
ทฤษฎี (ไม่) จีบเธอi_whyn
(ไม่) จีบ ครั้งที่ 9


  • รถกรุงเทพนี่มันติดจริง ๆ  เช้า สาย บ่าย เย็น ค่ำ ดึกดื่นแค่ไหนก็ติด หงุดหงิดแล้วนะเว้ย!


    มือประคองพวกมาลัยรถพรีอุสคันเก่ง มุ่งหน้าไปยังเส้นทางที่ไม่ใช่คอนโดอย่างที่ตั้งใจไว้แต่แรก เพราะเมื่อครึ่งชั่วโมงก่อนตอนที่ผมกำลังออกจากบ้านมา เผิงเลิฟไลน์มาชวนให้ไปหา

    อยากจะดริฟท์กลับรถแบบที่พระเอกซีรีส์เกาหลีชอบทำบ้าง แต่ลืมไปว่าถนนกรุงเทพนั้นสไลว์ไลฟ์มากกว่านั้น ให้ตายสิพับผ่า ผมเปิดไลน์ที่คุยกับเผิงขึ้นมาดูอีกที ว่ามีอัพเดทอะไรอีกมั๊ย แต่ก็ว่างเปล่า

     



    37 minutes ago 

     

    Tawan_V wrote:  เผิง

    Tumcial wrote:  ? 

    Tawan_V wrote:  ทานข้าวร้านเดิม มามั๊ย

    Tumcial wrote:  ใครไปบ้าง

    Tawan_V wrote:  น้องมาด้วยแน่จ้ะ ดูแลให้อย่างดี ยุงไม่ให้ไต่ไรไม่ให้ตอม

    Tumcial wrote:  เยอะ

    Tawan_V wrote:  เอ้า ทำบุญบูชาโทษ ครั้งหน้าไม่บอก อยากรู้ก็ไลน์ถามสัตว์เลี้ยงเองเลย

    Tumcial wrote:  กูก็ไม่ได้ไลน์คุยกับน้องมัน 24 ชม ปะวะ

    Tawan_V wrote:  อ้าวหรอ เห็นน้องตอบไลน์ตลอดนึกว่าคุยกับมึง

    Tumcial wrote:  เดี๋ยวกูไป

    Tawan_V wrote:  ปั๊วะ 

    Tawan_V wrote:  เอ๊ะ หรือโป๊ะวะ

    Tumcial wrote:  โป๊ะ

    Tawan_V wrote:  แคป

    Tumcial wrote:  ห่าเผิง

    Tawan_V wrote:  5555555 อย่าพิรี้พิไร รีบมานะจ๊ะ

     


    สาธุบุญมากที่เผิงเลิฟของผมอ่านไลน์เร็ว และตอบไลน์เร็ว ผมอาจจะต้องไปทำบุญอีกสักเก้าวัด


    กว่าจะผ่ารถติดมาถึงห้างได้ก็ใช้เวลาเป็นชั่วโมง ผมไลน์หาเตเพื่อบอกว่าผมมาถึงแล้ว แต่มันไม่ยอมอ่าน... ดีที่ผมรู้พิกัดร้านแล้วก็เลยรีบขึ้นลิฟท์ไปที่ร้านอาหารทันที 


    พวกเราเป็นสายกินครับ จริง ๆ ผมหมายถึงผม ไอ้เต และนิว พวกเราเป็นสายกิน ชอบตามหาร้านเด็ดใหม่ ๆ กันตลอด แต่โชคดีที่สองคนนั้นเป็นสายยิมด้วยเลยยังคงหุ่นไว้ได้ ซึ่งผมไม่ใช่..


    พอก้าวเท้าเข้าไปในร้าน ก็เจอไอ้เต นิว กัน แล้วก็พี่เอ็กซ์ด้วย นั่งอยู่มุมในสุดของร้าน 


    "เผิงทางนี้ ๆ" เตนั่งในมุมที่หันมาหน้าร้านพอดี เลยโบกมือเรียกผม


    กันที่นั่งอยู่ข้างเผิงเลิฟของผมเงยหน้ามาทำหน้าแปลกใจ เตคงไม่ได้บอกกันไว้ว่าผมจะมา

     

    "หวัดดีพี่เอ็กซ์ ทำไมพี่มาด้วยอะ"


    "มึงถามยังงี้หมายความว่าไงวะออฟ"


    "เปล่า ๆ แค่สงสัยไปไงมาไงเฉย ๆ ไง" ผมนั่งลงตรงมุมโต๊ะข้างพี่เอ็กซ์ 

     

    "แวะมาซื้อของ ละเห็นสตอรี่มันเลยตามมา" บอสพยักหน้าไปทางนิว ผมก็พยักหน้าตอบรับ "ละมึงล่ะมาได้ยังไง"


    "หัวใจมันเรียกร้อง" ไม่ใช่เสียงผมแน่ครับ อยากจะเขวี้ยงอะไรใส่หัวมันแต่โต๊ะโล่งเกินไป 


    มองเลยจากเผิงเลิฟไปทางกันที่นั่งชิดไอ้เตจนจะไปเกยตักมันอยู่ละ ทั้ง ๆ ที่เบาะนั่งก็กว้างจะตาย อยู่ใกล้ผมแล้วร้อนรึไง 


    โอเค ผมจะไม่ว่าอะไร ปล่อยมันไปก่อน แต่ยังไงวันนี้ก็ต้องเคลียร์ ทิ้งไว้แบบนี้ มันน่าหงุดหงิด 


    ขนมหวานตรงหน้ามาเสริฟและหมดไปแบบไม่รู้ตัว เผิงกับนิวคุยกันเรื่องออกกำลังกายกันสนุกสนาน กันกับพี่เอ็กซ์ก็รวมวงคุยกันด้วย แน่นอนว่าบอสหันมาบอกให้ผมลดน้ำหนักเพื่อเตรียมเป็นไอ้ค่ายสุดโหดที่สาวๆ ฝันถึง.. ผมนั่งฟังแต่ละคนและสังเกตการณ์ไปเรื่อยๆ เล่นบ้าง เออออตามน้ำไปบ้าง จนเวลาล่วงเลยไปยันดึกดื่น


    "พรุ่งนี้มีงานเช้ากันเปล่า" บอสถามขึ้น


    "มีสคูลแรงเจอร์ส" นิวตอบ


    "ทุกคนเลยหรอ"


    "ใช่ๆ" กันตอบ


    "งั้นก็กลับมะ นอนกันให้เยอะ ๆ หน่อย"


    "จะได้นอนเร้อ คืนนี้ท่าจะยาว" เผิงพูดแล้วหันไปแปะมือกับหิน เอากับมันสิสองคนนี้ ชงตัวเองก็ได้ด้วย "กูหมายถึงมึงเลยเผิง ไม่ต้องทำหน้าเบื่อโลกขนาดนั้น"


    "กูอะไรวะ ทำไมต้องไม่ได้นอน"


    "คืนนี้อีกยาวไกล" 


    "ยาว ๆ เลยยย" นิวเสริม กูจำเป็นต้องเข้าใจพวกนี้มั๊ยครับ  

     

    “อ่ะๆๆ กลับกันยังไงละ” พี่เอ็กซ์ถามขัดขึ้นก่อนผมจะฟาดพวกมันสองคน


    “เดี๋ยวผมไปกับหินเองครับ เนอะหินเนอะ”


    “เนอะไร ขนลุก จะไปก็ไปดิ”


    จะไปต่อกันที่ไหนอีกปะเนี่ย กันพูดแทรกคนที่ตั้งท่าจะตีกันอีกแล้ว ก็เลยช่วยสงบศึกได้ชั่วคราว


    ไม่บอกหรอก เรื่องแหย่ตัวเอง ชงตัวเอง ความลับเยอะกว่าผมก็มันนี่แหละครับไม่อยากจะพูด


    “กันไปด้วย” ผมหันไปมองหน้ามันทันที จริง ๆ ผมจะไม่สนใจก็ได้นะ แต่ผมไม่ชอบอะไรที่มันค้าง ๆ คา ๆ มันแปลก ๆ ไปหมดพอต้องรับมือกับอะไรที่กะเกณฑ์ไม่ได้ มันหงุดหงิดครับ


    “ไม่ได้” พอพูดออกไปตามที่ใจคิด ผลที่ออกมาคือทุกคนมองผมเป็นตาเดียว “พรุ่งนี้มีงานกันทุกคนกลับเลยดีกว่า ผมพากันกลับเอง” ผมหันไปตอบพี่เอ็กซ์เจ้าของคำถาม


    ถึงแม้สายตาของแต่ละคนจะสื่อไม่เหมือนกัน บางคนมีคำถาม บางคนมาแบบงุนงง บางคนรับรู้ แต่สายตาเผิงน่าหงุดหงิดสุด


    “อื้อ งั้นกันกลับกับป่าปี๊ก็ได้” ดีมากที่ว่าง่าย 

     

    แล้วพวกเราก็แยกย้ายกันไปที่รถของตัวเอง 


    "เดี๋ยว ออฟกัน" พี่เอ็กซ์ที่เดินมาด้วยกัน เพราะจอดรถไว้ชั้นเดียวกันเรียกขึ้น "เห็นแพลนเปิดกล้องกันแล้วใช่มั๊ย"


    "เห็นแล้วครับ แม่ยุ้ยล็อคคิวไว้แล้ว" กันตอบ และผมพยักหน้าตอบรับ


    "คิวเปิดกล้องช่วงกลางมกราคม พี่ว่าจะแอคติ้งโค้ชก่อนนิดนึง แล้วไปดูหน้างานอีกที แต่ก่อนหน้านั้น พี่อยากให้ทั้งสองคนทำการบ้าน อ่านนิยายกันให้เรียบร้อยด้วยนะ" 


    "ครับ" กันตอบ


    "รอบทละครทีเดียวได้เปล่าพี่" ผมถาม เพราะขี้เกียจอ่านนิยาย


    "ไม่ได้เว้ย ไปทำความเข้าใจตัวละครในนิยายให้ได้มาก ๆ เพราะบทละครตามในนิยายเลย ละเอาส่วนที่ไม่เข้าใจไปคุยตอนซ้อมบทละครในช่วงแอคติ้งโค้ชทีเดียว" 


    "โอเค / ครับ" พวกเราตอบพร้อมกัน 


    "โอเค งั้นก็ไว้เจอกัน"


    "บายครับบอส" 


    "หวัดดีครับพี่เอ็กซ์" เรายกมือไหว้และบอกลาพี่เอ็กซ์ที่หน้ารถของพี่แก

     

    ส่วนผมก็เดินพากันไปที่รถที่จอดอยู่เกือบติดทางลง 


    "ป่าปี๊แวะไปทำไรที่บ้านมา" จะว่าไป นี่น่าจะเป็นประโยคคำถามแรกที่มันพูดกับผมก่อนวันนี้


    "ไปหาแม่นั่นแหละ ไม่ได้กลับบ้านเดือนกว่าแล้ว"


    "อ้อ"


    "ไปมะ เขาบ่นถึงมึงด้วยแหละ"


    "ปี๊ก็พาแม่มางานด้วยสิ"


    "คนมันเยอะจะตาย ถ้ามึงไป เดี๋ยวพาไปเจอนิรินด้วยเอาเปล่า"



    "พาไปเจอจริงอะ" จะคุยกับเด็กก็ต้องใช้เด็กล่อจริง ๆ ด้วย เห็นตาลุกวาวของกันแล้วก็รู้ว่ามาถูกทางละ

     

    "เออ ไปปะล่ะ"



    "ไป" 



    "ดี" ผมยิ้ม


    "ยิ้มไร เปิดรถดิป่าปี๊" ผมเลยกดเปิดรถแล้วขึ้นไปนั่งที่คนขับ


    ถนนกรุงเทพโล่งมากขึ้น แต่ก็ยังมีรถวิ่งอยู่ เป็นเมืองไนท์ไลฟ์สมกับที่ติดเป็นหนึ่งในเมืองน่าเที่ยวของโลก ไม่รู้ตอนสำรวจนี่มีคำถามเรื่องจราจรมั๊ยนะ ติดอันดับเข้าไปได้ยังไง แต่เอาเถอะ อย่างน้อยขากลับก็ไม่น่าเบื่อเพราะมีคนนั่งมาด้วยนี่แหละ... หรืิอเปล่าวะ


    "เงียบไม"


    "ง่วง"


    "หรอ.. ฟังเพลงมะ"


    "ก็ได้ แล้วแต่ปี๊เลย"


    ผมเลือกเพลงป็อบง่ายๆ ในเพลย์ลิสต์ เสียงเพลงดังคลอไปตามเส้นทาง ผมแอบชำเลืองมองคนข้าง ๆ ที่เงียบมาตลอดสิบกว่านาที นึกว่ามันหลับ แต่ตาโต ๆ ก็ยังแป๋วอยู่ 


    "มึงมีอะไรจะพูดมั๊ย" ผมถามคำถามที่ค้างคาในใจขึ้นมาแบบตรงประเด็น ไม่อ้อมค้อมละ


    "หมายถึงอะไร" 


    "มึงรู้"


    "กันไม่รู้" 

     

    "พูดออกมาว่ามันมีอะไรเกิดขึ้น นี่มันหลายวันแล้วนะเว้ย มึงโกรธกูหรอ"


    "...กันเปล่าโกรธ"


    "งั้นก็งอน"


    "ไม่งอนเว้ย"


    "อะง้อ"


    "ก็บอกว่าไม่งอนไง" ไม่งอนละตบบ่ากูทำไม๊! ตกใจพวงมาลัยแฉลบเลย ผมตีไฟเลี้ยวหักรถเข้าจอดข้างทางทันที เปลี่ยวๆ เงียบๆ เลย แต่ช่างมันแล้ว


    "เออ ไม่งอน งั้นมันคืออะไร พูดออกมาให้หมด ไม่งั้นไม่ได้กลับบ้านอะพูดแค่นี้" กูดับเครื่องเลย เดี๋ยวไม่สมจริง 


    "ป่าปี๊โว้ย!" อ่ะสตาร์ทใหม่ อากาศร้อนเดี๋ยวยิ่งเดือด เร่งแอร์ให้ด้วยเลยเย็นฉ่ำ


    "พูดมาสิ ตั้งใจฟังแล้วเนี่ย"


    ".............."


    ไม่เป็นไร ผมคิดว่าผมรอได้แหละ ปรับเบาะเอนนอนรอเลย จะพูดเมื่อไหร่ก็พูดมาละกัน 


    น้องมันเงียบไปอึดใจใหญ่ ๆ เด็กดื้อก็คือเด็กดื้อ! ดูท่าถ้ารอคงได้นอนในรถจริง ๆ ว่ะ ไหว้จ้ะ กูต้องยอมตลอด


    "เฮ้อ โอเค กูเริ่มเอง" ลุกขึ้นนั่งหลังตรงแล้วหันตัวไปหากัน "อย่าฝืนตัวเอง มันอึดอัด อย่าทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นทั้ง ๆ ที่เห็นชัด ๆ ว่ามี"


    "ป่าปี๊รู้สึกว่ามันแปลกหรอ"


    "รู้สึกสิวะ โห ถามมาได้ มึงนิ่งกว่านี้ก็สล๊อตแล้ว"

     

    "กันก็ว่างั้น........." เออดีที่ยังรู้ตัว  "ความจริงไม่ได้มีอะไรเลย กันแค่ไม่อยากให้ปี๊รำคาญ"


    "ห๊ะ ยังไงนะกูตามไม่ทัน คือที่มึงทิ้งระยะห่างจากกูตั้งหลายวันนี่เพราะกลัวกูรำคาญหรอ" ได้เหรอวะ


    "ก็..ใช่..ประมาณนั้น" 

     

    "เหอะ กูหัวร้อนมากี่ปีมึงไม่เคยสนใจ" พอกูชินละดันมาสนใจเนี่ยนะ 

     

    "อยู่ ๆ ก็รู้สึกว่า มันลำบากใจรึเปล่าอะไรงี้.. ช่างมันเถอะ เป็นแบบนี้ก็ดีแล้วนะ" 


    คนที่พูดว่าเป็นแบบนี้ดีแล้ว เขามีสีหน้าแบบนี้กันได้หรอวะ?

     

    "ไม่ ถ้ามึงโอเคจริง ๆ กูอาจจะไม่ว่าอะไรเลย แต่นี่มึงไม่โอเค มึงโตแล้วนะเว้ย ต้องเผชิญหน้ากับปัญหาได้แล้ว ถึงแม้กูจะไม่รู้ว่าปัญหาคือไรก็เหอะ"


    "งั้นกันถามตรง ๆ ได้เปล่า..."


    "ได้ดิ"


    "วันนั้นอะ... วันที่กันไปหาที่คอนโด ก่อนแยกกัน ป่าปี๊ลำบากใจใช่เปล่า"


    "..." วันนั้นก่อนแยกกันผมลำบากใจมั๊ยหรอ เดี๋ยวนะ คือมันยังไงวะ "มันเกี่ยวกันยังไงนะ นี่คิดว่าพี่รำคาญเลยแยกออกมาหรอ"


    "ไม่ใช่ กันหมายถึง การที่กันเกาะแกะพี่มากๆ มันทำให้พี่หรือใครลำบากใจหรือเปล่า" 


    "อ๋อ.. อืม ก็ไม่เชิง... ไม่ดิ ไม่ใช่แบบนั้น" จะพูดยังไงดีวะ "พี่ไม่ได้ลำบากใจเรื่องเราเลยเว้ย แต่ก็ใช่ พี่ไม่ปฎิเสธว่ามันมีเรื่องที่แก้ไม่ได้อยู่ แต่ไม่เกี่ยวกับกันเลย ปัญหาเรื่องนั้นเป็นปัญหาที่พี่ต้องแก้เอง" 


    "แล้วสาเหตุไม่ได้มาจากกันหรอ"


    "ไม่ใช่ เชื่อเถอะ ปัญหามันมาจากพี่เอง อย่าคิดมาก กลับไปเป็นแบบเดิมเหอะ"


    "แปลว่าป่าปี๊อยากให้กันกลับไปเป็นเหมือนเดิมหรอ ป่าปี๊รู้ใช่เปล่าว่าพูดถึงอะไรอะ"


    "เออ ก็ที่เรียกคุยไม่ใช่เพราะรู้ตัวหรอวะ กันจะฝืนทำไม อะไรที่ทำแล้วสบายใจก็ทำไปเถอะ อยากทำไรก็ทำเลย พี่โอเค เป็นตัวของตัวเองเหอะ" 


    "ทุกอย่างเลย?"

     

    "เออ"

     

    "จะไม่บ่น?"

     

    "เออ"

     

    "ทำไมวะ"

     

    "ทำไมต้องมีทำไม"

     

    "เอ้า ก็ทำไมวะ มันก็ต้องอยากรู้ดิ"

     

    "ไม่อยากทำ?"

     

    "อย่าเปลี่ยนเรื่อง"

     

    "ไม่รู้โว้ย แต่พี่อนุญาตแล้ว จะเอาไงก็เรื่องของกัน"



    "แล้วถ้ากันให้มารับจะมาปะ"


    "ก็ถ้าว่างก็ไปได้"


    "ถ้ากันขอจับมือจะให้ปะ"


    "กันก็จับอยู่แล้วไม่เห็นต้องถาม"


    "ถ้าเจอจิ้กจก ต้องจับมันออกไปให้ด้วยนะ"


    "เออ!" จับเอาไปแหย่มึงนี่แหละ


    "ถ้ากันอยากกินบัวลอยบรรทัดทองต้องพาไปนะ"


    "อื้อหื้อ ถ้าว่างก็ไปด้วยกันอยู่แล้วเปล่าวะ" 


    "แล้วถ้ากันให้ป่าปี๊ใส่เสื้อคู่กับกัน ป่าปี๊จะใส่ปะ"


    "ก็ถ้าวันนั้นอยากใส่ ก็ใส่ได้"


    "แล้วถ้ากันออกไปเล่นดึกๆ ป่าปี๊มารอกันได้เปล่า"


    "นี่จะเล่นยี่สิบคำถามหรอ!  ต้องพูดยังไงวะ  คือจะใส่เสื้ออะไรก็ได้  ไปหาก็็็็ได้  พี่ไม่ได้ทำเพื่อเอาใจกัน นั่นข้อที่หนึ่ง พี่ไม่ได้ทำเพื่อเซอร์วิสแฟนคลับ นั่นข้อที่สอง ถ้าพี่จะทำก็เพราะวันนั้นพี่โอเคที่จะทำมันเอง รู้ใช่มั๊ยว่าพี่เอาแต่ใจอะ พี่จะทำก็ต่อเมื่อพี่อยากทำมันเอง ใครก็บังคัััััััััััับพี่ไม่ได้



    เพราะงั้นกันจะทำอะไรก็ทำ จะเรียกร้องอะไรก็ทำไป จะงอแงแค่ไหนถ้ามันไม่เดือดร้อนคนอื่นก็แล้วแต่เลย


    เป็นตัวของตัวเองที่มีความสุขต่อไปเหอะ ไม่ต้องเป็นห่วงพี่หรอก


    ถ้าอะไรที่พี่ให้ไม่ได้ 

    พี่จะเป็นคนพูดมันออกมาเอง

    และอะไรที่พี่ไม่ได้พูด

    ก็คือพี่เต็มใจไง 


    เข้าใจมั๊ย"



    "...อื้อ เข้าใจแล้ว" 


    เห็นน้องมันยิ้มแล้วก็อดยิ้มตามไม่ได้ รอยยิ้มน่ะเหมาะกับมึงที่สุดแล้ว 

    ไอ้ดื้อ!


     



    [TBC]




    Cover photo credit by cutscene Sotus S ตอนแฟนพี่ไบร์ท 


    คิดว่าทุกคนน่าจะพอรู้ช่วงเวลาของฟิคเรื่องนี้อยู่แล้วค่ะ มันคือปลายตุลาคม หลังจุมพลเจาะหูกลับมาจากเกาหลี จนมาถึงตอนปัจจุบันคือวันที่สิบพฤศจิกายนนะคะ :) 


    ขายตรงแบบไม่มีเหตุผล พ่อบอกว่าอยากทำไรก็ทำ แต่ต้องทำดีนะ ไหว้จ้ะพ่อ


    ขอบคุณค่ะ 

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in