13 เมษายน 2559
สงกรานต์นี้ขอนอนโง่ๆ อยู่ห้อง กลิ้งไปกลิ้งมาบนเตียง
คิดแค่เพียงเมนูอาหารแบบมื้อต่อมื้อ
นั่งเล่นเกมในมือถือ อย่างมีความสุข
เราเชื่อว่าหลายๆ คนเป็นเหมือนกัน
มันเหมือนว่า เราโต ... ความขี้เกียจก็โตไปพร้อมๆ กับเรา
วันนี้เป็นวันที่เรารู้สึกขี้เกียจได้อย่างเต็มสตรีมมากๆ วันนึง
ในขณะที่ทุกคนออกไปเล่นสงกราน สาดน้ำกันอย่างเมามันส์
ก็ยังมีเราและเพื่อนอีกหนึ่งคน (ยีนส์) ที่ยังนั่งดู กังฟูแพนด้า ภาค 3
ในห้องสี่เหลี่ยมผืนผ้าที่แสนจะธรรมดา
แต่เราก็แฮปปี้กับสิ่งเล็กๆ น้อยๆ พวกนี้นะ ... ไม่ได้รู้สึกขาดอะไร
ตกเย็น เราออกไปดินเนอร์กับยีนส์เพื่อนรัก
สิ่งที่เราเห็นในวันนี้ คือบริเวณหน้าหมู่บ้านที่เราอยู่
ไม่ได้มีการสาดน้ำกันแต่อย่างใด
วันสงกรานต์ปีนี้จึงผ่านไป อย่างเรียบง่าย แบบออยสไตล์
14 เมษายน 2559
เราตื่นขึ้นมาพร้อมกับความเบื่อหน่ายในห้องสี่เหลี่ยม
ทั้งที่เมื่อวานเรายังบอกกับตัวเองอยู่เลยว่า ...
'เฮ้ยกูมีความสุขกับอะไรเล็กๆ น้อยๆ พวกนี้นะ'
แต่ขอโทษที วันนี้มันดันเบื่อที่จะอยู่ในห้อง
ความคิดแรกที่เข้ามาในหัวคือ ...
ออกไปข้างนอก
แต่คำถามที่ตามมาติดๆ ก็คือ 'ไปไหนละสัส วันนี้เค้ายังเล่นน้ำกันอยู่'
ไม่ทันที่เราจะได้คิด เราอีกคนนึงในร่างก็ทักท้วงขึ้นมาทันที
เรา 2 - กูไม่แคร์หรอกว่า เค้าจะเล่นน้ำกันมั้ย แต่กูเบื่อโว้ย มึงต้องออกไป
เรา 1 - มันต้องเปียกแน่ๆ เลยหวะ ไม่ดีมั้งงงงง
เรา 2 - กูจะออกไปปปป
เรา 1 - งั้นบอกมา ... ว่าจะไปไหน?
เรา 2 - ที่ไหนก็ได้ ออกไปก่อนเหอะ เดี๊ยวก็คิดออก
หลังจากตกลงกับตัวเองเสร็จก็โทรไปขอความช่วยเหลือรุ่นพี่
คำตอบที่ได้คือ ไปถนนพระอาทิตย์
(ก็ไม่เข้าใจว่ามึงจะตั้งชื่อให้ดูร้อนทำไม เอาจริงๆ
แค่มึงพูดว่าประเทศไทยก็ร้อนจะตายห่าแล้ว ถนนพระจันทร์ก็ไม่ได้นะ)
ซึ่งไอเดียนั้นก็ตกไป เพราะกลัวเปียกน้ำ
เราตัดสินใจขึ้นรถเมลสาย ป.อ. 75 ไปก่อน
ทั้งตัวตอนนี้มีกาแฟแก้วนึง
กระเป๋าตัง หูฟัง แล้วก็โทรศัพท์มือถือ
ในหัวคิดแค่ ไปไหนก็ได้ที่ไม่เปียก
จังหวะนั้น สุวรรณภูมิ สถานที่ที่เคยให้เป็นบ้านหลังที่สองก็แว๊ปเข้ามาในหัว
เพราะแต่ก่อนเราเคยไปติ่ง ผู้ชาย บ่อยๆ
เรากับตัวของเราอีกคน จึงทำข้อตกลงกันว่า ...
จะไปสุวรรณภูมิ โดยที่เราต้องไม่เปียก
คิดเสร็จปุ๊ป รถเมลก็มาถึงสะพานตากสินพอดิบพอดี
เราก้าวขาลงแล้วเดินมุ่งตรงไปที่ BTS อย่างระมัดระวัง
ความดีงามของการออกมาดูโลกภายนอกวันนี้อย่างแรกคือ
โอปปาดีงามมากกกกกกกกกก (แปลไทยก็ ผู้หล่อมากค่ะ)
แต่ทำไงได้มาคนเดียวจะกรี๊ดกร๊าด ก็ดูจะเสียบุคคลิกไปหน่อย
เราต้องคีพลุค และไม่หันมองจะได้ดูเป็นคนคูลๆ
ถ้าเปรียบสมองเราเป็นเหมือน inside out
ทุกคนคงกำลังกรี๊ดกร๊าด ตาเยิ้ม นั่งไม่ติดที่แน่ๆ
แต่ก็นั่นแหละ เราจะหยุดอยู่แค่ตรงนี้ไม่ได้!
'มิสชั่นของวันนี้รอเราอยู่'
เราซื้อตั๋ว BTS ไปพญาไท กะไปต่อแอร์พอร์ตลิ้ง ตรงดิ่งเข้าสุวรรณภูมิ
แต่ระหว่างทางเราดันไปเห็น เรือถีบ ที่สวนลุมพินี ก็เลยเกิดไอเดียใหม่
'เอ้อ เรายังไม่เคยถีบเรือถีบ คนเดียวเลยนี่หน่าาาา ไปลองดีกว่า'
ก็เลยนั่ง BTS กลับมาลงที่ ศาลาแดง
จังหวะที่รถไฟฟ้าเปิดประตู เสียงกรี๊ดกร๊าดก็ดังโอบอวนบริเวณนั้นเต็มไปหมด
เราวิ่งกรูไปที่ระเบียงของสถานีเพื่อก้มลงดูกิจกรรมบนท้องถนน
'ไอเชี้ยยยยยย ...
ตรงนี้มันคือสีลมนี้หว่าาาา'
ความคิดตอนนี้ มีอยู่อย่างเดียวคือ กูจะรอด ไปถีบเรือมั้ยยยยยย
ด้วยความสงสัยว่า บนสกายว๊อคมีจำนวนคนมากแค่ไหน
แล้วพอจะมีความเป็นไปได้มั้ย ถ้าเราจะฝ่ามันไปโดยไม่เปียก
สิ่งที่เห็นคือ ...
'ไอสัสสสส แถบไม่มีที่ให้มึงเดินต่อไปได้'
แต่เอาวะ ไหนๆ กูก็ออกมาแล้ว ไม่ลองไม่รู้โว้ย
กูอาจจะก้าวผ่านมันไปได้โดยไม่เปียก
เราจึงคอลลิ้งเมโลดี้ หาแฮรี่พอตเตอร์ เพื่อขอยืมผ้าคลุมร่องหน
'ถรุ้ยยยย ไม่ใช่!!!'
ก่อนออกจาก สถานี เราทำสัญลักษณ์โดยการเอาแขนสองข้างมาทับกันให้เป็นกากบาท
เพื่อเป็นสัญญาณว่า กูไม่เล่นนะ พวกมึงงงงง
'แล้วกูก็รอดไปปั่นเป็ดหวะ'
สัสสสส !! นี้มึงเชื่อกันจริงๆ หรอว่ากูไป ?
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in