Note: Thai AU – Genderbend - เรื่องนี้เป็นผู้หญิงทั้งคู่ - ได๋(ดงฮัน) - เดียร์(ดงฮยอน)
1.
วันนี้วันดี รถเข็นขายลูกชิ้นหน้าโรงเรียนกวดวิชาที่เดียร์ชอบกินไม่มีคนยืนแออัดเลย เอาจริงๆก็คือตอนนี้ที่เริ่มโพล้เพล้มีแค่เดียร์นี่แหละที่กินลูกชิ้นอย่างสบายใจเฉิบ
ยืนกินไปได้ไม่นาน ก็มีเงาทาบทับลงมาบังแดดที่แยงตาเล็กน้อยก่อนหน้านี้ หญิงสาวหันไปมองยังต้นทางและพบว่าคนมาใหม่เป็นผู้หญิงที่สูงกว่าเธอเล็กน้อย เธอคนนั้นมัดหางม้า มือข้างซ้ายถือกระเป๋าจาคอป มือขวายกขึ้นเลือกลูกชิ้นไม้ที่อยากกิน
กลายเป็นว่าตอนนี้มีเด็กนักเรียนหญิงสองคนยืนกินลูกชิ้นอยู่หน้ารถเข็น
แน่นอนเดียร์รู้จักผู้หญิงที่ยืนกินลูกชิ้นข้างๆตัวเองดี ก็ได๋ห้องสี่ ได๋ที่สวยๆ ได๋ที่เป็นหลีดสีแสดไงล่ะ
ได๋เป็นผู้หญิงตัวสูง ซึ่งอันที่จริงเดียร์เองก็สูงแบบที่ยืนแถวหลังประจำอยู่แล้ว พอได๋ซึ่งอยู่ข้างๆเป็นคนสูงเหมือนกันก็เลยจะได้เจอหน้ากันบ่อยๆเวลาเข้าแถวอยู่แล้ว
แต่ไม่เคยทักกันหรอกนะ ก็ไม่รู้จักกันนี่หว่า
เดียร์คิดว่าตัวเองน่าจะรู้จักได๋อยู่ฝั่งเดียว เพราะว่าได๋น่ะเป็นคนดังมากๆคนนึงในโรงเรียนเลยล่ะ อย่างที่บอกไป ได๋เป็นคนสวยและเป็นคนดังชนิดที่มีคนฟอลไอจีหลักหมื่นเลย ถ้าไถๆเฟสบุ๊คเมื่อไหร่ก็จะชอบเห็นเพจโรงเรียนเอาภาพได๋ไปลง แล้วได๋เป็นเด็กกิจกรรมตัวยงทั้งเป็นหลีด นางรำ แล้วก็เต้นโคฟ ก็คือครบเลย ได๋เป็นทุกอย่างที่จะโด่งดังในโรงเรียนนี้อยู่แล้ว
แต่เดียร์เพิ่งรู้ว่าได๋เป็นคน...กินเก่ง
จากการก้มลงมองถังทิ้งไม้ลูกชิ้นตรงหน้า ไม้เปล่าที่มาจากได๋น่ะเยอะกว่าเดียร์เห็นๆทั้งที่มาทีหลัง แถมตอนนี้ที่เดียร์เริ่มอิ่มแล้วอีกคนก็ยังเคี้ยวหนุบๆไม่หยุด
“แปดไม้ค่ะป้า” เดียร์พูดตอนยื่นเงินให้ป้าคนขาย ระหว่างรอเงินทอน หางตาก็เหลือบมองคนข้างๆที่ก้มหน้าก้มตากินพลางเล่นมือถือไปด้วย
คนสวยนี่ถึงกินเก่งก็ยังสวยสิน้า...
พอรับเงินทอนมาแล้วเดียร์ก็ค่อยๆหมุนตัวเตรียมเดินออกไปรอรถสาย แต่เสียงทุ้มกว่าที่คิดรั้งเอาไว้ก่อน
“เดียร์ห้องสามป่ะ...”
มันเป็นเสียงของได๋ และเป็นครั้งแรกที่เดียร์กับได๋ได้คุยกัน
2.
“ได๋ ยกแก้วขึ้นอีก เอียงหน้านิดนึงๆ โอเคสวย”
มันเป็นมายังไงไม่รู้
รู้ตัวอีกที ได๋ก็สนิทกับเดียร์ห้องสามไปแล้วล่ะ ตอนนี้ก็เป็นเดียร์ที่ใช้ไอโฟนของได๋ช่วยถ่ายรูปลงไอจีให้แบบไม่อิดออดในคาเฟ่แห่งหนึ่งที่ไม่ไกลจากที่เรียนพิเศษของเราสองคน
จริงๆได๋เคยเห็นหน้าเดียร์มาสักพัก เพราะว่าสูงไล่เลี่ยกันเวลาเข้าแถวเลยจะเจอหน้าอีกคนบ่อยๆ เคยเห็นหน้าเวลาเรียนพิเศษด้วย
เดียร์เป็นผู้หญิงเท่ๆและยิ้มสวยคนหนึ่งที่ได๋สะดุดตาเสมอมา
เวลามีงานโรงเรียน ตอนที่ได๋รอขึ้นเวทีจะแสดงโคฟเวอร์แดนซ์ก็จะมีวงดนตรีที่เดียร์ร้องนำพ่วงกับเล่นกีต้าร์แสดงก่อน บางทีก็เห็นเดียร์ไปตีกลอง ครั้งหนึ่งเคยเดินผ่านแล้วเห็นเดียร์ถกกระโปรงเตะบอลไปให้พวกผู้ชายที่เตะลูกออกนอกสนามด้วย พอเตะได้สวยก็กระโดดดีใจเหมือนเตะเข้าโกล พวกผู้ชายก็ชอบล้อว่าเหมือนม้าดีดกะโหลกไม่ก็เป็นทอม ไม่ได้เข้าใจความน่ารักเวลาเดียร์ยิ้มเลย
ได๋อยากเป็นเพื่อนกับเดียร์มานานแล้ว แต่ก็ไม่มีโอกาสได้คุยกันสักที สวนกันทีไรต่างคนก็ต่างอยู่กับกลุ่มเพื่อนตัวเอง กลุ่มเพื่อนเดียร์มีแต่ผู้ชาย แถมไม่เคยรู้จักกันมาก่อน จะให้มาทักก็รู้สึกแปลกๆ
แต่พอจู่ๆวันนึงเกิดกล้าทักขึ้นมา แล้วดันคุยกันถูกคอจนมาสนิทกันแบบนี้
รู้งี้ได๋จะรีบทักให้ไวๆเลย
3.
“ขอโทษนะได๋ที่รบกวน”
เดียร์ยกมือไหว้ปลกๆให้กับคนด้านหน้าที่กำลังรวบผมตัวเองขึ้นเพื่อความคล่องแคล่ว ยอมรับเลยว่าแม้วิชาลีลาศที่บังคับเรียนทั้งระดับชั้นจะเป็นการเต้นในเสตปพื้นฐานแบบพื้นฐานมากๆแต่ทักษะของเดียร์ก็ยังอ่อนเหลือเกิน
เคยโดนไอ้โต้ง คู่เต้นที่แท้จริงด่ามาด้วยว่าทำไมเล่นดนตรีได้แต่นับจังหวะเท้าไม่ถูก แต่พอเวลาแบบนี้ก็ไม่ว่างมาซ้อมด้วยกัน คิดแล้วเดียร์ก็แอบเคืองเบาๆ
“ไม่เป็นไร ได๋จะได้ทวนของตัวเองด้วยไง” ได๋ก็คนดีเหลือเกินที่มาสอนให้แถมยังจำลองเป็นฝ่ายผู้ชายให้ได้ซ้อมเข้าคู่อีกด้วย
ในเวลาหลังเลิกเรียนที่โรงยิมตอนนี้มีแค่เด็กผู้หญิงสองคนที่หันหน้าเข้าหากัน มือขวาของเดียร์จับกับมือซ้ายของได๋ มือข้างที่ว่างของเดียร์แตะลงบนไหล่ของคนตรงหน้าแบบเก้กังๆ ส่วนได๋นั้นดูไม่ลังเลเลยที่จะเอื้อมมือขวามาโอบหลัง
พอต้องเขยิบใกล้กันแบบนี้เดียร์ก็รู้สึกได้ถึงกลิ่นหอมอ่อนๆจากน้ำหอมที่ได๋ใช้ รู้สึกเคอะเขินไปเลยที่ปกติใช้แค่สารส้มกับเต่าเหยียบโลกระงับกลิ่นตัวน่ะ
ตาของเดียร์กำลังตรงกับปากของได๋พอดีเลย ปากที่เคลือบลิปทิ้นท์สีแดงระเรื่อที่ขับให้ใบหน้าขาวนวลของคนตรงหน้ามีชีวิตชีวา
จู่ๆก็ทำตัวไม่ถูกขึ้นมา ทีคู่กับไอ้โต้งยังไม่ประหม่าแบบนี้เลย
ถ้าให้เดา คงเป็นเพราะเดียร์อาจจะยังไม่สนิทกับได๋พอล่ะมั้ง ที่ใจเต้นแปลกๆก็คงเพราะกลัวไปหมดเลยว่าจะเหยียบเท้าอีกฝ่ายหรือเปล่า ที่รู้สึกหน้าร้อนๆนี่ก็คง...
เพราะโรงยิมไม่มีพัดลมล่ะมั้ง...
ไม่ได้ใจสั่นเพราะว่ากำลังจับมือกับได๋ หรือว่ากำลังหน้าร้อนเพราะรู้สึกเขินเสียงของได๋ที่กำลังกระซิบข้างหูหรอกนะ
จริงๆนะ!
4.
ได๋คิดว่าเดียร์น่ะ...ความรู้สึกช้ามากๆเลย
เวลาที่ได๋แอบหยิกแก้มหรือกอดจากข้างหลังแล้วเอาคางไปเกยๆไหล่ ปฏิกิริยาที่ได้รับจากเดียร์ก็มีแต่หน้าอ๊องๆเหมือนจะถามว่า มีอะไรเหรอ อยู่ตลอดเวลา
แต่ตอนนี้ได๋ไม่ได้ทำอะไร แต่นั่งเท้าคางกับโต๊ะมองคนตรงหน้าที่กินไก่เคเอฟซีอย่างเอร็ดอร่อยอยู่ ถามว่ามัวแต่มองเลยไม่ได้กินเหรอ
เปล่าหรอก ได๋กินไวจนหมดนำไปแล้วล่ะ
เพราะกินไวไงเลยมีเวลามานั่งมองแบบนี้ แก้มเดียร์เวลาเคี้ยวอะไรหนุบหนับนี่น่าดึงมาบีบเล่นจริงๆ ถึงแม้ว่าเดียร์จะมีแก้มป่องตลอดเวลาก็เถอะ
“มันคือไขมัน” เดียร์เคยบอกแบบนั้นเวลาที่ได๋หลอกดึงแก้มแล้วงุ้งงิ้งออกมาว่าสุดนุ่มนิ่ม
น้ำหนักเป็นเรื่องที่หญิงสาวมักจะกังวล ได๋เองก็เข้าใจดี ได๋ก็ผู้หญิงคนหนึ่งที่แม้จะชอบกินแต่ก็พยายามรักษาหุ่นไปด้วยในเวลาเดียวกัน แต่ทุกครั้งที่เดียร์บ่นว่าตัวเองอ้วน ได๋ก็อยากจะค้านจนหัวชนฝาว่าไม่อ้วน แบบนี้ก็น่ารักแล้ว
ก็เดียร์น่ารักจริงๆนี่นา
“ทำไงจะสวยแบบได๋อ่ะ” เดียร์บ่นพึมพำ “อยากสวยแบบได๋บ้าง เพื่อนจะได้เลิกล้อซะที”
ไอ้เรื่องเพื่อนล้อได๋ก็พอฟังมาบ้างเหมือนกัน ก็เพื่อนผู้ชายที่รายล้อมเดียร์อยู่น่ะบางคนก็ขี้แกล้งชอบหยอก แต่ว่านะ...ได๋ก็พอเดาออก ในคนพวกนั้นมันมีคนแอบชอบเดียร์
อะไรแบบนั้นเดียร์ไม่รู้หรอก บอกแล้วว่าความรู้สึกช้า ที่เป็นอยู่ตอนนี้ก็เหมือนกัน
“เป็นแบบเดียร์ก็ดีอยู่แล้วน่า” ได๋ฉีกยิ้มเล็กน้อยก่อจะเอื้อมมือไปช่วยเช็ดเศษที่เลอะมุมปากของเดียร์ให้ เจ้าตัวยิ้มกว้างจนตาหยีออกมาและนั่นทำให้หัวใจหญิงสาวของได๋พองโตเป็นบ้า
เป็นแบบนี้ก็ดีแล้วล่ะเดียร์
แค่นี้ก็ชอบจะตายอยู่แล้ว...
5.
“เดียร์”
เสียงของชายหนุ่มดังขึ้นละความสนใจของเดียร์ที่กำลังจ้องมองจอมือถือซึ่งปรากฏเนื้อเพลงที่เธอกำลังซ้อมร้องเตรียมไปขึ้นโชว์ในงานโรงเรียน เป็นไอ้เป้ง เพื่อนในห้องของเธอเองที่มาเรียก
“ว่า”
“มึงสนิทกับได๋ห้องสี่ใช่ป่ะ” คำถามจากคนตรงหน้าทำเดียร์นิ่งไปเล็กน้อย หญิงสาวเบือนหน้าไปยังเวทีและพบว่ากลุ่มที่กำลังจะขึ้นโชว์เป็นลำดับถัดไปเป็นวงโคฟเวอร์แดนซ์ของได๋เอง
ได๋เคยบอกว่าโคฟเพลงใหม่ที่เพิ่งออก ตู๊ดูๆอะไรสักอย่าง เดียร์เองก็ไม่ค่อยสันทัดวงการเคป๊อบนักแต่ก็
เคยลองหาฟังเพราะเห็นว่าอีกฝ่ายดูชื่นชอบเป็นพิเศษ
“ว่าไง สนิทกันป่ะ” ไอ้เป้งถามซ้ำอีกครั้ง เดียร์ชักจะรำคาญหน่อยๆเพราะอยากตั้งใจดูโชว์ของได๋บนเวที ได๋ที่สวยอยู่แล้ววันนี้สวยกว่าเดิมไปอีกด้วยเมคอัพและชุดที่ใกล้เคียงกับในเอ็มวีเพลงนั้นเลย
“ก็...อือ” เดียร์ตอบปัดรำคาญ
“ขอเบอร์ให้หน่อยดิ”
“ได๋ไม่ชอบคนแบบมึงหรอก”
“หวงก้างเหรอทอม”
“สัด เพื่อนกู”
“ได๋สวยว่ะ” ไอ้เป้งไม่ยอมไป ยืนดูโชว์ด้วยกันอยู่อย่างนั้น “เออ เบลล์ก็สวย นุ่นก็น่ารัก มึงดูแป้งยิ้มๆ โอ๊ย ละลาย”
ในกลุ่มคนที่เต้นทั้งสี่คนก็สวยๆแถมเต้นเก่งทั้งนั้นเลย เดียร์พอจะจำได้ มีทั้งเด็กนาฏศิลป์ ลีด คนถือป้ายโรงเรียน อย่างกับรวมดาวโรงเรียนเอาไว้ในโชว์ แต่บอกแล้วว่าได๋น่ะสวยที่สุด
ไอ้เป้งก็พยายามที่จะชวนเดียร์ดูสาวเหลือเกิน ทุกคนทรีตเดียร์เป็นทอมคนหนึ่งที่ชอบผู้หญิงไปแล้ว แต่เดียร์ก็ไม่ได้อภิรมย์ใจกับการดูสาวเหมือนมันหรอกนะ
เดียร์ไม่ได้ชอบผู้หญิงสวยไปเรื่อยซะหน่อย เดียร์แค่ชอบได๋แล้วได๋ดันเป็นผู้หญิงที่สวยมากๆคนหนึ่งต่างหาก
โอ๊ะ ข้อนี้อย่าไปบอกใครล่ะ เดี๋ยวได้โดนล้อว่าไอ้ทอมๆอีก และแม้แต่ได๋ก็อย่าไปบอกนะ ถึงได๋จะไม่ล้อก็เถอะ แต่ถ้าได๋รู้เข้ามีหวังเดียร์คงเขินตาย
ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่เหมือนกันที่มันเกิดความรู้สึกแบบนี้ แต่รู้ตัวอีกทีเดียร์ก็ห้ามตัวเองให้ไม่เขินเวลาสบตากับได๋ไม่ได้แล้ว ยิ่งเวลาได๋มาจิ้มแก้ม กอด เอาคางเกยบนหัวยิ่งแล้วใหญ่
หรือจะที่มาลูบหัวตอนลงจากเวทีเพื่อให้กำลังใจเดียร์ที่ต้องขึ้นไปร้องเพลงต่อ แล้วก็ไปยืนให้กำลังใจในหมู่คนดูน่ะ
“สู้ๆนะเดียร์”
หรือตอนที่ยืนฟังวงดนตรีวงอื่นด้วยกันในกลุ่มผู้ชมแล้วได๋เอาแขนมาโอบไหล่แล้วพากันกระโดดเหยงๆไปตามจังหวะดนตรีแบบนี้น่ะ
เดียร์คิดกับตัวเองใหม่แล้ว ถ้าชอบได๋แล้วนับว่าเป็นทอม เดียร์ก็คงเป็นทอมจริงๆแล้วล่ะ ถึงจะรู้สึกตัวเล็กตัวน้อยทุกทีที่อยู่ด้วยแล้วเจอความอ่อนโยนของได๋ก็ตาม
เมื่อเราใกล้จนอยากจะหยุดหายใจ
มันใกล้จนมีแต่เธอกับฉันวันนี้เท่านั้น
ต่อจากนี้ไอ้พวกผู้ชายจะเรียกเดียร์ว่ายังไงก็ช่าง
ก็เดียร์น่ะ...ชอบได๋จริงๆนี่นา
#มนต101
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in