เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Midnight Miracle #namsongntpmay
Midnight Miracle






  • 00.00

    I’m counting down for midnight

     

    ในช่วงที่เป็นรอยต่อเวลาของวันนี้และวันพรุ่งนี้ ใครหลายคนว่ากันว่านี่เป็นช่วงเวลาของปาฏิหาริย์ เป็นช่วงที่คุณจะได้พบกับสิ่งที่คุณรอคอยสิ่งที่คุณปรารถนา และแน่นอนว่าในยุคที่มีวิทยาศาสตร์เข้ามาพิสูจน์หรือมีเหตุผลให้กับทุกเรื่องปาฏิหาริย์ก็เป็นแค่เรื่องไร้สาระสำหรับบางคน

     

    แต่ก็จงอย่าลืมว่า

     

    สิ่งที่ไม่ได้เกิดกับคุณ

     

    ไม่ได้แปลว่ามันไม่มีอยู่จริง

     

    จากผู้หวังดีที่ชื่อ นัม แทฮยอน








     

     

    ผมชื่อแทฮยอน เป็นนักดนตรีที่ทำงานกลางคืน ก็เหมือนกับนักดนตรีทั่วๆไปผมเริ่มงานสองทุ่ม เล่นเสร็จก็ห้าทุ่มและมักจะกลับถึงห้องก่อนเวลาเที่ยงคืนเพียงสิบนาทีเท่านั้น ทุกๆวันหลังเลิกงานผมต้องรีบกลับให้ทันเที่ยงคืนเสมอ เหตุผลน่ะเหรอ

     

    ก็เพราะว่าทุกๆเที่ยงคืน จะเกิดปาฏิหาริย์ยังไงล่ะ อย่างเช่นตอนนี้

     

    “สวัสดีตอนเที่ยงคืน นัมแทฮยอน”

    “สวัสดี” ผู้ชายที่ยืนอยู่ตรงหน้าผมตอนนี้คือปาฏิหาริย์

    “การทำเพลงเป็นยังไงบ้าง”

     

    เราคุยเรื่องสัพเพเหระกันตลอดทั้งคืน จนหมดช่วงที่เขาพอจะอยู่ได้เขาก็จะหายไป เหมือนเป็นกฎอะไรสักอย่างที่ผมไม่มีสิทธิ์รับรู้ กฎในโลกของเขา ซงมินโฮคือผู้ชายคนนั้น เขาจะมาหาผมทุกเที่ยงคืน ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าเป็นเพราะผมเรียกร้องหรือเปล่า

     

    เรารู้จักกันมาทั้งชีวิต บ้านอยู่รั้วติดกัน เกิดวันเดียวกันแต่ผมเกิดตอนเช้า และมินโฮเกิดในเวลา 00.00 นาฬิกาพอดีแต่หมอก็นับว่าเขาเกิดในวันเดียวกับผม เรารู้จักกันมาทั้งชีวิต ในฐานะเพื่อนและบุคคลที่มากกว่าเพื่อน

     

    แน่นอนว่าข้อนี้ ไม่มีใครรู้หรอก ไม่ใช่ปิด แต่ไม่มีใครถามต่างหาก

     

    5 ปีที่แล้ว

     

    “เลี้ยงวันเกิดที่ไหนวะเพื่อนรัก”

    “บ้านกูเหมือนทุกปีนั่นล่ะ แจวอนไปไหนล่ะ”

    “กำลังมา แม่งตื่นสาย” พูดจบไปไม่ทันถึง3นาที ก็เห็นแจวอนวิ่งมาแต่ไกลท่าจะเหนื่อยมากนะนั่น

    “โทษที กูหลับในห้องน้ำ”

     

    ทุกคนพากันไปเข้าเรียนเหมือนวันปกติ แน่สิ ไม่ได้มีอะไรพิเศษสักหน่อยถึงแม้ว่าจะเป็นวันเกิดของผม แต่มันก็ไม่ได้พิเศษอะไรนักหรอกสิ่งที่พิเศษสำหรับพวกมันก็คงเป็นแค่การจัดปาร์ตี้ที่บ้านผม ไม่สิอพาร์ตเม้นที่ผมอยู่ซะมากกว่า

     

    เพราะที่นั่นไม่มีผู้ปกครอง การที่เราอยู่ชั้นเกือบบนสุดทำให้ดาดฟ้าด้านบนนั้น เป็นของเราไปโดยปริยาย นั่นเป็นอีกข้อหนึ่งเป็นแหล่งมั่วสุมของเพื่อนดีๆนี่เอง แค่ไม่ทำอะไรที่ผิดกฎหมายเท่านั้นแหละนะ

     

    “พวกมึง2คนนี่ดีจังวะ เกิดวันเดียวกัน เป็นเพื่อนกันมาตลอดชีวิตเพื่อนตายสัสๆ”

    “มึงว่างั้นเหรอวะ” มินโฮตอบ

    “ก็จริงนี่หว่า”

    “ฮะๆ ก็จริงอย่างที่มึงว่านั่นแหละ”ผมหันไปสบตากับเขาและยิ้มอย่างที่เคยยิ้มแน่นอนว่าผมก็ได้รับรอยยิ้มที่คุ้นเคยกลับมาเช่นเดียวกัน

     

    ผมมั่นใจ ว่าเขาจะอยู่กับผม ไปตลอดชีวิตของเขา ไม่ว่าในสถานะไหนก็ตาม

     

    พวกเรามาถึงอพาร์ตเม้นก่อนที่เพื่อนๆจะมาถึง เพราะต้องมาจัดที่ทางเก็บของให้ไม่โดนเพื่อนๆที่อาจจะเมาเละเทะเหยียบจนพังอุปกรณ์ดนตรีราคาแพงของนักแต่งเพลงอายุน้อยอย่างซงมินโฮถูกเก็บเข้าห้องสตูดิโอไปหมด

     

    “ฮัลโหลวว เพื่อนๆ เปิดประตูให้ซึงฮุนสุดหล่อหน่อยจ้า วู้วๆ”

    “เสียงดังสัส เข้ามา” มินโฮว่า

     

    เรากินทั้งเหล้ากินทั้งข้าวจนของที่มีก็เริ่มหมดลงไปเรื่อยๆไอ้ที่ซื้อมาก็ไม่เคยพอสักที มินโฮที่ดูจะมีสติที่สุดอาสาจะออกไปซื้อมาเพิ่มเอง

    “เดี๋ยวกูไปเป็นเพื่อน”

    “อยู่ดูพวกมันนี่แหละ เดี๋ยวกูรีบกลับมา”มินโฮหันมองเพื่อนขี้เมาเล็กน้อย ก่อนกดจูบลงมาที่ปากของผมเบาๆ

    “สุขสันต์วันเกิด รักมึง ตลอดไป

    “อื้อ ตลอดไป

     

    มินโฮออกไปได้สักพัก ผมก็หยิบเค้กที่ซ่อนไว้ในกล่องโฟมออกมาผมฝากแจวอนซื้อเข้ามา อ้อ แจวอนมันไม่ได้เมาหรอก แกล้งเมาไปงั้นแหละผมอยากให้มันเซอไพรส์บ้างนี่นา

    “อย่าคิดว่ากูไม่เห็นช็อตเมื่อกี้ หวานชิบหาย”

    “ขอบ้างเหอะมึง”

    “เออๆ เดี๋ยวกูช่วย”

     

    ผมกับแจวอนหิ้วเพื่อนที่หลับไปแล้วให้นอนอย่างเป็นที่เป็นทางเคลียร์ขยะออกไปเรียบร้อย ผมหันไปดูเวลาที่นาฬิกาแขวนผนังที่ได้รับเป็นของขวัญวันเกิดจากมินโฮตอนมัธยมปลายปีสุดท้ายนี่ใกล้จะเที่ยงคืนแล้ว

    “มึง ทำไมมันยังไม่กลับมาวะ ไปนานแล้วนะ” แจวอนพูดขึ้นมา

    “นั่นสิ อีกแปปนึงจะโทรตามแล้วกัน”

     

    จนผ่านไปแล้วเกือบสิบนาที ก็ไม่ได้ยินเสียงลิฟต์หรือเสียงฝีเท้าของใครเลยนั่นทำให้ผมตัดสินใจว่าควรจะโทรตามได้แล้ว

     

    23.58

    “รับสิวะ”

     

    23.59

    “มินโฮ ถึงไหนแล้ว”

     

    00.00

    “ขอโทษนะคะ เจ้าของโทรศัพท์เครื่องนี้ประสบอุบัติเหตุตอนนี้...เสียชีวิตแล้วค่ะ”

     

     

    ครับ จากคำที่ตำรวจและคนแถวนั้นบอกมามินโฮขับรถออกมาเพื่อซื้อของตามที่พวกเรารู้กัน เขามีสติ ผมรู้ดี แต่คนที่ไม่มีสติคือเจ้าของรถกระบะคันหนึ่งที่ฝ่าไฟแดงมาด้วยความเร็วเกินกำหนดพุ่งชนที่รถของมินโฮเต็มๆ เขาไม่ได้เสียทันที

     

    แต่ทันทีที่รถพยาบาลมาถึง และออกรถไปได้ไม่ถึง10นาที เขาก็จากผมไปในเวลาที่ระบุไว้ คือ 00.00 พอดี บังเอิญเกินไป มันเกินไป มากจริงๆ

     

    ผมเสียใจมาก มากที่สุดในชีวิต แต่ผมไม่ได้เสียหลัก กินเหล้าเมามายทำร้ายตัวเอง เพราะในวันที่เขาจากผมไป อย่างน้อย เขาก็ยังรักผม เป็นคนรักของผมและเป็นตลอดไป

     

    ของทุกชิ้นยังอยู่ เสื้อผ้า เครื่องดนตรี สตูดิโอ และเพลงของเขา ที่ผมยังร้องอยู่ทุกๆปีในวันเกิด

     

    จนเวลาผ่านไปครบสี่ปี ในวันเกิดของผมและเขาเมื่อเวลาที่เขาเกิดและจากไป

    00.00

    “คิดถึงนายนะมินโฮ อยากเจอจัง” ผมหลับตาลงและพูดเบาๆไม่ได้อธิษฐานขอจากพระเจ้า แค่พูดกับตัวเอง

     

    แต่

    “คิดถึงนายเหมือนกัน แทฮยอน”

    เขาปรากฏตัวอยู่ข้างหลังผม พร้อมกับรอยยิ้มเหมือนอย่างเช่นเคย

     

    สุขสันต์วันเกิดนะเว้ยแทฮยอน มีความสุขมากๆ คิดถึงทั้งมึงและมันเลย

     

    สุขสันต์วันเกิดเพื่อนเลิ้บ เจอกันสิ้นเดือน แดกเหล้าโว้ย

     

    ข้อความอวยพรจากเพื่อนๆทุกคนถูกส่งเข้ามาแบบนี้ทุกๆปี ไม่มีการเจอกันนัดกัน เพราะต่างคนก็ต่างมีงาน มีภาระหน้าที่จะมารวมตัวกันตอนไหนก็ได้เหมือนเมื่อก่อนน่ะมันไม่ได้แล้ว

    “สุขสันต์วันเกิดนะแทฮยอน”

    “อื้อ มึงด้วยนะมินโฮ”

    “กูรักมึง ตลอดไป”

    “ตลอดไป”

     

    เราสบตา เคลื่อนเข้าหากันและกัน จูบกันใต้ท้องฟ้าในยามพระจันทร์เต็มดวง พร้อมกับน้ำตาที่ไหลลงมา เพราะรู้ว่านี่คือครั้งสุดท้าย

     

    และจูบสุดท้าย

     

    “ใกล้หมดเวลาแล้ว”

     

    흩어져버린 기억들을 더듬

    네가 그리워 매일매

    ก้าวข้ามผ่านความทรงจำที่แตกกระจัดกระจาย

    ผมโหยหาคุณอยู่ทุกๆวัน

     

    “อื้อ ขอบคุณนะ ที่มึงกลับมา”

     

    깐이라도 괜찮

    마지막 모습이라도 다시 한번 볼수 있다

    ผมไม่สนใจว่ามันจะเป็นแค่เพียงช่วงเวลาสั้นๆ

    ถ้าเพียงแค่พบได้พบคุณอีกสักครั้ง เป็นครั้งสุดท้าย

     

    “นั่นเพราะมึงขอ ขอโทษที่อยู่ได้แค่นี้”

    “ไม่เป็นไร แค่ได้เจอมึงอีกครั้ง ก็พอแล้ว”

     

    이제 후회해봤

    달라지는 없잖

    แม้ว่าตอนนี้ผมจะเสียใจมากแค่ไหน

    ก็คงไม่มีสิ่งใดเปลี่ยนแปลง

     

    “หนึ่งปีที่เราอยู่ด้วยกัน ถึงแม้จะแค่หลังเที่ยงคืนสั้นๆกูก็มีความสุข ดีใจที่สุด”

    “กูด้วย”

    “มีความสุขมากๆที่ได้รักมึง”

     

    눈앞에서 사라

    คุณหายไปจากสายตาของผม

     

    “ลาก่อน”

     

    ตลอดไป

     

    Now, I’m not counting down anymore

     

    Even if I’m countdown to the rest of my life

     

    He won’t coming again

     

     


    Someday we will meet again

     

     

     

     

     

     









Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in