เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
My First Storyรวิภา สรรพเลิศ
Waltz of the Sirens - บทเพลงที่สร้างจากความวุ่นวายของเมืองใหญ่
  • บทความนี้เป็นส่วนหนึ่งของวิชาสังคีตนิยม (Music Appreciation) 2737110 
    จัดทำโดย นางสาวรวิภา สรรพเลิศ นิสิตชั้นปีที่ 2 คณะวิทยาศาสตร์ ภาควิชาวิทยาศาสตร์ทางทะเล


    เสียงไซเรนจากรถตำรวจ เสียงบีบแตรจากรถยนต์ที่สัญจรผ่านมาเปรียบเสมือนตัวแทนของความวุ่นวายบนท้องถนนในเมืองหลวง เสียงเหล่านี้แต่หลังจากได้รับชม Waltz of the Sirens ของ Alma Deutscher แล้ว เราก็เกิดความรู้สึกประหลาดใจและประทับใจที่ดนตรีสามารถนำความวุ่นวายของเมืองหลวงที่ตัวเราเองหลีักเลี่ยงที่จะฟัง มาทำให้เกิดเป็นท่วงทำนองที่ชวนให้อยากนั่งฟังไปเรื่อยๆได้เช่นนี้


    Waltz of the Sirens(Sirenenklänge Walzer) เป็นดนตรีวอลทซ์ที่ประพันธ์โดย Alma Deutscher นักประพันธ์ นักเปียโน และนักไวโอลินชาวอังกฤษ บทเพลงนี้เป็นเพลงที่มีแรงบันดาลใจมาจากเสียงหวอไซเรนในกรุงเวียนนา อัลมากล่าวว่าแทนที่เธอจะประพันธ์เพลงที่สื่อถึงความน่าเกลียดของโลกปัจจุบันแบบที่composerในปัจจุบันทำกัน เธอเลือกที่จะประพันธ์เพลงที่นำความไม่สวยงามในโลกปัจจุบันมาสร้างให้เป็นบทเพลงที่เพราะมากกว่า


    การแสดงจัดขึ้นที่คอนเสิร์ทเดบิวท์ของอัลมาในวันที่ 12 ธันวาคม 2019 ณ Carnegie Hall ในนิวยอร์ก, สหรัฐอเมริกา โดยมี Dame Jane Glover เป็นคอนดัคเตอร์ให้กับวง Orchestra of St. Luke's

    ในการแสดงมีลำดับการแสดงดังนี้

    • Alma Deutscher, Cinderella

      • Overture

    • Alma Deutscher, Violin Concerto

    • Alma Deutscher, Cinderella

      • "I dreamed a dream of dancing"

      • "It is her melody"

    • Alma Deutscher, Piano Concerto

    • Alma Deutscher, Lied

    • Alma Deutscher, Siren Sounds, Concert Waltz

    Waltz of the Sirens ที่ได้รับชมทางยูทูบมีความยาว 18.06 นาที ประกอบด้วยท่อน Intro และวอลทซ์อีก4ท่อน 

    ในส่วนของท่อนอินโทรเริ่มต้นด้วยการเลียนเสียงของไซเรนและเสียงของแตรรถ เสียงของหวอไวเรนถูกเลียนแบบโดยmelodica และไวโอลินที่เล่นglissendoหรือการลากโน้ตขึ้นลงยาวๆ นอกจากนี้ยังมีเสียงแตรรถที่มาจากเชลโล่และทรอมโบน ท่อนอินโทรถือว่าเป็นส่วนที่มีความน่า่สนใจและสื่ออกมาถึงความวุ่นวายบนท้เองถนนได้อย่างดี 

    จากนั้นเสียงของท่อนอินโทรจึงค่อยๆสงบลงแล้วtransitionเข้าสู่ท่เสียงของดับเบิ้ลเบสเบาๆแล้วตามด้วยglissendoของไวโอลินคล้ายช่วงแรก แต่จะมีความแตกต่างคือglissendoที่เลียนเสียงไซเรนจะบรรเลงคลอไปกับทำนองของทั้งวงทำให้เกิดความรู้สึกสงบ เมื่อเสียงของฟลุตบรรเลงขึ้นมาก็ทำให้เหมือนผู้ฟังถูกดึงออกจากท้องถนนที่วุ่นวายเข้าสู่โลกแห่งเทพนิยายเลยทีเดียว ในตอนท้ายของอินโทรมีการช้าลงของจังหวะ จากนั้นก็เร็วขึ้นแล้วจบลงด้วยเสียงของฮาร์ป


    หลังจากท่อนintroductionจบลงก็เข้าสู่ท่องแรกของwaltz โดยรวมการบรรเลงให้ความรู้สึกที่เหมือนกับอยู่ในเทพนิยาย ในท่อนที่หนึ่งและสองให้ความรู้สึกว่าคล้ายกันในแง่ของความรู้สึกและจังหวะ แต่จะเห็นว่าในท่อนที่3มีความช้าลงอย่างเห็นได้ชัด เหมือนเป็นการพักลงก่อนที่จะนำเข้าสุ่ท่อนที่4ที่เหมือนเป็นการสรุปบทเพลงนี้ลงได้อย่างสวยงาม


    ในท่อนที่4 การบรรเลงจะได้ยินเสียงคล้ายแตรและเสียงหวอแทรกไปเรื่อยๆในการบรรเลงแต่ไม่โดดออกมาจนรู้สึกวุ่นวายแบบท่อนอินโทร และในท้ายที่สุดก็จบการแสดงลงด้วยท่อนcoda 



     Waltz of the Sirens เป็นผลงานที่บ่งบอกถึงความสร้างสรรค์และความสามารถของอัลมาซึ่างเป้นผู้ประพันธ์ได้อย่างดี ส่วนตัวเราชอบท่อนเริ่มที่มีการจำลองเสียงของรถบนถนนได้ดีมากๆ และชอบมากไปอีกในส่วนของการที่เธอสามารถtransitionจากความวุ่นวายให้กลายเป็นทำนองที่เหมือนเทพนิยายได้โดยที่ยังคงelementของเสียงไซเรนซ่อนไว้ในเพลงได้อย่างแนบเนียน


    หลังจากได้รับชมแล้วก็มีความรุ้สึกที่ตกตะกอนไว้ภายในใจอยู่ว่าถึงชีวิตในเมืองจะวุ่นวาย แต่เราก็ควรจะใช้ชีวิตให้มีความสุขโดยการหยิบชิ้นส่วนเล็กๆสักอย่างในความน่าเกลียดนี้มาappreciateบ้าง เพื่อให้ชีวิตไม่มีแต่ความเศร้าและสีเทาเสมอไป 

    การแสดงคอนเสิร์ตนี้สามารถรับชมได้ทางเว็บไซต์mediciและทางyoutubeของAlma Deutscher ถือว่าเป็นการแสดงที่น่าประทับใจและน่ารับชมมากๆเลยค่ะ


เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in