...
ปิดฉากไปเป็นที่เรียบร้อยด้วยเรตติ้งทั่วประเทศสูงสุด 14.6% กับ Vincenzo ซีรี่ส์กฏหมายที่นอกจากจะท้าทายระบบสังคมเกาหลีแล้ว ยังฉีกกฏวิธีสร้างละครด้วยการผสมคอมเมดี้ แอคชั่น นัวร์ โรแมนซ์ และดราม่าไว้ครบทุกรสชาติในเรื่องเดียว พร้อมถูกบันทึกเป็นซีรี่ส์เรตติ้งสูงสุดอันดับ 6 ของประวัติศาสตร์ช่อง tvN อีกด้วย
วินเชนโซ่ กาซาโน คอนซีลเยเร่หรือที่ปรึกษาด้านกฎหมายประจำตระกูลกาซาโน เดินทางมาเกาหลีใต้บ้านเกิดที่จากไปตั้งแต่อายุ 8 ขวบ เพื่อจัดการธุระส่วนตัวก่อนจะบินไปเกษียณตัวเองที่มอลตา แต่ด้วยปัญหาบางอย่างทำให้เขาต้องเข้าไปพัวพันกับคดีกึมกาพลาซ่าและ ฮงชายอง ทนายความใจเด็ดที่พร้อมจะทำทุกอย่างเพื่อชนะคดี การร่วมมือกันของทั้งคู่เพื่อล้างบางคนที่มาเอาเปรียบนำไปสู่การทวงคืนความยุติธรรมแม้ว่าการกระทำนั้นจะข้ามเส้นการเป็น "คนดี" ก็ตาม
ถ้าคำโปรยและเรื่องย่อนี้ยังไม่สามารถเชิญชวนให้กดเข้า Netflix และเริ่มตอนหนึ่งทันทีได้นั้น วันนี้ขอนำเสนอ 5 เหตุผลว่าทำไม Vincenzo ถึงควรเข้าไปอยู่ใน My list ของคุณ
ข้อแรกที่ไม่ต้องการคำอธิบายมากมาย คุณไม่อยากพลาดการกลับมาของ ซงจุงกิ ในบทบาทที่คาริสมาติคแบบนี้แน่นอน ประกบคู่ จอนยอบิน นักแสดงที่หลายคนอาจยังไม่คุ้นตา แต่จริง ๆ เคยได้รับรางวัลนักแสดงหญิงแห่งปี จากเวที Busan International Film Award มาแล้ว เพราะฉะนั้นรับรองว่าฝีมือเธอเอาอยู่ รวมถึง ยูแจมยอง จาก Itaewon Class และ Reply 1988 ที่มาร่วมทีมสู้คดีกับบาเบล บริษัทแชโบลวายร้าย นำโดย อ๊คแทคยอน จากวง 2pm และ คิมยอจิน นักแสดงเบอร์ต้นของวงการ ที่เล่นได้ดีจนอยากทะลุจอไปตั๊นหน้าซักครั้งแถมด้วยพาเหรดนักแสดงรับเชิญอย่าง อีฮีจุน, จินซอนกยู, คิมซองชอล, นิชคุณ, ชานซอง และอื่น ๆ อีกมากมายที่เข้ามาเติมรสชาติให้เซอร์ไพรส์กันไม่ขาด แฟนซีรี่ส์เกาหลีไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง!
ขึ้นชื่อว่าเป็นซีรี่ส์มาเฟีย หลายคนอาจหวังถึงฉากบู๊ล้างผลาญ กราดยิง หรือฟาดฟันจนได้เลือด ซึ่งแน่นอนว่าคุณจะไม่ผิดหวัง แต่เสน่ห์ที่โดดเด่นกว่าในการต่อสู้ของเหล่าตัวเอกคือไหวพริบที่ทำให้ทุกแผนการแยบยลและคาดไม่ถึง ทั้งวิธีการทำงานของพระเอกที่ใช้กลยุทธ์มาเฟียและการทูตเป็นเครื่องมือได้อย่างน่าสนใจ พร้อมกับความบ้าบิ่นของนางเอกที่เล่นใหญ่ไม่ไว้หน้าใครทั้งนั้น แต่ใช่ว่าเน้นใช้สมองแล้วจะออกโรงไม่เป็น ความเลือดเย็นของทั้งคู่จะถูกเผยให้เห็นโดยไม่มีคำเตือน คุณจะเดาไม่ออกเลยว่าสองตัวละครสีเทานี้คิดจะทำอะไรต่อไป ลืมภาพตัวเอกที่อ่อนแอแล้วรอชมการทำงานของคนฉลาดระหว่างพาร์ทเนอร์มาเฟียบอสและทนายเฟมินิสท์สายไฝว้ พร้อมเคมี slow burn ที่ติดใจแล้วจะหยุดไม่ได้
ประโยคของฮงชายองในตอน 2 ที่เตือนวินเชนโซ่ว่าถ้าคิดจะต่อกรกับองค์กรในเกาหลีก็ไม่ต่างอะไรกับการสู้ในสงครามมาเฟีย ซึ่งซีรี่ส์ได้ต่อยอดประเด็นนี้โดยทำให้เห็นภาพและเข้าใจการทำงานของคอรัปชั่นได้ดีจนน่าหงุดหงิด บทละครที่เสียดสีการเล่นพรรคเล่นพวกได้เจ็บแสบและตรงประเด็นเหมือนเอาเรื่องจริงมาพูดแตกต่างกับซีรี่ส์ต่อสู้กับระบบส่วนใหญ่ที่ฝ่ายอธรรมไล่มาตั้งแต่ภาครัฐ เอกชน สื่อ และ ระบบกฎหมายมันเหนียวแน่นซะจนบางทีดูไปก็ท้อแทน หมดแรงสู้ แต่ Vincenzo ไม่ใช่แบบนั้น พวกเขาจะพาคุณเดินบนหนทางการแก้แค้นและถอนรากความชั่วร้ายด้วยความชั่วร้ายที่ยิ่งกว่า ทำให้แต่ละตอนได้ทั้งมุมมองเกี่ยวกับสังคมเกาหลีและความสะใจกลับไปเป็นของขวัญ
หากคุณมองหาพล็อตที่ซับซ้อนและเสมือนจริงมาก ๆ พูดตามตรงว่าซีรี่ส์เรื่องนี้อาจไม่เหมาะกับคุณ เพราะ Vincenzo ถูกจัดอยู่ในหมวด Black Comedy เป็นผลงานกำกับของ คิมฮีวอน ผู้กำกับ The Crowned Clown และการเขียนบทของ ปาร์คแจบอม เบื้องหลัง The Fiery Priest อีกหนึ่งซีรี่ส์คอมเมดี้ระดับตำนาน จึงปฏิเสธไม่ได้ว่ายังไงก็ต้องเจอความปั่นประสาทและคาแรคเตอร์ขาด ๆ เกิน ๆ ของตัวละครที่ดูไปคนละทิศละทางกับเส้นเรื่องที่โฆษณาไว้ แถมบางมุกก็มีความเกาหลีมากซะจนเกือบเป็น Inside Joke ที่ยากจะเข้าใจ แต่บอกเลยว่าถ้าผ่านภูเขาแห่งการปูเรื่องไปได้แล้ว คอมเมดี้ของชาวตึกนี่แหละจะเข้ามาเสริมพลังและประสานเรื่องราวให้เชื่อมกันอย่างคาดไม่ถึง เตรียมตัวหัวเราะแบบอึ้ง ๆ จากมุกตลกที่เล่นกันดื้อ ๆ ไว้แล้วจะดูซีรี่ส์ได้สนุกมากขึ้น
ถ้าบทยังไม่โดน นักแสดงก็ไม่ได้อิน แนะนำว่าอย่างน้อยก็ลองเข้าไปดูงานภาพสวย เพลงเพราะระดับ tvN และ Netflix original ก่อนได้ ทั้ง 20 ตอนมาพร้อมกับการตัดต่อและเกลี่ยสีที่มีเอกลักษณ์คู่กับเพลงประกอบที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นป๊อปภาษาอิตาลี โอเปร่า แจ๊ส แม้กระทั่ง BGM เปิดปิดก็อลังการเข้ากับฉากเรียกอาดรีนาลีนในเส้นเลือด เรียกได้ว่าคุณภาพการผลิตคับจอ สวยหรูดูแพงตามประสามาเฟียยุโรปและเกมการเมืองของเหล่าอีลีท นอกจากนี้ยังมีรายละเอียดของเสื้อผ้า หน้าผม โลเคชั่น ยันการเล่น symbol และ reference เล็ก ๆ น้อย ๆ ระหว่างทางให้เก็บไปคิดตามและสนุกกับการวิเคราะห์อีกด้วย
ถึงขั้นนี้แล้วก็กล้าพูดว่าชมออกนอกหน้า เพราะนานแล้วที่ไม่ได้ดูซีรี่ส์โปรดักชั่นอลังการแบบนีี้ ถึงจะมีความฝืด ความไม่ตรงปก หักมุมน่าขัดใจที่ไม่ตรงสเป๊คบ้างในบางจุด แต่ก็ต้องยอมรับว่าสดใหม่ ไม่ใช่พล็อตและการเล่าเรื่องที่ได้เห็นกันบ่อย ๆ เช่ื่อว่าตอนนี้ได้เป็็นซีรี่ส์อีกเรื่องที่ยกระดับมาตรฐานวงการและมาตรฐานแฟนคลับให้สูงขึ้นแล้วแน่นอน ในฐานะผู้เสพคงถือว่าเป็นเรื่องดี เพราะในปีถัด ๆ ไปเราอาจได้ดูละครที่ epic กว่านี้ก็เป็นได้ แต่ก่อนจะถึงตอนนั้น ไป Binge watch "Vincenzo ทนายมาเฟีย" เถอะ แล้วจะไม่เสียดาย
...
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in