เรื่องเดียวที่ทำให้เราเคยคิดว่าไม่น่ามาแลกเปลี่ยนที่นี่เลย ก็คือการโดนอ.เรียกไปคุย (จริงๆคือเข้ามาคุยด้วยแบบเนียนๆ) หลังจากมากิฟุได้ประมาณ2 เดือน สาเหตุก็คือการเรียนเราดรอปลง (ที่อ.คิดไปเองว่า) เพราะเข้าชมรม แล้วก็ถ้าใครเคยได้ยินว่าคนญี่ปุ่นไม่ชอบพูดอะไรตรงๆ เหตุการณ์นี้แหละทำให้เชื่อเลยว่าจริง
เรื่องมันเกิดตอนเราเดินไปห้องสมุดกับอ.ที่ปรึกษาซึ่งเป็นอ.ที่รับผิดชอบนิกเคงเซโดยตรงด้วย ปกติแกจะเป็นคนใจดีมากก ในคลาสมี 3 คน แต่ระหว่างที่เดินอยู่ดี ๆ อ.ก็เข้ามาคุยกับเรา มาถามเรื่องเข้าชมรม อ.รู้เพราะเราบอกเอง ตอนที่เราบอกว่าจะเข้าชมรมแกก็ดูดีใจนะ แล้วแกก็มาถามเหมือนชวนคุยอะว่าเข้าชมรมเป็นไงบ้าง สนุกมั้ย เหนื่อยรึเปล่า ด้วยความที่เราชอบชมรมมาก แล้วก็ดีใจที่อ.มาถาม ก็เลยเล่าไปเยอะมาก แต่ตอนที่กำลังเล่าเพลินๆก็ดันโดนอ.เบรกว่า เนี่ย อ.ทุกคนเค้าเป็นห่วงเรามากนะ (อ่อ ต้องอธิบายก่อนว่าอ.ทุกคนที่สอนนิกเคงเซพอสอนเสร็จแล้วเค้าจะมีการไปคุยกัน ว่าสอนอะไรไปบ้าง นักเรียนเป็นยังไง ทำได้มั้ย รวมถึงทุกเรื่องที่เราพูดอ.เค้าก็จะเอาไปคุยกันด้วย แม้แต่เรื่องเล็กๆอย่าง วันนี้ไปกินเนื้อย่างมานะ เล่าไปคาบนึง สรุปอ.รู้ทุกคน งงมาก) กลับมาต่อ ณ จุดๆ นั้นก็คืองงว่าห่วงอะไร อ.ก็บอกว่าเนี่ยได้ยินว่าการเรียนของนิกเคงเซแย่ลงมากเลยนะ อ.ทุกคนก็เลยยิ่งเป็นห่วงคิดว่าเป็นเพราะเราเข้าชมรมรึเปล่า ตอนนั้นคืองง หนึ่งคืองงกับคำว่าการเรียนแย่ลงมาก เพราะส่วนตัวเราเองไม่ค่อยรู้สึก ถ้าเทียบเป็นคะแนนหรือการส่งงานต่างๆ เพราะรู้สึกว่าทำดีแล้วในระดับที่เราทำได้ตอนนั้น แต่เราแค่รู้สึกว่าตอนนั้นงานมันเยอะมากเพราะใกล้ปิดเทอม นอนแทบไม่พอสักวัน ความกระตือรือร้นในห้องเรียนก็อาจจะดรอป ซึ่งไม่ใช่แค่เราคนเดียว เพื่อนคนอื่นก็ด้วย ซึ่งคนอื่นไม่ได้เข้าชมรม และส่วนตัวเรารู้สึกว่ามันไม่เกี่ยวกับชมรมเลย (เพราะเคยโดดชมรมมาปั่นงานแล้ว ผลลัพธ์คือนอนไม่พอเหมือนเดิม) แล้วที่พีคสุดคืออ.พูดว่า เด็กแลกเปลี่ยนน่ะมาญี่ปุ่นเพื่อเรียนนะ ส่วนเรื่องชมรมน่ะ...
แล้วพออาทิตย์ถัดมาก็ช็อกกว่าเดิม เพราะอ.เกือบทุกคาบ จากที่เคยใจดีมากๆ อยู่ดีๆก็เข้มขึ้นมา เรื่องที่ไม่เคยด่าก็ด่า เรื่องธรรมดาก็เอามาแซะ แบบที่เค้าบอกว่าคนญี่ปุ่นไม่พูดตรงๆเพราะรักษาน้ำใจกันนี่ อยากจะบอกว่าที่พูดแซะเนี่ยมันเจ็บกว่าอีก
ช่วงนั้นก็เลยเป็นช่วงที่ทั้งเฟลทั้งนอย ไหนจะโดนเพ่งเล็งเรื่องชมรมอีก หลังจากนั้นพอโดนอ.ถามว่าวันนี้เข้าชมรมมั้ย ช่วงนี้ชมรมเป็นไง จากที่เราจะเล่าได้แบบสบายใจ ก็ต้องคอยกังวลว่าอ.จะเอาไปคุยกันอีกมั้ย อึดอัดมาก จริงๆเคยโดนถามด้วยว่าไม่คิดจะเลิกเข้าชมรมจริงๆหรอ ก็บอกไปเลยนะว่าไม่เลิก อยากจะบอกว่าเราไม่ได้มาญี่ปุ่นเพื่อแค่เรียน เรามาเพื่อเอาประสบการณ์ ใน study plan ที่ส่งตอนสมัครทุนก็เขียนไว้ว่าอยากมาเข้าชมรมที่ญี่ปุ่น อยากมาเที่ยวเยอะๆ เราเขียนส่วนนี้เยอะกว่าเรื่องเรียนด้วยซ้ำ แล้วอยู่ดีๆมาโดนอ.บอกว่าเรามาเพื่อเรียนอย่างเดียวนะ คืองงไปหมดเลยตอนนั้น (แต่สุดท้ายเทอมถัดมาอ.ก็ยอมรับนะ แถมยังช่วยสนับสนุนด้วย แบบงงไปหมด555)
แต่ก็เป็นเรื่องเดียวแหละที่ทำให้เสียใจขนาดนั้นแล้วก็ได้เข้าใจความเป็นญี่ปุ่นมากขึ้นๆว่ามันมีอะไรแบบนี้ด้วย แล้วก็ไม่ขอเจออีกแล้วนะ รับไม่ไหวอะ ถ้าอยากเตือนอะไรก็ช่วยเดินเข้ามาพูดตรงๆว่าช่วงนี้การเรียนดรอปลงนะ มีอะไรหรือเปล่า เกี่ยวกับชมรมมั้ย หรือว่างานมันเยอะไป มีอะไรก็บอกอ.ได้นะ แบบนี้จะดีกว่าการเอาไปคุยกันเอง ตีความกันเอาเอง แล้วก็มาพูดแซะอ้อมไปอ้อมมาแบบนี้เยอะเลย
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in