เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Knowledge of life (Experience) บทความสั้นๆ ประสบการณ์เกี่ยวกับชีวิตNT Naituey
ถึงอย่างนั้นความรักก็ยังงดงาม Love is still beautiful
  • หัวข้อนี้บางคนอาจจะได้ยินมาบ้าง "ถึงอย่างนั้นความรักก็ยังงดงาม" ถูกเขียนออกมาเป็นหนังสือโดย"คิดมาก" 

    ครั้งแรกที่เห็นหนังสือเล่มนี้ คืออออ แค่ชื่อปกก็น่าอ่านแล้วป่ะ (เป็นเหมือนกันมั้ย) หรือเป็นเพราะอยู่ในช่วงที่รักราว 555
    แต่ยังก็เหอะ ความรักที่ดีที่สุดคือการที่เราได้ทำให้อีกฝ่ายมีความสุข มันก็รู้สึกดีไปด้วยแล้ว จริงไหม??

    แต่การที่เราจะทำให้คนอื่นมีความสุขนั้นตัวเราเองควรมีความสุขด้วยเช่นเดียวกัน เมื่อเราไม่มีความสุขเลย เราจะทำให้คนอื่นมีความสุขได้อย่างไหร่ เหมือนเรากำลังจะสอนภาษาไทยให้กับ ม.ปลาย แต่เรากลับจบแค่ ม.ต้น มันก็เป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว 

    เราต้องทำความรู้จักกับความรักและความสุขให้มาก เมื่อเข้าใจมันเป็นอย่างดีแล้วก็พร้อมจะมอบสิ่งดีๆ ให้คนอื่นได้

    ในการเลิกราระหว่างคนสองคน หลายครั้งสิ่งที่เสียดายที่สุด ไม่ใช่ เวลาที่เคยใช้ร่วมกัน แต่คือความรู้สึกดีๆ ที่เคยมีให้กัน


    ด้านล้างนี้เป็นส่วนหนึ่งของหนังสือ"ถึงอย่างนั้นความรักก็ยังงดงาม"
         
       เมื่อพูดถึง "ความรัก" เรามักจะนึงถึง "ความลับ" เพราะมันเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างคนสองคน ไม่ใช่คนอื่นเข้าไปรู้เห็นได้ เป้นเรื่องที่คนสองคนต้องช่วยกันสร้างและกอดประคองมันไปให้ตลอดรอดฝั่ง

    เริ่มต้นจากคนสองคนที่ไม่รู้จักกัน มาจากครอบครัวที่ต่างกันมาแลกเปลี่ยนและทำความเข้าใจซื่งกันและกัน ในช่วงเริ่มนั้นความรักมักจะสวยงามเสมอ เพราะทั้งสองฝ่ายพร้อมจะมอบสิ่่งดีๆ ให้แก่กัน เป็นการส่งพลังบวกให้กันและกัน ทั้งสองฝ่ายต่างพร้อมที่จะจัดการเรื่องแย่ๆ เพียงลำพัง โดยไม่ทำให้อีกฝ่ายเดือดร้อนใจ

    แต่เรื่องตลกก็คือ เมื่อสานสัมพันธ์มาได้ระยะหนึ่งความรู้สึกเคยชินเรื่มมาแทนที่ความหอมหวานในครั้งก่อนทำให้แต่ละคนต่างคาดหวังและเรียกร้องจากอีกฝ่ายมากกว่าเดิม จนทำให้อีกฝ่ายรู้สึกเจ็บช้ำน้ำใจ และในที่สุด "สงคราม" ระหว่างชายหญิงก็เกิดขื้น

    จากความรักเปลี่ยนเป็นการเอานะซืึี่งกันและกัน ซึ่งทั้งสองไม่เคยรู้เลยว่า ในหนทางนี้จะมีแต่ผู้แพ้ ไม่เคยที่จะมีผู้ชนะเลยสักหน แต่ถ้าเราเข้าใจว่าความรักคือการเรียนรู้อย่างหนึ่ง ในวันที่ความรักเริ่มจืดจางลง เราเริ่มเข้าใจว่าไมช่หน้าที่ของใครที่จะเติมความหอมหวานให้กลับคืนมา แต่เป็นหน้าที่ที่เราทั้งสองคนต้องช่วยกัน 

    นอกเหนือจากนั้นแล้ว เราต้องรู้อีกว่า การคาดหวังให้คนอื่นมาเติมเต็มเรานั้นเป็นเรื่องที่คลาดเคลื่ยน เพราะไม่มีใครที่จะอยู่กับเราได้ตลอดเวลา ตลอดชีวิตนอกจากตัวของเราเอง 

    หากเราไม่เคยเติมเต็มตัวเอง ก็คงไม่มีใครจะมาเติมเต็มให้เราได้

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in