สวัสดีทู้กๆคน
เชื่อว่าน่าจะมีหลายคนเลยแหละที่คิดว่าครอบครัว เป็นเพียงชื่อเรียก แต่ในความหมายของมัน เราไม่เคยอินกับมันเลย
Blog นี้เขียนขึ้นเพื่อมาแชร์เรื่องราวของและแง่คิดดีๆ :)
“ หากครอบครัวของเราคือหลุมดำดีๆนี่เอง เราจะเอาชีวิตรอดในหลุมหลบดำที่ยังไง ”
“ แล้วถ้าวันนึงโลกนี้ไม่น่าอยู่ แล้วเราจะอยู่ไปทำไมกันนะ ? ”
คำถามนี้เคยวนเวียนในหัวเราเมื่อหลายปีก่อน อะไรๆก็ดูแย่ไปหมด ทำอะไรก็ดูผิดที่ผิดทางผิดเวลา จนเราเอาเชือกจากปลอกหมอนข้าง ดึงมันออกมา และรัดคอตัวเอง รัดอย่างคนโกรธและบ้าคลั่ง คำถามในหัว ผุดขึ้นมากมาย “ เกิดมาทำไม อยากตาย ” เสียงตัวเราเองวนก้องอยู่ในหัว วนไปวนมา จนวินาทีที่มันเกือบจะขาดใจ
“ วินาทีที่ใกล้ความตายจะทำให้เราคิดอะไรได้ ”
แต่…….. ความลับไม่มีในโลกจริงมั้ย ? ไดอารี่เล่มนั้นถูกเฉลย โดยบุคคลที่ฉันเคยไว้ใจเขามากที่สุด เขาฉันนำไดอารี่ไปให้ทุกคนในครอบครัวอ่าน เหมือนจะ happy ending คนในครอบครัวรับรู้ถึงความรู้สึกลูก และเข้าใจ ปรับตัวหากัน 55555555555 ตลกสิ้นดี มีแต่ในละครแค่นั้นแหละ เมื่อทุกคนได้อ่านไดอารี่นั้น เสียงออดจากชั้นล่าง ดังลั่นไปที่ห้องนอนเรา เป็นสัญญาณว่ามีคนเรียก เสียงนรกเลยแหละ ทุกคนจ้องมองมาที่ฉัน ที่ลงบันไดมา และมีไดอารี่ของฉันวางอยู่บนโต๊ะกินข้าว ความรู้สึกฉันในตอนนั้น รู้เลยว่าตกนรกทั้งเป็นกำลังเกิดขึ้นในไม่ช้า
“ xxxxxxx ” สิ้นเสียงคำด่าหูฉันดับ โดยไม่ได้ยินอะไร ฉันนั่งคุกเข่า ละทุบตีฉัน สายตาฉันมองคนที่ฉันรักและไว้ใจ ด้วยความโกรธแค้น หูฉันไม่ได้ยินอะไรเลย ฉันโดนทุบตีด้วยมือ ด้วยไม้แขวนเสื้อ แต่ตาฉันจ้องไปที่เขาและร้องไห้ มันเจ็บปวดมาก นั่นแหละ ความรู้สึก Safe zone พังไปในพริบตา เมื่อเขาดุด่าจนพอใจ ฉันก็กลับไปทำหน้าที่ของเด็กที่ดี
" ความกตัญญูนี่มันค้ำคอจริงๆ "
ฉันเหมือนคนไร้ความรู้สึก อย่างกับวิญญาณหลุดออกจากร่าง มีแต่กายหยาบ ยืนขัดสก๊อตไบท์กับจานชาม น้ำตาหยดแมะๆ แน่นอนข้าวเย็นมื้อนั้นแทบไม่พร่องกับข้าวเหลือเพียบ ฉันรวบรวมขยะ แล้วเดินไปทิ้งหน้าบ้าน พบว่ามีหมาจรถึง 2 ตัว นั่งอยู่หน้าบ้าน กระดิกหางดุ้กดิ้ก ฉันเลยถือถุงขยะนั้นเดินกลับไปในครัว และแก้ถุงขยะออก นำเศษอาหารที่พวกมันน่าจะกินได้ มาล้างน้ำและคลุกข้าวใหม่ แบ่งใส่ถุง และนำมาให้พวกมัน พวกมันดูดีใจมากๆ และกินข้าวอย่างอร่อย ทั้งๆที่เป็นเศษกับข้าวที่มันเป็นเศษขยะชัดๆ ฉันนั่งมองพวกมันกินจนหมด น้ำตาไหลเลย รู้สึกอยากเกิดเป็นหมาเฉย 555555555555
แต่นั่นแหละทำให้ฉันรู้ได้ว่า ถ้าฉันตายไป ใครจะให้อาหารพวกมันนะ อย่างน้อยการมีชีวิตอยู่บนโลกของฉัน คงทำให้หมาสองตัวนี้กินอิ่มไปนอนหลับไปได้อีกนานเลยแหละ หลังจากนั้น ฉันก็เก็บออมเงินค่าขนม มาซื้ออาหารเม็ดให้มันกิน เพราะไม่อยากให้มันกินเศษอาหารของคน
ทุกวันนี้เราต้องขอบคุณหมาทั้ง2ตัว ที่ทำให้เรามีชีวิตต่อมาจนถึงทุกวันนี้ บางทีการที่เราทำเรื่องดีๆ แม้จะเป็นเรื่องเล็กน้อย มันก็ทำให้เรารู้สึกดีกับตัวเอง ขอบคุณตัวเองที่ไม่รีบชิงตายไปเสียก่อน ขอบคุณหมาที่นั่งน่าสงสารน้ำลายไหลอยู่หน้าบ้านในวันนั้น ที่ทำให้ฉุกคิดว่า ชีวิตเราก็มีประโยชน์เหมือนกันแหละ อย่างน้อยก็ต่อชีวิตให้มันสองตัว กินอิ่มไปได้หลายมื้อ หาคุณค่าในชีวิตของตัวเองให้เจอ มันต้องมีซักข้อแหละที่ทำให้เรารู้สึกว่า “ เรามีประโยชน์และเราไม่สมควรตาย โดยที่ยังไม่ได้ทำอะไรอีกหลายอย่างเลย ”
ลองให้อะไรใครโดยไม่หวังผลตอบแทน ลองทำดีกับตัวเอง ลองคิดอะไรดีๆ ง่ายๆ ไม่ซับซ้อน บนโลกนี้เราชอบฟังเพลงอะไร วงดนตรีไหน เราคิดว่าถ้าได้ฟังสดซักครั้ง คงดีไม่น้อย อย่างน้อยมีชีวิตเพื่อไปฟังดนตรีสด ซักครั้ง สองครั้ง ลองไปเที่ยวในที่ที่ไม่เคยไป ให้โอกาสตัวเองได้เจอสิ่งดีๆ มอบสิ่งดีๆให้กับตัวเองใจเย็นๆและมีสติทุกย่างก้าว หาคุณค่าของตัวเองให้เจอ หาข้อดีของการมีชีวิตต่อ เพื่อใครซักคน อย่างน้อยก็เพื่อตัวเอง………………………………………………………..
คนบนโลกทำร้ายเรามากมาพอแล้ว ใจดีกับตัวเองบ้างแล้วกัน ?
กฎข้อนึงที่เราบอกกับตัวเองเสมอว่า “ ไม่มีใครรักเรา เท่าตัวเราเอง ”
ไม่มีใครอยากให้เราอยู่บนโลกนี้เท่าตัวเราเอง ไม่มีใครมองว่าเรามีค่า หรือด้อยค่า นอกจากตัวเราเอง
ขอบคุณตัวเอง ให้โอกาสตัวเอง ขอโทษตัวเอง ทำสิ่งดีๆเพื่อตัวเอง ชดเชยที่มีคนมาทำร้ายเรา
รักตัวเองนี่แหละไม่มีวันอกหักหรือหมดรักแน่นอน รักตัวเองให้ดีจะได้ไปรักคนอื่นอย่างมีคุณภาพ
เราเป็นกำลังให้ทุกๆคนที่กำลังเผชิญปัญหานี้นะคะ หากใครมีเรื่องไม่สบายใจ มาร่วมแชร์กันได้เลยนะคะ แลกเปลี่ยนความคิด ระบายความใจ
Blog นี้เป็น Blog แรกของเราผิดยังไงคอมเม้นต์ติได้เลยน้า ยังไงฝากติดตามตอนต่อไปด้วยน้าาาา >/////<
ขอฝากคำคมไว้นิดนึงน้า
“ ถ้า Do my best แล้ว ก็ wish you all the best นะคะ ”
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in