คืนหนึ่งในเดือนพฤศจิกายน เที่ยงคืน หลังบาร์ปิด เรานั่งกันอยู่ในโรงแรมม่านรูดริมทะเลสาบ ด้านหน้าเป็นหาดทรายขาวนวลเรียงเม็ดละเอียด น้ำทะเลสีเขียวมรกต คลื่นทะเล เสียงลมบาดโขดหิน ลมทะเลหอบเอาความเหงาเข้าปกคลุม ผมนั่งอยู่กับหญิงสาวไร้ชื่อที่พบเจอกันที่บาร์ เธอมาคนเดียว สูบบุหรี่กาแรมและดื่มเบียร์ช้าง เราสบตากันในเพลง ทุ่งสีดำ - ปาล์มมี่ เสียงเพลงเคล้าคลอระหว่างที่เราสบตากัน ก่อนที่บาร์จะปิด และเธอกับผมก็ซ้อนมอเตอร์ไซค์คันเก่าบุโรทั่งมาที่โรงแรมแห่งนี้ เธอนั่งบนเก้าอี้ไม้เก่าๆสีแดง ทอดสายตาออกไปนอกหน้าต่าง ทะเลสีดำในค่ำคืนอันร้อนอบอ้าว ไฟจากเรืออวนยังกระพริบเป็นจังหวะ คล้ายหิ่งห้อยที่อัมพวา เธอจุดบุหรี่มวนสุดท้ายขึ้นสูบ ส่วนผมนั่งอยู่บนเตียงนอนอันแข็งกระด้างปูด้วยฟูกสีน้ำตาล "โรงแรมราคาสามร้อยห้าสิบ แต่บรรยากาศระดับล้าน" เธอพูดพร้อมพ่นควันบุหรี่ "เจอที่ได้ยังไง"ผมถามพร้อมยกเบียร์ขึ้นดื่มอึกใหญ่ "สมัยเรียนอาชีวะ แฟนเก่าชอบพามาที่นี่" " มี Sex หรอ ? " " ไม่จำเป็น บางทีก็เล่นไพ่ ดูหนัง ติวหนังสือ ม่านรูดมีอะไรให้ทำอีกเยอะแยะ " เธอโยนเถ้าบุหรี่ออกจากหน้าต่าง พ่นควันระลอกสุดท้ายออกจากปากอย่างผ่อนคลาย เธอลุกจากเก้าอี้ มานั่งบนเตียง สบตากับผม ได้กลิ่นมิ้นท์จากลมหายใจของเธอ " คืนนี้ไม่อยากทำอะไรหรอ?" " มี Sex กันมั้ยล่ะ?" " มันยังเร็วเกินไป อีกอย่าง เราเพิ่งพบเจอกัน " ผมมองริมฝีปากเธอที่แห้งผาก รอยแตกระแหง เธอเผลอกลืนน้ำลายเมื่อเราสบตากัน " เอางี้ เราจะให้แกจูบเรา แต่เราจะจับมือแกไว้ โอเคมั้ย?" ผมพยักหน้า ก่อนจะโน้มตัวไปจูบเธอ สัมผัสแรก ริมฝีปากเธอเย็นฉ่ำ กลิ่นมิ้นท์อ่อนๆกำซาบมา เธอจับมือผมแน่น ก่อนลิ้นสองเราจะพันกัน ดูดดื่ม ชุ่มฉ่ำ น้ำลายแตกฟองไหลเลอะริมฝีปาก ริมฝีปากเธอที่แห้งปาก ทาเคลือบด้วยลิปสติกสีชมพูกะปิ ตอนนี้ชุ่มฉ่ำและดูดดื่ม ลิปสติกสีชมพูรสมิ้นท์ละลายในปากผม เธอปล่อยมือที่จับผมไว้ ก่อนจะผลักผมล้มลงบนเตียงอันแข็งกระด้าง เธอโน้มตัวลงมาจูบผม จูบอย่างกระหายและดูดดื่ม จูบยาวนานราวกับเจ้าหญิงนิทราที่รอจุมพิต มือเธอจับแก้มผมอย่างแผ่วเบา ลูบไล้ไรหนวดและเคราอย่างทะนุถนอม เธอเผลอกัดริมฝีปากผม ผมร้องครางเบาๆ ก่อนเธอจะไล้ลงซอกคอที่ปกคลุมไปด้วยเครารกครึ้ม เธอดูดคอผม กระหายราวกับเวมไพร์ดูดเลือด ดูดดุนเบาๆ ราวกับการแสดงความเป็นเจ้าของเหมือนเด็กมัธยมเขาทำกัน คอผมแดงฉาด เป็นรอยจ้ำเป็นจุดๆตามที่เธอดูด แต่ผมกลับเสียวซ่าน มือผมลูบหัวเธออย่างแผ่วเบา บางคราวเผลอดึงเส้นผมสีเหลืองทองของเธอติดมือมาด้วย เธอดูดคอผมจนน้ำลายเยิ้มคอ เธอเงยหน้าขึ้น ใช้แขนเสื้อสีเหลืองมัสตาร์ดเช็ดน้ำลาย เราแลกลิ้นกันอีกครั้งในท่านั่ง ก่อนที่มือผมจะหลุดจากพันธนาการ และล้วงเข้าไปในเสื้อของเธอ ล้วงเข้าไปในชุดชั้นใน เต้าถันของเธอเต่งตึงเป็นพวง ผมสัมผัสอย่างแผ่วเบา เธอครางระส่ำระส่ายรับกับมือเวลาผมบีบยอดปทุมถัน มือผมเลื้อยไปเรื่อยคล้ายปลาหมึก เธอสูดปากก่อนจะครางอย่างแผ่วเบา ผมเค้นเต้านมของเธออย่างหื่นกระหาย ก่อนจะเลิกเสื้อของเธอขึ้น เห็นเนินอกของเธอเต็มสองตา ผมล้วงไปในเสื้อในวาโก้สีน้ำตาลอ่อน บีบเค้นเนินอกของเธอ ก่อนจะซุกหน้าลงไประหว่างเต้าถัน สูดดมกลิ่นกายเธอ น้ำหอมกลิ่นกุหลาบที่ซอกคอ กลิ่นสบู่เหลวที่เธอชอบทา กลิ่นเหงื่อเค็มๆผสมกับกลิ่นโรลออนของเธอ กลิ่นเนื้อหนังมังสาของหญิงสาวในอ้อมกอด รวมๆแล้วทำให้เขาอยากดอมดมไปตลอดชีวิต เธอครางแผ่วเบา ก่อนที่เขาจะเลิกยกทรงของเธอขึ้น ก่อนจะใช้ลิ้นโลมเลียและดุดดุนยอดประทุมถันของเธอ เธอหายใจแรงและเหนื่อยหอบ เท้าทั้งสองอยู่ไม่นั่ง ลำตัวเกร็งด้วยความเสียวซ่าน ผมยัดนิ้วชี้ให้เธอดูดและเลีย เธอดูดเลียอย่างกระหายราวกับจูบกับผมอย่างดูดดื่ม ผมเล่นลิ้น สลับกับเลีย ขบฟันเบาๆลงบนเนินอกอันขาวผ่องเห็นเส้นเลือดของเธอ เธออ่อนปวกเปียกไปทั้งตัว ช่างแตกต่างกับเธอที่เจอในบาร์ แต่ยังไงเสียคืนนี้เราก็คงไม่มี Sex กัน เหมือนที่เธอเอื้อนเอ่ยกับผม ผมยังคงง่วนอยู่กับหน้าอกของเธอ บีบเค้น ดูดและโลมเลียจนแดงจ้ำ เธอจิกหัวผมเพราะความเสียวซ่าน ก่อนผมจะจับเธอลุกขึ้นนั่ง แล้วล้วงไปในกางเกงยีนส์ขาสั้นของเธอ ถลกมันไว้ระหว่างขา ให้เธอนั่งคุกเขาและผมคร่อมร่างเธอเอาไว้ กางเกงในสีน้ำตาลของเธอเปียกชุ่มไปด้วยน้ำแห่งความกำนัด ผมล้วงเข้าไป นิ้วมือทั้งห้าสัมผัสไปด้วยความแฉะฉ่ำน้ำรัก โยนีเธอโกนเกลี้ยงเกลาและสะอาด ใต้แสงไฟนีออนในโรงแรมม่านรูด ผมอยากซุกหน้าเข้าไปจริงๆ ก่อนผมจะใช้นิ้วบี้และเขี่ยติ่งเนื้อที่ยื่นออกมา ปากก็ประกบจูบกับเธอ เธอเสียวซ่านกว่าเดิม แอ่นเอวตามจังหวะนิ้วของผม นิ้วผมทั้งเมืองและลื่น เวลาลากผ่านร่องเสียวของเธอ เธอกระตุกและกัดริมฝีปากผมแรงขึ้น เลือดไหลซิบๆจากริมฝีปากอันหยาบกร้านของผม ก่อนผมจะบี้และบดนิ้วลงไปอย่างระรัว พร้อมซุกหน้าลงไปเนินอกของเธอ เสียงหัวใจเต้นระรัวดังออกมาจากเต้าทั้งสองข้าง หัวนมสีชมพูอ่อนของเธอชูชันเต่งตึง ผมเผลอกัดหัวนม เธอสบถคำหยาบ ก่อนจะผ่อนคลายลงเพราะนิ้วของผมลากผ่านร่องสวาท แอร์ที่โรงแรมค่อนข้างร้อน เหงื่อเธอไหลอาบร่องนม เหงื่อเม็ดเล็กๆผุดพราวบนใบหน้า ก่อนจะไหลลงอาบไล้คอและไหลสู่เนินนมจนเปียกชื้น สีหน้าเธอสุขและเจ็บปวดในคราเดียวกัน ก่อนผมจะดึงกางเกงในเธอจนขาด เผยให้เห็นติ่งเนื้อที่เปื้อนไปด้วยน้ำ เธอคงผ่านผู้ชายมาหลายคน ผมลองมองของสงวนของเธอ ติ่งเนื้อเผยอออก ทั้งเยินและปลิ้นออกมา สีดำคล้ายดอกกุหลาบที่เหี่ยวเฉา น้ำรักของเธอสีขาวใสกำลังไหลเยิ้มชะโลกดอกกุหลาบสีดำนั้น " เราจะแตกแล้วว" เสียงเธอกระซิบบอกด้วยน้ำเสียงระส่ำระส่าย ผมแทงนิ้วลงไปในร่องของเธอ มันช่างหลวมโพรก เธอสะดุ้งและจิกหัวผมแน่น ผมแทงนิ้วชี้และนิ้วกลางเข้าๆออกๆ ไม่นานร่างเธอก็กระตุกและสั่นไหว น้ำรักของเธอพุ่งและฉีดออกมา เลอะเปรอะเปื้อนไปทั้งเตียง คล้ายวาล์วน้ำของท่อประตาที่แตก หรือ เขื่อนที่แตกเพราะน้ำท่วม เธอนอนหมดแรงในอ้อมแขนของผม หายใจเหนื่อยหอบจนตัวหอบโยน ผ้าห่มและผ้าปูเตียงเปียกชุ่มไปด้วยน้ำรัก เธอกอดผมอย่างแนบแน่น ก่อนเธอจะกระซิบแผ่วเบาว่า "เราชื่อสุชาดา ยินดีที่ได้รู้จัก" ก่อนที่เราจะจูบกันอย่างแผ่วเบา และผมเผลอหลับไปในห้วงนิทรา ยามสาย ผมลืมตาตื่นด้วยความเหนื่อยอ่อน รอยแดงจ้ำที่ลำคอยังชัดเจน แสงแดดส่องทะลุหน้าต่างไม้ที่แง้มไว้ น้ำรักของเธอที่เปื้อนผ้าห่มแห้งกรังส่งกลิ่นโชย พัดลมเพดานที่พัดเอื่อยๆ ผมชันตัวลุกขึ้น เธอหายไป ? เธอหายไปไหน? เสื้อผ้า กระเป๋า เสื้อกันหนาวของเธอหายไป หรือเธอจากผมไปเสียแล้ว? ผมรีบใส่เสื้อผ้า เก็บของ เข้าห้องน้ำล้างหน้าล้างตา ย่ำเท้าออกจากโรงแรมม่านรูด เดินสวนกับผู้ดูแลโรงแรมวัยกลางคน เลยเอ่ยถาม " โทษนะครับลุง เห็นผู้หญิงตัวเล็กๆที่มากับผมเมื่อคืนไหมครับ?" "เมื่อคืนคุณมาคนเดียวนี่ครับ ในใบเสร็จเขียนว่าเข้าพักคนเดียว" "จะคนเดียวได้ยังไงครับ เมื่อคืนเธอยังอยู่กับผมอยู่เลย" ผมตอบพร้อมสับสนเพราะเพิ่งสร่างเมา "เจอดีเข้าอีกคนแล้วสินะ คนที่เจอเมื่อคืนชื่อสุชาดาใช่ไหม?" ลุงถามพร้อมจุดบุหรี่ขึ้นสูบ "ลุงรู้จักเธอหรอ ตอนนี้เธออยู่ไหน?" ผมถามอย่างมีความหวัง "คนที่เข้าพักห้องนั้น จะเจอเหตุการณ์แบบคุณทุกคน" ลุงพูดพร้อมอัดบุหรี่เข้าปอดแล้วเล่าต่อ "สุชาดาเคยมาพักที่นี่กับแฟน เธอมาในชุดนักเรียนอาชีวะ เธอมาที่นี่บ่อย แต่วันหนึ่งเธอจับได้ว่าแฟนนอกใจ จึงมาเคลียร์กับแฟนที่นี่ ก่อนจะโดนแฟนและเพื่อนของเธอรุมข่มขืน และนำศพไปโยนทิ้งทะเลสาป" ลุงพบศพเธอคนแรก หน้าอกเสื้อเธอปักไว้ว่า " สุชาดา 402 " " 402 มันคือเลขอะไร? ผมถามพร้อมทั้งน้ำตาอาบแก้ม " " คุณคงไม่ได้สังเกตสินะ ว่าต้องที่คุณพักเมื่อคืน คือห้องหมายเลข 402 " ทีนี้เข้าใจเรื่องทั้งหมดแล้วยัง? ลุงถามพร้อมเอื้อมมือมาตบบ่าผม ก่อนจะเดินไปทำความสะอาดห้อง 402 รังรักของผมกับสุชาดาเมื่อคืนที่ผ่านมา . . .