จำได้ว่าล้อแตะพื้นสนามบินฟุคุโอกะประมาณ7.30 น.
รู้สึกว่าจะเร็วกว่าที่คิด
จากประสบการณ์ คิดว่าคนน่าจะไปออกันตรงตม.เยอะเหมือนไฟลท์เช้าที่อื่นๆ เลยชวนชาวคณะไปเข้าห้องน้ำล้างหน้าแปรงฟันแต่งหน้าก่อนดีกว่าแล้วค่อยไปต่อแถว ปรากฏว่ามีเจ้าหน้าที่เดินมาบอกว่าเดี๋ยวไฟลท์ต่อไปจะลงแล้ว ห้องน้ำไปเข้าด้านในก็ได้
เอ๊ะ... นี่ไล่กันอ้อม ๆ ป่ะ
ตอนต่อแถวคนก็เยอะตามคาดแหละ เพราะนอกจากไฟลท์เราก็เหมือนจะมีไฟลท์อื่นก่อนหน้าด้วย แต่ที่งงสุดคือเจ้าหน้าที่พาไปตรงเครื่องสแกนพาสปอร์ตซึ่งมีขั้นตอนคล้าย ๆออโตเกทเหมือนบ้านเราอ่ะ ตอนนั้นก็คิดว่าเออ.. ดีจังเนอะ ชาวต่างชาติใช้ออโตเกทก็ได้ เหมือนสิงคโปร์(ขาออก)เลย แต่พอผ่านเครื่องเสร็จก็ไปต่อแถวเหมือนเดิม (อ้าว) สักพักคนเริ่มเยอะจนหางแถวมั่วไปหมดเขาก็หยุดใช้เครื่อง โถ... พี่คะ ให้ต่อแถวแบบบ้าน ๆเหมือนเดิมก็ได้ สงสัยอยากจะใช้ของใหม่มั้ง
เราไม่แน่ใจว่าเราเคยเขียนเล่าไปในบันทึกเรื่องทริปอื่นหรือยัง แต่ตัวเราเนี่ยเป็นคนอับโชคในการต่อแถวมาก ต่อแถวไหนมักจะช้าเสมอ ซึ่งทริปนี้เองก็เจอมาตั้งแต่ตอนอยู่สุวรรณภูมิอ่ะ และแน่นอนว่ามาถึงสนามบินฟุคุโอกะชะตาชีวิตเราก็ยังเป็นเช่นเดิม
ลำดับในการต่อแถวผ่านตม.จะเป็น
แม่- - คนอื่น ๆ ๆ ๆ - - เรา - - คนอื่น ๆ ๆ ๆ - - พี่สาว - - คนอื่น ๆ ๆ ๆ - -น้องสาว
ซึ่งเท่าที่มองดูน้องสาวนี่ห่างจากเราเยอะมาก ไป ๆ มา ๆ แถวอื่นเขาไปกันหมดแล้วจนน้องสาวมาต่อหลังเรา และแถวเราก็ช้าเหลือเกิน คือกว่าจะผ่านไปได้คือแม่กับพี่รับกระเป๋าไปนั่งรอข้างนอกแล้ว
แหม... เริ่มต้นก็ดีซะแล้ว
พอรับกระเป๋าเสร็จก็จัดการแต่งตัวออกไปเจอกับอากาศข้างนอก เช็คดูคือประมาณ 10 องศาเซลเซียส
อืม... หนาวกว่าที่คิด
Nikon FE + Tudor Color xlx
พอทุกคนแต่งตัวกันเสร็จแล้วเราก็เดินนำออกไปขึ้นShuttle Bus ซึ่งการจะเข้าเมืองนั้นจะต้องนั่งShuttle Bus ไปลงอาคาร Domestic เพื่อนั่งรถไฟฟ้าใต้ดินไปลงสถานีHakata ระยะทางก็แค่2 สถานีเอง ดูง่ายมาก
เราเดินออกมาเจอบัสพอดี เลยชี้ให้ทุกคนดู คันนี้แหละ! พูดจบก็ยกกระเป๋าขึ้นบัส พอล้อกระเป๋าแตะพื้นรถก็ได้ยินเสียงสัญญาณเหมือนเตือนว่าประตูจะปิด พอหันหลังไปมอง ประตูก็ค่อย ๆ สไลด์ปิดไปต่อหน้าต่อตา สบตากับพี่สาวอย่างรู้กันว่า เออ... เจอกันปลายทางนะ
จะบอกว่าเหตุการณ์แบบนี้มันเคยเกิดขึ้นมาแล้วตอนทริปมาเลเซีย เราเดินนำขึ้นรถไฟใต้ดินไปแล้วประตูก็ปิดปัง พอหันหลังไปก็มีสายตาพี่สาวกับน้องสาวมองมาแบบงง ๆ แต่ก็เป็นอันรู้กันว่าจะต้องไปเจอตรงไหน
พี่สาวบอกว่า “เออ.... ดีแล้วที่เป็นแก เพราะอย่างน้อยก็รู้ว่าจะต้องไปตรงไหน ถ้าเป็นคนอื่นก็ไม่แน่ใจ” 555555
พอลงจากบัส เราก็ยืนรออยู่แถว ๆ ป้าย หนาวก็หนาว แต่จะไปหลบตรงอื่นก็กลัวจะหากันไม่เจอ เลยนั่งเล่นบนกระเป๋าถ่ายรูปอะไรไปเรื่อยเปื่อย
Nikon FE + Tudor Color xlx
Nikon FE + Tudor Color xlx
ไม่นานนักรถบัสจากอาคาร International ก็มาถึง มองเห็นพี่สาว น้องสาว และแม่ลงมาจากรถเป็นคนท้ายๆ
Olympus mju ii + Agfa Vista 200
พวกเราลากกระเป๋ามาเรื่อย ๆแต่เห็นแม่เดินช้ากว่าคนอื่น ตอนแรกก็คิดว่าแม่คงเหนื่อยแล้ว แต่แม่บอกว่าล้อกระเป๋ามันไม่ดี เลยสลับให้น้องสาวไปลากแทน พอลากไปสักพัก น้องมันก็บอกว่าล้อมันเสียป่าว คือลากไม่ไปเลย เหมือนล้อไม่ค่อยหมุน พอมาถึงสถานี Hakata เลยสำรวจกระเป๋าอีกที พบว่าล้อน่าจะพัง เพราะกระเป๋าใบที่แม่เอามาใช้เป็นกระเป๋าใบเก่าของเราซึ่งเดินทางไปหลายที่มาก ล้อมันคงเสื่อมไปตามกาลเวลา ทุกคนเลยตัดสินใจว่าซื้อกระเป๋าใหม่เปลี่ยนดีกว่า ตอนนี้ห้างก็เปิดแล้ว ขณะที่เรากับพี่สาวกำลังเดินไปดูป้ายว่ากระเป๋าเดินทางขายที่ชั้นไหนเราก็คิดได้ว่า แล้วใบเก่าจะเอาไปทิ้งที่ไหนวะ ประเทศนี้ยิ่งขึ้นชื่อเรื่องทิ้งขยะ ยิ่งเป็นชิ้นใหญ่ ๆ ยิ่งต้องมีเงื่อนไข ทุกคนก็มองหน้ากันแบบไม่รู้จะทำยังไง เราเลยตัดสินใจว่าอดทนเอาหน่อยละกัน ช่วย ๆ กันลากไป อย่างน้อยเอาไปทิ้งที่โรงแรมก็ยังดีมั้ง พอตกลงได้ตามนั้นทุกคนก็เคลื่อนขบวนไปตรงสถานี JRเพื่อไปแลก JR Passกับตั๋วรถไฟขบวนพิเศษที่จองมาแล้ว และจองตั๋วชินคังเซนไป Kagoshima
ระหว่างรอแลกตั๋วก็ใช้น้องสาวไปซื้อครัวซองต์ขึ้นชื่อของที่นี่ กลิ่นหอมมาก เย้ายวนมาก พอแลกตั๋วเสร็จก็แยกย้ายกันไปซื้อข้าวกล่องเพื่อจะเอาไปกินบนรถไฟเป็นอาหารมื้อแรก
Sony RX 100 M3
ครัวซองต์อร่อยมาก แต่แม่ไม่ชอบ จบข่าว 55555
ขบวนที่จองเป็นขบวน Mizuho 605 เที่ยว 11.25 ตามเวลาจะถึงตอน 12.41
Nikon FE + Tudor Color xlx
พอขึ้นไปบนรถไฟปุ๊บก็ต้องอึ้ง เพราะไม่มีที่วางกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ว่ะ... 555555 จะเอามาวางข้างหน้าตัวเองก็ไม่ได้ เลยต้องวางตรงทางเดินโดยจับไว้และพยายามหลบคนอื่นเอา ทุกลักทุเลพอสมควร
Sony RX 100 M3
หน้าตาข้าวกล่อง อร่อยนะ แต่เค็มไปนิดนึง
Olympus mju ii + Agfa Vista 200
พอมาถึง Kagoshima เดินออกมาเจอเขาออกร้านขายกระเป๋าพอดี เลยบอกแม่ว่าดูไปเลยดีกว่า เป็นอันว่าแม่ต้องเสียเงินเป็นคนแรกเลยจ้า แม่บอกว่าดีนะที่แลกมาเผื่อฉุกเฉิน แหม... เหมือนรู้ล่วงหน้าว่ากระเป๋าจะพัง
ตอนจ่ายเงินหันไปเห็นป้าย New Bag New Life แหม บิ๊วเก่งงงง
iphone 6s
ความคิดแรกว่าจะฝากกระเป๋าไว้ที่ล็อกเกอร์ก่อนแล้วค่อยเข้าโรงแรมทีเดียว แต่ล็อกเกอร์ใหญ่เต็มหมดเลย แถมยังไม่ถึงเวลาเช็คอิน เราเลยเสนอว่าไปฝากกระเป๋าไว้ก่อนมันต้องได้แหละ เลยลากกระเป๋ากันไปฝากไว้ก่อนจะออกมาเริ่มผจญภัยใน(ครึ่ง)วันแรก
Olympus mju ii + Agfa Vista 200
แต่มองท้องฟ้าแล้วอากาศดีจริงๆ รู้สึกได้รับพลังดีนะ
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in