"และถ้าหากเวลาต้องการจะสอนให้เราเข้าใจ ถึงความสำคัญ"

          สุดท้ายแล้วเราทั้งสองคนได้รู้จักกันจริงๆอย่างที่เรารู้สึกหรือเปล่าหรือทั้งหมดมันคือการตกลงที่จะรู้จักกันแค่นี้แต่ก็ยังจะคงรักษาสัญญาว่าจะอยู่ด้วยกันตลอดไปสัญญาที่ร่างขึ้นมาตอนที่รักกัน ตกลงจะอยู่ข้างกัน สุดท้ายแล้วต่อให้ไม่ได้รักกัน แต่ไม่จากกันไปไหนจะถือเป็นการไม่ละเมิดสัญญาหรือเปล่าฉันได้แต่คิดทบทวนพลางมองหน้าคนที่อยู่ตรงหน้า ฉันจะมองใบหน้านี้ด้วยความรู้สึกนี้ไปอีกนานแค่ไหน

            ฉันคิดว่ามันคงเป็นตอนที่ฉันยังเด็กกว่านี้ที่ว่าความรู้สึกของฉันต่อเธอยังไม่มีข้อกังขา ฉันรักเธอหมดหัวใจก่อนที่สัญญาของเราจะทันได้ใช้เสียอีกทุกอย่างตอนนั้นเป็นไปอย่างราบรื่น เรามีความสุขในชีวิตของเราและยิ่งมีความสุขเมื่ออยู่ร่วมกัน ปัญหาเล็กน้อยที่เราต่างก็เพิกเฉยต่อมันได้ความกดดันของวัยเด็กที่เราต่างก็เอาชนะมันอย่างง่ายดาย ทุกอย่างราบรื่นและไปได้ดี

            จนกระทั่ง ความกดดันของวัยกำลังเติบโตทำให้ฉันคิดได้ว่าฉันไม่ได้มีความสุขในชีวิตส่วนของฉันแล้ว และเธอเองก็ไม่รู้จะอยู่ร่วมกับฉันอย่างไรเวลาเศร้าเธอไม่ได้จากฉันไปไหน หากก็อยู่แสนไกลเกินกว่าจะเข้าถึงฉัน ฉันนั่งมองเธออยู่เคียงข้างฉันอยู่อย่างนั้นอย่างซื่อสัตย์รักฉันไม่มีเสื่อมคลายหากแต่ไม่สามารถที่จะเข้าถึงฉันได้ ฉันจึงเจ็บปวดกับคำบอกรักที่ไม่ว่ารักแค่ไหนก็ไม่ใช่การเข้าใจ

            ความรักที่ฉันมีต่อเธอน้อยลงในทุกวันที่เธอตัดสินใจให้พื้นที่ส่วนตัวต่อฉันน้อยลงในทุกวันที่ฉันเองก็ตัดสินใจยอมรับให้มันเป็นแบบนั้น  จนในที่สุดสัญญาณที่บอกว่าฉันไม่ได้รักเธออีกต่อไปก็มาถึงฉันคิดกับเธอในฐานะบุคคลที่สาม สงสารเธออย่างคนนอกที่ไม่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์ และเพราะไม่ได้รักเธออีกต่อไปแล้วฉันจึงตัดสินใจเลือกเดินออกมาจากความสัมพันธ์ และเพราะมันคงมีพิธีการบางอย่างมาบ่งบอกสถานะว่าเราควรทำอย่างไรต่อคู่ความสัมพันธ์ดังนั้นเมื่อสถานะของเราทั้งคู่จะเปลี่ยนไปเป็นอื่น ฉันจึงบอกเธอถึงความต้องการในวันนั้น

            เธอรับฟังมันอย่างใจเย็นไม่เหมือนภาพที่ฉันคาดว่าจะเป็น

            ฉันคงไม่ได้สังเกตเห็นเธอมานานแล้วจึงไม่ได้คาดเดาว่ามันเป็นแบบนี้

            เธอบอกว่า เธอรู้มาตลอดว่าไม่สามารถที่จะอยู่เคียงข้างฉันได้อย่างจริงแท้ หากแต่ในเวลาที่คนคนนึงล่มสลายจนไม่เหลือใคร คนคนนั้นก็ไม่สมควรถูกทิ้งให้อยู่โดดเดี่ยวตามลำพัง

            ฉันเฝ้ามองดูเธออีกครั้งในฐานะบุคคลที่สามฟังเสียงอันเป็นเอกลักษณ์อีกครั้งเหมือนการเริ่มต้นทำความรู้จักคนแปลกหน้า เฝ้ามองดูเธออย่างที่ผ่านมาไม่ได้มองดูแล้วฉันถึงได้รู้ว่าฉันลืมไปแล้วว่าเคยรักเธอเพราะอะไรความทรงจำคืนวันวานที่ได้มีความสุขร่วมกันเข้ามาหล่อเลี้ยงอย่างสมดุลกับความทุกข์ที่ได้สร้างให้แก่กันเธอที่ฉันไม่รักกลายเป็นเพียงภาพจินตนาการเกี่ยวกับเธอที่ฉันมองผ่านความห่างเหิน และเธอที่ฉันได้พูดคุยในวันนี้คือเธอที่ฉันตกหลุมรักในวันที่เราเคยชิดใกล้

            ฉันได้รักเธออย่างมหาศาล ผิดหวังโดดเดี่ยว และตกหลุมรักเธออีกครั้ง

             สุดท้ายแล้วเราทั้งสองคนได้รู้จักกันจริงๆอย่างที่เราควรรู้จักไม่ใช่แค่การตกลงที่จะรู้จักกันแค่นี้ หากแต่มากขึ้นเพื่อที่จะรักษาสัญญาว่าจะอยู่ด้วยกันตลอดไปสัญญาที่ร่างขึ้นมาตอนที่รัก สุดท้ายแล้วต่อให้ไม่ได้รักกัน เราก็ควรได้พยายามเพื่อที่จะปรับเข้าหาซึ่งกันนั่นคือการไม่ละเมิดสัญญาที่ว่าเราจะอยู่เคียงข้างกัน ฉันคิดทบทวนพลางมองหน้าคนที่อยู่ตรงหน้าฉันจะมองใบหน้านี้ด้วยความรู้สึกนี้ไปอีกนาน

------------------------------------------

ข้ามได้ คือส่วนตัวมองว่าความสัมพันธ์ ไม่ว่าจะต่อคนหรือต่อเป้าหมาย พอถึงจุดนึงที่เราอยากจะยอมแพ้  อาจจะเป็นเพราะเราอยู่กับมันผิดวิธี หรือมีอะไรเปลี่ยนไปแล้วเราไม่ได้เปลี่ยนตาม ความอึดอัดของการเปลี่ยนแปลงที่มีแต่เราที่ยังเหมือนเดิม ก็เหมือนกับ "ระเบิดเวลา"  ที่รอวันระเบิด ถึงอย่างนั้นเราก็น่าจะมองย้อนไปว่าเราเคยมีความสุขที่จะอยู่กับมันมานานแค่ไหน ถ้าเราได้ลองปรับวิธีการที่จะอยู่กับมันเราอาจจะได้อยู่กับมันอย่างมีความสุขอีกก็ได้ เหมือนกับท่อนฮุกของเพลงก็บอกไว้แล้ว

ยังมีอะไรที่เรานั้นยังไม่เคยได้ทำร่วมกัน ได้ลอง ประโยคใจความที่มันสำคัญที่เรานั้นยังไม่ทันได้บอกและถ้าหากเวลาต้องการจะสอนให้เราเข้าใจ ถึงความสำคัญ

ในความสัมพันธ์ก็ไม่ได้เลวร้ายไปเสียหมด แค่เพราะตอนนี้มันกำลังอยู่ในช่วงไม่ดีก็ไม่ได้แปลว่ามันจะกลับไปสู่ช่วงวันที่ดีที่เคยมีมาไม่ได้เสียหน่อย ลองสักตั้งก็ไม่เสียหาย