เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
รู้จักกับ Juvederm Volite ฟิลเลอร์จากอเมริกา ตัวช่วยฟื้นบำรุงผิวอย่างมีประสิทธิภาพarticle_beauty
รู้จักกับ Juvederm Volite ฟิลเลอร์จากอเมริกา ตัวช่วยฟื้นบำรุงผิว
  • Juvederm Volite คืออะไร

    Juvederm Volite คือ ฟิลเลอร์ที่มีส่วนผสมหลักของกรดไฮยาลูโรนิก (Hyaluronic Acid) ซึ่งเป็นสารที่มีอยู่ในร่างกายมนุษย์ มีคุณสมบัติในการเก็บกักน้ำในผิวหนัง ช่วยให้ผิวชุ่มชื้นและลดความหยาบกร้านได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยฟิลเลอร์นี้ถูกพัฒนาและผลิตโดยบริษัท Allergan จากสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นผู้ผลิตฟิลเลอร์ที่มีชื่อเสียงระดับโลก เช่น ฟิลเลอร์ Juvederm รุ่นอื่น ๆ และ Botox 


    ฟิลเลอร์ Juvederm Volite ถือเป็นหนึ่งในฟิลเลอร์ที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อการฟื้นบำรุงผิวโดยเฉพาะ การทำงานของฟิลเลอร์ Juvederm Volite จะช่วยเติมความชุ่มชื้น ลดริ้วรอยให้ผิวหน้าดูเรียบเนียน และช่วยฟื้นฟูสภาพผิวที่ขาดความยืดหยุ่น โดยการฉีด Juvederm Volite จะช่วยให้ผิวดูอิ่มน้ำ ลดปัญหาผิวแห้งกร้าน และช่วยปรับปรุงคุณภาพผิวให้ดีขึ้นได้ทันทีหลังการฉีด


    หลักการทำงานของ Juvederm Volite

    ฟิลเลอร์ Juvederm Volite ทำงานโดยการฉีดกรดไฮยาลูโรนิก (Hyaluronic Acid) เข้าไปในชั้นผิวหนัง เพื่อเข้าไปช่วยเติมเต็มและซ่อมแซมผิวในหลาย ๆ ด้าน โดยหลักการทำงานสำคัญ คือ การเติมเต็มช่องว่างใต้ผิวหนังที่ทำให้ผิวดูเรียบเนียน และลดเลือนริ้วรอยได้ทันทีหลังการฉีด นอกจากนี้ กรดไฮยาลูโรนิกใน Juvederm Volite ยังมีคุณสมบัติในการกักเก็บน้ำสูง จึงช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวหนัง ช่วยให้ผิวดูอิ่มฟูขึ้น 


    อีกทั้ง Juvederm Volite ยังช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในผิว ซึ่งเป็นโปรตีนที่มีความสำคัญในการเสริมสร้างความแข็งแรงและความยืดหยุ่นให้กับผิว หากผิวมีปริมาณคอลลาเจนที่เหมาะสม จะช่วยลดริ้วรอยที่เกิดจากการสูญเสียคอลลาเจนในผิวให้จางลงได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    คุณสมบัติของ Juvederm Volite ที่ใคร ๆ ก็หลงรัก


    • ความชุ่มชื้นที่ยาวนาน : ฟิลเลอร์ Juvederm Volite ช่วยเติมเต็มความชุ่มชื้นให้ผิวอย่างล้ำลึก ทำให้ผิวดูอิ่มน้ำและฟูขึ้นทันทีหลังการฉีด

    • ผลลัพธ์ที่ยาวนาน: ผลลัพธ์จากการฉีด Juvederm Volite สามารถอยู่ได้นานถึง 8-12 เดือน ทำให้ไม่ต้องเสียเวลากลับมาฉีดซ้ำบ่อย ๆ

    • เนื้อเจลเนียนเรียบ: ด้วยเทคโนโลยี Vycross ที่ช่วยให้เนื้อเจลมีความเหนียวและคงตัว เมื่อฉีดแล้วเจลจะผสมเข้ากับผิวได้อย่างเรียบเนียนและดูธรรมชาติ

    • ปลอดภัยสูง: Juvederm Volite ได้รับการรับรองจาก US-FDA และ อย. ประเทศไทย ซึ่งรับประกันความปลอดภัยและคุณภาพของผลิตภัณฑ์

    • เห็นผลทันที: การฉีด Juvederm Volite จะเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนทันทีหลังการฉีด โดยไม่ต้องพักฟื้น สามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ

    • ช่วยกระตุ้นคอลลาเจน: นอกจากการเติมความชุ่มชื้นแล้ว Juvederm Volite ยังช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในผิว ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้ผิวมีความกระชับ เต่งตึง ปรับใบหน้าให้ดูอ่อนเยาว์ขึ้นได้ด้วย

    Juvederm Volite เหมาะกับใคร

    Juvederm Volite เหมาะกับคนที่มีปัญหาผิวแห้ง ขาดความยืดหยุ่น หรือมีริ้วรอยเล็ก ๆ เช่น รอยตีนกา ร่องเล็ก ๆ บนผิวหน้า รวมถึงผู้ที่ต้องการปรับสภาพผิวให้เรียบเนียน


    • คนที่มีริ้วรอยเส้นเล็ก ๆ บนใบหน้า จากผิวแห้ง ขาดความยืดหยุ่น

    • คนที่ต้องการปรับสภาพผิวหน้าให้ดูเต่งตึง อิ่มน้ำ และสดใส

    • คนที่มีปัญหาปากแห้ง หรือมีร่องรอยที่ริมฝีปาก ต้องการให้ผิวปากชุ่มชื้น

    • คนที่ต้องการลดขนาดรูขุมขน หรือแก้ไขปัญหารูขุมขนกว้าง

    • คนที่ต้องการเติมเต็มหลุมสิว แต่ในบางกรณีจำเป็นต้องมีการประเมินสภาพผิวกับคุณหมอก่อนทำการรักษา

    Juvederm Volite นิยมฉีดบริเวณใดบ้าง

    ฟิลเลอร์ Juvederm Volite เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพในการฟื้นฟูสภาพผิวโดยการเติมความชุ่มชื้นและปรับปรุงคุณภาพผิวให้ดีขึ้นได้ในหลายบริเวณของร่างกาย ไม่เพียงแต่จะช่วยเพิ่มความอ่อนเยาว์ให้แก่ผิวเท่านั้น แต่ยังช่วยลดเลือนริ้วรอยและปรับสภาพผิวให้ดูสดใสขึ้นอีกด้วย 


    ดังนั้นจึงสามารถใช้ Juvederm Volite ในการบำรุงผิวได้หลากหลายจุดที่ต้องการฟื้นฟู โดยสามารถฉีดได้ในบริเวณต่าง ๆ ดังนี้

    บริเวณใบหน้า

    ใบหน้าคือบริเวณที่นิยมฉีดมากที่สุด เพราะฟิลเลอร์สามารถช่วยเติมเต็มและฟื้นฟูผิวให้ดูอ่อนเยาว์อย่างเห็นผล การฉีด Juvederm Volite บริเวณใบหน้า จะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและเติมเต็มร่องริ้วรอยเล็ก ๆ ที่เกิดขึ้นบนผิวหน้า โดยเฉพาะในบริเวณรอบดวงตาและร่องแก้ม ซึ่งการเติมน้ำให้กับผิวจะช่วยให้ผิวหน้าดูสดใสขึ้นและปรับสภาพผิวให้เรียบเนียนมากขึ้น 


    นอกจากนี้การฉีด Juvederm Volite ยังช่วยปรับรูขุมขนให้กระชับขึ้น และลดปัญหาผิวแห้งกร้านที่อาจเกิดขึ้นจากการสูญเสียความชุ่มชื้นตามธรรมชาติ ที่สำคัญยังช่วยให้ผิวหน้าดูอิ่มฟูและกระชับขึ้น ทำให้ผิวหน้าดูอ่อนเยาว์และสุขภาพดีอย่างเห็นได้ชัด

    ริมฝีปาก

    ริมฝีปากเป็นอีกหนึ่งบริเวณที่นิยมฉีด Juvederm Volite โดยเฉพาะผู้ที่มีปัญหาริมฝีปากแห้งหรือมีร่องลึกที่ริมฝีปาก การฉีด Juvederm Volite สามารถช่วยเติมความชุ่มชื้นให้กับริมฝีปาก ทำให้ริมฝีปากดูอวบอิ่มขึ้นและลดการแห้งลอกที่เกิดจากการขาดความชุ่มชื้น 


    นอกจากนี้ยังช่วยลดร่องลึกที่มักเกิดขึ้นที่ริมฝีปาก ซึ่งมักทำให้ทาลิปสติกแล้วตกร่อง การเติมฟิลเลอร์จึงช่วยให้ริมฝีปากดูเรียบเนียนและมีความอิ่มน้ำอย่างธรรมชาติ ช่วยให้ทาลิปได้สวย ทำให้ริมฝีปากดูมีเสน่ห์ขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ

    บริเวณคอ

    ผิวหนังบริเวณคอมักเป็นพื้นที่ที่หลายคนมักมองข้าม ละเลย ไม่ให้ความใส่ใจในการดูแล แม้จะได้รับการบำรุงจากการทาสกินแคร์ แต่การเสื่อมสภาพของคอลลาเจนในผิวคอมักทำให้เกิดริ้วรอย และทำให้ผิวดูหย่อนคล้อย 


    ซึ่งการฉีด Juvederm Volite ที่บริเวณคอ สามารถช่วยฟื้นฟูสภาพผิวคอให้ดูเรียบเนียนและกระชับมากขึ้น ทำให้ริ้วรอยที่เกิดจากการสูญเสียคอลลาเจนดูจางลง และช่วยลดปัญหาผิวหย่อนคล้อยที่คอได้ดีอีกด้วย ซึ่งเป็นจุดที่หลายคนเริ่มมีปัญหาหลังอายุเริ่มมากขึ้น

    เนินอก

    การฉีด Juvederm Volite ที่เนินอกก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยฟื้นฟูสภาพผิวได้ดี เนื่องจากผิวบริเวณเนินอกมักจะเกิดริ้วรอยและเสื่อมสภาพได้ง่ายจากการขาดความชุ่มชื้น ซึ่งสามารถทำให้ผิวดูหมองคล้ำและหย่อนคล้อยได้ การเติมความชุ่มชื้นให้กับผิวบริเวณนี้ด้วย Juvederm Volite จะช่วยลดริ้วรอยที่เกิดจากการขาดน้ำ และทำให้ผิวดูสดใสอย่างเป็นธรรมชาติ 

    หลังมือ

    อีกบริเวณที่มักจะมีการเสื่อมสภาพของผิวหนังคือบริเวณหลังมือ ซึ่งมักจะมีริ้วรอยและผิวที่ดูเหี่ยวและแห้ง การฉีด Juvederm Volite ที่บริเวณหลังมือจะช่วยเติมความชุ่มชื้น และฟื้นฟูผิวหลังมือให้ดูเรียบเนียนขึ้น การฉีดฟิลเลอร์ที่หลังมือช่วยให้ผิวดูอ่อนเยาว์ขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และทำให้มือดูนุ่มนวลและมีความอ่อนเยาว์มากขึ้น เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวแห้งกร้านหรือผิวเหี่ยวย่นที่มือ

    เปิดขั้นตอนการเตรียมตัวก่อน-หลังฉีด Juvederm Volite

    การเตรียมตัวก่อนและการดูแลตัวเองหลังฉีด Juvederm Volite เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้การรักษาประสบผลสำเร็จและมีประสิทธิภาพสูงสุด โดยการปฏิบัติตัวตามขั้นตอนที่เหมาะสม สามารถลดความเสี่ยงจากผลข้างเคียง และช่วยให้ผลลัพธ์การฉีดอยู่ได้นานขึ้น

    การเตรียมตัวก่อนฉีด Juvederm Volite

    • งดการใช้ยา/อาหารเสริมบางชนิด : หลีกเลี่ยงการรับประทานยาที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด เช่น ยาแอสไพริน (Aspirin) ไอบูโพรเฟน (Ibuprofen) วิตามิน E หรืออาหารเสริมที่มีส่วนประกอบของโอเมก้า-3 อย่างน้อย 1-2 สัปดาห์ก่อนการฉีด เพื่อป้องกันการเกิดเลือดออกหรือเกิดอาการฟกช้ำหลังฉีด

    • งดการใช้ผลิตภัณฑ์ผลัดเซลล์ผิว : หากคุณใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของเรตินอล (Retinol) กรดไกลโคลิก (Glycolic Acid) หรือครีม Anti-Aging ควรงดใช้ผลิตภัณฑ์เหล่านี้อย่างน้อย 3 วันก่อนเข้ารับการฉีด

    • งดการทำหัตถการบางประเภท : หลีกเลี่ยงการทำหัตถการที่เกี่ยวข้องกับผิวหนัง เช่น การทำเลเซอร์ การนวดหน้า หรือการผลัดเซลล์ผิวล่วงหน้าอย่างน้อย 3 วัน เพื่อป้องกันการระคายเคืองหรือการติดเชื้อหลังจากการฉีด

    • งดดื่มแอลกอฮอล์ : หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ 24 ชั่วโมงก่อนการฉีด เนื่องจากแอลกอฮอล์สามารถทำให้หลอดเลือดขยาย และเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดรอยฟกช้ำได้ง่าย

    • แจ้งประวัติสุขภาพให้แพทย์ทราบ : ก่อนการฉีด Juvederm Volite ควรแจ้งประวัติการแพ้ยาหรือโรคประจำตัวต่าง ๆ ให้แพทย์ทราบ โดยเฉพาะหากมีประวัติการแพ้สารใด ๆ หรือมีปัญหาผิวหนังที่ต้องการการดูแลพิเศษ

    • ปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับตำแหน่งและปัญหาผิว : แพทย์จะช่วยประเมินสภาพผิวและแนะนำตำแหน่งที่เหมาะสม สำหรับการฉีด Juvederm Volite ให้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

    การดูแลตัวเองหลังฉีด Juvederm Volite

    • งดแต่งหน้าและใช้ครีมบำรุงผิวภายใน 12 ชั่วโมงแรก : หลังการฉีด Juvederm Volite ควรงดการใช้เครื่องสำอางหรือครีมบำรุงผิวใน 12 ชั่วโมงแรก เพื่อป้องกันการระคายเคืองหรือการติดเชื้อบริเวณที่ฉีด

    • หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนัก ๆ และกิจกรรมที่ทำให้เหงื่อออก : ในช่วง 1 สัปดาห์แรก ควรหลีกเลี่ยงการออกกำลังกายที่ทำให้เหงื่อออกมาก หรือกิจกรรมที่ใช้แรงกายหนัก ๆ เพื่อให้เนื้อฟิลเลอร์มีเวลาในการเซตตัวและช่วยให้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้น

    • หลีกเลี่ยงการนอนคว่ำ : การนอนคว่ำอาจทำให้ฟิลเลอร์เคลื่อนตัวได้ ควรนอนหงายในช่วง 1 สัปดาห์แรกหลังการฉีด

    • หลีกเลี่ยงการนวดและสัมผัสที่บริเวณที่ฉีด : ห้ามสัมผัส นวด หรือกดบริเวณที่ฉีด Juvederm Volite ในช่วง 2 สัปดาห์แรก เพื่อป้องกันการกระจายตัวของฟิลเลอร์ และให้ฟิลเลอร์อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม

    • หลีกเลี่ยงการทำเลเซอร์และการอบซาวน่า : ควรหลีกเลี่ยงการทำเลเซอร์ในบริเวณที่ฉีด รวมถึงการเข้าอบซาวน่าหรือการอยู่ในที่ร้อนจัด เช่น ตากแดด โดยเฉพาะใน 2 สัปดาห์แรกหลังการฉีด

    • ตรวจติดตามผลหลังการฉีด : หลังการฉีด 1-2 สัปดาห์ ควรกลับมาตรวจติดตามผลการรักษากับแพทย์ เพื่อประเมินผลและตรวจสอบการฉีดว่าดีหรือไม่

    หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์และการสูบบุหรี่ : หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์และการสูบบุหรี่ในช่วง 1-2 สัปดาห์แรกหลังการฉีด เพราะจะส่งผลต่อการไหลเวียนเลือด และอาจลดประสิทธิภาพของฟิลเลอร์ได้

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in