"แกทำแบบนั้นทำไมวะ"
ผมปล่อยให้เสียงนั้นผ่านหูไป จมดิ่งกับความเงียบที่ส่งเสียงดังในหัวจนตื้อตัน มองแสงไฟบนท้องถนนจากระเบียงคอนโดชั้นสิบแปด เบียร์หนึ่งกระป๋องวางอยู่ข้างผม อีกกระป๋อง เขากำลังยกดื่ม — เพื่อนเพื่อนคนหนึ่งที่คุณเคยแนะนำให้รู้จัก เรารู้จักกันอย่างผิวเผิน อาจจะเคยเจอกันสองหรือสามครั้ง แต่ไม่พบชื่อในบัญชีรายชื่อคนรู้จักของผม
"เศร้าจนเป็นบ้าไปแล้วล่ะมั้ง"
ผมหัวเราะ จ้องมองกระป๋องเบียร์ที่ดื่มไปไม่ถึงสองครั้ง น่าแปลก ทั้งที่ชอบดื่มมาแต่ไหนแต่ไร สูบบุหรี่จัด ดื่มเพื่อลืมเธอคงใช้ไม่ได้กับผม เพราะความขมขื่นในตอนนี้ก็มากเกินพอแล้ว
ผมทบทวนตัวเองหลายต่อหลายครั้งตลอดหลายคืนที่ผ่านมา หลังจากได้รับการ์ดเชิญไปงานแต่งของคุณผ่านเพื่อนของผมที่กลายเป็นเพื่อนของคุณ จนถึงคืนนี้ คืนวันแต่งงานของคุณ ทุกอย่างพังลงต่อหน้าด้วยฝีมือของผมเอง ผมดื่มจนเมา, สิ้นสติ กลายเป็นหมาขี้แพ้ที่ฝากกำปั้นไว้บนใบหน้าเปื้อนเครื่องสำอางของคุณกลางงานแต่ง "ไอ้เหี้ย" เปิดเผยทุกบาดแผลที่เคยฝากฝังเอาไว้ สภาพสะบักสะบอม ผมมองเข้าไปในดวงตาของคุณ หวังเห็นเศษเสี้ยวของความรู้สึกอยู่บนนั้น แต่ว่างเปล่า — กุมมือผู้หญิงที่ผมไม่รู้จักแน่นขึ้นกว่าเดิม
กว่าจะรู้ตัวเพื่อนของคุณก็พาผมออกมาจากงาน นั่งนิ่งอยู่ในรถอีโคคาร์ของเขาอยู่นานสองนาน และลงเอยที่ระเบียงห้องของผม
"อย่าพยายามเลย มันไม่เลือกแกหรอก"
"รู้ตั้งแต่แรกนั่นแหละ"
ผมรู้ รำคาญความหวังบ้าๆ นี่จนนึกเกลียดตัวเอง
"ความสัมพันธ์แบบนี้มันเสียเวลา รักษาหัวใจเอาไว้ให้คนที่เห็นค่าดีกว่า"
เขาพูดถูก และผมรู้ว่าควรทำตาม — เขาหยิบกล่องทิชชู่มาวางไว้ข้างกระป๋องเบียร์ของผม เพิ่งสังเกตว่าน้ำตาไหลอีกครั้ง ผมหัวเราะแล้วดึงทิชชู่มาเช็ดออก เขาทำเหมือนเพื่อนที่ปลอบคนร้องไห้ไม่เก่ง
"ไม่บอกให้เราหยุดร้องเหรอ"
"ร่างกายแก จะตาบวมก็ตาแก เราจะบังคับอะไรได้"
"รู้ไหมว่าแกซ้ำเติมคนเก่งชิบหาย"
"มีคนเคยบอกเหมือนกัน"
ทั้งผมและเขาหัวเราะ ผมเพิ่งรู้ว่าเขาสูบบุหรี่ก็ตอนที่เขาหยิบซองออกมาจากกระเป๋าเสื้อ หยิบหนึ่งมวนยื่นให้ผม — ผมไม่ปฏิเสธให้เสียน้ำใจ ก่อนควันสีเทากับกลิ่นที่คุ้นเคยจะลอยฟุ้งในอากาศ มีไม่กี่คนที่เห็นด้วยกับผมเรื่องสูบบุหรี่ ครอบครัว, คนรอบข้าง รวมถึงคุณ — คุณถามผมทุกครั้งที่ผมสูบหลังจากมีอะไรกันเสร็จ ผมอธิบายเหตุผล ส่วนคุณไม่ฟัง และขอให้เลิก เพื่อคุณ น่าขำที่ผมยอมทำตาม เพียงเพราะเหตุผลงี่เง่าแบบนั้น และตอนนี้คงไม่จำเป็นแล้ว
เขาขยี้ปลายมวนลงบนถาดรอง หยิบกระป๋องเบียร์ที่น่าจะหมดแล้วของตัวเองไป
"ไปแล้วนะ โอเคใช่ปะ"
"อืม โอเค"
"ดีแล้ว"
เขายิ้มให้ ก่อนจะหันหลังเดินกลับเข้าไปในห้อง ผมไม่ได้มองตามเข้าไปหรือเดินไปส่งที่หน้าห้อง ยังไม่มีใจจะทำตัวเป็นเจ้าห้องที่แสนดีในเวลาแบบนี้ — ยกมวนบุหรี่ขึ้นอัดควันเข้าปอดแล้วพ่นออก ปล่อยให้นิโคตินทำหน้าที่ของมันอย่างเงียบเชียบ จ้องมองไฟปลายมวนที่มอดสั้นถึงก้นกรอง ก่อนที่เสียงประตูระเบียงจะดังขึ้นอีกรอบ ชั่วขณะหนึ่งที่หัวใจสั่นไหว แค่หวังว่าหันไปแล้วจะเห็นคุณยืนอยู่ตรงนั้น แต่คนที่เดินเข้ามาไม่ใช่คุณแต่กลับเป็นเขาคนเดิมที่เดินกลับมาพร้อมกับกระป๋องเบียร์กระป๋องใหม่ กับกระดาษสมุดที่ยื่นมาให้
ถึงจะยังสับสนแต่ก็รับไปอ่าน
contract
(เพื่อนชั่วคราว)
สัญญานี้ทำขึ้นระหว่าง แกกับผม
ซึ่งต่อไปในสัญญานี้เรียกว่า 'ผู้ว่าจ้าง/ลูกจ้าง'
คู่สัญญาทั้งสองฝ่ายตกลงทำสัญญากันดังมีข้อความต่อไปนี้
ข้อ 1. ผู้ว่าจ้างจะจ่ายเงินค่าจ้างในรูปแบบของเพื่อนดื่ม เป็นรายวัน, รายอาทิตย์หรือรายเดือน แล้วแต่ลูกจ้างจะเรียกร้อง
ข้อ2. ลูกจ้างจะทำให้ผู้ว่าจ้างสบายใจ คอยอยู่เป็นเพื่อนจนกว่าผู้ว่าจ้างจะสิ้นสุดสัญญาด้วยตนเอง เมื่อไหร่ก็ได้
ข้อ3. หากมีใครคนใดคนหนึ่ง ไม่ว่าจะผู้ว่าจ้างหรือลูกจ้าง คิดมากกว่าเพื่อน หรือทำเกินกว่าหน้าที่ จะถือว่าสัญญานี้สิ้นสุดทันที
"ไม่เห็นต้องทำแบบนี้เลย"
"แกจะไม่รับก็ได้ แต่ถ้าสนใจก็เซ็นเลย"
เขาบอก ยื่นปากกามาให้ผม ผมลังเลอยู่สักพักก่อนจะตัดสินใจเซ็นชื่อตัวเองลงไปอย่างง่ายดาย — เขายิ้ม และบอกว่าวันนี้ถือเป็นวันเริ่มทำงานวันแรกของเขา ลูกจ้างของผมทำหน้าที่อย่างดีตลอดจนเบียร์หนึ่งลังในห้องของผมหมดภายในหนึ่งอาทิตย์ ผมบอกว่าผมดีขึ้นแล้วและในคืนสุดท้าย คืนนั้น ผมกับเขามีอะไรกัน ยอมรับว่ามันมีความสุขจนหลงลืมความเจ็บปวดในวันคืนที่ผ่านมาจนหมดสิ้น
และเช้าถัดมาที่เขาไม่ได้นอนอยู่ข้างกันเหมือนก่อนผมหลับตา
กระดาษสัญญาของเรายับยี่อยู่ในถังขยะ
สุดท้ายก็จบลงเช่นเดิม
จบลงที่ตัวผม
เพียงคนเดียว
ง่ายดายเพียงนั้น
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in