เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
เล่าให้(ไปลอง)ฟังkhuuun
#01 - The Beatles
  •             อะแฮ่ม เริ่มเขียนอะไรยาวๆครั้งแรก เขินจัง เปิดบล็อกมาเพื่อเล่าประสบการณ์การฟังเพลงของเราให้ฟังแหละ

    บล็อกแรกอยากเล่าเรื่องวงที่เปิดโลกการฟังเพลงของเราให้ฟัง ซึ่งนั่นก็คือ The Beatles นั่นเอง

    (ข้ามช่วงแนะนำสมาชิกไปเนาะ)

    จริงๆบีทเทิลส์ดูเป็นวงที่เข้าถึงง่ายแล้วก็ยากไปในตัว

     

    ง่ายยังไง คือบีทเทิลส์เป็นวงที่แมส และยังอยู่ในกระแสมาจนถึงปัจจุบัน ทั้งกระแสแฟนคลับที่ยังแอคทีฟอยู่ตลอด ทั้งกิจกรรม คอนเสิร์ต tribute ฯลฯ The Beatles ยังคงได้รับการพูดถึงจากทั่วทุกมุมโลก

    ส่วนยากเนี่ย ยากเพราะทัศนคติที่เรามีต่อเพลงเก่าๆเนี่ยแหละ คนรุ่นหลังๆส่วนมากชอบเห็นว่ามันเก่า มันแก่ คงจะฟังไม่รู้เรื่อง เราก็เป็นอีกคนที่เคยคิดแบบนั้น(แหะๆ) ทีนี้ด้วยความอยากลองของ ว่าไหนดูดิ้ วงดนตรีที่ได้ชื่อว่าประสบความสำเร็จที่สุดในโลกเนี่ย เขาร้องอะไร เขาทำเพลงยังไงกัน


    เราก็เริ่มด้วยการเปิดอัลบั้มแรก please please me มาฟัง


     

    หลังจากไล่ฟัง 13 อัลบั้มจนจบ เราก็เป็นติ่งอย่างเต็มตัว โลกการฟังเพลงเราก็เปลี่ยนไป จากที่ฟังอะไรก็ได้ที่อยู่ในกระแส ฟังเพลงตามบิลบอร์ด เราค้นพบว่า เออนี่ มันมีวงเก่าๆ วงที่ไม่ได้อยู่ในกระแสปัจจุบันแต่น่าสนใจเยอะเหมือนกันนะ เราเริ่มดำดิ่งไปกับการฟังเพลง ตั้งแต่ยุค60s ไล่มาเรื่อยๆ จนถึงวงอินดี้ใหม่ๆในปัจจุบัน

     

    หลังจากศึกษาประวัติของสี่หนุ่ม เราพบความน่าทึ่งที่เซอร์ไพรส์เรามากๆ ในหลายๆด้าน

    ในยุคที่ยังไม่มีอินเตอร์เน็ท การสื่อสารยังไม่สะดวกแบบปัจจุบันนี้ แต่วงดนตรีจากเกาะอังกฤษวงนึงที่สร้างชื่อในบ้านเกิดตัวเองจนดังคับเกาะ ซ้ำยังข้ามทวีปไปดังถึงอเมริกา แถมยังจุดกระแส Beatlemania ไปรอบโลก (และยังอยู่มาถึงปัจจุบัน) นับว่าเป็นเรื่องที่โคตรเจ๋งและคงไม่มีวงไหนสามารถทำได้อีกแล้ว อนึ่ง หลายๆคนอาจจะไม่อินกับปรากฏการณ์นี้ เพราะเราเกิดมาในยุคที่ศิลปินจากฝั่งอังกฤษข้ามน้ำข้ามทะเลมาโผล่ในงาน AMA-awards กันเป็นว่าเล่น หรือฝั่งเมกันก็มา BRIT awards กันเป็นเรื่องปกติ

    แต่เรื่องมันเกิดในยุค60นี่ละฮะ มันเลยไม่ปกติ จากการที่หาสัมภาษณ์ หารูปหาข่าวในยุคนั้นอ่าน มันดูเป็นปรากฏการณ์ที่ยิ่งใหญ่มากมาก ขนาดเราที่เกิดไม่ทัน ได้ลองดูคลิปคอนเสิร์ตตอนนั้นยังแบบ โอ้โห เค้ากรี้ดอะไรกันขนาดนี้วะ

    (เราว่าถ้าเราเกิดทันเราก็คงกรี้ดคอแตกแบบนี้แหละ ฮ่าฮ่า)

    จากการที่บีทเทิลส์บุกอเมริกาสำเร็จในช่วงนั้น ก่อให้เกิด British Invasion วงดนตรีจากเกาะอังกฤษอีกมากมายพากันตบเท้าเข้ามาแจ้งเกิดในอเมริกา วงหน้าใหม่เกิดขึ้นมากมายเพียงเพราะพวกเขาอยากจะเล่นดนตรีเหมือนเดอะบีทเทิลส์ นับว่าเป็นจุดเปลี่ยนของวงการดนตรีอย่างแท้จริง

     

    ทีนี้อยากพูดถึงอัลบั้มโปรดของเราซักสองสามอัลบั้ม

    ย้อนกลับไปตอนเปิดอัลบั้มแรกมาฟัง ยังไม่ชอบทันทีหรอก

    มาเริ่มติดใจเอาตอนฟังอัลบั้มที่สอง With the Beatles 

    อัลบั้มนี้สนุกๆแบบร็อคแอนโรลจ๋าๆเลย เพลงที่โดนใจมากๆเลยคือ All My Loving เนื้อเพลงมันน่ารักมากๆเลยอ่ะ กับ Roll Over Beethoven เพลงนี้ cover Chuck Berry ถูกใจความร็อกแอนโรลมันส์ๆนี่ละ ฟีลลิ่งเหมือนเต้นอยู่ในผับยุค50 *โยก*

     

    อัลบั้มต่อมาคือ Rubber Soul

    (จริงๆ ตอนแรกจะเลือก Revolver มา แต่ Rubber Soul มี In my life เพลงโปรดตลอดกาลของเราล่ะ!!!)

    อัลบั้มที่สี่หนุ่มสลัดคราบหนุ่มน้อย Teddy Boys เข้าสู่ความเป็นผู้ใหญ่ แนวเพลงเริ่มขยับมาเป็น folk rock เต็มตัวก่อนที่จะเข้าสู่ช่วง psychedelic ในอัลบั้มถัดๆไป ใจจริงอยากจะยก Rubber Soul ให้เป็น best album แต่เกรงใจมาสเตอร์พีซอีกหลายๆอัน (เช่น Sgt.Pepper, Abbey Road)

    เพลงที่เราชอบเป็นพิเศษ: ที่หนึ่งของอัลบั้มเลยคือ In My Life เราตกหลุมรักบีทเทิลส์เพราะเพลงนี้แหละ ดีงามไปทุกองค์ประกอบ ฮือ

    เพลงที่สองคือ Drive My Car เพลงนี้ลูกเล่นเยอะดี ทั้งกีต้าร์โซโล่ ทั้งเปียโน ทั้งคอรัสของจอห์น ทั้งท่อน ปี๊บๆ ปี๊บๆ เย่ (อีท่อนนี้ติดหูสุดเลย...)

    ส่วนเพลงสุดท้าย Nowhere Man เนื้อเพลงเจ๋งเป็นบ้าาาาาา ประทับใจการใช้ การเล่นคำ โชว์ความสามารถของผู้แต่งได้อย่างดีเยี่ยม


    อัลบั้มสุดท้ายแน่นอนว่าต้องเป็น Abbey Road

    ในทางเทคนิคแล้วเป็นอัลบั้มสุดท้ายที่บีทเทิลส์ทำด้วยกันก่อนวงจะแตก เหมือนทุกคนปล่อยของกันเต็มที่มั้ง ทั้งอัลบั้มไม่มีเพลงไหนดรอปเลยซักเพลง แนะนำว่าฟังทั้งอัลบั้มทีเดียว เริ่มด้วย Come Together แล้วไปจบที่ The End จะรู้สึกถึง Eargasm ...


    ท่อนนึงจากเพลง The End ที่ประทับใจมากเป็นพิเศษ

    "And in the end
    The love you take
    Is equal to the love you make"

     


    เอาล่ะ จบเรื่องที่อยากเล่าให้(ไปลอง)ฟังแล้ว

    ขอบคุณที่อ่านมาถึงตรงนี้ ;)



เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in