เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Nerd's SeriesSuraporn Menn Koetsawang
Nerd's Series: เรื่องเกือบสั้น #2 สำหรับ วัน April Fool’s Day

  • Nerd's Power of the Dark Side

    ในร้านกาแฟ

    “นี่พาย ฉันไปซื้อบัตรตาม program และ seat ที่เธอแนะแล้วนะ ยอมลงทุนคราวนี้”

    พายรับบัตร 2 ใบจากมือดาวมาดู

    • WA Mozart Oboe Concerto in C Major KV 314
    • Johann Strauss II. - Schnellpost Polka, op. 159
    - Seat A18
    - Seat A19

    “ใช่ละ program ตามนี้แหละที่ เอ น่าจะชอบ เพราะมีทั้ง Mozart และ Strauss II composer โปรดของเขา จากที่เคยคุยกันแว๊บๆ”

    “แต่ตอนนี้ไม่ใช่ปัญหาว่าจะไปนั่งหาวแล้ว”

    พายขมวดคิ้ว “อะไรอีกล่ะ? เดี๋ยว เอ ก็ออกตังค์บัตรเขาเองน่า”

    “ไม่ช่ายเรื่องน้าน ปัญหาตอนนี้คือ รู้มาว่า เอ ทำท่าจะไม่ว่างในวันที่ 22 ตอน 7 pm พอดี เพราะแก๊งค์สามสาวที่กำลัง crazy กับ เอ อยู่ กำลังจะจัดเวลาตัวเองให้ว่างพร้อมกัน เพื่อชวน เอ ไปดูงานเปิดตัว painting gallery ที่เปิดใหม่”

    “น่ากลัวอ่ะ ชั้นว่า เอ มีสิทธ์ไป”

    “ใช่ พวกนี้รู้ดีว่า เอ ไม่ปฏิเสธแน่ เพราะนอกจาก เอ ชอบ painting อย่างหนักแล้ว ยังได้เจอศิลปินที่สามสาวมี connection อีก”

    ดาวถอนใจ เอื้อมไปหยิบบัตรคอนเสิร์ตจากมือพายมา

    “ทำไงดี อุตสาห์จัดเวลาวางแผน และบัตรคอนเสริทมันก็ไม่ถูกนะ ขายต่อก็ยาก ถ้าหาก worst case จริง เธอหาคนในวงการเธอ ทั้งวงการ nerd ,ที่ทำงาน, และวงการดนตรีหรือไวโอลิน ของเธอ ซื้อหน่อยดิ”

    “ใจเย็นๆ”

    “ทำไมน้า ไม่แบ่งหนุ่มๆ เพื่อนเอ ที่ชอบ painting ด้วยกัน ชั้นก็เห็นสามสาวนี้มองอยู่ ว่าคนนั้นคนนี้ดีงั้นงี้ ทำไมต้องมา focus ที่เอ คนเดียว?”

    “Nash” พายตอบ

    “Nash?”

    “Nash Equilibrium มันเริ่มจากการแข่งขันที่ทุกคนกระโดดลงมา เราก็รู้ว่า สามสาวนี้มีหนุ่มดีๆให้เลือกหลายคนอยู่ ทำไมต้องเป็นคนนี้เท่านั้น ทำไมแต่ละคนไม่แบ่งๆกันไป ก็เพราะว่า ถ้าคนหนึ่งตัดใจเลือกคนที่รองมา ก็จะเป็นการเปิดทางให้คนอื่นฉวยโอกาสเลือกคนดีเด่นที่สุด เป็นที่ต้องการที่สุด ไปซะ แล้วใครล่ะ จะยอม?”

    “อ้อ..”

    “เหมือนกับทำไมร้านขายของแบบเดียวกัน ถึงต้องมาตั้งแข่งกันให้มันยากเปล่าๆ ทำไมร้านสะดวกซื้อมาตั้งประจันหน้ากัน ทำไมไม่หนีไปตั้งที่ไม่ต้องแย่งกัน นั่นก็เพราะ ไม่มีใครอยากจะเสียเปรียบไปตั้ง location รองมา แล้วรอดูคนอื่นได้ของดีที่สุดไปอย่างเจ็บปวด หากทำอย่างนั้น มันเป็นสถานการณ์ที่ไม่เสถียร ในที่สุดไม่ช้าไม่นาน ก็จะมีคนแอบ move ก่อน อีกคนก็จะโต้ตอบด้วยการ move ตาม และสุดท้าย การแข่งขันก็จะเปลี่ยนมากระจุกตัวกันที่เดียวกันอยู่ดี”

    “และนั่นคือ Nash Equilibrium?”

    “นั่นแหละ มันเป็นสถานการณ์ที่ไม่ใช่เป็นที่ต้องการนัก แต่ก็ไม่สามารถเป็นอย่างอื่นได้ เพราะแต่ละคนไม่กล้า move เป็นอย่างอื่น ถ้าแต่ละคนแบ่งๆกันไป ก็ถือเป็น social optimum solutionแต่แล้วมันก็ไม่เสถียร อยู่ได้ไม่นาน”

    “งั้นก็ต้องแย่งกันอย่างนี้ ไม่มีทางเลือก?”

    “ไม่จำเป็นนะ ถ้าเราเปลี่ยนเงื่อนไข” พายพูดพลางเคาะนิ้วกับโต๊ะในลักษณะกำลังคิด

    “ทำไง? บอกว่าเอไม่ดียังงั้นยังงี้ น่ะเหรอ ไม่นะ” ดาวตาลุกวาวทันที

    “เปล่าเลย นั่นมันโกหก ไม่สมจริง และมันไม่ดี ฉันหมายถึง Condorcet (คอน-ดอร์-เซ) Paradox ใน Game Theory ต่างหาก”

    “ขอโทษ ชั้นไม่ใช่ nerd อย่างเธอ”

    พายหัวเราะคิก

    “สภาพนี้ มันเกิดจาก เอ มองสามสาวแต่ละคนว่าไม่มีอะไรเด่นแตกต่างกัน ในมุมกลับกัน สามสาวมอง เอ ว่าดูดีที่สุด ในขณะที่มองหนุ่มอื่นเฉยๆว่าไม่มีอะไรเด่น เรื่องของเรื่องจึงเป็นประเด็น homogeneous view point ไม่มี differentiation เอาเลย มันก็เลยต้องแก้ตรงนี้”

    “นี่ เธอจะบอกอะไรก็บอกมา แปะหลักวิชาการไว้ก่อนได้มะ?” ดาวพูดอย่างหงุดหงิด

    พายนึกสนุกที่ยั่วเพื่อนได้สำเร็จ

    “โอเชๆ งั้นไป action plan เลยนะ มันมีหนุ่มอีกสองคนใช่มะ เธอกับฉันรู้จักพวกนี้ดี นั่นแหละ เรามาปล่อยข่าวจริง แต่เน้นให้เว่อร์หน่อย highlight ในสิ่งที่รู้อยู่แล้ว แต่ที่บางคนมองยังไม่เห็น ให้แต่ละคนถูกมองแตกต่างกัน เพื่อจัดลำดับความชอบของชาวแก๊งค์แต่ละคนใหม่”

    พายหรี่ตาแบบเจ้าเล่ห์และพูดต่อ

    “ตอนนี้ในใจชาวแก๊งมีแต่ เอ เอ และ เอ คราวนี้เธอลองปล่อยข่าวบอกชาวแก๊งค์ว่า เธอได้ข่าววงในว่า 1. เอ ไม่ชอบงานปาร์ตี้ ใครชวนก็ไม่ค่อยไป 2. เค้าชอบใช้เวลาอยู่เงียบๆมากกว่า และ 3. เอ ชอบหมามาก เอาหมานอนด้วย ประเภท love me love my dog อะไรทำนองนั้น”

    “พาย เธอพูดอะไรเนี่ย?”

    พายไม่สนใจ และพูดต่อ

    “ซี กำลังทำท่าสนใจ backpacking ที่เนปาล และยังมี plan ไปที่อินเดีย ส่วน บี ได้ข่าวมาว่ากำลังบ้าปั่นจักรยานเอาเป็นเอาตาย”

    พายมองตาดาว โน้มตัวไปข้างหน้า และพูดด้วยเสียงเกือบกระซิบ

    “ด้วย info ใหม่สำหรับชาวแก๊งค์นี้ เธอสามารถทำลาย equilibrium เดิม และ
    เปลี่ยน game ใหม่ให้เข้าทางเธอ”

    “ชั้นตามไม่ทัน”

    พายหันไปมองรอบๆ ก่อนจะกระซิบต่อ

    “เจน ที่เคยชอบ เอ เหนือกว่าใคร ก็คงยังชอบอยู่ เพราะเธอตั้งใจแรง ก็ปล่อยเธอไปเถอะ แต่ด้วย info ใหม่ เจนคงเห็น บี เหนือกว่า ซี เพราะ เจนไม่ชอบลำบาก เรื่อง trekking ของ ซี นั้น ลืมไปได้เลย มันจึงเป็นอย่างนี้ :”

    พายหยิบกระดาษทิชชูเช็ดปากบนโต๊ะออกมาคลี่กาง แล้วเอาปากกาเขียนลงไป

    “Jane A>B>C “

    “แต่พอมาที่เหลืออีกสองสาว มินท์ ที่เคยชอบ เอ เหมือนกัน ก็คงเปลี่ยนไปสนใจ บี มากกว่า เพราะนางกำลังบ้าปั่นจักรยานอย่างหนัก หมดเงินไปหลาย โพสแต่เรื่องจักรยาน และ ซี ก็คงเป็นอันดับรองมา เพราะนางก็ชอบเที่ยว backpack บ้างเหมือนกันแต่ไม่ลุยมาก ส่วน เอ นั้น ตอนนี้นางคงไม่เอาแล้วหละ เพราะเธอกลัวหมา ใครๆก็รู้ว่าเรื่องนี้เรื่องใหญ่ของมินท์ นั่นคือ :”

    “Mint B>C>A” พายเขียนต่ออีกบรรทัด

    “ มาถึง นุ๊ก คราวนี้ นุ๊ก คงหันมาหา ซี เป็นคนแรก เพราะเธอเป็นนัก trekking หลายภูเขา ส่วนความสนใจใน เอ คงถดถอยลงมาแล้ว เพราะรู้ว่า เอ เป็น introvert จะไป get along กับ super extrovert อย่างนางคงไม่ง่าย แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ แล้ว บี ล่ะ นั้นง่ายละ เพราะไม่มีความหมายอะไรกับเธอตั้งแต่แรกแล้ว ก็อยู่ที่โหล่ในใจเธอต่อไป ดังนั้น :”

    “Nook C>A>B”

    “หลังจาก new info ออกไป เชื่อว่า แต่ละคนไม่มุ่งไปที่ เอ เหมือนเดิมแล้ว แต่มันจะเป็นอย่างนี้แทน”

    ดาวมองที่กระดาษทิชชูลายมือพาย


    Jane A>B>C
    Mint B>C>A
    Nook C>A>B

    “แล้วมันยังไง?” ดาวชักตื่นเต้น

    “ตรงนี้และ Condorcet Paradox จะทำงานให้เธอ โดยที่เธอนั่งรอเฉยๆ แล้วเธอจะนัด เอ ได้เอง เพราะไม่มีใครนัดใครแล้ว”

    “ฮ้า?”

    “เรื่องที่จะนัด เอ ก็จะสั่นคลอน เช่นอาจเริ่มต้นจาก นุ๊กเห็นว่า ซี น่าสนใจกว่า เอ นุ๊กก็พยายาม push ให้แก๊งค์ชวน ซี มาแทน ซึ่งจะทำงั้นได้ เธอก็ต้องมาร่วมมือกับมินท์ เพราะมินท์ ก็เห็น ซี ดีกว่า เอ เหมือนกันถึงแม้ไม่ใช่อันดับหนึ่ง เมื่อ นุ๊กและมินท์ vote ให้ชวน ซี มา กลายเป็นเสียงข้างมาก เจนก็ต้องยอม”

    พายเขียน “Nook+ Mint เลือก C => Jane ต้องยอม”

    “แต่แล้ว มินท์ก็คงเสียดายว่า ที่จริง บี คืออันดับหนึ่งของนาง โดย ซี เป็นแค่คนถัดไปเท่านั้น ก็เลยเปลี่ยนใจไปชวนเจนซึ่งชอบ บี มากกว่า ซี เหมือนกัน เพียงแต่เจนไม่ได้ชอบสุดๆ แต่เจนก็ตกลง เพราะก็ยังดีกว่าเลือก ซี”

    พายเขียนต่อว่า “Mint+Jane เลือก B => Nook ต้องยอม”

    “อย่าบอกนะว่า ต่อไปคือ...” ดาวพูดด้วยนัยน์ตาลุกวาว

    “ช่าย... เธอมองออกแล้วใช่มั๊ยว่า เจนก็คงไม่ชอบนัก เพราะนางต้องการ เอ เป็นอันดับหนึ่ง ก็เลยไปสมคบกับนุ๊ก เพราะนุ๊กชอบ เอ มากกว่า บี เลย vote ให้เอา เอ มาในงานให้ได้”

    “Jane+Nook เลือก A => Mint ต้องยอม” พายเขียนบนทิชชูเป็นบรรทัดสุดท้าย

    ดาวหัวเราะอย่างสะใจออกมาได้

    “มันวนเป็นวงกลม แล้วอย่างนี้เมื่อไหร่มันจะจบอ่ะ?”

    “นั่นแหละ มันไม่จบ เชื่อเหอะ ยังไม่ทันจะใคร Line นัดใครหรอก conflict นี้จะวนเวียนอยู่ในหัวของแต่ละคน คานกันอยู่ ผลคือ มันเป็นภาวะ equilibrium ที่ไม่มีการนัดใครเกิดขึ้นได้เลย ดังนั้น เอ จึงถูกปลดปล่อย เป็นของเธอ ตามวันเวลาที่ต้องการ”

    “สุดยอด!” ดาวอุทานอย่างกระหยิ่มใจ “ชั้นไม่ต้องขายต่อตั๋วแล้ว ที่สำคัญที่สุด ได้ไปกับ เอ ชั้นจะพยายามไม่หลับระหว่างฟังเพลง”

    “เฮ้ย หลับไม่ได้นะ”

    “ไม่หรอก กาแฟช่วยได้ และในค่ำวันนั้น มันจะเป็นจุดเริ่มต้นที่โรแมนติกของเราอย่างแน่นอน”

    “ใช่ แล้วเธอจะ differentiate ตัวเองจากสามสาวด้วย ว่า เธอเป็นคนฟังเพลงแบบเดียวที่ เอ ชอบ เอ จะมองเธอแตกต่างจากคนอื่น ไม่มองเป็น commodities เหมือนคนอื่นอีกต่อไป”

    “โห แรงอ่ะ ถูกมองว่าเป็น commodities นี่” ดาวหัวเราะชอบใจอย่างผู้ชนะ
    -------------------------------------------------------------------------------

    ดาวแยกกลับไปแล้ว พายยังนั่งนิ่งอยู่คนดียวอย่างไม่ใยดีกับเวลา
    แต่ละนาทีผ่านไปเงียบๆ เธอเริ่มไม่สบายใจ ความรู้สึกผิดเริ่มแทรกเข้ามาและเอ่อล้นขึ้นเรื่อยๆ แต่แล้ว ความคิดเข้าข้างตัวเองก็เอาชนะ

    ดูสิ แม้แต่ เพลง วัน และ เวลา ยังเป็นใจให้ “เป็นชื่อฉัน” เลย พายคิด เหมือนมีอะไรบางอย่างบอกว่า มันเป็นวันของฉันโดยเฉพาะ ดังนั้น..

    และแล้ว เธอก็ยิ้มกับตัวเองได้

    …ดังนั้น จะเป็นไรไหมหนอ ถ้าในบางอึดใจ ฉันจะขอละสายตาจาก conductor กับ แผ่นโน้ต เพื่อส่งสายตาลงไปยังที่นั่ง A 18 หรือไม่ก็ A19 แถวหน้าสุด ที่ทำมุมประจันหน้ากับกลุ่ม first violin แถวหน้าพอดี…

    รอยยิ้มแบบสบายใจเริ่มค่อยๆแปรเป็นรอยยิ้มร้าย

    ..แน่ละ การ differentiation สู่สถานะของ “คนที่ฟังเพลงด้วยกัน” กับ สถานะของ “คนที่สามารถเล่นเพลงที่ชอบให้ฟัง” ได้อย่างสวยงาม บนเวทีใหญ่ ท่ามกลางแสงสปอตไลท์ และเสียงปรบมือกึกก้องนับพัน ย่อมมี premium ที่ต่างกันมากมาย

    แถมยังเป็นไปตามหลักจิตวิทยาว่าด้วย Decoy Effect ที่นำของเรื่องเดียวกันแต่ด้อยกว่ามาเปรียบเทียบ เพื่อให้ของที่เหนือกว่า ดูดียิ่งขึ้นไปอีก

    โดยเฉพาะเมื่อบวกด้วยอารมณ์ surprise ของเขา กับการสบสายตาของฉัน ท่ามกลางเสียงปรบมือ เสียงร้อง Bravo! กระหึ่ม hall เชื่อว่า ในค่ำวันนั้น..

    ...มันจะเป็นจุดเริ่มต้นที่โรแมนติกของเราอย่างแน่นอน

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in